ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มงคลสูตร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
วิสุทธิธรรม (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 71: บรรทัด 71:
== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[มงคล]]
* [[มงคล]]
555++


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:08, 8 กันยายน 2556

ภาพ:หนังสือมงคลัตถทีปนี จัดพิมพ์โดยมหามกุฏราชวิทยาลัย หลักสูตรเปรียญธรรม ๔ ประโยค คัมภีร์ชั้นฎีกาอธิบายความในมงคลสูตร

มงคลสูตร(ฟัง)เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง ในพระพุทธศาสนาเถรวาท เพราะมีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธ มงคลภายนอก ที่นับถือเหตุการณ์หรือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นมงคลหรือมีมงคล โดยอธิบายว่าในทัศนะพระพุทธศาสนานั้น มงคลของมนุษย์และเทวดาย่อมเกิดจากการกระทำอันได้แก่ มงคลภายใน คือต้องกระทำความดี และความดีนั้นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ามงคลเองโดยไม่ต้องไปอ้อนวอนกราบไหว้ขอมงคลจากนอกตัว

เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาในพระสูตรแล้ว ก็ได้แสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาปฏิเสธมงคลภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นจุดเด่นในพระพุทธศาสนา

ประวัติ

ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล[1] เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด ๑๐ หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*

  • (ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).

เนื้อหาในพระสูตร

ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น ๑๐ หมวด ดังนี้

หมวดที่ ๑

  1. ไม่คบคนพาล
  2. คบบัณฑิต
  3. บูชาคนที่ควรบูชา

หมวดที่ ๒

  1. อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
  2. มีบุญวาสนามาก่อน
  3. ตั้งตนชอบ

หมวดที่ ๓

  1. เป็นพหูสูต
  2. มีศิลปะ
  3. มีวินัย
  4. มีวาจาสุภาษิต

หมวดที่ ๔

  1. บำรุงมารดาบิดา
  2. เลี้ยงดูบุตร
  3. สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
  4. ทำงานไม่คั่งค้าง

หมวดที่ ๕

  1. บำเพ็ญทาน
  2. ประพฤติธรรม
  3. สงเคราะห์ญาติ
  4. ทำงานไม่มีโทษ

หมวดที่ ๖

  1. งดเว้นจากบาป
  2. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
  3. ไม่ประมาทในธรรม

หมวดที่ ๗

  1. มีความเคารพ
  2. มีความถ่อมตน
  3. มีความสันโดษ
  4. มีความกตัญญู
  5. ฟังธรรมตามกาล

หมวดที่ ๘

  1. มีความอดทน
  2. เป็นผู้ว่าง่าย
  3. เห็นสมณะ
  4. สนทนาธรรมตามกาล

หมวดที่ ๙

  1. บำเพ็ญตบะ
  2. ประพฤติพรหมจรรย์
  3. เห็นอริยสัจจ์
  4. ทำพระนิพพานให้แจ้ง

หมวดที่ ๑๐

  1. จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
  2. จิตไม่โศก
  3. จิตปราศจากธุลี
  4. จิตเกษม

อย่างไรก็ตาม แม้พระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมไว้ชัดเจนดีแล้ว ก็มีผู้ที่เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง จึงได้ส่งผลมาถึงปัจจุบันนี้ แนวทางการยึดถือความเป็นมงคล จึงมีอยู่ 2 แนวทาง คือ

  1. มงคลจากการมีสิ่งนั้นมีสิ่งนี้
  2. มงคลจากการฝึกตัว

ดูเพิ่ม

555++

อ้างอิง

  1. พระสิริมังคลาจารย์. มงคลทีปนี. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๐


แหล่งข้อมูลอื่น