ภาพปก : https://www.pixar.com/feature-films/finding-nemo สวัสดีค่ะ ช่วงนี้มีใครกักตัวจากสถานการณ์โควิด-19กันบ้างไหม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนนะคะ วันนี้เรามาดูคำคมหรือข้อคิดที่ได้จากการ์ตูนค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Walt Disney ทั้ง 4 เรื่องนี้กันแก้เครียดดีกว่าค่ะ.เริ่มที่..1.Finding Nemo นีโม...ปลาเล็กหัวใจโต๊...โต Credit https://www.pixar.com/feature-films/finding-nemo“When life gets you down do you wanna know what you’ve gotta do? Just keep swimming!”– Dory, Finding Nemo“เมื่อชีวิตของคุณตกต่ำลง คุณรู้หรือไม่ว่าคุณควรทำอะไร… ก็ว่ายน้ำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งไงล่ะ”– โดรี่, นีโม...ปลาเล็กหัวใจโต๊...โตประเดิมเรื่องแรกด้วย ภาพยนตร์แอนิเมชัน จากค่ายพิกซ่าร์ เรื่อง Finding Nemo นีโม...ปลาเล็กหัวใจโต๊...โต โดยเป็นฉากที่ "โดรี่" ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้าขี้ลืม พูดกับ "มาร์ลิน" ปลาการ์ตูนพ่อหม้ายที่ตามหาลูกชายของเขา "นีโม" ที่หายตัวไปจากการลักพาตัวของนักดำน้ำ ให้กล้าที่จะลองว่ายลงไปในน้ำลึกที่เข้าใจว่าเป็นทางลัด (แต่ก็พบเบาะแสจากแว่นเพราะโดรี่นะเออ) เพราะโดยพื้นฐานแล้วคาแร็คเตอร์ของมาร์ลินจะชัดเจนมากกับลักษณะนิสัยที่ระแวงและย้ำคิดย้ำทำ แต่สาเหตก็เพราะว่าเคยเสียภรรยา(แม่ของนีโม่)ไปนั่นเอง เลยทำให้มาร์ลินกลายเป็นปลาที่ดูขี้กลัวเอาซะมากๆซึ่งประโยคนี้ที่โดรี่พูด ถ้าลองมาวิเคราะห์ดีๆ ก็เปรียบเสมือนกับชีวิตของคนเราที่มีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เราควรทำก็คือปรับตัวไปตามสถานการณ์เท่านั้นเอง (แอบกระซิบว่า..ประโยค ว่ายต่อไป นั้นมาร์ลินได้นำมาใช้ช่วยนีโม ในตอนท้ายๆ ด้วย) 2.The Princess and the Frog มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ Credit : The Princess and the Frog“Fairy tales can come true. You gotta make them happen, it all depends on you.”– Tiana, Princess and the Frog“เรื่องราวในเทพนิยาย เกิดขึ้นได้จริง เพียงแค่คุณต้องลงมือทำให้มันเกิดขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ”– เทียน่า, มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ นี่ไม่ใช่เมือก นี่สารเคลือบผิว! ใครที่เคยดูเรื่องนี้ น่าจะจำประโยคข้างต้นได้นะคะ เพราะเป็นประโยคที่ติดปากเจ้าชายนาวีนที่ถูกสาปให้กลายเป็นกบตัวเขียวจอมทะเล้น อย่างที่ปรากฏใน ภาพยนตร์การ์ตูนอเมริกันสำหรับครอบครัว ผลิตโดยวอลท์ดิสนีย์แอนนิเมชันสตูดิโอ The Princess and the Frog มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ ซึ่งข้อคิดนี้ได้มาจากเทียน่า สาวเสิร์ฟที่มีความฝันอยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่ดันต้องเข้ามาพัวพันกับเจ้าชายนาวีนแห่งมัลโดเนียจนเธอต้องกลายมาเป็นกบซะด้วยสิ่งที่เราประทับใจเป็นพิเศษจากเรื่องนี้ คือคาแร็คเตอร์ของนางเอกที่ชัดเจนกับความฝันของตัวเอง และไม่อายที่จะลงมือทำค่ะ โดยเธอจะพูดตลอดเรื่องว่าอยากเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง และแน่นอนว่ามีแต่คนดูถูกว่าสาวเสิร์ฟอย่างเธอไม่มีทางทำได้แน่นอน แต่เธอก็ไม่ท้อ ทั้งควบงานสองกะจนไม่ได้ไปงานเต้นรำกับเพื่อนๆ หรือโดนคนมาแย่งซื้อตึกที่จองเอาไว้ แต่สุดท้ายเธอก็ได้เปิดร้านของตัวเองสมใจเหมือนกับคำพูดที่เธอพูดเอาไว้ “เรื่องราวในเทพนิยาย เกิดขึ้นได้จริง เพียงแค่คุณต้องลงมือทำให้มันเกิดขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ” 3.Ratatouille พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลก Credit https://www.pixar.com/feature-films/ratatouille“You must not let anyone define your limits because of where you come from.Your only limit is your soul.”– Gusteau, Ratatouille“คุณไม่ควรให้ใครกำหนดขีดจำกัดของคุณเพียงเพราะสาเหตุว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน ขีดจำกัดอยู่ที่จิตใจของคุณเองที่เป็นตัวกำหนด”– กุสโตว์, พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลกไม่ว่าใครก็ทำอาหารได้ คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลยเมื่อตัวเอกของเรื่องอย่างเรมี่ ที่เป็นสุดยอดเชฟนักปรุงจะเป็นสัตว์ตัวจี๊ดอย่าง..หนู! เรียกว่าฉีกวงการ การทำอาหารกันเลยก็ว่าได้ เมื่อพิกซ่าร์ได้ผลิตการ์ตูนเรื่อง Ratatouille พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลก ออกมา ให้ได้มีพ่อครัวตัวจิ๋วอย่าง"เรมี่"ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารจากเชฟชื่อดังอย่าง"กุสโตว์" เชฟชื่อดังของฝรั่งเศสที่กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ทำอาหารได้ ซึ่งเรมี่นั้นก็ได้พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่าคำกล่าวของเขาไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยซึ่งถ้าเรมี่ปล่อยให้ใครๆ มากำหนดขีดจำกัดของตัวเองว่าไม่สามารถทำได้ ก็คงจะไม่มีทางได้พิสูจน์ฝีมือและทำในสิ่งที่รักเพียงเพราะเขาเป็นหนู ซึ่งเราก็สามารถนำคำของกุสโตว์มาประยุกต์ใช้ได้นะคะว่าเราเองที่จะเป็นคนกำหนดขีดจำกัดของตัวเองไม่ใช่คนอื่น 4. Lilo and stitch ลีโล่ แอนด์ สติทซ์ Credit : Lilo & Stitch - Trailer“Ohana means family, family means nobody gets left behind. Or forgotten.”– Lilo, Lilo and stitch“Ohana แปลว่า ครอบครัว ครอบครัว แปลว่าเราจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง”– ลีโล่, ลีโล่ แอนด์ สติทซ์ปิดท้ายด้วยเรื่อง Lilo and stitch ลีโล่ แอนด์ สติทซ์ การ์ตูนวิทยาศาสตร์แนวครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นโดยวอลต์ดิสนีย์แอนิเมชั่นสตูดิโอ ที่สรรค์สร้างตัวละครที่น่ารักอย่าง "สติทซ์" สิ่งมีชีวิตทดลอง 626 ที่หนีการจับกุมจากสมาคมมติชนแห่งกาแล็คซี่ ได้มาเจอกับ "ลีโล่" เด็กผู้หญิงที่จะถูกนักสังคมสงเคราะห์พาตัวไปเนื่องจากเห็นว่า "นานี่" พี่สาวของเธอมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะเป็นผู้ปกครอง เนื่องจากลีโล่มีพฤติกรรมที่เข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ได้ ลีโล่อธิษฐานว่า ขอใครสักคนที่จะมาเป็นเพื่อนและไม่ทอดทิ้งเค้าไป จึงทำให้พี่สาวของเธอพาไป pet shop เธอจึงได้พบกับสติทซ์ และรับเขามาเลี้ยงถึงแม้ว่าพี่สาวและเจ้าหน้าที่จะช่วยกันห้ามแล้วก็ตามหลังจากนั้นจึงเกิดเรื่องราววุ่นๆ จากเจ้าตัวป่วนอย่างสติทซ์ตลอด จนทำให้นานี่ทนไม่ไหวและโกรธสติทซ์สุดๆ จนลีโล่งัดคำพูดของพ่อที่บอกว่า โอฮาน่าแปลว่าครอบครัว ออกมา เธอจึงต้องยอมแนะนำเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย เพราะอยากให้ทุกๆ คนเอ็นดูเจ้าสติทช์จอมป่วน นอกจากนี้ยังแฝงความสนุก ความอบอุ่นที่น่าประทับใจ รวมถึงเพลงประกอบในเรื่องที่ได้เพลงของราชา Rock&roll อย่าง Elvis presley มาให้ฟังเพลินๆ ในเรื่องอีกด้วยเรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ 4 เรื่องที่มาแนะนำในวันนี้ มีเรื่องไหนยังไม่เคยดูกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย ทุกๆ คนอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสจะมาแนะนำหนังสนุกๆ ในรอบหน้าค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ สวัสดีค่ะ Minnesota