เจ้าชายอ็องรี เคานต์แห่งปารีส (ค.ศ. 1933–2019)
เจ้าชายอ็องรี เคานต์แห่งปารีส (ค.ศ. 1933–2019) | |
---|---|
อ็องรี ฟิลิป ปีแยร์ มาเรีย แห่งออร์เลอ็อง | |
เคานต์แห่งปารีส ดยุกแห่งฝรั่งเศส | |
ประสูติ | 14 มิถุนายน พ.ศ. 2476 เบลเยียม |
สิ้นพระชนม์ | 21 มกราคม พ.ศ. 2562 21 มกราคม พ.ศ. 2562 (85 ปี)) |
พระชายา | ดัชเชสมาเรีย-เทเรซาแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค มิคาเอลลา คอนติโน ควนเนส |
พระบุตร | เจ้าหญิงมารีแห่งลิกเตนสไตน์ (ประสูติ พ.ศ. 2502) เจ้าชายฟร็องซัว เคานต์แห่งเคลมอนต์ เจ้าหญิงมาเชีย เจ้าชายจีนส์ ดยุกแห่งเวนมอนต์ เจ้าชายโอโด ดยุกแห่งอ็องกูแลม |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ออร์เลอ็อง |
พระบิดา | เจ้าชายอ็องรี เคานต์แห่งปารีส (2451-2542) |
พระมารดา | เจ้าหญิงอิซาเบลแห่งออร์เลอ็อง-บราแกนซา |
เจ้าชายอ็องรีแห่งออร์เลอ็อง เคานต์แห่งปารีส ดยุกแห่งฝรั่งเศส (อังกฤษ: Henri d'Orléans, Count of Paris, Duke of France) เป็นประมุขของราชวงศ์ออร์เลอ็องในปัจจุบัน
พระประวัติ
เจ้าชายอ็องรี เคานต์แห่งปารีส หรือ อ็องรีที่ 7 ประสูติเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2476 ณ เบลเยียม เป็นพระโอรสใน เจ้าชายอ็องรี เคานต์แห่งปารีส (2451-2542) และ เจ้าหญิงอิซาเบลแห่งออร์เลอ็อง-บราแกนซา สาเหตุที่พระองค์ประสูติในเบลเยียมเพราะว่าราชวงศ์ฝรั่งเศสขณะนั้นต้องหลบหนีรัฐประหาร ซึ่งพระบิดาและพระมารดาเสด็จมาประทับในเบลเยียม และเมื่อปี พ.ศ. 2493 ราชวงศ์ฝรั่งเศสสามารถนิวัติกลับประเทศได้ พระบิดา พระมารดาและพระบุตรก็ได้กลับประเทศฝรั่งเศส พระองค์ทรงเป็นพระเชษฐาแท้ๆใน เจ้าหญิงอาน ดัชเชสแห่งกาลาเบรีย
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2483 เจ้าชายจีนส์ ดยุกแห่งกุสซี พระอัยกาสิ้นพระชนม์ พระบิดาของพระองค์จึงสืบทอดพระอิสริยยศ เคานต์แห่งปารีส ดยุกแห่งฝรั่งเศส โดยพระองค์ทรงศึกษาจากมหาวิทยาลัยไซแอน โปร คณะวิทยาศาสตร์
การทรงงาน
หลังจากทรงศึกษาจบแล้ว พระองค์ทรงเข้าทำงานที่สำนักเลขาธิการทั่วไปกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ โดยทรงดูแลเรื่องชาวต่างชาติในฝรั่งเศส โดยหลังจากนั้นพระองค์ก็ไปเป็นทหารในเยอรมัน ก่อนจะทรงลาออกและเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยในเมืองคอร์ซิกา
ในปี พ.ศ. 2506 พระองค์ได้กลับไปดำรงพระชนม์ชีพในประเทศฝรั่งเศส โดยประทับในอพาร์ตเมนต์เล็กๆไม่ใหญ่มาก โดยพระองค์ทรงพระอักษรหนังสือจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ดังนี้
- À mes fils (1989)
- Adresse au futur chef d'État (1994)
- Désolé, Altesse, c’est mon jour de sortie (1994)
- La France survivra-t-elle à l'an 2000 (1997)
- Le passeur de miroir (2000)
- La France à bout de bras (2002)
- L'histoire en héritage (2003)
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นจิตกรและเปิดแบรนด์น้ำหอมเป็นของพระองค์เองด้วย
เสกสมรส
พระองค์ทรงเสกมรสครั้งแรกกับ ดัชเชสมาเรีย-เทเรซาแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 มีพระบุตรดังนี้
- เจ้าหญิงมารีแห่งลิกเตนสไตน์ (ประสูติ พ.ศ. 2502)
- เจ้าชายฟร็องซัว เคานต์แห่งเคลมอนต์
- เจ้าหญิงมาเชีย
- เจ้าชายจีนส์ ดยุกแห่งเวนมอนต์
- เจ้าชายโอโด ดยุกแห่งอ็องกูแลม
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2527 พระองค์และพระชายาหย่าขาดกัน และทรงเสกสมรสใหม่กับ มิคาเอลลา คอนติโน ควนเนส รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงมิคาเอลลา เคาน์เตสแห่งปารีส ดัชเชสแห่งฝรั่งเศส พระชายา แต่ไม่มีพระบุตรร่วมกัน
รางวัล
- ฝรั่งเศส: Legion of Honor (for his military service)
- ฝรั่งเศส: Cross for Military Valour
- ฝรั่งเศส: Combatant Cross
- ฝรั่งเศส: Colonial Medal