ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มงคลสูตร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
 
(ไม่แสดง 11 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 9 คน)
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{พุทธศาสนา}}
{{พุทธศาสนา}}
[[ไฟล์:มังคลัตถทีปนีแปล.jpg|150px|left|thumb|''ภาพ:หนังสือมงคลัตถทีปนี จัดพิมพ์โดย[[มหามกุฏราชวิทยาลัย]] หลักสูตรเปรียญธรรม ประโยค คัมภีร์ชั้นฎีกาอธิบายความในมงคลสูตร'']]
[[ไฟล์:มังคลัตถทีปนีแปล.jpg|150px|thumb|''ภาพ:หนังสือมงคลัตถทีปนี จัดพิมพ์โดย[[มหามกุฏราชวิทยาลัย]] หลักสูตรเปรียญธรรม 4 ประโยค คัมภีร์ชั้นฎีกาอธิบายความในมงคลสูตร'']]


'''มงคลสูตร''' เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง ในพระพุทธศาสนาเถรวาท
'''มงคลสูตร'''([http://upload.wikimedia.org/wikisource/th/d/d0/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3.ogg ฟัง])เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง ในพระพุทธศาสนาเถรวาท เพราะมีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธ '''มงคลภายนอก''' ที่นับถือเหตุการณ์หรือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นมงคลหรือมีมงคล โดยอธิบายว่าในทัศนะพระพุทธศาสนานั้น มงคลของมนุษย์และเทวดาย่อมเกิดจากการกระทำอันได้แก่ '''มงคลภายใน คือต้องกระทำความดี''' และความดีนั้นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ามงคลเองโดยไม่ต้องไปอ้อนวอนกราบไหว้ขอมงคลจากนอกตัว

เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาในพระสูตรแล้ว ก็ได้แสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาปฏิเสธมงคลภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นจุดเด่นในพระพุทธศาสนา


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า '''วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล'''<ref>พระสิริมังคลาจารย์. ''มงคลทีปนี''. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๐</ref> เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น
ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า '''วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล'''<ref>พระสิริมังคลาจารย์. ''มงคลทีปนี''. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2540</ref> เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น


เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ [[เชตวันมหาวิหาร]] ใกล้[[เมืองสาวัตถี]] ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด 10 หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ [[เชตวันมหาวิหาร]] ใกล้[[เมืองสาวัตถี]] ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด 10 หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*


* (ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).
* (ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).


== เนื้อหาในพระสูตร ==
== เนื้อหาในพระสูตร ==
ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น ๑๐ หมวด ดังนี้
ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น 10 หมวด ได้แก่
<div style="-moz-column-count:2; column-count:2;">
<div style="-moz-column-count:2; column-count:2;">
หมวดที่
หมวดที่ 1
# [[ไม่คบคนพาล]]
# [[ไม่คบคนพาล]]
# [[คบบัณฑิต]]
# [[คบบัณฑิต]]
# [[เปลี่ยนทาง]]
# [[บูชาคนที่ควรบูชา]]
# [[บูชาคนที่ควรบูชา]]
หมวดที่
หมวดที่ 2
# อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
# อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
# มีบุญวาสนามาก่อน
# มีบุญวาสนามาก่อน
# ตั้งตนชอบ
# ตั้งตนชอบ
หมวดที่
หมวดที่ 3
# เป็นพหูสูต
# เป็นพหูสูต
# มีศิลปะ
# มีศิลปะ
# มีวินัย
# มีวินัย
# มีวาจาสุภาษิต
# มีวาจาสุภาษิต
หมวดที่
หมวดที่ 4
# บำรุงมารดาบิดา
# บำรุงมารดาบิดา
# เลี้ยงดูบุตร
# เลี้ยงดูบุตร
# สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
# สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
# ทำงานไม่คั่งค้าง
# ทำงานไม่คั่งค้าง
หมวดที่
หมวดที่ 5
# บำเพ็ญทาน
# บำเพ็ญทาน
# ประพฤติธรรม
# ประพฤติธรรม
# สงเคราะห์ญาติ
# สงเคราะห์ญาติ
# ทำงานไม่มีโทษ
# ทำงานไม่มีโทษ
หมวดที่
หมวดที่ 6
# งดเว้นจากบาป
# งดเว้นจากบาป
# สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
# สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
# ไม่ประมาทในธรรม
# ไม่ประมาทในธรรม
หมวดที่
หมวดที่ 7
# มีความเคารพ
# มีความเคารพ
# มีความถ่อมตน
# มีความถ่อมตน
บรรทัด 50: บรรทัด 47:
# มีความกตัญญู
# มีความกตัญญู
# ฟังธรรมตามกาล
# ฟังธรรมตามกาล
หมวดที่
หมวดที่ 8
# มีความอดทน
# มีความอดทน
# เป็นผู้ว่าง่าย
# เป็นผู้ว่าง่าย
# เห็นสมณะ
# เห็นสมณะ
# สนทนาธรรมตามกาล
# สนทนาธรรมตามกาล
หมวดที่
หมวดที่ 9
# บำเพ็ญตบะ
# บำเพ็ญตบะ
# ประพฤติพรหมจรรย์
# ประพฤติพรหมจรรย์
# เห็นอริยสัจจ์
# เห็นอริยสัจจ์
# ทำพระนิพพานให้แจ้ง
# ทำพระนิพพานให้แจ้ง
หมวดที่ ๑๐
หมวดที่ 10
# จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
# จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
# จิตไม่โศก
# จิตไม่โศก
บรรทัด 72: บรรทัด 69:
== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[มงคล]]
* [[มงคล]]
* [[มังคลัตถทีปนี]]
* [[ปราภวสูตร]]
* [[ปราภวสูตร]]
* [[ภาณวาร]]
* [[ภาณวาร]]
บรรทัด 77: บรรทัด 75:
== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}




== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{วิกิซอร์ซ|มงคลสูตร}}
{{วิกิซอร์ซ|มงคลสูตร}}
{{วิกิซอร์ซ|มงคลชีวิต|มงคลสูตร ๓๘ ประการ}}
{{วิกิซอร์ซ|มงคลชีวิต|มงคลสูตร 38 ประการ}}
* [http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=41&Z=72&pagebreak=0 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ '''มงคลสูตร''']
* [http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=41&Z=72&pagebreak=0 พระไตรปิฎก เล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 17 ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ '''มงคลสูตร''']
* [http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=5&p=3 อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ '''มงคลสูตร''']
* [http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=5&p=3 อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ '''มงคลสูตร''']



[[หมวดหมู่:พระสูตรในพระไตรปิฎกเถรวาท]]
[[หมวดหมู่:พระสูตรในพระไตรปิฎกเถรวาท]]
[[หมวดหมู่:ขุททกนิกาย]]
[[หมวดหมู่:ขุททกนิกาย]]
[[หมวดหมู่:อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ]]
[[หมวดหมู่:คำศัพท์ศาสนาพุทธ]]
{{โครงพระพุทธศาสนา}}
{{โครงพระพุทธศาสนา}}

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 01:34, 8 มกราคม 2566

ภาพ:หนังสือมงคลัตถทีปนี จัดพิมพ์โดยมหามกุฏราชวิทยาลัย หลักสูตรเปรียญธรรม 4 ประโยค คัมภีร์ชั้นฎีกาอธิบายความในมงคลสูตร

มงคลสูตร เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง ในพระพุทธศาสนาเถรวาท

ประวัติ

[แก้]

ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล[1] เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด 10 หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*

  • (ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).

เนื้อหาในพระสูตร

[แก้]

ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น 10 หมวด ได้แก่

หมวดที่ 1

  1. ไม่คบคนพาล
  2. คบบัณฑิต
  3. บูชาคนที่ควรบูชา

หมวดที่ 2

  1. อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
  2. มีบุญวาสนามาก่อน
  3. ตั้งตนชอบ

หมวดที่ 3

  1. เป็นพหูสูต
  2. มีศิลปะ
  3. มีวินัย
  4. มีวาจาสุภาษิต

หมวดที่ 4

  1. บำรุงมารดาบิดา
  2. เลี้ยงดูบุตร
  3. สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
  4. ทำงานไม่คั่งค้าง

หมวดที่ 5

  1. บำเพ็ญทาน
  2. ประพฤติธรรม
  3. สงเคราะห์ญาติ
  4. ทำงานไม่มีโทษ

หมวดที่ 6

  1. งดเว้นจากบาป
  2. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
  3. ไม่ประมาทในธรรม

หมวดที่ 7

  1. มีความเคารพ
  2. มีความถ่อมตน
  3. มีความสันโดษ
  4. มีความกตัญญู
  5. ฟังธรรมตามกาล

หมวดที่ 8

  1. มีความอดทน
  2. เป็นผู้ว่าง่าย
  3. เห็นสมณะ
  4. สนทนาธรรมตามกาล

หมวดที่ 9

  1. บำเพ็ญตบะ
  2. ประพฤติพรหมจรรย์
  3. เห็นอริยสัจจ์
  4. ทำพระนิพพานให้แจ้ง

หมวดที่ 10

  1. จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
  2. จิตไม่โศก
  3. จิตปราศจากธุลี
  4. จิตเกษม

อย่างไรก็ตาม แม้พระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมไว้ชัดเจนดีแล้ว ก็มีผู้ที่เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง จึงได้ส่งผลมาถึงปัจจุบันนี้ แนวทางการยึดถือความเป็นมงคล จึงมีอยู่ 2 แนวทาง คือ

  1. มงคลจากการมีสิ่งนั้นมีสิ่งนี้
  2. มงคลจากการฝึกตัว

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. พระสิริมังคลาจารย์. มงคลทีปนี. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2540

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]