ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ)"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 21: | บรรทัด 21: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
พระ |
สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปัญฺญาวุโธ) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ และเจ้าอาวาส[[วัดกะพังสุรินทร์]] ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง [[จังหวัดตรัง]] มีนามเดิมว่า สงัด ลิ่มไทย เกิดเมื่อวันที่ [[27 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2471]] ที่บ้านหนองไทร ตำบลนาโยงเหนือ [[อำเภอนาโยง]] [[จังหวัดตรัง]] โดยโยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเปลี่ยน และนางทองอ่อน ลิ่มไทย ในปี [[พ.ศ. 2491]] ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดจอมไตร [[อำเภอนาโยง]] [[จังหวัดตรัง]] โดยมีพระครูสังวรโกวิท เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิบูลธรรมสาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระผุด มหาวีโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ในปี [[พ.ศ. 2504]] |
||
ท่านถือเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้และประเทศไทยอย่างเอนกอนันต์ เป็นที่โจษจันเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภาคใต้ของประเทศไทย |
ท่านถือเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้และประเทศไทยอย่างเอนกอนันต์ เป็นที่โจษจันเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภาคใต้ของประเทศไทย |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:38, 15 พฤศจิกายน 2565
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) | |
---|---|
ไฟล์:สงัด ปญฺญาวุโธ.jpg | |
ชื่ออื่น | พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์(สงัด) |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 (96 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม 7 ประโยค |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดกะพังสุรินทร์ ตรัง |
อุปสมบท | พ.ศ. 2491 |
พรรษา | 76 |
ตำแหน่ง | เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง |
สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ผู้สร้างคุณูปการให้กับพระพุทธศาสนาอีกท่านหนึ่ง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้
ประวัติ
สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปัญฺญาวุโธ) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ และเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง มีนามเดิมว่า สงัด ลิ่มไทย เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 ที่บ้านหนองไทร ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง โดยโยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเปลี่ยน และนางทองอ่อน ลิ่มไทย ในปี พ.ศ. 2491 ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดจอมไตร อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง โดยมีพระครูสังวรโกวิท เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิบูลธรรมสาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระผุด มหาวีโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ในปี พ.ศ. 2504
ท่านถือเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้และประเทศไทยอย่างเอนกอนันต์ เป็นที่โจษจันเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภาคใต้ของประเทศไทย
สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2514 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระปิฎกคุณาภรณ์,สป.[1]
- พ.ศ. 2527 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัตยาภรณ์ สุนทรธรรมานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[2]
- พ.ศ. 2536 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิมลเมธี ศรีปริยัติดิลก ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[3]
- พ.ศ. 2542 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร สุนทรพรหมปฏิบัติ ปริยัติธรรมสาธก ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[4]
- พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมจริยาจารย์ สุวิธานวรกิจจานุกิจ วินิฐศีลาจารวิมล โสภณทักษิณคณาทร ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
การดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ท่านได้รับสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่พระพรหมจริยาจารย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าคณะใหญ่รูปแรกที่พำนักอยู่ในภูมิภาค ทั้งนี้เนื่องจากมหาเถรสมาคมมองเห็นว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ของคณะสงฆ์นั้น หากให้พระสงฆ์ในพื้นที่ทำหน้าที่ดูแลกันเอง ย่อมจะมีผลดีต่อพระสงฆ์ในพื้นที่ดังกล่าวได้มากกว่า เนื่องจากมีความคล่องตัว รวมไปถึงมีสายงานการบังคับบัญชาที่มีความกระชับรวดเร็วกว่าที่จะให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาดูแล ดังนั้นจึงมีมติเสนอเลื่อนสมณศักดิ์ พระธรรมรัตนากร (สงัด ปญฺญาวุโธ) เจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดกระพังสุรินทร์ ขึ้นเป็นพระพรหมจริยาจารย์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ เพื่อดูแลคณะสงฆ์ในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด
โดยเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์ และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ เพื่อนำมาสมโภชหิรัญบัฏแก่พระพรหมจริยาจารย์ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้แทนประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เดินทางมาเป็นประธาน โดยมีเจ้าคณะจังหวัด และพระสังฆาธิการในเขตปกครองหนใต้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งในโอกาสนี้ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ได้กล่าวถึงหลักการปกครองคณะสงฆ์ว่า เราควรยกย่องผู้ที่สมควรยกย่อง และตักเตือนผู้ที่สมควรตักเตือน ดังนั้นหากพระสังฆาธิการรูปใดที่ประพฤติดีต้องยกย่อง และต้องให้ได้รับเกียรติมีสมณศักดิ์ พร้อมกันนั้นท่านยังได้อบรมพระในปกครองอยู่เสมอว่า ในการทำงานจะต้องไม่กลัวผิดพลาด แต่จะต้องตั้งใจทำงานนั้นให้ดีที่สุด และจะต้องไม่ตื่นเต้นเมื่อเกิดการผิดพลาด โดยพร้อมที่จะแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของการได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระพรหมจริยาจารย์ กล่าวว่า “ไม่รู้สึกดีใจ แต่รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเพศบรรพชิต ไม่เคยไขว่คว้ายศ ตำแหน่ง และสมณศักดิ์ ถึงแม้จะอยู่ระดับไหนก็ตาม ก็ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด โดยเฉพาะงานด้านการศึกษาและการเผยแผ่ ซึ่งถือเป็นเบื้องต้นของพระพุทธศาสนา เพราะการที่จะมีพระภิกษุ สามเณรที่ดี ก็ต้องอาศัยการศึกษาเป็นพื้นฐาน และที่สำคัญรู้สึกภาคภูมิใจแทนคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในภาคใต้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้ใหญ่ที่ให้ตนมารับหน้าที่สำคัญนี้ ” กว่า 60 พรรษาแห่งการอุทิศชีวิตในพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่ตนและต่อชาวโลก ด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม พระพรหมจริยาจารย์ นับเป็นพระมหาเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้อย่างอเนกอนันต์ เป็นที่โจษขานเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เปรียบประดุจสะพานบุญ เชื่อมต่อศรัทธาแห่งชาวบ้านในชุมชนกับวัด มิให้ห่างเหินไปไกลกัน
เกียรติคุณ
- พ.ศ. 2552 ได้รับถวายปริญญาพุทธศาสตรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2553 ได้รับถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่
- พ.ศ. 2553 ได้รับถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- พ.ศ. 2554 ได้รับถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
เขตการปกครองคณะสงฆ์
รวม 3 ภาค 14 จังหวัด ได้แก่
- ภาค 16 ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช, จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฏร์ธานี
- ภาค 17 ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดตรัง, จังหวัดกระบี่, จังหวัดพังงา และจังหวัดระนอง
- ภาค 18 ได้แก่ จังหวัดสงขลา, จังหวัดพัทลุง, จังหวัดสตูล, จังหวัดปัตตานี, จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 88, ตอนที่ 151 ง ฉบับพิเศษ, 31 ธันวาคม 2514, หน้า 6
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 102, ตอนที่ 17 ง ฉบับพิเศษ, 8 กุมภาพันธ์ 2528, หน้า 2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 116, ตอนที่ 202 ง ฉบับพิเศษ, 6 ธันวาคม 2536, หน้า 2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 116, ตอนที่ 23 ข, 27 ธันวาคม 2542, หน้า 1
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, เล่ม 125, ตอนที่ 5 ข, 11 มีนาคม 2551, หน้า 1-3
ก่อนหน้า | สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) | เจ้าคณะใหญ่หนใต้ |
'ยังอยู่ในตำแหน่ง' | ||
- | เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ |
'ยังอยู่ในตำแหน่ง' |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2471
- ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
- พระราชาคณะเจ้าคณะรอง
- เจ้าคณะใหญ่หนใต้
- เจ้าคณะภาค 18
- เจ้าอาวาส
- เปรียญธรรม 7 ประโยค
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- บุคคลจากจังหวัดตรัง
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์