ข้ามไปเนื้อหา

เต่ามะเฟือง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เต่ามะเฟือง
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยโฮโลซีน 0.012–0Ma
สถานะการอนุรักษ์
CITES Appendix I (CITES)[2]
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอต
Eukaryota
อาณาจักร: สัตว์
Animalia
ไฟลัม: สัตว์มีแกนสันหลัง
Chordata
ชั้น: สัตว์เลื้อยคลาน
Reptilia
อันดับ: เต่า
Testudines
อันดับย่อย: อันดับย่อยเต่า
Cryptodira
วงศ์ใหญ่: Chelonioidea
Chelonioidea
วงศ์: วงศ์เต่ามะเฟือง
Dermochelyidae
วงศ์ย่อย: Dermochelyinae
Dermochelyinae
Blainville, 1816[3]
สกุล: Dermochelys
Dermochelys
(Vandelli, 1761)[3]
สปีชีส์: Dermochelys coriacea
ชื่อทวินาม
Dermochelys coriacea
(Vandelli, 1761)[3]
ชื่อพ้อง[4]
รายการชื่อพ้อง
  • Testudo coriacea Vandellius, 1761
  • Testudo coriaceous Pennant, 1769 (ex errore)
  • Testudo arcuata Catesby, 1771
  • Testudo lyra Lacépède, 1788
  • Testudo marina Wilhelm, 1794
  • Testudo tuberculata Pennant, 1801
  • Chelone coriacea Brongniart, 1805
  • Chelonia coriacea Oppel, 1811
  • Testudo lutaria Rafinesque, 1814
  • Dermochelys coriacea Blainville, 1816
  • Sphargis mercurialis Merrem, 1820
  • Coriudo coriacea Fleming, 1822
  • Scytina coriacea Wagler, 1828
  • Dermochelis atlantica LeSueur, 1829 (nomen nudum)
  • Sphargis coriacea Gray, 1829
  • Sphargis tuberculata Gravenhorst, 1829
  • Dermatochelys coriacea Wagler, 1830
  • Chelyra coriacca Rafinesque, 1832 (ex errore)
  • Dermatochelys porcata Wagler, 1833
  • Testudo coriacea marina Ranzano, 1834
  • Dermochelys atlantica Duméril & Bibron, 1835
  • Dermatochelys atlantica Fitzinger, 1835
  • Dermochelydis tuberculata Alessandrini, 1838
  • Sphargis coriacea var. schlegelii Garman, 1884
  • Dermatochaelis coriacea Oliveira, 1896
  • Sphargis angusta Philippi, 1899
  • Dermochelys schlegelii Stejneger, 1907
  • Dermatochelys angusta Quijada, 1916
  • Dermochelys coriacea coriacea Gruvel, 1926
  • Dendrochelys (Sphargis) coriacea Pierantoni, 1934
  • Dermochelys coriacea schlegeli Mertens, Müller & Rust, 1934 (ex errore)
  • Chelyra coriacea Bourret, 1941
  • Seytina coriacea Bourret, 1941
  • Sphargis schlegelii Bourret, 1941
  • Dermochelys coriacea schlegelii Carr, 1952
  • Dermochelys coriacea schlegelli Caldwell, 1962 (ex errore)
  • Dermochelys schlegeli Barker, 1964
  • Dermochelys coricea Das, 1985 (ex errore)

เต่ามะเฟือง หรือ เต่าเหลี่ยม (อังกฤษ: Leatherback turtle; ชื่อวิทยาศาสตร์: Dermochelys coriacea) เป็นเต่าทะเล จัดเป็นเต่าชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่จนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเต่าเพียงชนิดเดียวในวงศ์ Dermochelyidae และสกุล Dermochelys

เต่ามะเฟืองสามารถแยกออกจากเต่าประเภทอื่นได้โดยการสังเกตที่กระดองจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับผลมะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บ ตั้งแต่ออกจากไข่ ความลึกที่เต่ามะเฟืองสามารถดำน้ำได้ถึง 1,280 เมตร[5]


การขยายพันธุ์

[แก้]

เต่ามะเฟืองเพศเมียจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาด ประมาณ 66-104 ฟอง/รัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการวางไข่ เช่น อายุ สภาพอากาศ สภาพแวดล้อมของสถานที่วางไข่

วงจรชีวิต

[แก้]

เต่ามะเฟืองจะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 60-70 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ของสภาพแวดล้อม หลังจากฟักตัวแล้ว โดยมีประมาณ 85% ที่ฟักตัวได้ ลูกเต่าจะคลานออกจากรัง ลงสู่ทะเลโดยทันที เนื่องจากเป็นเต่ามะเฟืองเป็นเต่าน้ำลึก จึงไม่สามารถเก็บมาอนุบาลได้เป็นเวลานานซึ่งต่างกับเต่าทะเลสายพันธุ์อื่น ในวัยเจริญพันธุ์จะเติบโตและใช้เวลาอยู่ในทะเลเกือบชั่วชีวิต

อาหารของเต่ามะเฟือง

[แก้]

เต่ามะเฟือง เนื่องจากเต่ามะเฟืองมีจะงอยปากที่สบกันเหมือนกรรไกร จึงมักกินอาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น แมงกะพรุน แพลงก์ตอน สาหร่ายน้ำลึก

การกระจายพันธุ์

[แก้]

เนื่องจากเต่าทะเล ส่วนใหญ่จะมีการเดินทางตามกระแสน้ำอุ่น จึงสามารถพบเต่ามะเฟืองได้ตามทวีป หรือ ประเทศที่มีกระแสน้ำอุ่นพัดผ่าน รวมถึงประเทศในเขตร้อน เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย หมู่เกาะอินดีส ปาปัวนิวกินี และ ในฝั่งทะเลแคริบเบียน

การอนุรักษ์

[แก้]

เนื่องจากลูกเต่ามะเฟือง โดยธรรมชาติเมื่อฟักออกมาจะคลานลงทะเลทันที ไม่สามารถมาอนุบาลได้นานเพราะเป็นเต่าทะเลน้ำลึก จึงควรอนุรักษ์เต่ามะเฟืองโดยการไม่รบกวนสถานที่วางไข่ ไม่รับประทานไข่เต่า ไม่ทิ้งถุงพลาสติกลงทะเลเพราะเต่ามะเฟืองอาจะคิดว่าเป็นแมงกะพรุนและกินเข้าไป เมื่อพบว่าเต่าบาดเจ็บควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ พุทธศักราช 2562

อ้างอิง

[แก้]
  1. Wallace, B.P.; Tiwari, M.; Girondot, M. (2013). "Dermochelys coriacea". IUCN Red List of Threatened Species. 2013: e.T6494A43526147. doi:10.2305/IUCN.UK.2013-2.RLTS.T6494A43526147.en. สืบค้นเมื่อ 11 October 2021.
  2. "Appendices | CITES". Cites.org. สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.
  3. 3.0 3.1 Rhodin, A. G. J.; van Dijk, P. P.; Inverson, J. B.; Shaffer, H. B. (14 December 2010). Turtles of the world, 2010 update: Annotated checklist of taxonomy, synonymy, distribution and conservation status (PDF). Chelonian Research Monographs. Vol. 5. p. 000.xx. doi:10.3854/crm.5.000.checklist.v3.2010. ISBN 978-0965354097. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 17 July 2011.
  4. Uwe, Fritz; Havaš, Peter (2007). "Checklist of Chelonians of the World" (PDF). Vertebrate Zoology. 57 (2): 174–176. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 1 May 2011. สืบค้นเมื่อ 29 May 2012.
  5. "เต่ามะเฟือง".

อ่านเพิ่ม

[แก้]
  • Wood, Roger Conant; Johnson-Gove, Jonnie; Gaffney, Eugene S.; Maley, Kevin F. (1996). "Evolution and phylogeny of the leatherback turtles (Dermochelyidae), with descriptions of new fossil taxa". Chelonian Conservation and Biology. 2: 266–286.
  • The Leatherback Turtle: Biology and Conservation. United States, Johns Hopkins University Press, 2015.
  • Rake, Jody Sullivan. Leatherback Sea Turtles. United States, Capstone Press, 2012.
  • Hirsch, Rebecca E.. Leatherback Sea Turtles: Ancient Swimming Reptiles. United States, Lerner Publishing Group, 2015.
  • ชีวิตสัตว์ทะเล. สมชาย วงส์การุณ. ปัญญาใส. 2542. หน้า 20

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]