มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ | ||||||||||||||||
ข้อมูล | ||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||
การผลิต | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
การออกอากาศ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
เว็บไซต์ทางการ | ||||||||||||||||
TV Asahi Official Site | ||||||||||||||||
Toei Official Site | ||||||||||||||||
ลำดับซีรีส์ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ (ญี่ปุ่น: 仮面ライダー響鬼(ヒビキ); โรมาจิ: Kamen Raidā Hibiki) เป็นภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 15 ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2005 ถึงวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2006 ออกอากาศทั้งหมด 48 ตอน และตอนพิเศษทางภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิกับสงคราม 7 ไรเดอร์อสูร (劇場版 仮面ライダー響鬼と7人の戦鬼)
ในประเทศไทย มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ ได้ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายรูปแบบวีซีดีและดีวีดีของบริษัทดรีมเอ็กซ์เพรส จำกัด (เดกซ์) และเคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ทุกวันอาทิตย์เวลา 8.00-8.30 น. ในปี 2551 ได้ย้ายมาออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.05-10.25 น. ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2551 จนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ได้ย้ายเวลาการออกอากาศมาเป็น วันอาทิตย์ เวลา 07.30 น.
เนื้อเรื่อง
[แก้]- ตำนานของเหล่าอสูร
เรื่องราวของเหล่าผู้ฝึกตนในวิถีของอสูรหรือที่คนในยุคปัจจุบันมักจะรู้จักกันในชื่อของไรเดอร์ ทั้งที่มีตัวตนอยู่จริงแต่กลับมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นตัวจริงโดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในสมัยอดีตกาลที่มนุษย์ยังคงโง่เขลาและวาดกลัวต่อปิศาจหรือที่เรียกกันว่ามากาโม่จึงจำเป็นที่จะต้องนำหญิงสาวมาเป็นเครื่องสังเวยแก่โอโรจิ (อสูรกายขนาดยักษ์รูปร่างหน้าตาคล้ายมังกรจีนหน้าตาดุร้าย ว่ายน้ำได้รวดเร็วสามารถลอยตัวบินอยู่กลางอากาศนอกจากนี้ยังพ่นไฟออกมาจากปากได้) โดยในการสังเวยนั้นจะต้องเป็นหญิงสาวที่ปิศาจได้ตีตราสัญลักษณ์ไว้ที่กลางฝ่ามือหากถึงเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่ส่งตัวหญิงสาวคนนั้นมาเป็นเครื่องสังเวยเจ้าหล่อนก็จะเจ็บป่วยล้มตายไปในที่สุดด้วยระยะเวลาอันสั้น ส่วนการสังเวยในสมัยโบราณก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและการสยบต่อปิศาจ หากปิศาจพอใจก็จะไม่มารพกวนมนุษย์นั่นเอง นักรบอสูรเดิมทีก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ฝึกตน และดำเนินชีวิตไปในวิถีของอสูรเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้ที่สามารถบรรลุเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเองไปเป็นนักรบอสูรอย่างเต็มตัวด้วยวิชาการรวมสมาธิและจิตแปลงร่างโดยใช้เสียงเป็นตัวกำหนดจิตปล่อยพลังอสูร (ชึ่งต่อมาเข้าใจว่าเพื่อที่จะพกพาง่ายจึงใช้เป็นส้อมเสียงเป็นตัวกำเนิดเสียงก่อนที่จะพัฒนาไปตามรูปแบบการใช้วิชาของนักรบอสูรแขนงต่าง ๆ เช่นนักรบอสูรสายเครื่องดีดก็จะใช้สายรัดข้อมือที่ด้านในมีสายให้ดีดหรือสายเครื่องเป่าก็จะมีการใช้นกหวีดแทน) ทำให้นักรบอสูรเหล่านี้หันมาต่อสู้กับมาคาโม่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่กระนั้นเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาก็ยังคงหวาดกลัวและไม่ไว้ใจเหล่านักรบอสูรอยู่ดี มีตำนานเล่ากันต่อมาว่าบางครั้งที่นักรบอสูรไปปราบปิศาจสำเร็จจนได้รับของกำนัลซึ่งก็เป็นเพียงแค่หัวมันธรรมดานักรบอสูรได้บังเอิญหันไปสบตากับเด็กน้อยที่กำลังจ้องมองหัวมันนั้นด้วยตาเป็นประกายนักรบอสูรจึงคิดที่จะแบ่งให้ขณะที่เด็กกำลังเอื้อมมือรับนั่นเองแม่เด็กกลับร้องห้ามไม่ให้รับพร้อมบอกว่าของนั้นอสูรจับไปแล้ว ในสมัยอดีตเหล่านักรบอสูรปราบโอโรจิลงได้ก็จริงแต่ต่อมาก็มีการปรากฏตัวของป่าโคดามะ (ป่าอาถรรพ์ที่มีต้นไม้ต้นเดียวเป็นตัวกลางหากกำจัดต้นไม้ต้นนี้สำเร็จป่าโคดามะก็จะหายไปแต่น้อยคนนักที่จะหาพบ) ป่าที่เคลื่อนที่ได้ราวกับสิ่งมีชีวิตและจากนั้นไม่นานโอโรจิก็จะปรากฏตัวอีก เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนเข้าใจว่าการปรากฏตัวของป่าคือสัญญาณบอกเหตุการมาของโอโรจิ จากนั้นนักรบอสูรจึงเสาะแสวงหาที่ที่เหมาะสมทำพิธีชำระผืนปฐพีด้วยวิชาการตีกลองส่งคลื่นเสียงชำระลงสู่ปฐพีโดยตรงโดยว่ากันว่าการประกอบพิธีจะต้องทำด้วยนักรบอสูรเพียงคนเดียวและในระหว่าทำพิธีจะมีโอโรจิจำนวนมากเข้ามาทำลายพิธีอีกซึ่งเป็นไปได้ว่ามักไม่ค่อยมีนักรบอสูรคนไหนรอดแต่สุดท้ายก็มีผู้ทำสำเร็จสามารถผนึกโอโรจิไม่ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีกส่วนสถานที่ประกอบพิธีนั้นเมื่อนานเข้าผู้คนก็หลงลืมสถานที่ที่แน่นอนไปตามกาลเวลา ในสมัยโบราณมีการตั้งกลุ่มขึ้นโดยใช้ชื่อว่า ทาเคชิ สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ก็เกิดขึ้นจากชายชื่อทาเคชิที่เป็นผู้ผึกตนในวิถีนักรบอสูรแต่ต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุระหว่างฝึกตน จนทำให้นักรบอสูรผู้เป็นอาจารย์ประกาศยุติบทบาทการเป็นนักรบอสูรของตนซึ่งนั่นก็ทำให้โอซึมุน้องชายของทาเคชิเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าทาเคชิ จากนั้นไม่นานก็เกิดสัญลักษณ์เครื่องสังเวยที่ผ่ามือของคู่หมั้นของโอซามุทำให้ต้องหาวิธีปราบโอโรจิก่อนที่จะถึงวันที่ประกอบพิธีสังเวยด้วยการรวบรวมเหล่านักรบอสูรเพื่อมาต่อกรกับโอโรจิ ซึ่งในเหล่านักรบอสูรเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมดหนึ่งในนักรบอสูรที่โอซุมุขอร้องให้มาช่วยนั้นมีความเกลียดชังมนุษย์เพราะแค้นที่มนุษย์รังเกลียดตนจึงคิดที่จะปั่นหัวให้พวกนักรบอสูรฆ่ากันเองจนตายจนหมดและจะจัดการกับมนุษย์ทีหลังแต่นักรบอสูรที่เป็นอาจารย์ของทาเคชิปรากฏตัวขึ้นยุติเหตุเสียก่อนจึงไม่สำเร็จ ต่อมาโอซุมุไปพบกับดาบที่สลักชื่อของพี่ชายที่เข้าใจว่าตีเอาไว้เพื่อมอบให้แก่ผู้เป็นอาจารย์แต่ยังไม่สมบูรณ์จึงได้ซ่อนเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่ชายที่มีต่ออาจารย์ทำให้เขาคิดว่านักรบอสูรผู้นี้ไม่ใช่คนฆ่าพี่ชายเขาอย่างแน่นอนโอซุมุจึงขอร้องให้นักรบอสูรแปลงร่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ต่อมาเหล่านักรบอสูรได้รวมตัวกันจนสามารถปราบโอโรจิได้ ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ และยังได้รับการไว้ใจจากคนในสมัยโบราณสืบมา ส่วนจุดประสงค์ในการตั้งกลุ่มก็เพื่อสำนึกในน้ำใจของนักรบอสูรที่คอยช่วยเหลือมนุษย์จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น อีกทั้งยังคอยช่วยเหลือเหล่านักรบอสูรในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, ยานภาหนะ, ที่ฝึกวิชา, อุปกรณ์แปลงร่างมาตลอดจนกระทั่งถึงในยุคปัจจุบัน การแปลงร่างของนักรบอสูรคือการระเบิดพลังจากภายในของตัวเองในรูปแบบต่างกันออกมาห่อหุ้มร่างกายโดยสีสันและรูปร่างจะเกิดจากภาวะจิตใจของร่างกายและความสามารถเฉพาะตัวนั่นเอง ในการต่อสู้หากเกิดแผลแต่ไม่สาหัสและยังพอมีสติก็สามารถที่จะใช้พลังสมานแผลได้เองทันทีนอกจากนี้นักรบอสูรยังต้องเรียนรู้วิธีคืนร่างเฉพาะส่วน (ส่วนหัว) ด้วยเพราะในการแปลงร่างแต่ละครั้งพลังจะทำการเผาไหม้ชุดที่นักรบอสูรสวมใส่อยู่ให้มอดไหม้ไปหากไม่ศึกษาไว้แล้วในตอนคืนร่างจะอยู่ในสภาพเปลือยทันทีดังนั้นจึงเห็นนักรบอสูรส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ห่างตัวก็เพราะเหตุนี้นี่เอง
ตัวละคร
[แก้]ไรเดอร์อสูรตัวหลัก
[แก้]- มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ (仮面ライダー響鬼) / มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิคุเรไน (響鬼紅) / มาสค์ไรเดอร์อาร์มฮิบิกิ (装甲響鬼) / ฮิดากะ ฮิโทชิ (日高 仁志)
- ชายหนุ่มอายุ 34 ปี มีจิตใจอ่อนโยนและรักความยุติธรรมอย่างแรงกล้า เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น แต่จริงจังกับงาน มีความพยายามที่เป็นเลิศ
- ในอดีต ฮิโทชิเคยได้รับการฝึกเพื่อเป็นไรเดอร์อสูรสายดีด แต่เนื่องด้วยความไม่ถนัดจึงได้เปลี่ยนเป็นสายตี แทน
- จุดอ่อนของฮิโทชิ คือ ความไม่ถนัดการใช้พาหนะประเภทเครื่องยนต์เช่นรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ แต่ในภายหลังฮิโทชิได้พยายามฝึกจนสามารถขับขี่ได้จึงทำให้จุดอ่อนด้านนี้ถูกลบออกไป
- ตอนที่ ฮิบิคิ อายุ 16 เขาได้ก้าวข้ามความบอบช้ำทางจิตใจเรื่องเพื่อนหันมาฝึกฝนอย่างหนักจนได้รับพลังพิเศษแปลงร่างเป็นนักรบอสูรได้ นับแต่นั้นเขาออกต่อสู้ปราบมาคาโมไปทั่วผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด ลูกศิษย์รุ่นแรกของเขาคือ อาสึมุ กับ เคียวสุเกะ
- ท่าไม้ตาย = โฮจุสึ โอนิบิ, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), โดจุสึ เร็กกะดัน, โบจุสึ เร็กกะเคน
- มาสค์ไรเดอร์อิบูกิ (仮面ライダー威吹鬼) / อิสึมิ อิโอริ (和泉 伊織)
- เป็นคนที่ถือกำเนิดมาพร้อมชะตาชีวิตที่ต้องเป็นไรเดอร์อย่างเดียวเท่านั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้สำนักทาเคชิจึงถือได้ว่าเขาเป็นไรเดอร์สายตรง โดยตั้งแต่ยังเด็กเขาจึงถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังให้พร้อมที่จะตายในฐานะของไรเดอร์ ซึ่งเป็นชะตาที่เขาไม่ได้เลือกเองถึงแม้จะมีลูกศิตย์แล้วอย่างอากิระ สาวน้อยที่ต้องการเป็นไรเดอร์เพราะต้องการแก้แค้นมาคาโม่ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่อิบุกิแสดงความอ่อนแอออกมาอย่างในช่วงที่ผนึกโอโรจิเป็นต้น โดยส่วนตัวเขาเป็นแข็งนอกอ่อนในพยยามทำตัวแข็มแข็งเพื่อที่จะเป็นอาจารย์ที่ดีนั่นเอง อายุ 22 ปี
- ท่าไม้ตาย = เซมปูจิน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิชะ ชิปปูอิชเชน (音撃射・疾風一閃)
- มาสค์ไรเดอร์โทโดโรกิ (仮面ライダー轟鬼) / โทดายามะ โทมิโซ (戸田山 登己蔵)
- อดีตนายตำรวจที่เคยสืบเรื่องราวของมาคาโมและสนใจในคดีที่มาคาโมก่อขึ้น จึงได้ลาออกจากอาชีพตำรวจและหันเหเข้าสู่วถีแห่งไรเดอร์อสูร มีนิสัยอึดอดทนและรั่วอยูเป็นประจำกินข้าวจุชอบทำอะไรที่มักจะเกินตัวอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากที่เขาคิดได้ว่าการอยู่กับซันกิต่อไปก็จะมีแต่ต้องพึ่งพาซันกิเท่านั้นจึงขอแยกตัวออกไปทำหน้าที่เพียงลำพัง จนในที่สุดชะตากรรมหน้าเศร้าก็ตกทอดมาถึงโทโรโดกิทำให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามปกติ จึงได้กลับเข้าสู่ความดูแลของอาจารย์ซันกิอีกครั้ง ซึ่งนั้นก็คือวาระสุดท้ายของอาจารย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเหล่าไรเดอร์ อายุ 27 ปี
- ท่าไม้ตาย = ไรเงคิเคน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิซัน ไรเดนเงคิชิน (音撃斬・雷電激震)
ไรเดอร์อสูร ตัวอื่น ๆ
[แก้]- มาสค์ไรเดอร์ซันกิ (仮面ライダー 勝鬼) / ไซสึฮาระ ซาโอมารุ (財津原 蔵王丸)
- ซาโอมารุ ในอดีตเคยเป็นศิษย์ของซูคิ ภายหลังได้เปลี่ยนสถานะจากลูกศิษย์เป็นอาจารย์สอนให้กับโทโดโรกิ เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้ร่วมกับซุกิในการปราบมาคาโม ทำให้ซาโอมารุไม่สามารถแปลงร่างได้เพราะทุกครั้งที่แปลงร่างก็เท่ากับเร่งขีดจำกัดของร่างกายให้เร็วขึ้นเท่านั้นซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยจะรู้ก็เพียงเขากับหมอเท่านั้น จนกระทั่งโทโรโดกิก็กลับบาดเจ็บไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีก ซาโอมารุหรือซังกิจึงกลับมาต่อสู้อีกครั้งเขารู้ดีว่าเขาจะต้องพบกับอะไรจึงได้ใช้วิชาต้องห้าม"ร่างอมตะ"และในที่สุดซาโอมารุได้สิ้นชีวิตลงหลังจากต่อสู้กับมาคาโมเพื่อที่จะดูแลลูกศิษย์ เขาจึงวนเวียนกลับมาดูแลโทโรโดกิ และปราบมากาโม่ไปด้วยจนในที่สุดโทโรโดกิรู้ความจริงจึงทำให้เขาฮึดสู้จนร่างกายเกิดปาฎิหาริย์สามารถขยับได้เป็นปกติได้ตามซันกิไปปราบมากาโม่และที่นั่นเองที่ได้สองศิษย์อาจารย์ได้บรรเลงเพลงสุดท้ายโดยเป็นการปิดฉากของซันกิลงอย่างสมศักดิ์ศรี อายุ 34 ปี
- ท่าไม้ตาย = ไรเงคิเคน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิซัน ไรเดนซันชิน (音撃斬・雷電斬震)
- มาสค์ไรเดอร์ดันกิ (仮面ライダー弾鬼) / ดันดะ ไดสุเกะ (段田 大輔)
- ไรเดอร์อสูรฝั่งคันโตมีนิสัยใจร้อนและต่อสู้ไร้ความปราณี ไม่ชอบเครื่องมือสื่อสาร อายุ 30 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิดะ ฮะไซ ซะซะเรชิ (音撃打・破砕細石) , องเงคิดะ ฟันคตสึ ไซชิน (音撃打・粉骨砕身)
- มาสค์ไรเดอร์ซาบากิ (仮面ライダー 裁鬼) / ซาเอคิ ซาคาเอะ (佐伯 栄)
- ไรเดอร์อสูรที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่น มีความถนัดในการต่อสู้สูงเนื่องจากมีวิชาของไรเดอร์อสูรทั้งสามสาย (สายดีด, สายตี, สายเป่า) รวมกันและมีอายุมากกว่าฮิบิกิและซันกิ มีลูกศิษย์คือบันกิ อายุ 32 ปี
- ท่าไม้ตาย = โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเคคิซัน เอนมะซาบากิ (音撃斬・閻魔裁き)
- มาสค์ไรเดอร์เอกิ (仮面ライダー 鋭鬼)
- ไรเดอร์อสูรฝั่งคันโตมีร่างกายเล็กกว่าไรเดอร์อสูรตัวอื่น ๆ อายุ38ปีและเป็นไรเดอร์อสูรได้เพียง3ปี แต่กลับมีความสามารถสูงและสู้โดยไม่มีลูกศิษย์หรือผู้ช่วยมีนิสัยมุทะลุและใจร้อน
- ท่าไม้ตาย = องเงคิดะ ฮึซัตซึ ฮิชชู โนะ คาตะ (音撃打・必殺必中の型)
- มาสค์ไรเดอร์บันกิ (仮面ライダー 蛮鬼)
- เป็นลูกศิษย์คนแรกของซาบากิมีอายุเท่ากับอิบุกิและทั้ง 2 ก็ยังเป็นเพื่อนกันด้วย มีความสามารถพิเศษสามารถใช้อาวุธรูปร่างกีต้าร์ 2 คอได้อย่างคล่องแคล่วนอกจากนี้มื่อถึงยามจำเป็นก็สามารถแยกกีต้าร์คู่ใจออกจากกันได้เป็นดาบ 2 เล่ม องเงคิเก็น โทเง็นเคียว และองเงคิชินจิโกคุ
- มาสค์ไรเดอร์โกคิ (仮面ライダー 剛鬼)
- นักรบอสูรที่ถนัดการจัดการกับมาคาโม่ขนาดยักษ์โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับฮิบิกิ, เอคิ และดันคิ มีอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์นอกจากกระบองประจำตัวทั้งสองแล้วก็ยังมีกระบองเหล็กติดหนามแหลม และโซ่ เอาไว้คอยปราบพวกพวกมาคาโม่อีกด้วย
- มาสค์ไรเดอร์โซคิ (仮面ライダー 勝鬼)
- คู่หูของดันกิ นักรบอสูรสายเครื่องเป่าที่ใช้อาวุธในรูปแบบของปืนที่เป็นเครื่องหลัง เมื่อประกอบหัวเข็มขัดจะเป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ซูซ่าโฟน ยิงพลังคลื่นเสียงชำระล้างนอกจากนี้ก็ยังมีกงเล็บกุญแจ และเขี้ยววายุ (อาวุธที่หลังมือ) ที่คมกริบอีกด้วย โซคิเคยพยามที่จะใช้อาร์มเซเบอร์แล้วแต่ไม่สำเร็จ ส่งผลให้โซคิไม่สามารถแปลงร่างได้เป็นเวลาช่วงระยะหนึ่ง อายุ 28 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิชา โบฟุ อิกกิ (音撃射・暴風一気)
- มาสค์ไรเดอร์โทคิ (仮面ライダー 闘鬼)
- นักรบอสูรสายเครื่องเป่าที่กินจุ ดื่มจัด เป็นอสูรตั้งแต่อายุ18 มีภรรยาและลูกชายแล้วและยังเป็นเจ้าของอาวุธยิงรูปร่างคล้ายปืนยาวแต่เมื่อเข้าสู่ โหมด ชำระล้างก็จะเป็นรูปแบบของเครื่องดนตรีทรอมโบน นอกจากนี้ที่เอวก็ยังเหน็บขวดเหล้าประจำกาย พร้อมกับมีดพกคู่ใจอีกด้วย
- มาสค์ไรเดอร์ซูคิ (仮面ライダー朱鬼)
- อาจารย์ของซันกิ เป็นไรเดอร์ผู้หญิงที่สามารถใช้เวทย์ชั้นสูงมีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว เธอได้ถูกขับไล่ออกจาก TAKESHI เนื่องจากเป็นคนที่จมปลักอยู่กับการแก้แค้นมาคาโมที่ได้ฆ่าพ่อแม่ของเธอส่วนสาเหตุที่เธอถูกขับออกจากลุ่มทาเคชิก็เพราะระหว่างที่ได้ต่อสู้กับมาคาโมพร้อมกับซันกิ ซันกิซึ่งในขณะนั้นเป็นไรเดอร์อ่อนหัดได้ถูกมาคาโมจับตัวซูกิจึงได้คิดกำจัดมาคาโม่ไปพร้อมกับซันกิจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ซันกิมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังเรื่อยมาในช่วงเวลาที่ถูกขับไล่ออกจาก TAKESHI นั้น เธอได้เป็นอาจารย์สอนจัดดอกไม้ และล่าสุดได้ขโมยชุดเกราะต้องห้าม หลังจากที่รู้ว่ามาคาโมที่สังหารคนที่เธอรู้จักยังไม่ตาย เธอได้ใช้เกราะต้องห้ามเพื่อสร้างสถานการณ์และขโมยเฮนชินไคเกนของโทโดโรกิเพื่อแปลงร่างเป็นซูคิอีกครั้ง หลังจากที่เธอและซันกิได้ร่วมใจกันกำจัดมาคาโม เธอได้เสียชีวิตลงท่ามกลางดอกไม้ที่รายล้อมเธอ อายุ 34 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิเก็น คิทาระ (音撃弦・鬼太樂) , องเงคิโซ ชินเท็น โดชิ (音撃奏・震天動地)
ไรเดอร์อสูรจากภาคเดอะมูฟวี่
[แก้]- มาสค์ไรเดอร์คาบูกิ (仮面ライダー 歌舞鬼)
- นักรบอสูรแห่งเอโดะผู้มีพลังมหาศาล และเป็นหนึ่งในนักรบอสูร"โอนิ"เป็นนักรบอสูรคนแรกที่อาสุมุเดินทางไปพบ มีนิสัยจองหอง ทะเยอทะยานเพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่ตนต้องการ อายุ 28 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิดะ โกขะ เคนรัน (音撃打・業火絢爛)
- มาสค์ไรเดอร์โทวคิ (仮面ライダー 凍鬼)
- นักรบอสูรนักบวชแห่งฮอกไกโด มีร่างกายใหญ่โตและเป็นผู้มีพลังวิญญาณสูงส่ง มีอาวุธเป็นกระบองขนาดยักษ์ อายุ 34 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิโอ อิชิเงกิ โดโตะ (音撃殴・一撃怒涛)
- มาสค์ไรเดอร์คิราเมคิ (仮面ライダー 煌鬼)
- นักรบอสูรอารมณ์ดีแห่งนาโกย่า มีอาวุธประจำตัวคือ องเงคิ ชิมบารุ เร็ตสีบัง อาวุธวงแหวนคู่อันแสนคมกริบ อายุ 33 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิเฮียว เคโชว ฟุบากุ (音撃拍・軽佻訃爆)
- มาสค์ไรเดอร์นิชิคิ (仮面ライダー 西鬼)
- นักรบอสูรจอมโจรแห่งโอซาก้า มีอาวุธเป็นกระบอง3ท่อน องเงคิ ไทรแองเกิล เร็สเซ็ตสึ อายุ 29 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงคิเคียว อิรัชไช (音撃響・偉羅射威)
- มาสค์ไรเดอร์ฮาบาทาคิ (仮面ライダー 羽撃鬼)
- นักรบอสูรผู้รักสงบแห่งฟุกุโอกะ ใช้ชีวิตแบบชาวนาและมีลูกมีภรรยาแล้ว มีอาวุธประจำตัวเป็นเครื่องเป่า อายุ 38 ปี
- ท่าไม้ตาย = องเงิคิโซ เซ็นปู อิซเซ็น (音撃奏・旋風一閃)
ตัวละครหลัก (ไม่ใช่ ไรเดอร์อสูรและกำลังอยู่ในระหว่างการเป็นไรเดอร์อสูร)
[แก้]- อาดาจิ อาสุมุ (安達 明日夢)
- เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีได้พบกับฮิบิกิ จากเหตุการณ์บนเรือท่องเที่ยวจนเกิดประทับใจในตัวฮิบิกิซึ่งต่อมายิ่งรู้ว่าบ้านอยู่ใกล้กันจึงได้สนิทกันมากขึ้น อาดาจิซึ่งกำพร้าพ่อจึงได้แต่เฝ้ามองฮิบิกิผู้เป็นเหมือนผู้ที่มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปเป็นแบบอย่างให้แก่อาดาจิ จากนั้นอาดาจิจึงได้เรียนรู้และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของฮิบิกิแต่สุดท้ายจนแล้วจนเล่าอาดาจิก็ไม่สำเร็จเพราะคิดว่าการช่วยเหลือผู้คนไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไรเดอร์เพียงอย่างเดียวอาดาจิจึงผันตัวเองไปเป็นหมอรักษาคนป่วยแทนโดยมีบุคลิกขี้อาย อ่อนแอ ทำให้ฮิบิกิต้องคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ
- มาสค์ไรเดอร์อามากิ / อามามิ อากิระ (天美 あきら)
- สาวน้อยอายุเดียวกับอาสุมุ และฮิโทมิ เป็นลูกศิษย์ของอิบูกิ คอยช่วยเหลือติดต่อเหล่าไรเดอร์อสูร เธอต้องการเป็นไรเดอร์ก็เพื่อที่จะกำจัดมาคาโม่ที่สังหารพ่อแม่เธอ เธอเองก็เคยเป็นลูกศิษย์ของซูกิเช่นกันแต่ก็เพียงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นมีนิสัยเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไร ซึ่งเธอเองก็เป็นอีกคนที่ล้มเลิกการเป็นไรเดอร์เช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะล้มเลิกเธอก็มีลูกศิษย์ของเธอเองด้วย นั่นก็คือ อาดาจิ และ เคียวสุเกะ ทั้งหมดก็เพื่อสิ่งที่อิบุกิสั่งสอนมาจะได้ไม่ศูนย์เปล่า อากิระเคยแปลงร่างเป็นไรเดอร์หนึ่งครั้งตอนที่ป่าโคดามะปรากฏตัวซึ่งนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายในการทำหน้าที่ของเธอนั่นเอง
- มาสค์ไรเดอร์เคียวคิ /คิริยะ เคียวสุเกะ (桐矢 京介)
- ลูกศิษย์อีกคนของฮิบิกิ มีความมุ่งมั่นและต้องการที่จะเป็นไรเดอร์จนเหมือนกับเป็นคนที่ทำทุกวิธีทางเพื่อให้เหนือกว่าอาดาจิ ทั้งหมดก็เพราะว่าต้องการช่วยเหลือผู้คนและก้าวข้ามพ่อของเขาไป นักดับเพลิงที่เสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยผู้คนจนตายในกองเพลิงจนในที่สุดคิริยะก็ได้เป็นไรเดอร์อสูรสมใจมีชื่อว่า เคียวคิ มีสีเงินและทองเป็นสีประจำตัวว่ากันว่านั่นเป็นสีของชุดดับเพลิงของพ่อของคิริยะนั่นเอง
กลุ่ม TAKESHI
[แก้]- ทาจิบานะ อิจิโร่
หัวหน้ากลุ่มทาเคชิคนปัจจุบัน มีหน้าที่ส่งภารกิจให้เหล่าไรเดอร์อสูรและสืบค้นข้อมูลของมาคาโม่ อายุ 54 ปี
- ทาจิบานะ ฮินากะ อายุ 21 ปี
- ทาจิบานะ คาซุมิ อายุ 23 ปี
- ทาคิซาวะ มิโดริ อายุ 28 ปี
- โคงุเระ โคโนะสุเกะ อายุ 58 ปี
ตัวละครตัวอื่น ๆ
[แก้]- อาดาจิ ยูโกะ อายุ 46 ปี
ไรเดอร์อสูร สำหรับละครเวที
[แก้]- ในการแสดงละครเวที (stage show) ได้มีการเพิ่มไรเดอร์อสูรขึ้นมาอีก 4 ตัว ได้แก่
- มาสค์ไรเดอร์คางายาคิ
- มาสค์ไรเดอร์ยูคิ
- มาสค์ไรเดอร์จาคิ
- มาสค์ไรเดอร์มุจาคิ
มาสไรเดอร์ฮิบิกิร่างต่างๆ
[แก้]ฮิบิกิฟอร์ม
• ส่วนสูง 222 ซม.
• น้ำหนัก 156 กก.
• พลังหมัด 20 ตัน
• พลังเตะ 40 ตัน
• กระโดด 75 เมตร
• ความเร็ว(100)3.0 วินาที
คุเรไนฟอร์ม
• ส่วนสูง 222 ซม.
• น้ำหนัก 156 กก.
• พลังหมัด 30 ตัน
• พลังเตะ 50 ตัน
• กระโดด 90 เมตร
• ความเร็ว(100)2.0 วินาที
อาร์มฟอร์ม
• ส่วนสูง 233 ซม.
• น้ำหนัก 168 กก.
• พลังหมัด 40 ตัน
• พลังเตะ 80 ตัน
• กระโดด 100 เมตร
• ความเร็ว(100)1.0 วินาที
อาวุธอุปกรณ์และพาหะนะของเหล่าไรเดอร์อสูร
[แก้]อุปกรณ์แปลงร่าง
[แก้]- องคาคุ
- อุปกรณ์แปลงร่างในรูปแบบคล้ายส้อมมีความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
- องเทคิ
- อุปกรณ์แปลงร่างในลักษณะคล้ายนกหวีดความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
- องโจ
- อุปกรณ์แปลงร่างในลักษณะคล้ายครื่องดีดขนาดเล็กความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
องเงคิ
[แก้]- องเงคิโบ
- อาวุธรูปแบบกระบองตีกลอง 2 อันซึ่งใช้คู่กับกลององเงคิโกะ คาเอนสึสึมิ
- องเงคิโบ เร็กกะ
- กระบองตีกลองของฮิบิกิ
- องเงคิโบ ยามาเซะ
- กระบองตีกลองของอิบูกิ
- องเงคิโบ ราคุไร
- กระบองตีกลองของโทโรโทกิ
- องเงคิโบ โรคุโซ
- กระบองตีกลองของเอกิ
- องเงคิโบ นาจิงุโระ
- กระบองตีกลองของดันกิ
- องเงคิโบ เร็ซซุย
- กระบองตีกลองของคาบูกิ
- องเงคิเรปปู
- อาวุธประจำตัวของอิบุกิมีลักษณะเป็นทรัมเป็ต
- องเงคิเรปปู จูเงคิโหมด
- โหมดที่สามารถใช้ในการยิง
- องเงคิเรปปู องเงคิโหมด
- โหมดพิฆาตซึ่งใช้ควบคู่กับนารุคาเซะ
- องเงคิเกนเร็ตสึไร
- อาวุธประจำตัวของโทโดโรกิมีลักษณะเป็นกีตาร์ซึ่งได้สืบทอดต่อกันมา
- องเงคิเกนเร็ตสึไร เดนเงคิโหมด
- โหมดดาบของโทโดโรกิสามารถฟันหินได้ทั้งสองท่อนได้
- องเงคิเกนเร็ตสึไร องเงคิโหมด
- โหมดพิฆาตซึ่งใช้ควบคู่กับไรโง
- องเงคิเกนเร็ตสึซัน
- อาวุธประจำตัวของซันกิมีรูปร่างคล้ายกับเร็ตสึไรซึ่งเป็นอาวุธของโทโรโทกิ
- องเงคิเกนเร็ตสึซัน ไรเงคิโหมด
- องเงคิเกนเร็ตสึซัน องเงคิโหมด
- องเงคิเกนคิทาระ
- องเงคิคานาโบเร็ตโต
- องเงคิชิมบารุเร็ตสึบัง
- องเงคิไทรแองเกิลเร็สเซ็ตสึ
- องเงคิฟลุทเร็คคู
- องเงคิโกะ คาเอนสึสึมิ
- หัวเข็มขัดของฮิบิกิสามารถขยายเป็นกลองคลื่นเสียงได้
- องเงคิเม นารุคาเซะ
- หัวเข็มขัดของอิบุกิสามารถต่อบนหัวขององเงคิเรปปูเป็นคลื่นเสียงซำระบาป
- องเงคิชิน ไรโง
- หัวเข็มขัดของโทโดโรกิสามารถเชื่อมต่อกับองเงคิเกนเร็ตสึไรเป็นคลื่นเสียงพิฆาตได้
- อาร์มเซเบอร์
- สุดยอดอาวุธของฮิบิกิโดยมีรูปร่างเป็นดาบสั้นผสมโทรโข่ง สามารถแปลงร่างเป็นฮิบิกิอาร์มได้
- อาร์มเซเบอร์ เคนเงคิโหมด
- โหมดอาวุธในรูปแบบดาบขนาดสั้น
- อาร์มเซเบอร์ องเงคิโหมด
- โหมดพิฆาตในการต่อสู้มีพลังสูงที่สุด
พาหนะ
[แก้]- ไกคะ
- มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของฮิบิกิซึ่งฮิบิกิฝึกฝนการขับมอเตอร์ไซค์จนทำให้มีมอเตอร์ไซค์ประจำตัว
- ทัตสึบาคิ
- มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของอิบุกิคอยลาดตระเวณทุกพื้นที่ของเหล่ามาคาโม่
- ไรเดน
- รถยนต์ของโทโดโรกิและซันคิบรรจุอาวุธอุปกรณ์และดีสค์แอนิมอล
ดิสค์แอนิมอล
[แก้]ดิสค์แอนิมอลคือสัตว์ในรูปแบบแผ่นดิสค์โดยทำหน้าที่สอดแนมของเหล่ามาคาโม่
- อาคาเนะทาคะ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบเหยี่ยวแดง
- ฮางาเนะทาคะ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบเหยี่ยวแดง-ดำ พัฒนามาจาก อาคาเนะทาคะ
- รูริ โองามิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบหมาป่าสีฟ้า
- เรียคุโอซารุ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบลิงเขียว
- คาบุโตะโอซารุ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบลิงแดง-ดำ พัฒนามาจาก เรียโคโอซารุ
- คิบาดะคานิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบปูสีเหลือง
- โยโรยคานิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบปูแดง-ดำ พัฒนามาจาก คิบาดะคานิ
- นิบิอิโระเฮบิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบงูดำ
- อาซางิวาชิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบอินทรีฟ้า
- คิอากะชิชิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบสิงโตส้ม
- เซจิคาเอรุ / เซจิคาเอล
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบกบเขียว
- โคงาเนโองามิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบหมาป่าทอง
- อิวาเบะนิชิชิ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบสิงโตสีแดงเข้ม
- ชิโรเนริโอซารุ
- ดีสค์แอนิมอลรูปแบบลิงเผือก เป็นดิสค์แอนิมอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
- เคชิซึมิคาราสึ
- ดิสค์แอนิมอลรูปแบบอีกาดำสามารถเป็นยานพาหะนะในการต่อสู้บนทางอากาศ
มาคาโม่
[แก้]- โดจิ / ซูเปอร์ โดจิ อายุ 28 ปี
- ฮิเมะ / ซูเปอร์ ฮิเมะ อายุ 22 ปี
- โอโรจิ
มาคาโม่ประเภทต่าง ๆ
[แก้]มาคาโม่ประเภทยักษ์
[แก้]- มาคาโม่ที่อาศัยอยู่กับมาคาโม่โดจิและฮิเมะ เพื่อให้มีพลังมากขึ้นจึงกินมนุษย์เป็นอาหารจนร่างกายขยายใหญ่ขึ้น
มาคาโม่ประเภทฤดูร้อน
[แก้]มาคาโม่ที่จะออกมาเฉพาะหน้าร้อนถูกสร้างโดยชายชุดสีขาวตัวมาคาโม่จะมีร่างกายเล็กกว่ามาคาโม่ปกติคือมีขนาดร่างกายเท่ามนุษย์แต่มันสามารถแตกตัวออกเพื่อเพิ่มจำนวนได้อีกด้วยทำให้ยากต่อการกำจัดได้หมด
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เพลงประกอบในเรื่อง
[แก้]- เพลงเปิด
- "คางายาคิ" (輝) ทำนองโดย โทชิฮิโกะ ซาฮาชิ เพลงเปิดที่ 1 (ถูกใช้ในตอนที่1-33)
- "ฮะจิมาริ โนะ ฮิบิเอะ" (始まりの君へ) ร้องโดย อากิระ ฟูเซะ เพลงเปิดที่ 2 (ถูกใช้ในตอนที่ 34-39, 45-48 ส่วนตอนที่ 40-44 ใช้เป็นเพลงท่อนที่2)
- เพลงปิด
- "โซเนน โย" (少年よ) ร้องโดย อากิระ ฟูเซะ
- เพลงประกอบและเพลงตัวละคร
- "คิวะเมะเรบะ องเงคิ" ร้องโดย จิน ฮาชิโมโตะ
- "ฮิบิกิ เคนซัน!!" ร้องโดย โอโนะ มาซาโตชิ
- "ฟุงะยูเดน" ร้องโดย โทโมคาสึ เซกิ
- "ไรบุโกโก" ร้องโดย เอโซ ซาคาโมโต้
- เพลงประกอบภาพยนตร์
- "FLASHBACK" ร้องโดย Rin' และ M.c.A.T (ใช้ในภาพยนตร์ในเรื่อง) และ วง RIDER CHIPS (ออกเฉพาะในซิงเกิลเพลง)