ข้ามไปเนื้อหา

เควิน คีแกน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โจเซฟ เควิน คีแกน เป็นอดีตผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง

ประวัติ

เควิน คีแกน มีชื่อจริงว่า โจเซฟ เควิน คีแกน มีฉายาว่า คิงเคฟ เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1951 ที่ดอนคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

สมัยเป็นนักเตะ

เควิน คีแกน เริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลจากการเป็นเด็กฝึกหัดของสคันธอร์ป ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่ลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 35,000 ปอนด์ คีแกนได้ลงเล่นเกมแรกให้ทีมชาติอังกฤษเจอกับทีมชาติเวลส์ ที่คาร์ดิฟฟ์ ก่อนจะช่วยลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยใน 3 ปีแรกที่แอนฟิลด์ ต่อมาในปี 1973 ลิเวอร์พูลได้แชมป์ ยูฟ่าคัพ หลังจากสามารถเอาชนะโบรุสเซียมึนเช็นกลัดบัคได้สำเร็จ 3 ปีต่อมา คีแกนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีหลังพาลิเวอร์พูลชนะบรูเกส 4-3 ในประตูรวมคว้าแชมป์ ยูฟ่าคัพ อีกสมัย

คีแกนนั้นถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ เป็นครั้งแรกหลังชนะกลัดบัค ก่อนที่เขาจะย้ายสู่ ฮัมบูร์ก ด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ในปี 1977 ฮัมบูร์กได้แชมป์บุนเดสลีกาและคีแกนก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 1977-78 โดยฤดูกาลถัดมาเขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียุโรปอีกด้วย ในปี 1980 คีแกนตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเซาแธมป์ตันด้วยค่าตัว 420,000. ปอนด์ เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ก่อนย้ายสู่นิวคาสเซิลด้วยค่าตัว 100,000 ปอนด์ คีแกนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาลงเล่นให้กับนิวคาสเซิลไปทั้งหมด 78 นัด ยิงได้ 48 ประตู ก่อนจะประกาศเลิกเล่นในปี 1984

รวมคีแกนลงเล่นให้กับทุกสโมสรไป 592 นัด ยิงได้ 204 ประตู และลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 63 นัด ยิงได้ 21 ประตู

บทบาทในฐานะผู้จัดการทีม

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (1992–1997)

เควิน คีแกน กลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล คุมทีมได้ 1 ปี คีแกนสามารถพานิวคาสเซิลเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ชิพได้ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม พร้อมได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของดิวิชั่น 1 ด้วย ต่อมาในปี 1994 คีแกนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการด้านฟุตบอลของนิวคาสเซิล ก่อนต่อสัญญากับทีมออกไปอีกรวม 10 ปี ต่อมานิวคาสเซิลจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 ในพรีเมียร์ชิพ ในปี 1996 นิวคาสเซิลเป็นได้เพียงรองแชมป์ของพรีเมียร์ชิพเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้นิวคาสเซิลนำแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแชมป์ในปีนั้นห่างถึง 12 คะแนน และคีแกนยังมีปากเสียงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผ่านการให้สัมภาษณ์ทางทีวี ก่อนที่เขาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา

ฟูแลมและทีมชาติอังกฤษ (1998–2000)

ในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1997 คีแกนได้กลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง ในฐานะ COO ของฟูแลม ต่อมาคีแกนได้ตัดสินใจปลด เรย์ วิลกินส์ ผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาออกจากตำแหน่ง หลังคุมทีมได้เพียง 7 เดือนก่อนที่คีแกนจะรับหน้าที่เอง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1999 คีแกนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเป็นเวลา 4 นัด ก่อนต่อสัญญา พร้อมทำทีมฟูแลมไปด้วยซึ่งคีแกนก็ได้พาสโมสรคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 หลังจากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม คีแกนได้เปิดเผยผ่านรายการทีวีว่าจะสละตำแหน่ง COO ของฟูแลม เพื่อมาคุมทีมชาติอังกฤษเต็มตัว ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2000 ทีมชาติอังกฤษเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์เวิลด์คัพได้อย่างน่าผิดหวัง หลังจากพ่ายแพ้ทีมชาติเยอรมัน 1-0 รอบคัดเลือก ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายที่เวมบลีย์ ก่อนที่จะถูกรื้อสร้างใหม่ ก่อนคีแกนจะเข้าหารือกับเอฟเอ และขอลาออกจากตำแหน่งในวันเดียวกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี (2001–2005)

ในปี 2001 เควิน คีแกน ได้ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี โดยคีแกนสามารถพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ตั้งแต่ปีแรกที่รับตำแหน่ง โดยทีมยิงไป 108 ประตู จบฤดูกาลด้วย 99 คะแนน หลังจากนั้นในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2004 แมนเชสเตอร์ซิตี้แพ้เอฟเวอร์ตันที่เหลือ 10 คน 1-0 เป็นความปราชัยเกมที่ 3 ในรอบ 5 เกมแรกพรีเมียร์ลีก ของฤดูกาลใหม่ ทำให้คีแกนเริ่มกดดัน พร้อมมีข่าวว่ากำลังจะถูกไล่ออก ต่อมาในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2005 คีแกนตัดสินใจลาออกจากสโมสรด้วยข้อตกลงที่มีผลทันที หลังจากที่พ่ายแพ้โบลตันคาบ้าน 1-0

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (2008)

ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 2008 เควิน คีแกน ได้ตัดสินใจกลับเข้าสู่วงการฟุตบอลอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 3 ปี ด้วยการคุมทีมนิวคาสเซิลอีกครั้ง ซึ่งในการคุมทีมในช่วงแรกทีมไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย จนมีข่าวว่า ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสร จะปลดคีแกนออกจากตำแหน่ง แต่หลังจากที่ทีมสามารถเก็บชัยชนะได้แล้ว ทีมก็สามารถพ้นโซนอันตรายได้และเก็บชัยชนะอย่างสม่ำเสมอก่อนที่จะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 12 ของตาราง และเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการเสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-1 ก่อนที่จะขัดแย้งกับบอร์ดบริหารของสโมสรและลาออกในเวลาต่อมา

อ้างอิง