เวส บราวน์
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม |
เวสลีย์ ไมเคิล บราวน์ (Wesley Michael Brown[1]) | ||
วันเกิด | 13 ตุลาคม ค.ศ. 1979 | ||
สถานที่เกิด | ลองไซท์, แมนเชสเตอร์, อังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 185 ซm (6 ft 1 in)[2] | ||
ตำแหน่ง | กองหลัง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1992–1996 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1996–2011 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 232 | (3) |
2011–2016 | ซันเดอร์แลนด์ | 76 | (1) |
2016–2017 | แบล็กเบิร์นโรเวอส์ | 5 | (1) |
2017–2018 | เคราล่า บลาสเตอร์ส | 14 | (1) |
ทีมชาติ | |||
1998–2000 | อังกฤษ ยู21 | 8 | (0) |
1999–2010 | อังกฤษ | 23 | (1) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20:33, 27 April 2014 (UTC) |
เวส บราวน์ (อังกฤษ: Wes Brown) มีชื่อเต็มว่า เวสลีย์ ไมเคิล บราวน์ (Wesley Michael Brown) เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1979 ที่ลองไซท์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ผลงาน
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
บราวน์เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะเยาวชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 จนถึงปี ค.ศ. 1996 ก่อนที่จะเลื่อนชั้น ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมาโดย 2 ปีที่ติดทีมชุดใหญ่เขายังไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เลยสักนัดจนวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1998
เขาจึงได้โอกาสสัมผัสเกม พรีเมียร์ลีก เป็นเกมแรกในนัดที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในฐานะตัวสำรองโดยฤดูกาลต่อมาคือฤดูกาล 1998-99 เขาได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่มากขึ้นในตำแหน่งแบ๊กขวาและตำแหน่งที่เขาถนัดคือเซนเตอร์แบ๊ก แต่ในนัดชิงศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับ บาเยิร์น ที่สนาม คัมป์ นู เขากลับไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่น ซึ่งในฤดูกาลนี้แมนยูได้ทริปเปิลแชมป์คือแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไปครองในฤดูกาลถัดมาคือฤดูกาล 1999-2000 บราวน์ได้รับบาดเจ็บหนักเป็นครั้งแรกที่กล้ามเนื้อระหว่างฝึกซ้อมทำให้เขาพลาดการลงสนามให้กับแมนยู ซึ่งในฤดูกาลนั้นแมนยูก็ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองอีกสมัยหลังจากเขาอยู่กับแมนยูมานานถึง 12 ปีเขาก็ได้ต่อสัญญากับแมนยูพร้อมกับริโอ เฟอร์ดินานด์และไมเคิล คาร์ริค เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2008
ซันเดอร์แลนด์
เวส บราวน์ได้ย้ายไป สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2011 โดยมีสัญญา 4 ปี (ไม่เปิดเผยค่าตัว)[3] เวสบราวน์เปิดตัวในเกมแรกพบกับลิเวอร์พูล ซึ่งเขาได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ ด้วยผลสกอร์ 1-1 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2011 บราวน์ทำประตูตัวเองในเกมที่พบกับทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตูแรกของเวส บราวน์ในสีเสื้อซันเดอร์แลนด์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เมื่อเขาทำประตูชัยโดยเหลือเวลาอีกสองนาทีในเกมที่ไปเยือน ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เฉือนชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 เวส บราวน์ มีอาการบาดเจ็บในเกม เอฟเอคัพ ที่พบกับมิดเดิ้ลแลนด์ โดย เวส บราวน์ กลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2013 โดยเอาชนะฮัลล์ 1-0 บราวน์ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น one of several Sunderland players อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 มิถุนายน 2015 ดิก อัดโฟกาต ผู้จัดการทีมในขณะนั้นได้เซ็นสัญญากับบราวน์ต่อไปอีก 1 ปี [4]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
หลังจากบราวน์ได้หายจากการบาดเจ็บ ได้ทำการเซ็นสัญญาระยะสั้นกับสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ซึ่งจะคงอยู่จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล[5] ฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง บราวน์จะรับหน้าที่เป็นโค้ชให้กับทีมพัฒนาของสโมสร ซึ่งเป็นทีมที่เขาลงเล่นมาหลายเกมในขณะที่กลับมาฟิต เขาทำงานร่วมกับ Damien Johnsonและ David Dunn ซึ่งเป็นโค้ชในขณะนั้นและให้คำแนะนำนักเตะรุ่นน้องของสโมสร เขาประเดิมสนามและยิงประตูแรกให้แบล็คเบิร์นในเกมพบเรดดิ้งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2016
Kerala Blasters FC
เวส บราวน์ได้กลับมาร่วมงานกับอดีตโค้ชทีมชุดใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด René Meulensteen ในเดือนสิงหาคม 2017 โดยร่วมงานกับมูเลนสตีนที่ Kerala Blasters[6] สโมสรในอินเดียนซูเปอร์ลีก
อาชีพโค้ช
เวส บราวน์เป็นส่วนหนึ่งของ สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และเป็นโค้ชของอะคาเดมีในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับสโมสร เขาถือใบอนุญาต 'A' ของยูฟ่า ซึ่งเขาได้รับจากสมาคมฟุตบอลไอริชอีกด้วย[7][8]
ทีมชาติ
เวส บราวน์ลงเล่นในนามทีมชาตินัดแรกในนัดที่เจอกับทีมชาติฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1999 และเขาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2002 ที่ เกาหลี และ ญี่ปุ่น แต่ภายหลังหลุดจากทีมไปต่อมา สเวน โกรัน อีริคสัน กุนซือทีมชาติในขณะนั้นได้เรียกตัวเขากลับมาเพื่อลงเล่นในนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอุรุกวัยแต่เขากลับถูกตัดชื่อออกจากทีมชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2006ที่เยอรมัน
หลังจากนั้นเขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติอีกครั้งในยุคของสตีฟ แมคลาเรน ในนัดที่ชนะอันดอร์ราในศึก ยูโร 2008 รอบคัดเลือกโดยเขาจับคู่กับจอห์น เทอร์รีแทนริโอ เฟอร์ดินานด์ที่ได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้นเขาได้จับคู่กับเทอร์รีอีกนัดในนัดอุ่นเครื่องกับบราซิลและในยุคของฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือคนปัจจุบันเขามีชื่อในนัดที่ทีมจะพบกับสวิสเซอร์แลนด์และฝรั่งเศสเขาทำประตูแรกในนามทีมชาติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2008ในนัดที่เจอกับสาธารณรัฐเช็กโดยเขากระโดดเหนือกองหลังทีมชาติเช็กและโหม่งทำประตูจากลูกเตะมุมของเดวิด เบคแฮมี
ชีวิตส่วนตัว
เวส บราวน์ได้แต่งงานกับลีแอนน์ วาสเซล ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับลูกสาวทั้งสามคน[9] รีซ น้องชายของบราวน์เล่นให้กับบิวรี่โดยเข้าร่วมอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่ออายุ 9 ขวบ ไคลฟ์น้องชายอีกคนอยู่ในหนังสือของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฐานะผู้เล่นเยาวชนในช่วงปลายทศวรรษ 1990[10] ก่อนที่จะไปเล่นให้กับไฮด์ยูไนเต็ด, บังกอร์ซิตี้, Mossley, Woodley Sports และปัจจุบันเล่นให้กับ New Mills[11][12]
อ้างอิง
- ↑ "Premier League Statistics 2009/2010" (PDF). Premier League. p. 12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-01-08. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ "Profile: Wes Brown". safc.com. Sunderland AFC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ "Brown completes Sunderland switch". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-11-12.
- ↑ "Wes Brown signs one-year contract extension with Sunderland". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2015-06-12.
- ↑ "Blackburn sign Brown on free transfer". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-11-12.
- ↑ Bharali, Abhijit. "ISL 2017: Kerala Blasters sign ex-Manchester United star Wes Brown and close in on Berbatov". www.sportskeeda.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ FC, Blackburn Rovers. "Blackburn Rovers FC". Blackburn Rovers FC.
- ↑ "Wes Brown relishing Jose Mourinho's Old Trafford arrival as he studies in Belfast". belfasttelegraph (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0307-1235. สืบค้นเมื่อ 2022-11-12.
- ↑ Staff, Guardian (2008-05-20). "Manchester United: The players". the Guardian (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "An England collector's item". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 1999-05-08.
- ↑ "More big names for Bangor" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2000-11-08. สืบค้นเมื่อ 2022-11-12.
- ↑ "B2". web.archive.org. 2019-09-13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-13. สืบค้นเมื่อ 2022-11-12.
แหล่งข้อมูลอื่น
- สถิติของ เวส บราวน์ ที่ Soccerbase
- เวส บราวน์ – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)
- Premier League profile เก็บถาวร 2015-11-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- England U21 stats at England Football Online