Monster Hunter Wilds [Event Quest / รีวิว / มีอะไรใหม่]

Monster Hunter: Wilds

ประเภท :  Hunting / Action – RPG
เครื่อง :  PlayStation 5 , Xbox Series และ PC (Steam)

พัฒนาโดย :  Capcom
วันวางจำหน่าย : 28 กุมภาพันธ์ 2025

สั่งซื้อเกม ราคาดี คลิก

 

Event Quest

ผู้เล่นเกม Monster Hunter เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับกิจกรรมพิเศษ “Event Quest ประจำเดือนมีนาคมนี้”  โดยมีภารกิจและรางวัลมากมายรอคุณอยู่ กิจกรรมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 5 - 26 มีนาคม โดยแต่ละสัปดาห์จะมีภารกิจที่ท้าทายและรางวัลสุดพิเศษให้ผู้เล่นได้ร่วมสนุก

**รออัพเดท**

—————————-

 

Monster Hunter Wilds เตรียมอัปเดตปลายพฤษภาคม

ปรับบัฟค้อนและลดพลัง “ผ้าคลุม Corrupted”

พร้อมพัฒนา UI/UX และ VRAM บน Steam

Capcom ได้เผยแพร่ “Director’s Letter” บนเว็บไซต์ทางการของ Monster Hunter Wilds เพื่ออธิบายเนื้อหาที่จะอัปเดตในอนาคต 

ในจดหมายดังกล่าว Capcom ได้ย้ำรายละเอียดเกี่ยวกับอัปเดตแรกของเกม ซึ่งประกาศใน Showcase ก่อนหน้านี้ รวมถึงแผนอัปเดตปลายเดือนพฤษภาคมและช่วงฤดูร้อนที่จะตามมา

 

อัปเดตในปลายเดือนพฤษภาคมนี้จะเพิ่มมอนสเตอร์ Gore Magala และ Apex Predator ระดับ 8ดาว Tempered (มอนม่วง)ในแต่ละแผนที่ ซึ่งจะถูกปรับหลายจุด เช่น พลังชีวิต อัตราการเกิดบาดแผล และ อื่นๆของตัวมอนสเตอร์ในโหมดมัลติเพลเยอร์

นอกจากนี้ ยังมีการปรับสมดุลอาวุธ โดย ค้อน (Hammer) จะได้รับการปรับบัฟแน่นอน โดยจะมีการอัปเดตทั้งในแพตช์ปลายเดือนพฤษภาคม และอัปเดตที่สองช่วงฤดูร้อน ซึ่งทีมงานต้องใช้เวลาพิจารณาปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสม ส่วนอาวุธประเภทอื่น ๆ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขยายทางเลือกของผู้เล่นให้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม บางไอเทมที่มีพลังมากเกินไปจะถูกเนิร์ฟเพื่อให้สมดุล โดยเฉพาะ ผ้าคลุม Corrupted ซึ่งสร้างดาเมจเกินความคาดหมายจะถูกปรับลดพลังลง ขณะที่เสื้อคลุมประเภทอื่น ๆ จะได้รับบัฟเพื่อให้มีความสมดุลมากขึ้น

 

อัปเดตแรกจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Gathering Hub พร้อมปรับปรุง User Experience (UX) ให้สะดวกขึ้น รวมถึงลดเวลารอของฟังก์ชันในศูนย์การค้าเกม นอกจากนี้ ในอัปเดตถัดไป ทีมงานจะปรับปรุงการใช้งานไอเทม การแสดงผลข้อมูลสกิล การเข้าร่วมเควสต์ในโหมดมัลติเพลเยอร์ ระบบ Secreto รวมถึงการปรับกล้องระหว่างการล่าให้มีความลื่นไหลมากขึ้น

 

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่เปิดเผยคือ ระบบตกแต่งสกินอาวุธ  หรือ Layered Weapons ก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

 

ปรับปรุงประสิทธิภาพเวอร์ชัน Steam ลดการใช้ VRAM

Capcom ยังกล่าวถึงการพัฒนาเวอร์ชัน Steam โดยอัปเดตแรกจะช่วยลดการใช้ VRAM และอัปเกรด DirectStorage เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดเกม นอกจากนี้ ยังมีแผนปรับสมดุลด้านเกมเพลย์ในระยะยาว โดยเริ่มจากการปรับสมดุลพลังโจมตีและกลไกต่าง ๆ พร้อมทยอยประกาศอัปเดตเพิ่มเติมในอนาคต

 

สุดท้าย มีการยืนยันว่าระบบ Preview List ของ Environmental Creatures จะถูกเพิ่มเข้ามาในอัปเดตปลายเดือนพฤษภาคมนี้

 

แฟน ๆ Monster Hunter Wilds เตรียมรอการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเกมได้เร็ว ๆ นี้

 

 

สรุปเนื้อหา Monster Hunter Wilds Showcase

เปิดตัว Title Update ฟรีตัวแรกของเกมที่จะมาในวันที่ 4 เมษายนนี้

Capcom ประกาศอัปเดต Monster Hunter Wilds: Title Update 1 ซึ่งจะเปิดให้เล่นในวันที่ 4 เมษายน 2025 โดยเพิ่มเนื้อหาใหม่มากมาย รวมถึงการมาถึงของมอนสเตอร์ Mizutsune, Arch-tempered Rey Dau, การเปิดตัว Grand Hub, เทศกาลตามฤดูกาลครั้งแรก และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ

 

Mizutsune หรือที่รู้จักกันในชื่อ Bubble Fox Wyvern จะปรากฏตัวใน Forbidden Lands โดยผู้เล่นที่มี Hunter Rank 21 ขึ้นไป สามารถปลดล็อกภารกิจล่ามอนสเตอร์นี้ได้ผ่าน Kanya ใน Scarlet Forest

นอกจากนี้ยังมี Arch-tempered Rey Dau จะปรากฏตัวเป็นครั้งแรกใน Event Quest สำหรับผู้เล่นที่มี Hunter Rank 50 ขึ้นไป โดยมีระดับความท้าทายสูงกว่ามอนสเตอร์ Tempered ทั่วไป พร้อมรางวัลเป็นชุดเกราะ Rey Dau Gamma

 

 

สำหรับการอัปเดตนี้ ผู้เล่นที่ผ่าน Hunter Rank 50 จะสามารถเข้าถึงภารกิจใหม่เพื่อเผชิญหน้ากับ Zoh Shia อีกครั้ง และเมื่อทำภารกิจสำเร็จ มอนสเตอร์ตัวนี้จะปรากฏใน Wyvern’s Wakening ณ Ruins of Wyveria เพื่อให้สามารถล่าซ้ำได้และรวบรวมวัสดุสำหรับการสร้างอาวุธและชุดเกราะระดับสูงสำหรับทั้ง Hunter และ Palico

Title Update 1 ยังเพิ่มโหมด Arena Quests และ Challenge Quests ซึ่งเป็น Event Quests แบบจำกัดเวลา ที่ให้ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้ทั้งแบบเล่นเดี่ยว ออนไลน์ข้ามแพลตฟอร์ม หรือใช้ Support Hunters

Arena Quests และ Challenge Quests สามารถเล่นได้สูงสุดสองคนโดยใช้อุปกรณ์ “ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า” ในขณะที่ Free Challenge Quests ไม่มีข้อจำกัดด้านอุปกรณ์และสามารถเข้าร่วมเป็นทีมล่าได้ถึงสี่คน นอกจากนี้ยังมีระบบบันทึกเวลาทำภารกิจที่เร็วที่สุดโดยผู้เล่นที่ทำเวลาดีที่สุดจะได้รับจี้ประดับพิเศษเป็นรางวัล

 

Grand Hub จะเปิดตัวเป็นพื้นที่รวมตัวขนาดใหญ่สำหรับนักล่า ให้ผู้เล่นเข้าร่วมกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น มินิเกม Barrell Bowling เพื่อรับไอเท็มพิเศษ นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถรวมตัวกันเพื่อชมการแสดงร้องเพลงของ Diva ในทุกค่ำคืน

และหลังจากถึง Hunter Rank 16 จะสามารถปลดล็อก Grand Hub ได้โดยพูดคุยกับ Tetsuzan ใน หมู่บ้าน Suja จุด Squad Information Counter จะถูกย้ายจาก Windward Plains มายัง Grand Hub เพื่อความสะดวกในการจัดการทีม และทางเข้าของ Grand Hub จะมี Expedition Record Board ที่แสดงเวลาทำภารกิจที่เร็วที่สุดของผู้เล่นจากทั่วโลก รวมถึงภารกิจ Arena Quest Bounties

ภายใน Grand Hub จะมีเทศกาลตามฤดูกาลเริ่มต้นด้วย Festival of Accord: Blossomdance ซึ่งจะจัดขึ้นใน วันที่ 22 เมษายน – 6 พฤษภาคม บรรยากาศและเมนูอาหารภายใน Grand Hub จะเปลี่ยนแปลงไปตามเทศกาล

และผู้เล่นสามารถรับรางวัลพิเศษ เช่น อุปกรณ์ตกแต่ง Pop-Up Camp, ท่าทางใหม่ และชุดเกราะลิมิเต็ด

นอกจากนี้ Event Quests ตามฤดูกาล จะถูกเพิ่มเข้ามา โดย Arch-tempered Rey Dau จะปรากฏในภารกิจพิเศษช่วงปลายเทศกาลในเดือนพฤษภาคม อีกทั้ง Capcom ยังเตรียมเปิดตัวความร่วมมือพิเศษกับเกมอื่น ๆ ในค่ายช่วงปลายเดือนเดียวกัน

 

ผู้เล่นสามารถรอชมการอัปเดตใหม่ ๆ ได้มากขึ้นในอนาคต โดย Title Update 2 มีกำหนดเปิดตัวในช่วงฤดูร้อน 2025 และจะมีการเพิ่มมอนสเตอร์ที่แฟน ๆ รอคอยอย่าง Lagiacrus

นอกจากคอนเทนต์ใหม่ภายในเกมแล้ว Classic Gestures จากเกมภาคก่อนจะกลับมาให้ดาวน์โหลดฟรี พร้อมกับ Cosmetic DLC Pack 1 สำหรับผู้ที่มี Premium Deluxe Edition หรือ Cosmetic Downloadable Content Pass ผู้เล่นยังสามารถเปลี่ยนชุดและแว่นตาของ Handler (Alma) ได้ฟรี

 

รวมถึงมีตัวเลือกตกแต่งแคมป์ใหม่สำหรับ Pop-Up Camps และระบบบันทึก Endemic Life ที่ช่วยให้ติดตามสิ่งมีชีวิตที่พบในเกมด้วย

 

##########

 

Mizutsune มอนสเตอร์ใหม่ ใน DLC แรก

Mizutsune ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Monster Hunter Generations (หรือที่รู้จักในชื่อ Monster Hunter X ในญี่ปุ่น) ซึ่งวางจำหน่ายบน Nintendo 3DS ในปี 2015 เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์หลักของกลุ่ม “Fated Four” ซึ่งประกอบด้วยมอนสเตอร์ 4 ตัวที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ Glavenus, Astalos, Gammoth และ Mizutsune นั่นเอง

 

Mizutsune เป็นมอนสเตอร์ประเภท Fanged Wyvern ในเกม Monster Hunter ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สวยงามและความสามารถในการควบคุมน้ำและฟองสบู่ มันมีผิวสีขาวและชมพูอ่อน หางยาวคล้ายพู่กัน และเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล Mizutsune 

 

โดยมันถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Leviathan ที่มีร่างกายยาวเรียวและมีขนสีม่วงเข้มปกคลุมบริเวณหน้าอก ท้อง ขา และหาง เกล็ดของมันมีสีอ่อนคล้ายปลา และมีครีบสีชมพูประดับด้วยลายสีเหลืองที่หัว หลัง และหาง ซึ่งทำให้มันดูสง่างามราวกับกำลังร่ายรำ อย่างไรก็ตาม Mizutsune ทั้งหมดที่พบเป็นเพศชาย เนื่องจากเพศเมียมีสีสันที่จืดจาง และมีครีบสั้นกว่า

ความน่ากลัวของ Mizutsune อยู่ที่ความสามารถในการผลิตของเหลวคล้ายสบู่ที่เคลือบทั่วร่างกายดังที่กล่าวไปแล้ว จึงทำให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่วบนพื้น ซึ่งของเหลวนี้ยังถูกใช้เป็นอาวุธด้วยการพ่นฟองสบู่ไปยังศัตรู ทำให้ผู้เล่นสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหวหรือลื่นล้ม นอกจากนี้ มันยังสามารถพ่นน้ำแรงดันสูงจากปากได้ และสร้างความเสียหายได้มหาศาล

 

พฤติกรรมของ Mizutsune นั้นน่าสนใจ เพราะโดยปกติมันไม่ก้าวร้าวนักและชอบใช้เวลาพักผ่อน แต่มันจะกลายเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้ายในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮันเตอร์ถูกขอให้ล่ามัน

Mizutsune มักอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งสภาพแวดล้อมเหล่านี้ช่วยเสริมความสามารถในการควบคุมน้ำและฟองสบู่ของมัน

 

นอกจากรูปแบบปกติแล้ว Mizutsune ยังมีรูปแบบพิเศษที่อันตรายยิ่งขึ้น เช่น Soulseer Mizutsune , Apex Mizutsune และ Thunderbubble Mizutsune ซึ่งแต่ละรูปแบบมีพลังและความสามารถที่เพิ่มขึ้น ทำให้การล่ามันท้าทายมากขึ้น

 

 การเผชิญหน้ากับ Mizutsune จึงไม่เพียงแต่ท้าทายทักษะของฮันเตอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ประทับใจในโลกของ Monster Hunter อีกด้วย และแพทช์ล่าสุดนี้ น่าสนใจว่า Mizutsune จะถูกออกแบบมาให้มีความยากระดับไหน มีท่าอะไรพิเศษ หรือสร้างความท้าทายใหม่ๆได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ บอกตามตรงว่าเริ่มเบื่อกับมอนสเตอร์หน้าเดิมๆแล้วล่ะครับ 55+ 

 

##########

##########

##########

สั่งซื้อเสื้อมอนฮันสวยๆ 

สั่งซื้อ คลิก

 

สั่งซื้อ คลิก

##########

##########

##########

##########

##########

##########

##########

หลังจากที่สร้างปรากฎการณ์ “เปลี่ยนเกมเมอร์เป็นนักล่า” กับการมาของ Monster Hunter เกมแนวล่าสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ลือลั่นมาตั้งแต่ยุค PS2 หลังจากที่หายไปจากวงการเกมไปพักใหญ่ๆ และกลับมาในเกม Monster Hunter: World ในปี 2018 จนได้รับความนิยมหลักล้านแผ่นในเวลาไม่นาน และสานต่อความสนุกด้วยภาค Rise และ Sunbreak  และคราวนี้ เตรียมรับแรงกระแทกครั้งใหม่ กับการลงระบบคอนโซล + PC จัดเต็มใน PlayStation 5 , Xbox Series และ PC (Steam) นี่คือภาคใหม่ Monster Hunter: Wilds

ใน Monster Hunter Wilds ผู้เล่นจะเข้าร่วมทีมวิจัยจากสมาคมฮันเตอร์ เพื่อสืบสวนดินแดนต้องห้าม โดยการสำรวจนั้น จะส่งผลต่อความคืบหน้าของสมาคมในการเก็บข้อมูลทำวิจัย…นำทีมสำรวจโดย “นักล่านิรนาม” ที่รับงานจากหัวหน้าสมาคมฮันเตอร์สาขาใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งที่ทำข้อตกลงกันไว้… ร่วมด้วย “อัลม่า” ผู้ดูแล (Handler)ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกิลด์ / คู่หู Palico ของพวกเขา และ เด็กชายลึกลับ ที่มีความเกี่ยวข้องในการเดินทางครั้งนี้…และทั้งหมด มาพร้อมเสียงพากย์ Full Voice ทุกบทสนทนา

REVIEW 8/10

 

Monster Hunter Wilds การล่าที่คุ้นเคยในโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น  ลดความยาก และเป็นมิตรกับมือใหม่มากขึ้น

เรียกว่าเป็นเกมที่สร้างปรากฎการณ์ให้เกมเมอร์ไทย พร้อมใจกันหยุดงานในวันที่เกมออก (ฮ่าๆ) เพราะนับจากภาค Wolds ที่ทำออกมาตราตรึงใจ มีอะไรให้ทำมากมาย และถูกนับเป็นภาคหลักที่ยิ่งใหญ่แล้ว ก็มีภาค Wilds นี้ที่สามารถเข้ามาเป็น “ภาคหลัก” ที่ทุกคนพร้อมใจกันยกให้ (สงสาร Sunbreak เลย) 

ทั้งงานภาพที่สวยงามอลังการ ระะบบนิเวศน์ที่ดูน่าเชื่อถือ เมคานิคเกมเพลย์ที่แม้จะยังไม่หนีจากภาคก่อน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่ เพราะต้องยอมรับว่า บรรทัดฐานที่ภาค Worlds ทำไว้ สูงมากๆ และนี่คือการต่อยอด ปรับปรุงให้เข้ายุคสมัยมากขึ้น ลดความวุ่นวายลง และเพิ่ม “หัวใจ” ของเกมเพลย์ให้มากขึ้น ฟังดูอาจจะเป็นคำชมเยอะ แต่เกมนี้มีปัญหาอยู่ที่เนื้อเรื่อง และ Performance ไม่น้อย

เนื้อเรื่อง Monster Hunter Wilds ได้นำผู้เล่นเข้าสู่ดินแดนต้องห้ามที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์หน้าใหม่ ปรากฏการณ์สภาพอากาศที่เอาแน่นอนไม่ได้ และร่องรอยอารยธรรมโบราณ แม้ว่าเนื้อเรื่องของเกมจะไม่ใช่จุดเด่น แต่ก็ทำหน้าที่เป็นสะพานไปสู่ End Game Content ได้เป็นอย่างดี การเดินทางของผู้เล่น เริ่มต้นจากการช่วยเด็กชาย “นาตะ” ที่นำไปสู่การค้นพบชนเผ่าท้องถิ่นในแต่ละเขต การสืบหาเรื่องราวที่อิงจาก Lore ของออริจินอลมอนฮัน ที่ “สายลึก” น่าจะว้าว และรอคอยมานาน กับการเล่าเรื่องราว “เศษซากอารยธรรมของยุคสมัยมังกร” และภัยคุกคามจาก “White Wraith ” มอนสเตอร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วนับพันปี อยู่ๆก็ปรากฎตัวขึ้น และนำไปสู่เรื่องราวของชนเผ่าลี้ลับ ที่อยู่เบื้องหลังการคืนชีพมอนสเตอร์นอกระบบนิเวศน์ … การมาของพวกมัน ทำให้สมดุลเสีย และหน้าที่รักษาห่วงโซ่อาหารให้เป็นไปตามที่ควร จึงเป็นภารกิจหลักของสมาคมฮันเตอร์ และผู้เล่นในเกมนี้

 

แม้ว่าจะมีพล๊อตเรื่องที่น่าสนใจ แต่กลับถ่ายทอดออกมาได้ไม่น่าประทับใจ เหมือนจะมีแค่ “มีไว้ให้ผู้เล่นได้รู้เรื่องว่าล่าไปทำไม” แต่ในแง่มิติตัวละคร กลับไม่รู้สึกถึงพัฒนาการ หรือ ความผูกพันธ์ในหมู่มิตรสหายฮันเตอร์เลย เป็นการวางจุด A ไปจุด B แล้วก็เคลียร์เนื้อหาไปเรื่อยๆ พร้อมกับความโลกสวยปนน่ารำคาญของตัวละครเด็กน้อยนาตะ…ที่แม้ภายหลังจะเป็นผู้เป็นคนมาบ้างก็ตาม แต่ก็ยังโลเล และน่าจับโยนให้มอนสเตอร์กินอยู่ไม่น้อย (555+)

 

สรุปสั้นๆ “แก่นเนื้อเรื่อง ไม่สนุกเลย” …อาศัยว่าจังหวะการเล่าทำมาดี น่าค้นหา แล้วยังเป็นการเล่าแบบสานต่อ Lore ของจักรวาลมอนฮันที่มีมาแต่อดีตกาลให้รู้ว่า…เออ นี่ยังให้ความสำคัญกับตำนานสงคราม การล่มสลายของชนเผ่า และเทคโนโลยีอาวุธที่สาปสูญ อย่าง Artian Materials ที่เราจะได้หลังจากการ “ปราบมอนม่วง” (Temper)  อยู่นะ…นอกนั้นก็ดูจะจางๆจืดๆกับบทสรุปเรื่องราวในภาคนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะ CG เล่าเรื่องสวยมาก

 

เกมเพลย์ คือหัวใจ และเดอะแบกส่วนที่ดีงามที่สุดของเกมนี้เลย อย่างว่า ฮันเตอร์ส่วนมากมาถึงคืออยากจะกดข้ามเนื้อเรื่องมากกว่า และมุ่งมั่นกับการล่า และในภาคนี้ คือการแก้ปัญหาที่มีมาในภาค Worlds ในแง่ของความซับซ้อนวุ่นวายของแผนที่ วิ่งจนหลงทาง อันมีสาเหตุที่มีความสูงในแนวตั้ง เป็นชั้นๆ ชวนงง เปลี่ยนมาเป็นการออกวิ่งสำรวจในแนวระนาบทีกว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยระบบนิเวศน์ที่หลากหลาย ที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ลดการโหลดขณะเดินทางและเพิ่มความลื่นไหลในการล่า โดยมาพร้อมกับระบบซัพพอร์ทการเดินทาง ทั้งการเลือกจุดกางเต๊นท์ ทำ FastTravel / การขี่นกแบบออโต้ แค่เลือกปลายทาง หรือเป้าหมาย แล้วล๊อกให้นกวิ่งไป ซึ่งในระหว่างนี้ ก็สามารถลับดาบ เติมยา , เปลี่ยนอาวุธได้ด้วย 

 

ทำให้ผู้เล่นโฟกัสกับตัวเองในการออกล่า มากกว่าการจดจำเส้นทาง หรือการ Tracking มอนสเตอร์ ที่แน่ๆ เพ้นท์บอลแทบไม่ได้ใช้เลย 

 

หัวใจหลักของ Monster Hunter ยังคงแข็งแกร่ง การล่ายังคงเป็นวงจรที่น่าจะคุ้นมือรุ่นเก๋า  ทั้งการค้นหาเป้าหมาย ต่อสู้กับมัน และใช้ชิ้นส่วนที่ได้มาสร้างอาวุธและเกราะใหม่  ระบบต่อสู้ยังคงลุ่มลึกด้วยอาวุธทั้ง 14 ชนิดที่มีท่าใหม่และเพิ่มกลยุทธ์การต่อสู้ที่มากขึ้น

โดยวงจรของรางวัลเองก็ไม่ได้เน้นการตะบี้ตะบันฟาร์มกันเหมือนภาคก่อนๆ เพราะภาคนี้ทำมาให้ได้ของรางวัลต่อรอบมากขึ้น จากการที่ผู้เล่นสามารถ “เปิดแผล” และซัดเข้าที่แผลด้วย Focus Shot ทำให้ได้ไอเทมมาจำนวนมากหลังจบการล่าแต่ละครั้ง

 

อีกทั้งตัวเกมยัง “ลดความยากลงมาอย่างมาก” ด้วยการ “จุดพลุ SOS เรียกบอทมาช่วย” (จริงๆแล้วมันคือระบบออนไลน์ที่เรียกเพื่อนมาช่วย แต่ถ้าในระหว่างที่หาคนมาเต็มตี้ แล้วยังไม่มีใครมา ก็จะมีเหล่าบอทที่ทรงพลัง โคตรฉลาด และเป็นงานสุดๆมาเข้าตี้เรา จนบางครั้งเราไม่อยากได้คนจริงๆมาเล่นด้วยแล้วซะงั้น (55+)

 

มองอีกมุมมันดีมากๆ สำหรับคนเพื่อนน้อย…

 

แต่อีกมุมก็กังวลว่า ในอนาคต ทิศทางของมอนฮัน ที่เป็นเกมเน้นความสามัคคีในหมู่นักล่าที่เป็นคนจริงๆ มีคอมมูที่เข้มแข็ง มีมิตรสหายนัดกันไปล่าแย้ จะถูกแทนที่ด้วยบอท และคนจริงจะมีปฎิสัมพันธ์น้อยลงหรือไม่ อย่างไร อันนี้น่าคิดครับ

 

หลังจบเนื้อเรื่องใน Chapter6 แล้ว การล่าก็จะเคว้งๆหน่อย แต่ยังดีทีมีอาวุธระดับ 8 และ อาวุธจากวัตถุดิบในอดีตกาลอย่าง Artian ให้ได้ตามเก็บ มีมอนม่วงให้ตี ซึ่งมอนพวกนี้จะมีความเร็ว ความดุร้ายมากขึ้น แต่ก็แลกกับไอเทมที่ดรอปดีขึ้น ด้วย ใครมาถึงจุดนี้แล้ว ก็อาจจะทำของ รอแพทช์ DLC ในอนาคตได้ครับ มาแน่ ช่วงเมษายนนี้

งานภาพของ Monster Hunter Wilds งดงามและเต็มไปด้วยชีวิต การออกแบบมอนสเตอร์ แสดงถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตที่มีเอกลักษณ์และพฤติกรรมที่สมจริง ภูมิประเทศแต่ละโซนถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นมากกว่าฉากหลัง ด้วยแต่ละจุด ก็มีอิทธิพลต่อการล่าและกลยุทธ์ของผู้เล่น ตั้งแต่พายุทะเลทรายที่บดบังวิสัยทัศน์ / ป่าทึบที่ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลง/ เขตหนาว ที่ลดค่าสตามิน่า /เขตร้อนลาวาที่ลด HP และอื่นๆ นอกจากนี้ รายละเอียดของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในเกมยังช่วยเสริมให้โลกดูมีชีวิตชีวา ตั้งแต่นกที่บินผ่านไปมา ไปจนถึงสัตว์ป่าที่ตอบสนองต่อการต่อสู้ของสัตว์ประหลาด เกมนี้นำเสนอความอลังการที่ไม่ใช่แค่ภาพสวย แต่ยังให้ความรู้สึกถึงโลกที่มีปฏิสัมพันธ์กันจริงๆ

 

ซึ่งนั่น ก็นำมาสู่การใช้ทรัพยากร “มหาศาล” เรียกได้ว่า ชาว PC คอมกลางๆหลายท่านถึงกับ Refund เกมกันไม่น้อย

 

ในขณะที่ PS5 (ที่ไม่Pro)  ก็พบว่าเกมมีปัญหาเรื่องความเสถียรของเฟรมเรต มีอาการเฟรมเรทร่วง ดีเทลหายบางจุดเป็นวุ้น

 

และตัวเครื่องมีเสียงพัดลมทำงานเต็มที่ ถ้าห้องใครร้อนๆ หรือวางในจุดที่ Flow อากาศไม่ดีน่าจะมีอาการให้เห็นครับ 

ส่วนแต่ละโหมด แอดมินสามารสรุปออกมาได้ราวๆนี้ครับ

 

โหมด Resolution: รันที่ 30 FPS ความละเอียด ก็ยังรู้สึกว่าต่ำกว่า 4K (กะๆเอาน่าจะประมาณ 1440p) เหมาะกับผู้เล่นที่เน้นความสวยงาม เพราะดีเทลต่างๆสวยจริง ผู้เล่นทั่วไปที่คุ้นเคยกับ 30 FPS สามารถเล่นได้โดยไม่มีปัญหาครับ

 

โหมด Framerate: พยายามยกระดับเป็น 60 FPS แต่ยังมีปัญหาเฟรมร่วง (40-50 FPS) และความละเอียดลดเหลือประมาณ 720p (ส่วนตัวแอดมินเล่นอันนี้ ขอลื่นๆ เอาไว้นับจังหวะกะหลบหรือสวนกลับด้วย Perfect Counter)

 

โหมด  Balance : ส่วนตัวรู้สึกว่าเฟรมเรทที่ได้ ความคมชัดของงานภาพที่ได้ “ไม่สุด” ตามชื่อเลย เห็นแล้วแอบหงุดหงิด เลยเลือกที่จะไม่ใช้ครับ 55+

 

 

ตัวเลือก 120Hz: จะรองรับบนจอที่ใช้งานได้ แต่ยังไม่มีความรู้สึกว่าออกมาต่างกัน สำหรับจอทั่วไป ไว้มีโอกาสหาจอดีๆแล้วเดี๋ยวมาบอก 

 

สรุปแล้ว…  Monster Hunter Wilds อาจไม่ได้เปลี่ยนสูตรสำเร็จของซีรีส์ไปมากนัก แต่มันคือเวอร์ชันที่ดีขึ้น และ น่าจะสมบูรณ์แบบที่สุดของแฟรนไชส์นี้ครับ แม้ว่าความที่หลายๆอย่าง ดูคุ้นเคย เพราะต่อยอดจากภาค Worlds อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าขาดความแปลกใหม่ไปบ้างก็ตาม

 

แต่ด้วยแผนที่ที่ใหญ่ขึ้น ระบบการเล่นที่คล่องตัวขึ้น มีความเข้าถึงง่าย ระบบซัพพอร์ทผู้เล่นที่ดี จนนำไปสู่ Learning Curve หรือการเรียนรู้ สิ่งต่างๆในเกม ทั้งเมคานิคอาวุธแต่ละอย่าง ระบบธาตุ การต่อสู้ วิธีเอาชนะ ที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นทำให้การเล่นยังคงน่าตื่นเต้น แม้ว่าจะจบเกมเครดิตทีมงานขึ้น แต่เกมยังไม่จบครับ!!

 

ด้วยคำว่า End Game Content ที่ทวีความท้าทย ในระดับที่เรียกได้ว่า “ของจริงมันเริ่มจากนี้”  รออยู่…

 

 

แล้วมาล่าด้วยกันครับ!

 

แอดมิน AK47

 

 

 

#MonsterHunterWilds #MonsterHunter #MonHun #Hunting #Action #RPG #PlayStation5 #XboxSeries #PC#Steam

#Capcom

 

 สั่งซื้อเกม ราคาดี คลิก