โรนัลด์ เดลา โรซา
โรนัลด์ เดลา โรซา | |
---|---|
อธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 30 เมษายน ค.ศ. 2018 | |
ประธานาธิบดี | โรดรีโก ดูแตร์เต |
ก่อนหน้า | เรย์ รากัส (โอไอซี) |
อธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ | |
ดำรงตำแหน่ง 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 – 19 เมษายน ค.ศ. 2018 | |
ประธานาธิบดี | โรดรีโก ดูแตร์เต |
ก่อนหน้า | รีการ์โด มาร์เกซ |
ถัดไป | ออสการ์ อัลบายัลเด |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | โรนัลด์ มาราพอน เดลา โรซา มกราคม 21, 1962 บารังไกย์บาโต ซานตาครูซ จังหวัดตีโมกดาเบา ประเทศฟิลิปปินส์[1][2] |
เชื้อชาติ | ฟิลิปปินส์ |
คู่สมรส | แนนซี โกมันดันเต (สมรส 1989) |
บุตร | 3 |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา โรงเรียนนายร้อยฟิลิปปินส์ (ชั้นปี ค.ศ. 1986) มหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์นฟิลิปปินส์ |
ชื่ออื่น | บาโต, ดูรอย (วิทยาลัยการทหารฟิลิปปินส์) |
อาชีพตำรวจ | |
รับใช้ | ฟิลิปปินส์ |
สังกัด | กองกำลังตำรวจฟิลิปปินส์ (อดีต) กรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ |
ประจำการ | ค.ศ. 1986 – 2018 |
ตำแหน่ง |
|
โรนัลด์ มาราพอน เดลา โรซา (ฟิลิปปินส์: Ronald Marapon dela Rosa) ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม บาโต เดลา โรซา หรือ บาโต[2] (แปลว่า หิน) เป็นนายตำรวจชาวฟิลิปปินส์ที่เกษียณอายุราชการซึ่งทำหน้าที่เป็นอธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2018 เขาทำหน้าที่เป็นอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ถึงวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2018[3]
ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา
เดลา โรซา เกิดวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1962 ที่บารังไกย์บาโต ซานตาครูซ จังหวัดตีโมกดาเบา โดยเป็นบุตรของเซอร์เตโอโดโร ดีอามาตอน เดลา โรซา และอานีเซีย ครุสเปโร มาลาพอน[1][2] ครอบครัวของเขา "ค่อนข้างจน" เพราะพ่อของเขามีรายได้น้อยในการทำงานเป็นคนขับรถสามล้อ[4][5] ครั้นเดลา โรซา เข้าสู่วัยหนุ่มก็ทำงานเป็นคนขนของในตลาดปลา และกระเป๋ารถโดยสารประจำทาง รวมถึงรับทำการบ้านให้เพื่อนร่วมชั้นเพื่อแลกกับอาหารมื้อเที่ยง นอกจากนี้ เขาใช้เวลาเดิน 8 กิโลเมตรทุกวันจากโรงเรียนถึงบ้าน[5]
เดลา โรซา เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนประถมศึกษาบาโตและสตา, โรงเรียนมัธยมแห่งชาติครูซ ก่อนที่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา (MSU) เพื่อศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาการบริหารรัฐกิจ[2][6][7][8] ในปี ค.ศ. 1982 เขาออกจากมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา เพื่อเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยฟิลิปปินส์ (PMA) และสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ. 1986 ในฐานะส่วนหนึ่งของชั้นซีนักตารา[8][9] จากนั้นเขาก็ได้รับคุณวุฒิรัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิตในปี ค.ศ. 1998 และปรัชญาดุษฎีบัณฑิตในสาขาการบริหารการพัฒนาในปี ค.ศ. 2006 จากมหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์นฟิลิปปินส์ในดาเบา[10][11]
เดลา โรซา สำเร็จหลักสูตรหน่วยลาดตระเวนเสือป่า, เจ้าหน้าที่ข่าวกรองตำรวจชั้นสูง, เจ้าพนักงานตรวจสอบการเงินการบัญชีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของตำรวจ เขายังได้เข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรมของเอฟบีไอ อะคาเดมี และโรงเรียนเรนเจอร์กองทัพบกสหรัฐในสหรัฐ รวมถึงหลักสูตรอาจารย์ผู้สอนตำรวจอากาศโดยตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย[6][12]
เดลา โรซา มีชื่อเล่นคือ "บาโต" ระหว่างการมอบหมายครั้งแรกในดาเบา เมื่อนักศึกษาชั้นปีท้าย ๆ ของโรงเรียนเปรียบเทียบร่างกายของเขากับก้อนหิน[n 1][5]
อาชีพตำรวจ
ช่วงต้นอาชีพ (ค.ศ. 1986–2012)
เดลา โรซา เข้าร่วมกองกำลังตำรวจในปี ค.ศ. 1986 ในฐานะผู้หมวดของกองกำลังตำรวจฟิลิปปินส์ ที่ตอนนี้ยุบหน่วยแล้ว[n 2] ในดาเบา[11] ส่วนในปี ค.ศ. 1992 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นสารวัตรใหญ่และทำงานเป็นหนึ่งในพนักงานที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค (PRO)-ดาเบา และในปี ค.ศ. 1997 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการตำรวจภูธรของจังหวัดลัมบักนางโคมโปสเตลา สำหรับในปี ค.ศ. 1999 เขาได้รับมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการตำรวจของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PNP) ที่แคมป์เคลมในเกซอนซิตี ครั้นในปี ค.ศ. 2001 เขากลับมาทำงานที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา ยังคงดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงานบุคลากรภูมิภาค กองทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาของเขตที่ 11 แล้วในปี ค.ศ. 2003 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้กำกับการตำรวจและได้รับมอบหมายสู่แคมป์คาติติปันในดาเบา จากนั้นเขาก็ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาในฐานะหัวหน้าหน่วยฝึกอบรม กระทั่งในปี ค.ศ. 2005 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นนายตำรวจเขตเมืองดาเบา (DCPO) หลังจากนั้นแปดเดือน เขาย้ายกลับไปที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับและสืบสวนภูมิภาค (RIID) ส่วนในปี ค.ศ. 2007 เขาได้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดลัมบักนางโคมโปสเตลา (CVPPO) ในฐานะผู้กำกับการ ต่อมา ในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้กำกับอาวุโส และในปี ค.ศ. 2009 เขาย้ายไปอยู่ที่จังหวัดตีโมกดาเบาซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดตีโมกดาเบา (DSPPO) ส่วนในปี ค.ศ. 2011 เขาเป็นหัวหน้าส่วนภูมิภาคของแผนกโลจิสติกส์และพัฒนางานวิจัย (RL-RDD) ในสำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา กระทั่งปี ค.ศ. 2012 เขาได้รับมอบหมายสู่นครดาเบา ในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่ของสำนักงานตำรวจนครดาเบา[2]
หัวหน้าตำรวจนครดาเบา (ค.ศ. 2012–2013)
เดลา โรซา เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานตำรวจนครดาเบาตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2012 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 ภายใต้นายกเทศมนตรีซารา ดูแตร์เต (ในสำนักงาน: 30 มิถุนายน ค.ศ. 2010 – 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013) และโรดรีโก ดูแตร์เต (ในสำนักงาน: 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013 – 30 มิถุนายน ค.ศ. 2016)[15][11] ในปี ค.ศ. 2012 เขาเป็นผู้นำการปราบปรามองค์การการโจรกรรมรถยนต์ถูกกล่าวหาว่าริเริ่มโครงการโดยไรอัน "บักติน" ยู[16] ส่วนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 เขาเป็นหัวหน้าช่วยชีวิตที่ประสบความสำเร็จของนักธุรกิจหญิงชาวฟิลิปปินส์-จีน ที่ชื่อแซลลี ชัว[17][18] นอกจากนี้เขายังเป็นผู้กำกับแผนยุทธการโอแปลนโตคัง (Oplan Tokhang เป็นคำผสมภาษาเซบัวโน จากคำว่า tuktok ที่หมายถึงเคาะ และ hangyo ที่หมายถึงเกลี้ยกล่อม) ซึ่งเป็นการรณรงค์ต่อต้านสารเสพติดผิดกฎหมาย ที่ตำรวจเคาะประตูของผู้ใช้สารเสพติดและผู้จัดจำหน่ายที่ต้องสงสัย และชักจูงให้ยุติกิจกรรมผิดกฎหมาย;[19] และโอแปลนปักกัง (Oplan Pakgang เป็นคำผสมภาษาเซบัวโน จากคำว่า “Pitulon ang Kabatan-onan sa Gang” ที่หมายถึง “การฝึกวินัยเยาวชนในแก๊ง”) ที่ตำรวจให้คำปราศรัยและการอภิปราย เพื่อให้เยาวชนของนครดาเบาหมดกำลังใจในการเข้าร่วมแก๊งอาชญากรและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ[20][21]
แคมป์เคลม (ค.ศ. 2013–2016)
หลังจากทำหน้าที่เป็นหัวหน้าตำรวจนครดาเบา เดลา โรซา ได้รับมอบหมายให้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ในแคมป์เคลม ที่ซึ่งเขาทำงานให้กับกลุ่มข่าวกรองของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 ถึงธันวาคม ค.ศ. 2014[3][11][22]
ส่วนในปี ค.ศ. 2015 เดลา โรซา ได้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการสอบสวนการปะทะที่มามาซาปาโน เหตุการณ์ดังกล่าวอ้างถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เสียชีวิต 44 ราย, สมาชิกอิสลามโมโร 17 ราย และพลเรือนห้าคนในขณะที่ตำรวจกำลังปฏิบัติภารกิจในการจับกุมซูลกิฟลี อับด์เฮอร์ ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายนานาชาติ ที่มีนามแฝงว่ามาร์วัน[23][24][25]
เดลา โรซา ยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของคณะกรรมการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาหลักคำสอน (HRDD)[3][11][22]
โดยไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เดลา โรซา ได้พ้นข้อหาตามที่ผู้บัญชาการกองพลของกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม (RSSF) ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าโพสต์เฟซบุ๊กของเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้สมัครประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต โดยสเตตัสเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 ได้เกิดเป็นปรากฏการณ์ไวรอล ด้วยข้อความ :
ผมเป็นผู้บัญชาการกองพลของกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย 8 กองพัน บุคลากรประมาณ 5,000 คนในแคมป์เคลม Kayong mga mangdadaya at mangliligalig ngayong ("คนที่จะโกงและก่อการร้ายใน") การเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม humanda na kayo ("จะถูกเตือน") ! เราจะบดขยี้คุณ !!!
ส่วนโพสต์เฟซบุ๊กอีกรายการในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2016 เขียนว่า :
ถึงเวลาแล้วสำหรับแบทแมนปะทะเอมีลีโอ อากีนัลโด ใครจะชนะ ? ซูเปอร์ฮีโรในเรื่องแต่งหรือฮีโรฟิลิปปินส์ของจริง ?
ระหว่างการชิงชัยฟิลิปปินส์ ค.ศ. 2016 – สาขาลูซอน ซึ่งเป็นการดีเบตประธานาธิบดีครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย ดูแตร์เตกล่าวว่าผู้ให้การรณรงค์หาเสียงหลักของเขาคือเอมีลีโอ อากีนัลโด ในขณะที่ผู้ถือมาตรฐานพรรคเสรีนิยมอย่างมาร์ รอกซัส อ้างคำพูดของแบทแมน อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาของเดลา โรซา ในเวลานั้น คือรองอธิบดีดานีโล คอนสตันตีโน ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์สำหรับการดำเนินงาน ไม่ยอมรับว่าโพสต์เฟซบุ๊กของเดลา โรซา เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาพ้นข้อหา ตามที่รองอธิบดีคอนสตันตีโนระบุไว้ หัวหน้าผู้กำกับเดลา โรซา ได้พ้นข้อหาจากกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม (RSSF) ดังนั้น เขาสามารถมุ่งความสนใจไปที่ความรับผิดชอบของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่บริหารของคณะกรรมการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาหลักคำสอน (HRDD) ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ กระนั้น คอนสตันตีโนกล่าวว่าฝ่ายกิจการภายใน กรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ จะตรวจสอบโพสต์เฟซบุ๊กของเดลา โรซา สำหรับความรับผิดชอบในการบริหารที่เป็นไปได้ ในฐานะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ต้องเป็นกลางและไม่สนใจการเมืองในระหว่างการเลือกตั้ง[26][27][28][29]
อธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (ค.ศ. 2016–2018)
เดลา โรซา ได้รับการคัดเลือกจากประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ให้เป็นอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์คนใหม่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[12] ส่วนวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 เขาได้ทำการสาบานอย่างเป็นทางการในการรับตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปินส์คนที่ 21 ในขณะที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอธิบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของกรม[3] ครั้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017 เดลา โรซา กล่าวหาว่ารองประธานาธิบดีเลนี โรเบรโด มีความทะเยอทะยานทางการเมืองที่จะเป็นประธานาธิบดีแม้จะยังคงทำงานในงานปัจจุบันของเธออยู่ หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาบอกใบ้ว่าเขาอาจจะเสนอตัวเองเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2022 และจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อได้รับการเลือกตั้ง[30][31] เขาได้เกษียณอายุในวันที่ 21 มกราคมเนื่องจากการเกษียณอายุที่บังคับเมื่ออายุ 56 ปี แต่ระยะเวลาของเขาได้รับการยืดออกไปเป็นเวลา 3 เดือนจนถึงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018[32]
อธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ (ค.ศ. 2018–ปัจจุบัน)
เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2018 เดลา โรซา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ ซึ่งเอกสารการแต่งตั้งได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม[33]
ชีวิตส่วนตัว
เดลา โรซา สมรสกับแนนซี จอห์นสัน โกมันดันเต (เธอเกิดวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1962)[34] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 พวกเขามีลูกด้วยกันสามคน[35][36][37][38] ระหว่างงานแต่งงานของเขา โรดรีโก ดูแตร์เต ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีนครดาเบาในขณะนั้น ได้เข้าประจำที่ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์หลัก[11] โดยที่ดูแตร์เต และเดลา โรซ รู้จักกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986[39] ซึ่งเขาได้อธิบายถึงดูแตร์เตในฐานะ "อิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในอาชีพการงานของเขา[27]
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 ร็อค ซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเดลา โรซา ได้เข้าโรงเรียนตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ในฐานะนักเรียนนายร้อย[40][41]
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เดลา โรซา ได้เป็นแขกผู้มีเกียรติและเป็นโฆษกในการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 156 ของโฮเซ รีซัล เขาอ้างว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับวีรบุรุษของชาติ ผ่านบรรพบุรุษที่ชื่ออิเนส เดลา โรซา[42]
เดลา โรซา เป็นชาวคาทอลิก[43] ในการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 ที่ดีซีเอ็มเอ็ม เดลา โรซา กล่าวว่าเขามักจะไปสารภาพบาปเพื่อขอให้อภัยหลังจากที่เขาได้สังหารอาชญากร โดยประกาศว่าเขา "ไม่ใช่ฆาตกรเลือดเย็น"[44]
ตั้งแต่เขาได้เป็นอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ เขาได้ปรากฏตัวหรือรับเชิญในรายการทีวีหลายรายการ ซึ่งโดดเด่นที่สุดในอิตส์โชว์ไทม์ ตอนตราบาฮูลา ที่เป็นรายการวาไรตีโชว์ตอนเที่ยงของเอบีเอส-ซีบีเอ็น[45] และซันเดย์ปินาซายา ซึ่งเป็นรายการวาไรตีอาทิตย์ของจีเอ็มเอ ที่เขาได้พบกับรอดนีย์ "ดูกอง" จูแตร์เต ซึ่งเป็นนักแสดงตลกล้อเลียนประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ที่สวมบทโดยโฮเซ มานาโล[46]
เดลา โรซา เป็นแฟนเก่าแก่ของบารังไกย์ยีเนบราซานมิเกล ซึ่งเป็นทีมบาสเกตบอลพีบีเอ[47]
หมายเหตุและอ้างอิง
หมายเหตุ
- ↑ บาโต เป็นคำศัพท์ในภาษาตากาล็อก และภาษาเซบัวโน ซึ่งหมายถึง "หิน" หรือ "ก้อนหิน"[13][14]
- ↑ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1991 กองกำลังตำรวจฟิลิปปินส์ได้รับการควบรวมหน่วยงานกับตำรวจแห่งชาติแบบผสม เพื่อก่อตั้งกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Ronald dela Rosa Birth Certificate
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 Tejano, I. (2016, May 18). Duterte picks Dela Rosa as next PNP chief เก็บถาวร 2016-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Sun Star Davao
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 De Jesus, Julliane Love It’s official: Dela Rosa is new PNP chief, Philippine Daily Inquirer, July 1, 2016
- ↑ De Jesus, Julliane Love (July 10, 2016). "What made 'Bato' cry". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 1 February 2017.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Hontiveros, Pia (June 9, 2016). "The 'Bato' we don't know". CNN Philippines. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-08. สืบค้นเมื่อ 1 February 2017.
- ↑ 6.0 6.1 "Dela Rosa Assumes Command as 21st Chief PNP". Philippine National Police. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-08. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ Umel, Richel (January 26, 2017). "Dela Rosa speaks before grads in Marawi". SunStar Philippines. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-04. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
- ↑ 8.0 8.1 Alawi, Rebekah (January 2017). "Gen. Dela Rosa's MSU Visit as Commencement Speaker: A Nostalgic Homecoming to What Once his Field of Dreams". Mindanao State University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-04. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
- ↑ Dalizon, Alfred P. "More on PMA Class 1986". Journal Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-20. สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ University of Southeastern Philippines - Ronald dela Rosa Congratulatory Tarp เก็บถาวร 2016-09-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 11.5 Cupin, Bea (May 19, 2016). "Duterte's 'Bato': Who is Ronald dela Rosa?". Rappler. สืบค้นเมื่อ July 8, 2016.
- ↑ 12.0 12.1 Felipe, Cecile Suerte (May 19, 2016). "Davao's 'The Rock' is next PNP chief". Philstar Global. The Philippine Star. สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ Nigg, Charles (1904). A Tagalog English and English Tagalog dictionary. Manila: Imprenta de Fajardo y Compañía. p. 12. สืบค้นเมื่อ 24 May 2017.
- ↑ Rafferty, Patrick (1928). Visayan-English dictionary. Ann Arbor, Michigan: University of Michigan Library. p. 17. สืบค้นเมื่อ 24 May 2017.
- ↑ Mellejor, Lillian C. (May 17, 2016). "Duterte places 3 former Davao police chiefs on PNP Chief shortlist". Interaksyon. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-01. สืบค้นเมื่อ July 1, 2016.
- ↑ Mellejor, Ayan C.; Ramos, Marlon (October 23, 2012). "14 stolen cars seized in Davao raid". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 31 January 2017.
- ↑ Cayabyab, Marc Jayson (July 11, 2013). "Trader kidnapped in QC rescued in Davao; 3 kidnappers killed". GMA News. สืบค้นเมื่อ 31 January 2017.
- ↑ "How kidnapped businesswoman was rescued in Davao". ANC News Now. ABS-CBN News. July 12, 2013. สืบค้นเมื่อ 31 January 2017.
- ↑ Lacorte, Germelina (May 31, 2016). "Davao City's anti-illegal drugs campaign to go national". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 31 January 2017.
- ↑ "Oplan Pakgang gipahigayon sa Davao City". Bombo Davao. 9 August 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 31 January 2017.
- ↑ Tejano, Ivy C. (8 August 2013). "Oplan Pakgang shifts to Bunawan, Buhangin". Sun.Star Davao.
{{cite news}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
(help) - ↑ 22.0 22.1 Alvarez, Kathrina Charmaine (July 1, 2016). "'Bato' Dela Rosa assumes command of PNP". GMA News. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ Diola, Camille (February 6, 2015). "LIST: Members of PNP board of inquiry on Mamasapano clash". The Philippine Star. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ "BOARD OF INQUIRY AWARDED FOR INVALUABLE SERVICE". PNP.GOV.PH. PNP Public Information Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-17. สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ Philippines News Agency (February 10, 2015). "Board of Inquiry on Mamasapano to complete final report by Feb. 26". InterAksyon.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-08. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ Mellejor/Carillo, Ayan/Lovely (4 May 2016). "Davao's The Rock 'bato' and Vin Diesel Gen. Dela Rosa relieved (May 4, 2016)". The Mindanao Daily Mirror. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-01. สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ 27.0 27.1 Felipe, Cecille Suerte (May 4, 2016). "Police general axed for FB posts on presidential bet". The Philippine Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-08. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ "Pro-Duterte cop faces probe for FB posts". ABS-CBN News. 3 May 2016. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ Cudis, Christine Joice C. (May 4, 2016). "Ex-Davao City police chief relieved". Sun.Star Davao. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-06. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ http://newsinfo.inquirer.net/938266/bato-dela-rosa-vice-president-leni-robredo-duterte-presidential-ambition-destabilization-politics
- ↑ http://www.philstar.com/headlines/2017/10/30/1753932/bato-dela-rosa-hints-possible-presidential-bid
- ↑ "Bato dela Rosa gets 3 more months before BuCor post". The Philippine Star.
- ↑ Corrales, Nestor (3 May 2018). "Dela Rosa officially appointed as BuCor chief". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 7 May 2018.
- ↑ Nancy Comandante Birth Certificate
- ↑ "God, wife, ghosts spook not-so-fearless 'Bato'". ABS-CBN News. 7 July 2016. สืบค้นเมื่อ 8 February 2017.
- ↑ Takumi, Rie (July 20, 2016). "PNP chief is tough on criminals but has a soft side, too". GMA New. สืบค้นเมื่อ 8 February 2017.
- ↑ Caballero, Angelo (October 30, 2016). "PNP chief Bato's son seeks to follow dad's footsteps". ABS-CBN News Davao. สืบค้นเมื่อ 8 February 2017.
- ↑ Farolan, Ramon (June 27, 2016). "Ronald and Nancy at the White House". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 2 May 2017.
- ↑ Gita, Ruth Abbey (July 1, 2016). "Dela Rosa assumes post as PNP chief". SunStar Manila. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-08. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ Felipe, Cecille Suerte (May 2, 2017). "Bato's only son now a PNPA cadet". The Philippine Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-29. สืบค้นเมื่อ 9 May 2017.
- ↑ "Anak ni Bato: Rock dela Rosa joins PNPA". ABS-CBN News. May 1, 2017. สืบค้นเมื่อ 9 May 2017.
- ↑ De Jesus, Julliane Love (June 19, 2017). "Dela Rosa says he's a 'proud descendant' of Jose Rizal". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- ↑ Bolando, AJ (February 6, 2017). "Bato to bishops: I can talk to God without you". The Philippine Star. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
- ↑ "Bato: I am no cold-blooded killer". ABS-CBN Corporation. June 10, 2016. สืบค้นเมื่อ August 19, 2016.
- ↑ "WATCH: New PNP chief visits 'It's Showtime' (July 21, 2016)". ABS-CBN News. สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ "Bato dela Rosa, nakaharap si Rodney Juterte". GMA News. August 8, 2016. สืบค้นเมื่อ August 8, 2016.
- ↑ Ramos, Gerry (October 7, 2016). "As a Ginebra fan, PNP chief Ronald 'Bato' Dela Rosa is as solid as a rock". Sports Interactive Network Philippines. สืบค้นเมื่อ October 16, 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ โรนัลด์ เดลา โรซา