ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมืองฉอด"
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
| conventional_long_name = เมืองฉอด |
| conventional_long_name = เมืองฉอด |
||
| native_name = |
| native_name = |
||
| status = นครรัฐ |
| status = [[นครรัฐ]] |
||
|status_text = |
|||
|status_text = รัฐในอารักขาของสุโขทัย (ก่อน พ.ศ. 1724 เป็นต้นมา) |
|||
| government_type = [[ราชาธิปไตย]] |
| government_type = [[ราชาธิปไตย]] |
||
| year_start = ไม่ทราบ |
| year_start = ไม่ทราบ |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 9: | ||
| event_start = |
| event_start = |
||
| date_start = |
| date_start = |
||
| event_end = |
| event_end = ถูกผนวกเข้ากับสุโขทัย |
||
| date_end = |
| date_end = |
||
| event1 = |
| event1 = |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 15: | ||
| event2 = |
| event2 = |
||
| date_event2 = |
| date_event2 = |
||
| |
| p1 =อาณาจักรสุโขทัย |
||
| flag_p1 = |
| flag_p1 = Seal of Siamese Podduang 6directionDharmaChakra.png |
||
| s1 = อาณาจักรสุโขทัย |
| s1 = อาณาจักรสุโขทัย |
||
| flag_s1 = Seal of Siamese Podduang 6directionDharmaChakra.png |
| flag_s1 = Seal of Siamese Podduang 6directionDharmaChakra.png |
||
บรรทัด 36: | บรรทัด 36: | ||
}} |
}} |
||
'''เมืองฉอด''' หรือ '''รัฐฉอด''' เป็นรัฐหรืออาจเป็น[[นครรัฐ]]ปกครองตนเองแห่งหนึ่งในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 เพราะกษัตริย์ปกครองตนเอง เรียกว่า "ขุน" ซึ่งคำเรียกในยุคแรก หมายถึง กษัตริย์<ref name="สิรินธร7" /> ใน[[ศิลาจารึกหลักที่ 1]] ระบุว่า เมืองฉอดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ[[อาณาจักรสุโขทัย|เมืองสุโขทัย]]<ref name="จารึก34" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง | url = https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/lLFAtb5sN0zPl6npMISaadyCiineipDxqUxe9npe.pdf | publisher = สำนักหอสมุดแห่งชาติ | location = กรุงเทพฯ | year = 2547 | page = 34}}</ref> ทว่าในศิลาจารึกหลักเดียวกันนั้น ได้กล่าวถึงถึงศึกยุทธหัตถีระหว่างขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด กับ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] พระราชโอรสกษัตริย์สุโขทัย สุดท้ายขุนสามชนพ่ายแพ้ไป<ref name="จารึก25" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง | url = https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/lLFAtb5sN0zPl6npMISaadyCiineipDxqUxe9npe.pdf | publisher = สำนักหอสมุดแห่งชาติ | location = กรุงเทพฯ | year = 2547 | page = |
'''เมืองฉอด''' หรือ '''รัฐฉอด''' เป็นรัฐหรืออาจเป็น[[นครรัฐ]]ปกครองตนเองแห่งหนึ่งในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 เพราะกษัตริย์ปกครองตนเอง เรียกว่า "ขุน" ซึ่งคำเรียกในยุคแรก หมายถึง กษัตริย์<ref name="สิรินธร7" /> อาจแปลว่า ผู้นำหรือเจ้าเมืองขนาดเล็ก<ref name="กนกวรรณ64">กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ''ประวัติศาสตร์สุโขทัย''. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 64</ref> เป็นรัฐที่ได้รับศิลปวัฒนธรรมจาก[[อาณาจักรสุโขทัย]]<ref name="กนกวรรณ72" /> และ[[จารึกวัดศรีชุม]]ระบุว่าเมืองฉอดเคยเป็นส่วนหนึ่งของสุโขทัยมาก่อน<ref name="ศรีชุม">{{cite web |url= https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/177 |title= จารึกวัดศรีชุม |author=|date= 12 มกราคม 2567 |work= ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) |publisher=|accessdate= 18 มกราคม 2567 }}</ref> ใน[[ศิลาจารึกหลักที่ 1]] ระบุว่า เมืองฉอดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ[[อาณาจักรสุโขทัย|เมืองสุโขทัย]]<ref name="จารึก34" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง | url = https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/lLFAtb5sN0zPl6npMISaadyCiineipDxqUxe9npe.pdf | publisher = สำนักหอสมุดแห่งชาติ | location = กรุงเทพฯ | year = 2547 | page = 34}}</ref> ทว่าในศิลาจารึกหลักเดียวกันนั้น ได้กล่าวถึงถึงศึกยุทธหัตถีระหว่างขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด กับ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] พระราชโอรสกษัตริย์สุโขทัย สุดท้ายขุนสามชนพ่ายแพ้ไป<ref name="จารึก25" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง | url = https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/lLFAtb5sN0zPl6npMISaadyCiineipDxqUxe9npe.pdf | publisher = สำนักหอสมุดแห่งชาติ | location = กรุงเทพฯ | year = 2547 | page = 25}}</ref><ref name="ศิลปะ">{{cite web |url= https://www.silpa-mag.com/history/article_25430 |title= “เมืองตาก” ของ “พระเจ้าตาก” ก่อนเป็นกษัตริย์กรุงธนบุรี คือที่ไหนกันแน่? |author= ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์, ผศ. ดร. |date= 26 เมษายน 2565 |work= ศิลปวัฒนธรรม |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref><ref name="อุทยาน">{{cite web |url= https://www.finearts.go.th/sukhothaihistoricalpark/view/8137-ประวัติเมืองสุโขทัย |title= ประวัติเมืองสุโขทัย |author=|date=|work= อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> ไม่ปรากฏในหลักฐานหรือเอกสารใดอีก และศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งถูกสร้างขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ระบุว่าเมืองฉอดได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยไปแล้ว<ref name="กนกวรรณ72">กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ''ประวัติศาสตร์สุโขทัย''. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 72</ref><ref name="จารึก25" /> |
||
ปัจจุบันมีความพยายามของนักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีในการตามหาที่ตั้งของเมืองฉอด<ref name="พิพัฒน์" /> |
|||
== ที่ตั้ง == |
== ที่ตั้ง == |
||
ที่ตั้งของเมืองฉอดยังเป็นปริศนา ในศิลาจากรึกหลักที่ 1 ระบุถึงที่ตั้งของเมืองฉอด ว่าอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ความว่า "...เบื้องตะวันตกรอดเมืองฉอด เมือง...นหงสาวดีสมุทรหาเป็นแดน..."<ref name="จารึก34" /> บางคนก็ว่าเมืองฉอด คือ[[เทศบาลนครแม่สอด]] บ้างก็ว่าคือ[[ตำบลด่านแม่ละเมา|ด่านแม่ละเมา]] บ้างก็ว่าโบราณสถานคอกช้างเผือกใน[[ตำบลท่าสายลวด]]<ref>{{cite web |url= https://mgronline.com/local/detail/9520000075929 |title= นักประวัติศาสตร์ตั้งวงถกหาที่ตั้ง“เมืองฉอด”/นครเก่า 729 ปีก่อน-เชื่อคือแม่สอดวันนี้ |author=|date= 5 กรกฎาคม 2552 |work= ผู้จัดการออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref><ref>{{cite web |url= https://mgronline.com/local/detail/9530000028504 |title= ทีมนักประวัติศาสตร์ลุ้นหาที่ตั้ง “เมืองฉอด” ตามรอยศิลาจารึก 1-โยงสุโขทัย |author=|date= 28 กุมภาพันธ์ 2553 |work= ผู้จัดการออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> หรืออาจเป็นแหล่งโบราณคดีบ้านแม่ต้าน [[อำเภอท่าสองยาง]] ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขต[[จังหวัดตาก]]<ref name="พิพัฒน์">{{cite web |url= https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_1395525 |title= เมืองโบราณแม่ต้าน คือเมืองฉอดจริงหรือไม่ในทรรศนะของจิตร ภูมิศักดิ์ |author= พิพัฒน์ กระแจะจันทร์, ผศ. |date= 7 มีนาคม 2562 |work= มติชนออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> |
ที่ตั้งของเมืองฉอดยังเป็นปริศนา ในศิลาจากรึกหลักที่ 1 ระบุถึงที่ตั้งของเมืองฉอด ว่าอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ความว่า "...เบื้องตะวันตกรอดเมืองฉอด เมือง...นหงสาวดีสมุทรหาเป็นแดน..."<ref name="จารึก34" /> บางคนก็ว่าเมืองฉอด คือ[[เทศบาลนครแม่สอด]] บ้างก็ว่าคือ[[ตำบลด่านแม่ละเมา|ด่านแม่ละเมา]] บ้างก็ว่าโบราณสถานคอกช้างเผือกใน[[ตำบลท่าสายลวด]]<ref>{{cite web |url= https://mgronline.com/local/detail/9520000075929 |title= นักประวัติศาสตร์ตั้งวงถกหาที่ตั้ง“เมืองฉอด”/นครเก่า 729 ปีก่อน-เชื่อคือแม่สอดวันนี้ |author=|date= 5 กรกฎาคม 2552 |work= ผู้จัดการออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref><ref>{{cite web |url= https://mgronline.com/local/detail/9530000028504 |title= ทีมนักประวัติศาสตร์ลุ้นหาที่ตั้ง “เมืองฉอด” ตามรอยศิลาจารึก 1-โยงสุโขทัย |author=|date= 28 กุมภาพันธ์ 2553 |work= ผู้จัดการออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> หรืออาจเป็นแหล่งโบราณคดีบ้านแม่ต้าน [[อำเภอท่าสองยาง]] ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขต[[จังหวัดตาก]]<ref name="พิพัฒน์">{{cite web |url= https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_1395525 |title= เมืองโบราณแม่ต้าน คือเมืองฉอดจริงหรือไม่ในทรรศนะของจิตร ภูมิศักดิ์ |author= พิพัฒน์ กระแจะจันทร์, ผศ. |date= 7 มีนาคม 2562 |work= มติชนออนไลน์ |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> |
||
ศาสตราจารย์ ดร. [[ประเสริฐ ณ นคร]] เคยแสดงความเห็นว่าเมืองนี้อยู่ริมแม่น้ำฉอด แต่ต่อมาท่านได้แก้ไขด้วยลายมือใน ''สารนิพนธ์ประเสริฐ ณ นคร'' ระบุว่า ตั้งอยู่ริม[[แม่น้ำเมย]] และอธิบายต่อว่า เมืองนี้มีผังเมืองเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่มีขนาดเล็กเกินที่จะรวบรวมคนไปตีเมืองตากได้ ด้วยเหตุนี้ ประเสริฐจึงอ้างความเห็นของนักโบราณคดีว่าเมืองฉอดอาจตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมยในฝั่ง[[ประเทศพม่า]]<ref>วุฒิชัย มูลศิลป์ (2562). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย". ''วารสารประวัติศาสตร์'', หน้า 10</ref>ในปาฐกถาเรื่องประวัติศาสตร์สุโขทัยในจารึก ประเสริฐให้ข้อมูลอีกว่า "...เมืองฉอดนี้เชื่อกันว่าอยู่ในประเทศพม่า แต่ตอนนี้วางไว้ที่แม่สอดชั่วคราว เพราะคนภาคเหนือออกเสียง ฉ ไม่ได้ ต้องออกเสียงเป็น ส ไป ฉอดจึงกลายเป็นสอด..."<ref name="สิรินธร11" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ปาฐกถาชุด "สิรินธร" ครั้งที่ 4 เรื่อง "ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก" | url = https://cca.chula.ac.th/protocol/images/book/pdf/book-sirinthorn04.pdf | publisher = โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | location = กรุงเทพฯ | year = 2531 | page = 11}}</ref> และ[[ศรีศักร วัลลิโภดม]] เสนอว่า เมืองฉอดคือเมือง[[เมียวดี]] ปัจจุบันขึ้นอยู่กับประเทศพม่า ซึ่งพบหลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่ ร่องรอยคูน้ำคันดินและกำแพงเมืองรูปสี่เหลี่ยม อีกทั้งยังพบเศษเครื่องถ้วยยุคสุโขทัยด้วย<ref name="พิพัฒน์" /> |
ศาสตราจารย์ ดร. [[ประเสริฐ ณ นคร]] เคยแสดงความเห็นว่าเมืองนี้อยู่ริมแม่น้ำฉอด แต่ต่อมาท่านได้แก้ไขด้วยลายมือใน ''สารนิพนธ์ประเสริฐ ณ นคร'' ระบุว่า ตั้งอยู่ริม[[แม่น้ำเมย]] และอธิบายต่อว่า เมืองนี้มีผังเมืองเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่มีขนาดเล็กเกินที่จะรวบรวมคนไปตีเมืองตากได้ ด้วยเหตุนี้ ประเสริฐจึงอ้างความเห็นของนักโบราณคดีว่าเมืองฉอดอาจตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมยในฝั่ง[[ประเทศพม่า]]<ref>วุฒิชัย มูลศิลป์ (2562). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย". ''วารสารประวัติศาสตร์'', หน้า 10</ref> ในปาฐกถาเรื่องประวัติศาสตร์สุโขทัยในจารึก ประเสริฐให้ข้อมูลอีกว่า "...เมืองฉอดนี้เชื่อกันว่าอยู่ในประเทศพม่า แต่ตอนนี้วางไว้ที่แม่สอดชั่วคราว เพราะคนภาคเหนือออกเสียง ฉ ไม่ได้ ต้องออกเสียงเป็น ส ไป ฉอดจึงกลายเป็นสอด..."<ref name="สิรินธร11" >{{cite book | author = ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. | title = ปาฐกถาชุด "สิรินธร" ครั้งที่ 4 เรื่อง "ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก" | url = https://cca.chula.ac.th/protocol/images/book/pdf/book-sirinthorn04.pdf | publisher = โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | location = กรุงเทพฯ | year = 2531 | page = 11}}</ref> และ[[ศรีศักร วัลลิโภดม]] เสนอว่า เมืองฉอดคือเมือง[[เมียวดี]] ปัจจุบันขึ้นอยู่กับประเทศพม่า ซึ่งพบหลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่ ร่องรอยคูน้ำคันดินและกำแพงเมืองรูปสี่เหลี่ยม อีกทั้งยังพบเศษเครื่องถ้วยยุคสุโขทัยด้วย<ref name="พิพัฒน์" /> |
||
⚫ | ขณะที่[[จิตร ภูมิศักดิ์]] ให้ทัศนะว่า ที่ตั้งของเมืองฉอด อาจจะเป็นเมืองโบราณบ้านแม่ต้าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เมืองเก่าห้วยลึก ที่จังหวัดตาก ความว่า "…รัฐฉอดหรือเมืองฮอดนั้นประมาณกันว่าอยู่ที่บริเวณอำเภอแม่สอด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองจังหวัดตากเดี๋ยวนี้; ที่ประมาณอย่างนั้นเพราะชื่อแม่สอดยังเป็นชื่อเดียวกับฉอดอยู่ (ภาษาไทยพายัพออกเสียง ฉ เป็น ส หมด). แต่มาในระยะราว พ.ศ. 2500 นี้ ได้พบเมืองโบราณขนาดใหญ่มากเมืองหนึ่งในป่าทึบริมแม่น้ำเมย ที่บ้านแม่ต้านทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองตาก มีทรากโบราณวัตถุและพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยเป็นอันมากแสดงว่าเป็นเมืองใหญ่ในยุคสุโขทัย, จึงทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสงสัยว่าที่นั่นอาจจะเป็นเมืองฉอดของพ่อขุนสามชน…. อย่างไรก็ดี เมืองร้างที่พบใหม่ที่ตำบลแม่ต้านนั้นอาจจะเป็นเมืองอื่นที่มิใช่ฉอดก็ได้ เพราะยังมีเมืองในแถบนี้อีกหลายเมืองที่ปรากฏชื่อในศิลาจารึกสุโขทัย แต่เรายังค้นไม่พบว่าอยู่ที่ใดแน่…"<ref name="พิพัฒน์" /> จากการพิสูจน์หลักฐานทางโบราณคดี พบว่า เมืองโบราณบ้านแม่ต้านเป็นเมืองในวัฒนธรรมล้านนา มิใช่สุโขทัย<ref name="พิพัฒน์" /> |
||
== ประวัติ == |
|||
เมืองฉอดเป็นรัฐขนาดเล็กหรืออาจเป็นนครรัฐก่อร่างสร้างตัวราวช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 แรกเริ่มยังไม่ขึ้นกับเมืองสุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองตนเอง เรียกว่า "ขุน" ซึ่งคำเรียกในยุคแรก หมายถึง กษัตริย์<ref name="สิรินธร7" /> อาจแปลว่า ผู้นำหรือเจ้าเมืองขนาดเล็ก<ref name="กนกวรรณ64" /> เมืองฉอดมีรูปแบบศิลปวัฒนธรรมแบบสุโขทัย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าที่เชื่อมไปยังเมืองมอญ<ref name="กนกวรรณ72" /> ออกทะเลที่[[อ่าวเมาะตะมะ]]ใน[[มหาสมุทรอินเดีย]]<ref>กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ''ประวัติศาสตร์สุโขทัย''. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 95</ref> ใน[[จารึกวัดศรีชุม]] ซึ่งถูกทำขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-20 ระบุว่า เมืองฉอดเคยเป็นส่วนหนึ่งของ[[อาณาจักรสุโขทัย]]มาตั้งแต่รัชสมัย[[พ่อขุนศรีนาวนำถุม]] โดยมีเนื้อหาระบุไว้ดังนี้<ref name="ศรีชุม" /> |
|||
<blockquote>“...ในนครสุโขทัยนั้น พ่อขุนศรีนาวนำถุม...ศรีเสชนาไลดังอิงเป็นขุนยี่ขุนนางนักหนาแ...เป็นขุนในเมืองเชลียง...เมืองใต้ออกพ่อขุนนำถุม...เบื้องตะวันออกเถิงเบื้องหัวนอน เถิงขุนลุนตาขุนดาขุนด่าน ๏ ...เบื้องในหรดีเถิงฉอด เวียงเหล็ก เบื้องตะวันตกเถิงละพูน...”</blockquote> |
|||
เมืองฉอดปรากฏหลักฐานการดำรงอยู่ครั้งแรกใน[[ศิลาจารึกหลักที่ 1]] ในรัชสมัยของ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]]แห่งอาณาจักรสุโขทัย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1826<ref name="กนกวรรณ159">กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ''ประวัติศาสตร์สุโขทัย''. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 159</ref> ซึ่งเนื้อหาบางส่วนเป็นการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนการสร้างศิลาจารึก อย่างการกระทำยุทธหัตถีของขุนสามชน เจ้าผู้ครองเมืองฉอด ยกทัพไปตี[[อำเภอบ้านตาก|เมืองตาก]] ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรสุโขทัย โดยมีพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เสด็จออกมาป้องกันการโจมตี ดังปรากฏความในจารึกด้านที่หนึ่งว่า<ref name="จารึก25" /> |
|||
<blockquote>“...เมื่อกูขึ้นใหญ่ได้สิบเก้าเข้า ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดมาท่เมืองตาก พ่อกูไปรบ ขุนสามชนหัวซ้าย ขุนสามชนขับมาหัวขวา ขุนสามชนเกลื่อนเข้าไพร่ฟ้าหน้าใส พ่อกูหนีญญ่ายพายจแจ้น กูบ่หนี กูขี่ช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู กูต่อช้างด้วยขุนสามชน ตนกูพุ่ง ช้างขุนสามชนตัวชื่อมาสเมืองแพ้ ขุนสามชนพ่ายหนี พ่อกูจึ่งขึ้นชื่อกู ชื่อพระรามคำแหง เพื่อกูพุ่งชนช้างขุนสามชน...”</blockquote> |
|||
ในการสู้รบดังกล่าว พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ขณะนั้นมีพระชนมายุ 19 พรรษา พระราชโอรสของ[[พ่อขุนศรีอินทราทิตย์]] กษัตริย์สุโขทัย ได้รับชัยชนะจากการรบครั้งนี้<ref name="จารึก25" /><ref name="ศิลปะ" /><ref name="อุทยาน" /> พ่อขุนศรีอินทราทิตย์พระราชทานพระนามาภิไธยว่า "พระรามคำแหง"<ref>{{cite web |url= https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=2&chap=7&page=t2-7-infodetail01.html |title= พ่อขุนรามคำแหงมหาราช |author=|date=|work= โครงการสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน |publisher=|accessdate= 17 มกราคม 2567 }}</ref> ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร อธิบายว่า "กูขับเข้าก่อนพ่อกู" ให้ความหมายว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ยังไม่ทันได้เข้าไปชนช้างกับขุนสามชน แต่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชไสช้างไปสู้รับกับขุนสามชนเสียก่อน และได้ชัยชนะกลับมา<ref>วุฒิชัย มูลศิลป์ (2562). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย". ''วารสารประวัติศาสตร์'', หน้า 8</ref> โดยในจารึกหลักที่ 1 ให้ข้อมูลหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือใน พ.ศ. 1826 ระบุว่าเมืองฉอดได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของสุโขทัย<ref name="จารึก25" /> |
|||
เมืองฉอดปรากฏหลักฐานอีกครั้งในรัชสมัย[[พระมหาธรรมราชาที่ 1]] (ลือไทย) จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาไทย) หลักที่ 1 ด้านที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 1904 ระบุเนื้อหาว่า พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลือไทย) ทรงอาราธนาพระมหาสามีสังฆราชจาก[[ประเทศศรีลังกา|ลังกาทวีป]]ให้มาจำพรรษาในกรุงสุโขทัย โดยพระสังฆราชได้เดินทางผ่านเมืองฉอดด้วย<ref>{{cite web |url= https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/130 |title= จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาไทย) หลักที่ 1 |author=|date= 15 ธันวาคม 2566 |work= ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) |publisher=|accessdate= 18 มกราคม 2567 }}</ref><ref>{{cite web |url= https://www.finearts.go.th/promotion/view/21077-เมืองบางพาน |title= เมืองบางพาน |author=|date=|work= กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ |publisher=|accessdate= 18 มกราคม 2567 }}</ref> |
|||
เมืองฉอดปรากฏอีกครั้งใน[[ศิลาจารึกวัดบูรพาราม]] ซึ่งบันทึกในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลือไทย) โดยกล่าวถึงเมืองฉอดว่าเป็นเมืองในการปกครองด้านทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย มีเนื้อความว่า<ref>{{cite web |url= https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/254 |title= จารึกวัดบูรพาราม |author=|date=|work= ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) |publisher=|accessdate= 18 มกราคม 2567 }}</ref> |
|||
<blockquote>“...เข้าศักราชเจ็ดร้อยห้าสิบแปดกลาย ท่านได้ปราบต์ทั้งปกกาว ชาวด้านหนตีนเถิงฝั่งของ...ตะวันออกคุง...เบื้องตะวันตกเท้าเมืองฉอด รอด แดนพัล...”</blockquote> |
|||
⚫ | ขณะที่[[จิตร ภูมิศักดิ์]] ให้ทัศนะว่า ที่ตั้งของเมืองฉอด อาจจะเป็น |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:04, 18 มกราคม 2567
เมืองฉอด | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไม่ทราบ–พุทธศตวรรษที่ 18 | |||||||||
สถานะ | นครรัฐ | ||||||||
เมืองหลวง | เมืองฉอด | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
กษัตริย์ (ขุน)[1] | |||||||||
• ไม่ทราบปี – ก่อน พ.ศ. 1724 | ขุนสามชน | ||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||
• ก่อตั้ง | ไม่ทราบ | ||||||||
• ถูกผนวกเข้ากับสุโขทัย | พุทธศตวรรษที่ 18 | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ |
เมืองฉอด หรือ รัฐฉอด เป็นรัฐหรืออาจเป็นนครรัฐปกครองตนเองแห่งหนึ่งในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 เพราะกษัตริย์ปกครองตนเอง เรียกว่า "ขุน" ซึ่งคำเรียกในยุคแรก หมายถึง กษัตริย์[1] อาจแปลว่า ผู้นำหรือเจ้าเมืองขนาดเล็ก[2] เป็นรัฐที่ได้รับศิลปวัฒนธรรมจากอาณาจักรสุโขทัย[3] และจารึกวัดศรีชุมระบุว่าเมืองฉอดเคยเป็นส่วนหนึ่งของสุโขทัยมาก่อน[4] ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ระบุว่า เมืองฉอดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย[5] ทว่าในศิลาจารึกหลักเดียวกันนั้น ได้กล่าวถึงถึงศึกยุทธหัตถีระหว่างขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด กับพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระราชโอรสกษัตริย์สุโขทัย สุดท้ายขุนสามชนพ่ายแพ้ไป[6][7][8] ไม่ปรากฏในหลักฐานหรือเอกสารใดอีก และศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งถูกสร้างขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ระบุว่าเมืองฉอดได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยไปแล้ว[3][6]
ปัจจุบันมีความพยายามของนักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีในการตามหาที่ตั้งของเมืองฉอด[9]
ที่ตั้ง
ที่ตั้งของเมืองฉอดยังเป็นปริศนา ในศิลาจากรึกหลักที่ 1 ระบุถึงที่ตั้งของเมืองฉอด ว่าอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ความว่า "...เบื้องตะวันตกรอดเมืองฉอด เมือง...นหงสาวดีสมุทรหาเป็นแดน..."[5] บางคนก็ว่าเมืองฉอด คือเทศบาลนครแม่สอด บ้างก็ว่าคือด่านแม่ละเมา บ้างก็ว่าโบราณสถานคอกช้างเผือกในตำบลท่าสายลวด[10][11] หรืออาจเป็นแหล่งโบราณคดีบ้านแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตจังหวัดตาก[9]
ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร เคยแสดงความเห็นว่าเมืองนี้อยู่ริมแม่น้ำฉอด แต่ต่อมาท่านได้แก้ไขด้วยลายมือใน สารนิพนธ์ประเสริฐ ณ นคร ระบุว่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมย และอธิบายต่อว่า เมืองนี้มีผังเมืองเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่มีขนาดเล็กเกินที่จะรวบรวมคนไปตีเมืองตากได้ ด้วยเหตุนี้ ประเสริฐจึงอ้างความเห็นของนักโบราณคดีว่าเมืองฉอดอาจตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมยในฝั่งประเทศพม่า[12] ในปาฐกถาเรื่องประวัติศาสตร์สุโขทัยในจารึก ประเสริฐให้ข้อมูลอีกว่า "...เมืองฉอดนี้เชื่อกันว่าอยู่ในประเทศพม่า แต่ตอนนี้วางไว้ที่แม่สอดชั่วคราว เพราะคนภาคเหนือออกเสียง ฉ ไม่ได้ ต้องออกเสียงเป็น ส ไป ฉอดจึงกลายเป็นสอด..."[13] และศรีศักร วัลลิโภดม เสนอว่า เมืองฉอดคือเมืองเมียวดี ปัจจุบันขึ้นอยู่กับประเทศพม่า ซึ่งพบหลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่ ร่องรอยคูน้ำคันดินและกำแพงเมืองรูปสี่เหลี่ยม อีกทั้งยังพบเศษเครื่องถ้วยยุคสุโขทัยด้วย[9]
ขณะที่จิตร ภูมิศักดิ์ ให้ทัศนะว่า ที่ตั้งของเมืองฉอด อาจจะเป็นเมืองโบราณบ้านแม่ต้าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เมืองเก่าห้วยลึก ที่จังหวัดตาก ความว่า "…รัฐฉอดหรือเมืองฮอดนั้นประมาณกันว่าอยู่ที่บริเวณอำเภอแม่สอด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองจังหวัดตากเดี๋ยวนี้; ที่ประมาณอย่างนั้นเพราะชื่อแม่สอดยังเป็นชื่อเดียวกับฉอดอยู่ (ภาษาไทยพายัพออกเสียง ฉ เป็น ส หมด). แต่มาในระยะราว พ.ศ. 2500 นี้ ได้พบเมืองโบราณขนาดใหญ่มากเมืองหนึ่งในป่าทึบริมแม่น้ำเมย ที่บ้านแม่ต้านทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองตาก มีทรากโบราณวัตถุและพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยเป็นอันมากแสดงว่าเป็นเมืองใหญ่ในยุคสุโขทัย, จึงทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสงสัยว่าที่นั่นอาจจะเป็นเมืองฉอดของพ่อขุนสามชน…. อย่างไรก็ดี เมืองร้างที่พบใหม่ที่ตำบลแม่ต้านนั้นอาจจะเป็นเมืองอื่นที่มิใช่ฉอดก็ได้ เพราะยังมีเมืองในแถบนี้อีกหลายเมืองที่ปรากฏชื่อในศิลาจารึกสุโขทัย แต่เรายังค้นไม่พบว่าอยู่ที่ใดแน่…"[9] จากการพิสูจน์หลักฐานทางโบราณคดี พบว่า เมืองโบราณบ้านแม่ต้านเป็นเมืองในวัฒนธรรมล้านนา มิใช่สุโขทัย[9]
ประวัติ
เมืองฉอดเป็นรัฐขนาดเล็กหรืออาจเป็นนครรัฐก่อร่างสร้างตัวราวช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 แรกเริ่มยังไม่ขึ้นกับเมืองสุโขทัย มีกษัตริย์ปกครองตนเอง เรียกว่า "ขุน" ซึ่งคำเรียกในยุคแรก หมายถึง กษัตริย์[1] อาจแปลว่า ผู้นำหรือเจ้าเมืองขนาดเล็ก[2] เมืองฉอดมีรูปแบบศิลปวัฒนธรรมแบบสุโขทัย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าที่เชื่อมไปยังเมืองมอญ[3] ออกทะเลที่อ่าวเมาะตะมะในมหาสมุทรอินเดีย[14] ในจารึกวัดศรีชุม ซึ่งถูกทำขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-20 ระบุว่า เมืองฉอดเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยมาตั้งแต่รัชสมัยพ่อขุนศรีนาวนำถุม โดยมีเนื้อหาระบุไว้ดังนี้[4]
“...ในนครสุโขทัยนั้น พ่อขุนศรีนาวนำถุม...ศรีเสชนาไลดังอิงเป็นขุนยี่ขุนนางนักหนาแ...เป็นขุนในเมืองเชลียง...เมืองใต้ออกพ่อขุนนำถุม...เบื้องตะวันออกเถิงเบื้องหัวนอน เถิงขุนลุนตาขุนดาขุนด่าน ๏ ...เบื้องในหรดีเถิงฉอด เวียงเหล็ก เบื้องตะวันตกเถิงละพูน...”
เมืองฉอดปรากฏหลักฐานการดำรงอยู่ครั้งแรกในศิลาจารึกหลักที่ 1 ในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งอาณาจักรสุโขทัย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1826[15] ซึ่งเนื้อหาบางส่วนเป็นการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนการสร้างศิลาจารึก อย่างการกระทำยุทธหัตถีของขุนสามชน เจ้าผู้ครองเมืองฉอด ยกทัพไปตีเมืองตาก ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรสุโขทัย โดยมีพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เสด็จออกมาป้องกันการโจมตี ดังปรากฏความในจารึกด้านที่หนึ่งว่า[6]
“...เมื่อกูขึ้นใหญ่ได้สิบเก้าเข้า ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดมาท่เมืองตาก พ่อกูไปรบ ขุนสามชนหัวซ้าย ขุนสามชนขับมาหัวขวา ขุนสามชนเกลื่อนเข้าไพร่ฟ้าหน้าใส พ่อกูหนีญญ่ายพายจแจ้น กูบ่หนี กูขี่ช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู กูต่อช้างด้วยขุนสามชน ตนกูพุ่ง ช้างขุนสามชนตัวชื่อมาสเมืองแพ้ ขุนสามชนพ่ายหนี พ่อกูจึ่งขึ้นชื่อกู ชื่อพระรามคำแหง เพื่อกูพุ่งชนช้างขุนสามชน...”
ในการสู้รบดังกล่าว พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ขณะนั้นมีพระชนมายุ 19 พรรษา พระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ กษัตริย์สุโขทัย ได้รับชัยชนะจากการรบครั้งนี้[6][7][8] พ่อขุนศรีอินทราทิตย์พระราชทานพระนามาภิไธยว่า "พระรามคำแหง"[16] ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร อธิบายว่า "กูขับเข้าก่อนพ่อกู" ให้ความหมายว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ยังไม่ทันได้เข้าไปชนช้างกับขุนสามชน แต่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชไสช้างไปสู้รับกับขุนสามชนเสียก่อน และได้ชัยชนะกลับมา[17] โดยในจารึกหลักที่ 1 ให้ข้อมูลหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือใน พ.ศ. 1826 ระบุว่าเมืองฉอดได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของสุโขทัย[6]
เมืองฉอดปรากฏหลักฐานอีกครั้งในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลือไทย) จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาไทย) หลักที่ 1 ด้านที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 1904 ระบุเนื้อหาว่า พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลือไทย) ทรงอาราธนาพระมหาสามีสังฆราชจากลังกาทวีปให้มาจำพรรษาในกรุงสุโขทัย โดยพระสังฆราชได้เดินทางผ่านเมืองฉอดด้วย[18][19]
เมืองฉอดปรากฏอีกครั้งในศิลาจารึกวัดบูรพาราม ซึ่งบันทึกในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลือไทย) โดยกล่าวถึงเมืองฉอดว่าเป็นเมืองในการปกครองด้านทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย มีเนื้อความว่า[20]
“...เข้าศักราชเจ็ดร้อยห้าสิบแปดกลาย ท่านได้ปราบต์ทั้งปกกาว ชาวด้านหนตีนเถิงฝั่งของ...ตะวันออกคุง...เบื้องตะวันตกเท้าเมืองฉอด รอด แดนพัล...”
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. (2531). ปาฐกถาชุด "สิรินธร" ครั้งที่ 4 เรื่อง "ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก" (PDF). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. p. 7.
- ↑ 2.0 2.1 กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ประวัติศาสตร์สุโขทัย. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 64
- ↑ 3.0 3.1 3.2 กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ประวัติศาสตร์สุโขทัย. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 72
- ↑ 4.0 4.1 "จารึกวัดศรีชุม". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). 12 มกราคม 2567. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 5.0 5.1 ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. (2547). ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักหอสมุดแห่งชาติ. p. 34.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. (2547). ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับจารึกพ่อขุนรามคำแหง (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักหอสมุดแห่งชาติ. p. 25.
- ↑ 7.0 7.1 ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์, ผศ. ดร. (26 เมษายน 2565). ""เมืองตาก" ของ "พระเจ้าตาก" ก่อนเป็นกษัตริย์กรุงธนบุรี คือที่ไหนกันแน่?". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 8.0 8.1 "ประวัติเมืองสุโขทัย". อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 9.0 9.1 9.2 9.3 9.4 พิพัฒน์ กระแจะจันทร์, ผศ. (7 มีนาคม 2562). "เมืองโบราณแม่ต้าน คือเมืองฉอดจริงหรือไม่ในทรรศนะของจิตร ภูมิศักดิ์". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "นักประวัติศาสตร์ตั้งวงถกหาที่ตั้ง"เมืองฉอด"/นครเก่า 729 ปีก่อน-เชื่อคือแม่สอดวันนี้". ผู้จัดการออนไลน์. 5 กรกฎาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ทีมนักประวัติศาสตร์ลุ้นหาที่ตั้ง "เมืองฉอด" ตามรอยศิลาจารึก 1-โยงสุโขทัย". ผู้จัดการออนไลน์. 28 กุมภาพันธ์ 2553. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วุฒิชัย มูลศิลป์ (2562). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย". วารสารประวัติศาสตร์, หน้า 10
- ↑ ประเสริฐ ณ นคร, ศาสตราจารย์ ดร. (2531). ปาฐกถาชุด "สิรินธร" ครั้งที่ 4 เรื่อง "ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก" (PDF). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. p. 11.
- ↑ กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ประวัติศาสตร์สุโขทัย. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 95
- ↑ กนกวรรณ โสภณวิจิตร. ประวัติศาสตร์สุโขทัย. กรุงเทพฯ : สารคดี, 2554, หน้า 159
- ↑ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช". โครงการสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วุฒิชัย มูลศิลป์ (2562). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย". วารสารประวัติศาสตร์, หน้า 8
- ↑ "จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาไทย) หลักที่ 1". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). 15 ธันวาคม 2566. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "เมืองบางพาน". กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "จารึกวัดบูรพาราม". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)