ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แอรอน แรมซีย์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Stelios (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 18: บรรทัด 18:
| nationalyears1 = 2005–2008 |nationalteam1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี|เวลส์ ชุดยู 17]] |nationalcaps1 = 15 |nationalgoals1 = 2
| nationalyears1 = 2005–2008 |nationalteam1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี|เวลส์ ชุดยู 17]] |nationalcaps1 = 15 |nationalgoals1 = 2
| nationalyears2 = 2007–2009 |nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี|เวลส์ ชุดยู 21]] |nationalcaps2 = 12 |nationalgoals2 = 2
| nationalyears2 = 2007–2009 |nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี|เวลส์ ชุดยู 21]] |nationalcaps2 = 12 |nationalgoals2 = 2
| nationalyears3 = 2008– |nationalteam3 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|เวลส์]] |nationalcaps3 = 42 |nationalgoals3 = 11
| nationalyears3 = 2008– |nationalteam3 = [[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|เวลส์]] |nationalcaps3 = 44 |nationalgoals3 = 11
| nationalyears4 = 2012 |nationalteam4 = [[ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่|บริเตนใหญ่]]|nationalcaps4 = 5 |nationalgoals4 = 1
| nationalyears4 = 2012 |nationalteam4 = [[ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่|บริเตนใหญ่]]|nationalcaps4 = 5 |nationalgoals4 = 1
| club-update = 8 กรกฎาคม 2016 (UTC)
| club-update = 8 กรกฎาคม 2016 (UTC)
| nationalteam-update = 19 พฤศจิกายน 2013 (UTC)
| nationalteam-update = 19 พฤศจิกายน 2013 (UTC)
}}
}}
'''แอรอน แรมซีย์''' ({{lang-en|Aaron Ramsey}}) มีชื่อเต็มว่า '''แอรอน เจมส์ แรมซีย์''' (Aaron James Ramsey) เกิดเมื่อวันที่ [[26 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1990]] เป็น[[นักฟุตบอล]]ชาว[[เวลส์]] เล่นตำแหน่ง[[กองกลาง]] ปัจจุบันเล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] และ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]] โดยเป็นกัปตันทีมด้วย
'''แอรอน แรมซีย์''' ({{lang-en|Aaron Ramsey}}) มีชื่อเต็มว่า '''แอรอน เจมส์ แรมซีย์''' (Aaron James Ramsey) เกิดเมื่อวันที่ [[26 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1990]] เป็น[[นักฟุตบอล]]ชาว[[เวลส์]] เล่นตำแหน่ง[[กองกลาง]] ปัจจุบันเล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] และ[[ฟุตบอลทีมชาติเวลส์|ทีมชาติเวลส์]]


แรมซีย์เล่นกับ[[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]]ตั้งแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียน โดยอยู่ในทีมฟุตบอลเยาวชน 8 ปีก่อนที่จะลงแข่งในทีมรุ่นใหญ่ 16 ครั้ง แรมซีย์ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลในปี ค.ศ. 2008 หลังจากนั้นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อขาหักจากในนัดที่แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] โดย[[ไรอัน ชอว์ครอส]] ได้ทำแรมซีย์ขาหักในฤดูกาลปี ค.ศ. 2010 หลังจากแรมซีย์พักฟื้นและได้เล่นในทีมสำรองของอาร์เซนอล จากนั้นแรมซีย์ได้ถูกยืมตัวไปยังนอตทิงแฮมฟอเรสต์ จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 และถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรแรก คือ คาร์ดิฟฟ์ซิตี จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ก่อนที่จะย้ายกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้ง
แรมซีย์เล่นกับ[[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]]ตั้งแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียน โดยอยู่ในทีมฟุตบอลเยาวชน 8 ปีก่อนที่จะลงแข่งในทีมรุ่นใหญ่ 16 ครั้ง แรมซีย์ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลในปี ค.ศ. 2008 หลังจากนั้นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อขาหักจากในนัดที่แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] โดย[[ไรอัน ชอว์ครอส]] ได้ทำแรมซีย์ขาหักในฤดูกาลปี ค.ศ. 2010 หลังจากแรมซีย์พักฟื้นและได้เล่นในทีมสำรองของอาร์เซนอล จากนั้นแรมซีย์ได้ถูกยืมตัวไปยังนอตทิงแฮมฟอเรสต์ จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 และถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรแรก คือ คาร์ดิฟฟ์ซิตี จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ก่อนที่จะย้ายกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้ง
บรรทัด 32: บรรทัด 32:


ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ กับ [[สโมสรฟุตบอลฮัลล์ซิตี|ฮัลล์ซิตี]] แรมซีย์เป็นผู้ยิงประตูให้กับอาร์เซนอลในนาทีที่ 109 ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษ หลังจากที่ทั้งคู่เสมอกัน 2-2 ทำให้อาร์เซนอลเป็นฝ่ายชนะไป 3-2 และยังถูกยกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ทำให้อาร์เซนอลได้แชมป์เอฟเอคัพไปเป็นสมัยที่ 11 นับว่ามากที่สุดเทียบเท่า[[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] และถือว่าแชมป์รายการแรกของสโมสรด้วยในรอบ 9 ปี <ref>{{cite news|url=http://www.thefa.com/news/the-fa-cup/2014/may/arsenal-v-hull-city-fa-cup-final-2014-match-report Report|title=Aaron Ramsey steers Arsenal to victory in epic FA Cup Final|date=19 May 2014|work=fifa}}</ref>
ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ กับ [[สโมสรฟุตบอลฮัลล์ซิตี|ฮัลล์ซิตี]] แรมซีย์เป็นผู้ยิงประตูให้กับอาร์เซนอลในนาทีที่ 109 ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษ หลังจากที่ทั้งคู่เสมอกัน 2-2 ทำให้อาร์เซนอลเป็นฝ่ายชนะไป 3-2 และยังถูกยกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ทำให้อาร์เซนอลได้แชมป์เอฟเอคัพไปเป็นสมัยที่ 11 นับว่ามากที่สุดเทียบเท่า[[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] และถือว่าแชมป์รายการแรกของสโมสรด้วยในรอบ 9 ปี <ref>{{cite news|url=http://www.thefa.com/news/the-fa-cup/2014/may/arsenal-v-hull-city-fa-cup-final-2014-match-report Report|title=Aaron Ramsey steers Arsenal to victory in epic FA Cup Final|date=19 May 2014|work=fifa}}</ref>

ในระดับทีมชาติ ในการแข่งขัน[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016]] ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เวลส์ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย และนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปีผ่านเข้ามาเล่นในรายการฟุตบอลระดับโลกรอบสุดท้ายเช่นนี้ เวลส์แม้จะเป็นเพียงทีมที่ถูกมองว่าเป็นรองหลาย ๆ ทีม แต่กลับสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จนกระทั่งผ่านเข้ามาถึง[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016#รอบรองชนะเลิศ|รอบรองชนะเลิศ]] โดยเฉพาะการเล่นของแรมซีย์ที่ได้รับคำชมว่าเล่นได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งจ่ายและยิงประตูเอง แม้ว่าในรอบรองชนะเลิศแรมซีย์จะไม่สามารถลงเล่นได้ก็ตามเพราะติดโทษใบเหลืองจาก[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016#รอบ 8 ทีมสุดท้าย|รอบ 8 ทีมสุดท้าย]]ก่อนหน้านั้น<ref>หน้า 21 ต่อจากหน้า 1, ''กล้าที่จะฝัน'' โดย โต้ บ้านแหลม. "ลุ้นแชมป์ยูโร 2016''. '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 67 ฉบับที่ 21349: วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แรม 15 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก</ref>


ทั้งนี้ แอรอน แรมซีย์ เป็นผู้เล่นที่มักถูกเชื่อมโยงว่าหากสามารถยิงประตูได้เมื่อไหร่ จะมีบุคคลสำคัญระดับโลกเสียชีวิต เช่น [[อุซามะฮ์ บิน ลาดิน]], [[สตีฟ จอบส์]], [[วิตนีย์ ฮิวสตัน]], [[โรบิน วิลเลียมส์]], [[แนนซี เรแกน]], [[อลัน ริกแมน]]<ref>{{cite news|accessdate=27 May 2016|date=14 January 2016|title=ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!เผยแรมซี่ย์ยิงเมื่อไหร่คนดังมีอันเป็นไป|url=http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/160114_395.html|work=สยามสปอร์ต}}</ref>
ทั้งนี้ แอรอน แรมซีย์ เป็นผู้เล่นที่มักถูกเชื่อมโยงว่าหากสามารถยิงประตูได้เมื่อไหร่ จะมีบุคคลสำคัญระดับโลกเสียชีวิต เช่น [[อุซามะฮ์ บิน ลาดิน]], [[สตีฟ จอบส์]], [[วิตนีย์ ฮิวสตัน]], [[โรบิน วิลเลียมส์]], [[แนนซี เรแกน]], [[อลัน ริกแมน]]<ref>{{cite news|accessdate=27 May 2016|date=14 January 2016|title=ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!เผยแรมซี่ย์ยิงเมื่อไหร่คนดังมีอันเป็นไป|url=http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/160114_395.html|work=สยามสปอร์ต}}</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:49, 4 กรกฎาคม 2559

แอรอน แรมซีย์
ไฟล์:Aaron2014.jpg
แอรอน แรมซีย์ กับถ้วยเอฟเอคัพ 2014
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม แอรอน เจมส์ แรมซีย์
(Arron James Ramsey)[1]
วันเกิด (1990-12-26) 26 ธันวาคม ค.ศ. 1990 (33 ปี)
สถานที่เกิด แคร์ฟิลลี, เวลส์, สหราชอาณาจักร
ส่วนสูง 1.82 m (6 ft 0 in)[2]
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อาร์เซนอล
หมายเลข 16
สโมสรเยาวชน
1999–2006 คาร์ดิฟฟ์ซิตี
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2006–2008 คาร์ดิฟฟ์ซิตี 16 (1)
2008– อาร์เซนอล 187 (28)
2010–2011นอตทิงแฮมฟอเรสต์ (ยืมตัว) 5 (0)
2011คาร์ดิฟฟ์ซิตี (ยืมตัว) 6 (1)
ทีมชาติ
2005–2008 เวลส์ ชุดยู 17 15 (2)
2007–2009 เวลส์ ชุดยู 21 12 (2)
2008– เวลส์ 44 (11)
2012 บริเตนใหญ่ 5 (1)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2016 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2013 (UTC)

แอรอน แรมซีย์ (อังกฤษ: Aaron Ramsey) มีชื่อเต็มว่า แอรอน เจมส์ แรมซีย์ (Aaron James Ramsey) เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1990 เป็นนักฟุตบอลชาวเวลส์ เล่นตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบันเล่นให้กับอาร์เซนอล และทีมชาติเวลส์

แรมซีย์เล่นกับคาร์ดิฟฟ์ซิตีตั้งแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียน โดยอยู่ในทีมฟุตบอลเยาวชน 8 ปีก่อนที่จะลงแข่งในทีมรุ่นใหญ่ 16 ครั้ง แรมซีย์ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลในปี ค.ศ. 2008 หลังจากนั้นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อขาหักจากในนัดที่แข่งกับสโตกซิตี โดยไรอัน ชอว์ครอส ได้ทำแรมซีย์ขาหักในฤดูกาลปี ค.ศ. 2010 หลังจากแรมซีย์พักฟื้นและได้เล่นในทีมสำรองของอาร์เซนอล จากนั้นแรมซีย์ได้ถูกยืมตัวไปยังนอตทิงแฮมฟอเรสต์ จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 และถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรแรก คือ คาร์ดิฟฟ์ซิตี จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ก่อนที่จะย้ายกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้ง

ในฤดูกาล 2013-14 แรมซีย์กลับมาเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง ยิงต่อเนื่องถึง 13 ประตู ใน 19 นัดหลังสุด และในนัดที่เจอคาร์ดิฟฟ์ แรมซีย์ยิงอีก 2 ประตู แต่ให้เกียรติทีมเก่าโดยไม่แสดงอาการดีใจหลังจากการทำประตู โดยในฤดูกาลนี้ถือว่าแรมซีย์เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของอาร์เซนอลก็ว่าได้ [3]

จากนั้นในช่วงเปิดกล่องของขวัญ แรมซีย์ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ต้องหยุดพักยาวนานกว่า 3 เดือน ซึ่งส่งผลกระทบต่อทีมเป็นอย่างมาก จนกลับมาสู่ทีมในฐานะตัวสำรองได้อีกครั้งในนัดที่อาร์เซนอลไปเยือนเอฟเวอร์ตัน และเป็นฝ่ายแพ้ไป 0-3 [4]และได้ลงเป็นตัวจริงในเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ ที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะจุดโทษ วีแกน ซึ่งเป็นแชมป์เก่าไป 2-4 โดยในเกม 120 นาทีทั้งคู่เสมอกัน 1-1 โดยแรมซีย์ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงเวลาพิเศษนาทีที่ 113 และเป็นคิม คัลสตอร์ม ที่ถูกเปลี่ยนตัวมาแทนที่ [5]

ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ กับ ฮัลล์ซิตี แรมซีย์เป็นผู้ยิงประตูให้กับอาร์เซนอลในนาทีที่ 109 ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษ หลังจากที่ทั้งคู่เสมอกัน 2-2 ทำให้อาร์เซนอลเป็นฝ่ายชนะไป 3-2 และยังถูกยกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ทำให้อาร์เซนอลได้แชมป์เอฟเอคัพไปเป็นสมัยที่ 11 นับว่ามากที่สุดเทียบเท่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และถือว่าแชมป์รายการแรกของสโมสรด้วยในรอบ 9 ปี [6]

ในระดับทีมชาติ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เวลส์ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย และนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปีผ่านเข้ามาเล่นในรายการฟุตบอลระดับโลกรอบสุดท้ายเช่นนี้ เวลส์แม้จะเป็นเพียงทีมที่ถูกมองว่าเป็นรองหลาย ๆ ทีม แต่กลับสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จนกระทั่งผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยเฉพาะการเล่นของแรมซีย์ที่ได้รับคำชมว่าเล่นได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งจ่ายและยิงประตูเอง แม้ว่าในรอบรองชนะเลิศแรมซีย์จะไม่สามารถลงเล่นได้ก็ตามเพราะติดโทษใบเหลืองจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนหน้านั้น[7]

ทั้งนี้ แอรอน แรมซีย์ เป็นผู้เล่นที่มักถูกเชื่อมโยงว่าหากสามารถยิงประตูได้เมื่อไหร่ จะมีบุคคลสำคัญระดับโลกเสียชีวิต เช่น อุซามะฮ์ บิน ลาดิน, สตีฟ จอบส์, วิตนีย์ ฮิวสตัน, โรบิน วิลเลียมส์, แนนซี เรแกน, อลัน ริกแมน[8]

อ้างอิง

  1. "Premier League Clubs submit Squad Lists" (PDF). The Football Association. 2 February 2012. สืบค้นเมื่อ 12 February 2012.
  2. "Player Profile: Aaron Ramsey". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 31 January 2012.
  3. "บิลิชยกแรมซี่ย์ตัวอันตรายของปืนใหญ่". สยามสปอร์ต. 18 August 2014.
  4. "Everton 3-0 Arsenal". BBC. 6 April 2014. สืบค้นเมื่อ 13 April 2014.
  5. "Wigan 1-1 Arsenal". BBC. 12 April 2014.
  6. Report "Aaron Ramsey steers Arsenal to victory in epic FA Cup Final". fifa. 19 May 2014. {{cite news}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
  7. หน้า 21 ต่อจากหน้า 1, กล้าที่จะฝัน โดย โต้ บ้านแหลม. "ลุ้นแชมป์ยูโร 2016. ไทยรัฐปีที่ 67 ฉบับที่ 21349: วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แรม 15 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก
  8. "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!เผยแรมซี่ย์ยิงเมื่อไหร่คนดังมีอันเป็นไป". สยามสปอร์ต. 14 January 2016. สืบค้นเมื่อ 27 May 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น