ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผู้ใช้:Kinkku Ananas/ทดลองเขียน"
Kinkku Ananas (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Kinkku Ananas (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 77: | บรรทัด 77: | ||
= เคนเนธ แอร์โรว์ = |
= เคนเนธ แอร์โรว์ = |
||
'''เคนเนธ โจเซฟ แอร์โรว์''' ({{lang-en|Kenneth Joseph Arrow}}; 23 สิงหาคม |
'''เคนเนธ โจเซฟ แอร์โรว์''' ({{lang-en|Kenneth Joseph Arrow}}; 23 สิงหาคม ค.ศ. 1921 – 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับ[[รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์]]ในปี 1972 ร่วมกับ[[จอห์น ฮิคส์]] |
||
ในแวดวงเศรษฐศาสตร์ เขาได้รับยกย่องเป็นบุคคลสำคัญสำหรับ[[Neo-classical economics|ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ยุคนีโอคลาสสิก]]หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ได้สร้างลูกศิษย์หลายคนจนต่างได้รับรางวัลโนเบลเองด้วย แอร์โรว์ได้สร้างผลกระทบต่อวิชาการเศรษฐศาสตร์อย่างมหาศาล เป็นนักเศรษฐศาสตร์เชิงปฏิบัติที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา |
ในแวดวงเศรษฐศาสตร์ เขาได้รับยกย่องเป็นบุคคลสำคัญสำหรับ[[Neo-classical economics|ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ยุคนีโอคลาสสิก]]หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ได้สร้างลูกศิษย์หลายคนจนต่างได้รับรางวัลโนเบลเองด้วย แอร์โรว์ได้สร้างผลกระทบต่อวิชาการเศรษฐศาสตร์อย่างมหาศาล เป็นนักเศรษฐศาสตร์เชิงปฏิบัติที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา |
||
บรรทัด 84: | บรรทัด 84: | ||
== การศึกษา == |
== การศึกษา == |
||
เคนเนธ แอร์โรว์ เกิดวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1921 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แอร์โรว์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่[[ซิตีคอลเลจออฟนิวยอร์ก]]ในปี 1940 โดยได้เลือกศึกษาด้านสังคมศาสตร์และคณิตศาสตร์ หลังจากนั้น เขาได้เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาที่[[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย]] และได้รับปริญญาโทสาขาคณิตศาสตร์ในปี 1941 ระหว่างศึกษาที่โคลัมเบียนี้ แอร์โรว์ได้มีโอกาสได้เรียน |
เคนเนธ แอร์โรว์ เกิดวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1921 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แอร์โรว์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่[[ซิตีคอลเลจออฟนิวยอร์ก]]ในปี 1940 โดยได้เลือกศึกษาด้านสังคมศาสตร์และคณิตศาสตร์ หลังจากนั้น เขาได้เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาที่[[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย]] โดยตั้งใจศึกษาด้าน[[คณิตสถิติศาสตร์]] และได้รับปริญญาโทสาขาคณิตศาสตร์ในปี 1941 ระหว่างศึกษาที่โคลัมเบียนี้เอง แอร์โรว์ได้มีโอกาสได้เรียน[[คณิตเศรษฐศาสตร์]]กับ[[แฮโรลด์ โฮเทลลิง]] และแอร์โรว์ได้ย้ายไปศึกษาต่อในภาควิชาเศรษฐศาสตร์ตามการสนับสนุนของโฮเทลลิงและภาควิชาเศรษฐศาสตร์{{r|Lives of the Laureates}} |
||
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] แอร์โรว์ได้พักการศึกษา |
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] แอร์โรว์ได้พักการศึกษาเพื่อทำหน้าที่นายทหารด้านอุตุนิยมวิทยาให้กับ[[กองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ]]ระหว่างปี 1942 ถึง 1946 โดยได้รับยศสูงสุดเป็นร้อยเอก หลังสงคราม แอร์โรว์ได้กลับมาศึกษาที่โคลัมเบีย พร้อมกับการทำงานที่[[มหาวิทยาลัยชิคาโก]]และ[[แรนด์คอร์เปอเรชัน]] |
||
{{รายการอ้างอิง|refs= |
|||
<ref name="Lives of the Laureates">{{cite book |last1=Arrow |first1=Kenneth J. |year=2009 |origyear=1986 |chapter=Kenneth J. Arrow |editor1-last=Breit |editor1-first=William |editor2-last=Hirsch |editor2-first=Barry T. |title=Lives of the laureates: Twenty-three Nobel economists |edition=5 |publisher=MIT Press |isbn=978-0-262-01276-8}}</ref> |
|||
}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:38, 4 มีนาคม 2563
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ Kinkku Ananas หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |
ที่มาทางทฤษฎีของอุปสงค์และอุปทาน
ในทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จุลภาค ฟังก์ชันอุปสงค์และฟังก์ชันอุปทานมีที่มาจากการหาค่าเหมาะที่สุดของผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยผู้บริโภคเลือกปริมาณสินค้าเพื่อให้ได้อรรถประโยชน์สูงสุดภายใต้ราคาสินค้าและงบประมาณที่กำหนด ในขณะที่ผู้ผลิตเลือกปริมาณการผลิตเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด ภายใต้ราคาที่กำหนด
ทฤษฎีผู้บริโภค
ในตัวอย่างแบบจำลองอย่างง่าย สมมติว่ามีสินค้าสองชนิด เรียกว่าสินค้าชนิดที่ 1 และสินค้าชนิดที่ 2 (แบบจำลองสามารถเขียนออกมาได้ในรูปแบบที่มีจำนวนสินค้าเป็นจำนวนเต็มบวกใดๆ ก็ได้) กำหนดให้ หมายถึงเป็นปริมาณสินค้าชนิดที่ 1 และ 2 ผู้บริโภคสามารถจัดลำดับความพึงพอใจที่มีต่อปริมาณการบริโภคแต่ละรูปแบบได้ โดยสมมติว่าความพึงพอใจนี้แสดงออกมาได้ในรูปของค่าฟังก์ชันอรรถประโยชน์
ให้ และ เป็นราคาสินค้าชนิดที่ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยราคาทั้งสองเป็นจำนวนจริงบวกและผู้บริโภคไม่สามารถส่งผลเปลี่ยนแปลงราคานี้ได้ด้วยตนเอง ผู้บริโภคมีงบประมาณคงที่เท่ากับ ปัญหาการหาค่าอรรถประโยชน์สูงสุดคือการที่ผู้บริโภคเลือกปริมาณ เพื่อให้ได้ค่าอรรถประโยชน์ สูงสุด ภายใต้ข้อจำกัดว่า ราคาสินค้าทั้งหมดที่ซื้อไม่เกินงบประมาณที่มี หรือ คำตอบ (อาร์กิวเมนต์) ของปัญหานี้ สามารถเขียนออกมาได้รูป และ ซึ่งก็คือฟังก์ชันอุปสงค์ของสินค้าชนิดที่ 1 และ 2 ตามลำดับ อุปสงค์ในลักษณะที่เป็นคำตอบของปัญหาการหาค่าอรรถประโยชน์สูงสุดนี้เรียกว่าเป็นอุปสงค์แบบปรกติ หรือบางครั้งเรียกว่าอุปสงค์แบบมาร์แชล (ตามชื่อของอัลเฟรด มาร์แชล) หรืออุปสงค์แบบวาลรัส (ตามชื่อของเลอง วาลรัส)[1]: 50-51 [2]: 21
ให้ และ หมายถึงราคาสินค้าชนิดที่ 1 ที่แตกต่างกัน กฎของอุปสงค์ที่ระบุว่า ปริมาณอุปสงค์มีความสัมพันธ์สวนทางกันกับราคาของสินค้านั้นๆ สามารถเขียนออกมาได้สำหรับสินค้าชนิดที่ 1 ได้ดังนี้[3] หรือถ้า สามารถหาอนุพันธ์ได้ กฎของอุปสงค์ก็สามารถเขียนได้ในรูปของอนุพันธ์ว่า
ทฤษฎีผู้ผลิต
อ้างอิง
- ↑ Mas-Colell, Andreu; Whinston, Michael D.; Green, Jerry R. (1995). Microeconomic theory. Oxford University Press. ISBN 0-19-510268-1.
- ↑ Jehle, Geoffrey A.; Rehny, Philip J. (2011). Advanced microeconomic theory (3 ed.). Harlow: Financial Times Prentice Hall. ISBN 978-0-273-73191-7.
- ↑ Jerison, Michael; Quah, John K.-H. (2008). "Law of demand". New Palgrave dictionary of economics. London: Palgrave Macmillan. doi:10.1057/978-1-349-95121-5_2413-1. ISBN 978-1-349-95121-5.
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpenStax 3.1" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpenStax 3.2" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpenStax 5.1" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "Core 8.2" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
<ref>
ชื่อ "Core L7.8.1" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้าเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม (อังกฤษ: behavioral economics) เป็นการศึกษาปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ด้วยสมมติฐานเรื่องพฤติกรรมมนุษย์ที่มีความสมจริงทางจิตวิทยากว่าข้อสมมติมาตรฐานในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิก นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมศึกษาความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมจริงของมนุษย์และแบบจำลองมาตรฐานในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ และศึกษาว่าความแตกต่างเหล่านี้มีผลอย่างไรในบริบททางเศรษฐศาสตร์บ้าง
นิยาม
สาขาเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมักใช้หมายถึงการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่ใช้ข้อสมมติทางพฤติกรรมที่มีความสมจริงในทางจิตวิทยามากกว่าข้อสมมติในเศรษฐศาสตร์กระแสหลักหรือเศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิก เพื่อให้สามารถอธิบายและคาดการณ์ปรากฏการณ์ทางเศรษฐศาสตร์ได้ดีขึ้น[1][2]
หัวข้อการศึกษา
การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน
การตัดสินใจแบบมีจุดอ้างอิง
การตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับเวลา
ความพอใจเชิงสังคม
อ้างอิง
- ↑ Simon, Herbert A. (1987). "Behavioural economics". The new Palgrave dictionary of economics. London: Palgrave Macmillan. doi:10.1057/978-1-349-95121-5_413-1. ISBN 978-1-349-95121-5.
- ↑ Camerer, Colin F.; Loewenstein, George (2003). "Behavioral economics: Past, present, future". ใน Camerer, Colin F.; Loewenstein, George; Rabin, Matthew (บ.ก.). Advances in behavioral economics. Princeton, NJ: Princeton University Press. ISBN 978-0-691-11681-5.
เศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิก
เศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิก (อังกฤษ: neoclassical economics)
นิยาม
คำเรียกแนวคิดเศรษฐศาสตร์แบบ "นีโอคลาสสิก" ถูกใช้ครั้งแรกโดยทอร์สไตน์ เวเบล็น ในปี 1900 โดยใช้เรียกแนวคิดเศรษฐศาสตร์ของอัลเฟรด มาร์แชล[1] คำว่า "นีโอคลาสสิก" อ้างอิงถึงสำนักคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่าเศรษฐศาสตร์แบบคลาสสิก ซึ่งหมายถึงแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ในลักษณะของเดวิด ริคาร์โดและอดัม สมิธ[2][3]
อ้างอิง
- ↑ Aspromourgos, Tony (1987). "'Neoclassical'". New Palgrave dictionary of economics. London: Palgrave Macmillan. doi:10.1057/978-1-349-95121-5_723-1. ISBN 978-1-349-95121-5.
- ↑ Colander, David; Holt, Richard; Rosser, Barkley Jr (2004). "The changing face of mainstream economics". Review of Political Economy. 16 (4): 485–499. doi:10.1080/0953825042000256702.
- ↑ Lawson, Tony (2013). "What is this 'school' called neoclassical economics?". Cambridge Journal of Economics. 37 (5): 947–983. doi:10.1093/cje/bet027.
ภาษาฝรั่งเศส (le français เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: lə fʁɑ̃se) เป็นภาษากลุ่มโรมานซ์ในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน
ประวัติ
ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษากลุ่มโรมานซ์ ซึ่งหมายถึงภาษาที่มีที่มาจากภาษาละติน ภาษาฝรั่งเศสวิวัฒนาการมาจากภาษาละตินที่ใช้พูดกันในเขตกอลตอนเหนือ (เทียบได้กับประเทศฝรั่งเศสตอนเหนือและประเทศเบลเยียมในปัจจุบัน) ก่อนหน้าที่ชาวโรมันจะเข้ามาปกครองดินแดนกอล ชนชาติที่อาศัยในบริเวณนี้ใช้ภาษากลุ่มเคลต์ที่เรียกว่าภาษากอล หลังจากที่จักรวรรดิโรมันยึดครองดินแดนกอลได้สำเร็จ 52 ปีก่อนคริสตกาล ภาษาละตินของชาวโรมันก็เป็นภาษาที่ใช้การการปกครอง ภาษาละตินในกอลได้รับอิทธิพลในด้านคำศัพท์จากภาษากอล
เคนเนธ แอร์โรว์
เคนเนธ โจเซฟ แอร์โรว์ (อังกฤษ: Kenneth Joseph Arrow; 23 สิงหาคม ค.ศ. 1921 – 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1972 ร่วมกับจอห์น ฮิคส์
ในแวดวงเศรษฐศาสตร์ เขาได้รับยกย่องเป็นบุคคลสำคัญสำหรับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ยุคนีโอคลาสสิกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ได้สร้างลูกศิษย์หลายคนจนต่างได้รับรางวัลโนเบลเองด้วย แอร์โรว์ได้สร้างผลกระทบต่อวิชาการเศรษฐศาสตร์อย่างมหาศาล เป็นนักเศรษฐศาสตร์เชิงปฏิบัติที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา
ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการมีส่วนร่วมในการสร้างทฤษฎีทางเลือกของสังคม (social choice theory) ที่สำคัญคือ ทฤษฎีความเป็นไปไม่ได้ของแอร์โรว์ (Arrow's impossibility theorem) และผลงานในการวิเคราะห์ดุลยภาพทั่วไป (general equilibrium)
การศึกษา
เคนเนธ แอร์โรว์ เกิดวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1921 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แอร์โรว์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ซิตีคอลเลจออฟนิวยอร์กในปี 1940 โดยได้เลือกศึกษาด้านสังคมศาสตร์และคณิตศาสตร์ หลังจากนั้น เขาได้เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โดยตั้งใจศึกษาด้านคณิตสถิติศาสตร์ และได้รับปริญญาโทสาขาคณิตศาสตร์ในปี 1941 ระหว่างศึกษาที่โคลัมเบียนี้เอง แอร์โรว์ได้มีโอกาสได้เรียนคณิตเศรษฐศาสตร์กับแฮโรลด์ โฮเทลลิง และแอร์โรว์ได้ย้ายไปศึกษาต่อในภาควิชาเศรษฐศาสตร์ตามการสนับสนุนของโฮเทลลิงและภาควิชาเศรษฐศาสตร์[1]
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แอร์โรว์ได้พักการศึกษาเพื่อทำหน้าที่นายทหารด้านอุตุนิยมวิทยาให้กับกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐระหว่างปี 1942 ถึง 1946 โดยได้รับยศสูงสุดเป็นร้อยเอก หลังสงคราม แอร์โรว์ได้กลับมาศึกษาที่โคลัมเบีย พร้อมกับการทำงานที่มหาวิทยาลัยชิคาโกและแรนด์คอร์เปอเรชัน
- ↑ Arrow, Kenneth J. (2009) [1986]. "Kenneth J. Arrow". ใน Breit, William; Hirsch, Barry T. (บ.ก.). Lives of the laureates: Twenty-three Nobel economists (5 ed.). MIT Press. ISBN 978-0-262-01276-8.