ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ท้าวสักกะ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยแอปอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ล →top: แทนที่แม่แบบ, replaced: {{lang-pi| → {{langx|pi| (2) |
||
(ไม่แสดง 9 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 8 คน) | |||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ความหมายอื่น|เกี่ยวกับ= เทพในศาสนาพุทธ|สำหรับ= เทพองค์เดียวกันใน[[ศาสนาฮินดู]]|ดูที่= พระอินทร์}} |
{{ความหมายอื่น|เกี่ยวกับ= เทพในศาสนาพุทธ|สำหรับ= เทพองค์เดียวกันใน[[ศาสนาฮินดู]]|ดูที่= พระอินทร์}} |
||
{{พุทธศาสนา}} |
{{พุทธศาสนา}} |
||
[[ไฟล์:Ascetic Bodhisatta Gotama with the Group of Five.jpg|thumb|left|เมื่อครั้งที่[[พระโคดมพุทธเจ้า|พระ |
[[ไฟล์:Ascetic Bodhisatta Gotama with the Group of Five.jpg|thumb|left|เมื่อครั้งที่[[พระโคดมพุทธเจ้า|พระมหาบุรุษ]]ยังบำเพ็ญทุกรกิริยาก่อนจะตรัสรู้เป็น[[พระสัมมาสัมพุทธเจ้า]] ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ท้าวสักกเทวราชได้เสด็จลงมาดีดพิณสามสายเพื่อเตือนสติไม่ให้ทรมานตนจนเกินไป ทำให้พระสิทธัตถะทรงได้พระสติรำลึกขึ้นว่า [[มัชฌิมาปฏิปทา]]น่าจะเป็นทางที่จะทำให้ตรัสรู้ได้มากกว่าการทรมานตนเอง]] |
||
'''สักกะ''' ({{ |
ใน[[จักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธ]] '''สักกะ''' ({{langx|pi|सक्क, สกฺก}}) หรือ '''ศักระ''' ({{langx|sa|शक्र}} ''ศกฺร''; ความหมาย: ผู้องอาจ ผู้สามารถ) เป็นชื่อของ[[พระอินทร์|จอมเทพ]]ผู้ปกครองสวรรค์ชั้น[[ดาวดึงส์]] ปรากฏนามในภาษาบาลีว่า ''สกฺโก เทวานมินฺโท'' แปลว่า "สักกะจอมเทพ"<ref name=autogenerated1>[http://www.palikanon.com/english/pali_names/sa/sakka.htm Sakka<!-- Bot generated title -->]</ref> ในคัมภีร์ทาง[[ศาสนาพุทธ]] คำว่า "สักกะ" ถือเป็น[[วิสามานยนาม]] ไม่อาจใช้เรียกเทพองค์อื่นได้ ในทางตรงกันข้าม คำว่า ''อินฺท'' (ภาษาบาลี) หรือ ''อินฺทฺร'' (ภาษาสันสกฤต) ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้เป็นใหญ่" ใช้หมายถึงท้าวสักกะอยู่บ่อยครั้ง ท้าวสักกะมักเรียกขานว่า "พระอินทร์"{{ต้องการอ้างอิงเฉพาะส่วน}} |
||
ในวัฒนธรรม[[เอเชียตะวันออก]] ท้าวสักกะเป็นที่รู้จักในนาม "ตี้ซื่อเทียน" (帝釋天) หรือ "ซื่อถีหฺวันอิน" <!--ห ว ควบกล้ำ--> (釋提桓因) ใน[[ภาษาจีน]] และ "ไทชะกุเท็น" (帝釈天) ใน[[ภาษาญี่ปุ่น]] สำหรับใน[[ประเทศจีน]]แล้ว บางครั้งมีการเปรียบเทียบว่าท้าวสักกะคือ[[เง็กเซียนฮ่องเต้]] (玉皇大帝) หรือจักรพรรดิหยกใน[[ลัทธิเต๋า]] ด้วยถือว่าเทพทั้งสององค์นี้มีวันประสูติเป็นวันเดียวกัน คือ ในวันที่ 9 เดือนที่ 1 ตาม[[ปฏิทินจันทรคติจีน]] (โดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ตาม[[ปฏิทินสุริยคติ]]) |
ในวัฒนธรรม[[เอเชียตะวันออก]] ท้าวสักกะเป็นที่รู้จักในนาม "ตี้ซื่อเทียน" (帝釋天) หรือ "ซื่อถีหฺวันอิน" <!--ห ว ควบกล้ำ--> (釋提桓因) ใน[[ภาษาจีน]] และ "ไทชะกุเท็น" (帝釈天) ใน[[ภาษาญี่ปุ่น]] สำหรับใน[[ประเทศจีน]]แล้ว บางครั้งมีการเปรียบเทียบว่าท้าวสักกะคือ[[เง็กเซียนฮ่องเต้]] (玉皇大帝) หรือจักรพรรดิหยกใน[[ลัทธิเต๋า]] ด้วยถือว่าเทพทั้งสององค์นี้มีวันประสูติเป็นวันเดียวกัน คือ ในวันที่ 9 เดือนที่ 1 ตาม[[ปฏิทินจันทรคติจีน]] (โดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ตาม[[ปฏิทินสุริยคติ]]) |
||
ใน[[ฤคเวท]] อันเป็นวรรณคดีภาษาสันสกฤตใน[[ศาสนาฮินดู]] คำว่า "ศักระ" อันเป็นนามของท้าวสักกะในภาษาสันสกฤต |
ใน[[ฤคเวท]] อันเป็นวรรณคดีภาษาสันสกฤตใน[[ศาสนาฮินดู]] คำว่า "ศักระ" อันเป็นนามของท้าวสักกะในภาษาสันสกฤตนั้น ใช้แทนตัวเทพอินทระหรือพระอินทร์อยู่บ่อยครั้ง แต่ในศาสนาพุทธ ตำนานและบุคลิกลักษณะของท้าวสักกะแตกต่างไปจากพระอินทร์ในพระเวทอย่างสิ้นเชิง<ref name=autogenerated1 /> |
||
สวรรค์ชั้น[[ดาวดึงส์]]ซึ่งเป็นที่สถิตของท้าวสักกะตั้งอยู่เหนือยอด[[เขาพระสุเมรุ]] ซึ่งตามคติเรื่อง[[ไตรภูมิ]] ถือว่าภูเขาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของโลก อันมี[[พระอาทิตย์]]และ[[พระจันทร์]]เวียนโคจรโดยรอบ สวรรค์ชั้นนี้นับเป็นสวรรค์ชั้นที่สูงที่สุดที่เชื่อมต่อกับมนุสสภูมิ (โลกมนุษย์) โดยตรง ท้าวสักกะมีชีวิตที่ยาวนานเช่นเดียวกับเทพทั้งหลาย หากแต่ก็มีวาระที่จะหมดอายุขัยตามแรง[[บุญ]]ของตนเองเช่นกัน ในยามที่ท้าวสักกะจะต้องจุติ (ตาย) เมื่อจิตดับไปแล้ว จะบังเกิดท้าวสักกะองค์ใหม่ (ซึ่งอาจเป็นเทพองค์อื่น) ขึ้นแทนที่ท้าวสักกะองค์เดิมทันที เรื่องราวของท้าวสักกะในทางพระพุทธศาสนาทั้งไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบัน (ในช่วงที่บันทึก[[พระไตรปิฎก]]) ปรากฏอยู่ใน[[ชาดก]]และ[[พระสูตร]] |
สวรรค์ชั้น[[ดาวดึงส์]]ซึ่งเป็นที่สถิตของท้าวสักกะตั้งอยู่เหนือยอด[[เขาพระสุเมรุ]] ซึ่งตามคติเรื่อง[[ไตรภูมิ]] ถือว่าภูเขาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของโลก อันมี[[พระอาทิตย์]]และ[[พระจันทร์]]เวียนโคจรโดยรอบ สวรรค์ชั้นนี้นับเป็นสวรรค์ชั้นที่สูงที่สุดที่เชื่อมต่อกับมนุสสภูมิ (โลกมนุษย์) โดยตรง ท้าวสักกะมีชีวิตที่ยาวนานเช่นเดียวกับเทพทั้งหลาย หากแต่ก็มีวาระที่จะหมดอายุขัยตามแรง[[บุญ]]ของตนเองเช่นกัน ในยามที่ท้าวสักกะจะต้องจุติ (ตาย) เมื่อจิตดับไปแล้ว จะบังเกิดท้าวสักกะองค์ใหม่ (ซึ่งอาจเป็นเทพองค์อื่น) ขึ้นแทนที่ท้าวสักกะองค์เดิมทันที เรื่องราวของท้าวสักกะในทางพระพุทธศาสนาทั้งไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบัน (ในช่วงที่บันทึก[[พระไตรปิฎก]]) ปรากฏอยู่ใน[[ชาดก]]และ[[พระสูตร]]ต่าง ๆ ซึ่งโดยมากจะอยู่ในหมวด[[สังยุตตนิกาย]] |
||
ชื่อ |
ชื่อท้าวสักกะปรากฏในพระสูตรหลายตอน และมักมีบทบาทเป็นผู้กราบทูลขอคำปรึกษาจาก[[พระโคดมพุทธเจ้า]]ในปัญหาธรรมต่าง ๆ ถือกันว่าพระองค์เป็น[[ธรรมบาล]] (ผู้คุ้มครองธรรม) ในพุทธศาสนาร่วมกับเหล่า[[พรหม]]ทั้งหลาย |
||
== มฆมาณพบำเพ็ญวัตตบท 7 ประการ == |
|||
ฝ่ายนายมฆะบำเพ็ญวัตตบท 7 เหล่านี้ คือ |
|||
#บำรุงมารดาบิดา |
|||
#ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล |
|||
#พูดคำสัตย์ |
|||
#ไม่พูดคำหยาบ |
|||
#ไม่พูดส่อเสียด |
|||
#กำจัดความตระหนี่ |
|||
#ไม่โกรธ |
|||
ถึงความเป็นผู้ควรสรรเสริญอย่างนี้ว่า “ทวยเทพชั้นดาวดึงส์ เรียกนรชนผู้เลี้ยงมารดาบิดา มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล กล่าวถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน ละวาจาส่อเสียด ประกอบในอันกำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์ ข่มความโกรธได้ นั่นแลว่า “สัปบุรุษ” ในเวลาสิ้นชีวิต ได้เกิดเป็นท้าวสักกเทวราชในภพดาวดึงส์ สหายของเขาแม้เหล่านั้นก็เกิดในที่นั้นเหมือนกัน ช่างไม้เกิดเป็นวิศวกรรมเทพบุตร<ref>{{cite web |url=https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=12&p=7|title=๗. เรื่องท้าวสักกะ [๒๑]|accessdate=2024-05-22}}</ref> |
|||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 30: | ||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
{{เทวดา}} |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
[[หมวดหมู่:เทวราช]] |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
{{โครงพุทธศาสนา}} |
{{โครงพุทธศาสนา}} |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 13:05, 6 พฤศจิกายน 2567
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
ในจักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธ สักกะ (บาลี: सक्क, สกฺก) หรือ ศักระ (สันสกฤต: शक्र ศกฺร; ความหมาย: ผู้องอาจ ผู้สามารถ) เป็นชื่อของจอมเทพผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ปรากฏนามในภาษาบาลีว่า สกฺโก เทวานมินฺโท แปลว่า "สักกะจอมเทพ"[1] ในคัมภีร์ทางศาสนาพุทธ คำว่า "สักกะ" ถือเป็นวิสามานยนาม ไม่อาจใช้เรียกเทพองค์อื่นได้ ในทางตรงกันข้าม คำว่า อินฺท (ภาษาบาลี) หรือ อินฺทฺร (ภาษาสันสกฤต) ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้เป็นใหญ่" ใช้หมายถึงท้าวสักกะอยู่บ่อยครั้ง ท้าวสักกะมักเรียกขานว่า "พระอินทร์"[ต้องการอ้างอิง]
ในวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก ท้าวสักกะเป็นที่รู้จักในนาม "ตี้ซื่อเทียน" (帝釋天) หรือ "ซื่อถีหฺวันอิน" (釋提桓因) ในภาษาจีน และ "ไทชะกุเท็น" (帝釈天) ในภาษาญี่ปุ่น สำหรับในประเทศจีนแล้ว บางครั้งมีการเปรียบเทียบว่าท้าวสักกะคือเง็กเซียนฮ่องเต้ (玉皇大帝) หรือจักรพรรดิหยกในลัทธิเต๋า ด้วยถือว่าเทพทั้งสององค์นี้มีวันประสูติเป็นวันเดียวกัน คือ ในวันที่ 9 เดือนที่ 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน (โดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ตามปฏิทินสุริยคติ)
ในฤคเวท อันเป็นวรรณคดีภาษาสันสกฤตในศาสนาฮินดู คำว่า "ศักระ" อันเป็นนามของท้าวสักกะในภาษาสันสกฤตนั้น ใช้แทนตัวเทพอินทระหรือพระอินทร์อยู่บ่อยครั้ง แต่ในศาสนาพุทธ ตำนานและบุคลิกลักษณะของท้าวสักกะแตกต่างไปจากพระอินทร์ในพระเวทอย่างสิ้นเชิง[1]
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งเป็นที่สถิตของท้าวสักกะตั้งอยู่เหนือยอดเขาพระสุเมรุ ซึ่งตามคติเรื่องไตรภูมิ ถือว่าภูเขาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของโลก อันมีพระอาทิตย์และพระจันทร์เวียนโคจรโดยรอบ สวรรค์ชั้นนี้นับเป็นสวรรค์ชั้นที่สูงที่สุดที่เชื่อมต่อกับมนุสสภูมิ (โลกมนุษย์) โดยตรง ท้าวสักกะมีชีวิตที่ยาวนานเช่นเดียวกับเทพทั้งหลาย หากแต่ก็มีวาระที่จะหมดอายุขัยตามแรงบุญของตนเองเช่นกัน ในยามที่ท้าวสักกะจะต้องจุติ (ตาย) เมื่อจิตดับไปแล้ว จะบังเกิดท้าวสักกะองค์ใหม่ (ซึ่งอาจเป็นเทพองค์อื่น) ขึ้นแทนที่ท้าวสักกะองค์เดิมทันที เรื่องราวของท้าวสักกะในทางพระพุทธศาสนาทั้งไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบัน (ในช่วงที่บันทึกพระไตรปิฎก) ปรากฏอยู่ในชาดกและพระสูตรต่าง ๆ ซึ่งโดยมากจะอยู่ในหมวดสังยุตตนิกาย
ชื่อท้าวสักกะปรากฏในพระสูตรหลายตอน และมักมีบทบาทเป็นผู้กราบทูลขอคำปรึกษาจากพระโคดมพุทธเจ้าในปัญหาธรรมต่าง ๆ ถือกันว่าพระองค์เป็นธรรมบาล (ผู้คุ้มครองธรรม) ในพุทธศาสนาร่วมกับเหล่าพรหมทั้งหลาย
มฆมาณพบำเพ็ญวัตตบท 7 ประการ
[แก้]ฝ่ายนายมฆะบำเพ็ญวัตตบท 7 เหล่านี้ คือ
- บำรุงมารดาบิดา
- ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล
- พูดคำสัตย์
- ไม่พูดคำหยาบ
- ไม่พูดส่อเสียด
- กำจัดความตระหนี่
- ไม่โกรธ
ถึงความเป็นผู้ควรสรรเสริญอย่างนี้ว่า “ทวยเทพชั้นดาวดึงส์ เรียกนรชนผู้เลี้ยงมารดาบิดา มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล กล่าวถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน ละวาจาส่อเสียด ประกอบในอันกำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์ ข่มความโกรธได้ นั่นแลว่า “สัปบุรุษ” ในเวลาสิ้นชีวิต ได้เกิดเป็นท้าวสักกเทวราชในภพดาวดึงส์ สหายของเขาแม้เหล่านั้นก็เกิดในที่นั้นเหมือนกัน ช่างไม้เกิดเป็นวิศวกรรมเทพบุตร[2]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Sakka
- ↑ "๗. เรื่องท้าวสักกะ [๒๑]". สืบค้นเมื่อ 2024-05-22.