Structured Data สำหรับสูตรอาหารและเครื่องดื่ม (Recipe, HowTo, ItemList)

ช่วยให้ผู้ใช้พบเนื้อหาสูตรอาหารและเครื่องดื่มของคุณโดยบอก Google เกี่ยวกับสูตรนั้นด้วย Structured Data เมื่อคุณให้ข้อมูล เช่น คะแนนจากผู้รีวิว เวลาในการปรุงและเตรียม รวมทั้งข้อมูลด้านโภชนาการ Google จะเข้าใจสูตรและนำเสนอต่อผู้ใช้ในรูปแบบที่น่าสนใจได้ดียิ่งขึ้น สูตรอาหารและเครื่องดื่มจะปรากฏในผลการค้นหาของ Google และ Google รูปภาพ

ภาพประกอบแสดงลักษณะของผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับสูตรอาหารใน Google Search ซึ่งประกอบด้วยผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย 4 รายการจากเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาที่ใช้ทําอาหาร รูปภาพ และข้อมูลรีวิว ภาพประกอบแสดงให้เห็นว่าสูตรอาหารสามารถปรากฏใน Google Search อย่างไร ซึ่งประกอบด้วยผลการค้นหารูปภาพ 6 รูปที่แสดงรายการอาหารต่างๆ โดยผลการค้นหา 3 รายการมีป้ายสูตรอาหารที่บอกผู้ใช้ว่านี่เป็นสูตรอาหาร

สูตรอาหารและเครื่องดื่มของคุณอาจมีสิทธิ์ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพดังต่อไปนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณมาร์กอัปเนื้อหา

การเพิ่มประสิทธิภาพสูตรอาหาร
ภาพสไลด์ของสูตรอาหารจากเว็บเดียวกัน: ให้ผู้ใช้สำรวจหน้าแกลเลอรีสูตรอาหารของคุณได้โดยใส่ Structured Data ItemList ภาพประกอบแสดงให้เห็นว่าภาพสไลด์ของโฮสต์สูตรอาหารสามารถปรากฏใน Google Search อย่างไร โดยแสดงสูตรอาหาร 3 รายการจากเว็บไซต์เดียวกันในรูปแบบภาพสไลด์ที่ผู้ใช้สามารถดูและเลือกสูตรอาหารที่ต้องการได้

วิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้าง

ข้อมูลที่มีโครงสร้างคือรูปแบบมาตรฐานในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหน้าและจำแนกประเภทเนื้อหาของหน้า หากคุณเพิ่งใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นครั้งแรก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของข้อมูลที่มีโครงสร้าง

ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับวิธีสร้าง ทดสอบ และเผยแพร่ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ดูคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้างลงในหน้าเว็บได้ใน Codelab สำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้าง

  1. เพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น ดูตำแหน่งการแทรก Structured Data ในหน้าเว็บตามรูปแบบที่คุณใช้อยู่
  2. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
  3. ตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดโดยใช้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย และแก้ไขข้อผิดพลาดที่สําคัญทั้งหมด พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ไม่สําคัญซึ่งอาจมีการรายงานในเครื่องมือด้วย เพราะอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพของ Structured Data ได้ (แต่ไม่จําเป็นว่าต้องมีสิทธิ์ปรากฏในผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย)
  4. ทำให้หน้าบางหน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้และใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อทดสอบว่า Google เห็นหน้าในลักษณะใด ตรวจสอบว่า Google เข้าถึงหน้าดังกล่าวได้และไม่มีการบล็อกหน้าด้วยไฟล์ robots.txt, แท็ก noindex หรือข้อกำหนดให้เข้าสู่ระบบ หากหน้าเว็บดูถูกต้องดีแล้ว คุณขอให้ Google ทำการ Crawl URL อีกครั้งได้
  5. หากต้องการให้ Google ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่ตลอด เราขอแนะนำให้ส่ง Sitemap ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการแบบอัตโนมัติได้โดยใช้ Search Console Sitemap API

ตัวอย่าง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของสูตรอาหารที่ใช้โค้ด JSON-LD

สูตรอาหารใน Search

นี่คือตัวอย่างของหน้าเว็บที่มีสิทธิ์แสดงใน Search

<html>
  <head>
    <title>Non-Alcoholic Piña Colada</title>
    <script type="application/ld+json">
    {
      "@context": "https://schema.org/",
      "@type": "Recipe",
      "name": "Non-Alcoholic Piña Colada",
      "image": [
      "https://example.com/photos/1x1/photo.jpg",
      "https://example.com/photos/4x3/photo.jpg",
      "https://example.com/photos/16x9/photo.jpg"
      ],
      "author": {
        "@type": "Person",
        "name": "Mary Stone"
      },
      "datePublished": "2024-03-10",
      "description": "This non-alcoholic pina colada is everyone's favorite!",
      "recipeCuisine": "American",
      "prepTime": "PT1M",
      "cookTime": "PT2M",
      "totalTime": "PT3M",
      "keywords": "non-alcoholic",
      "recipeYield": "4 servings",
      "recipeCategory": "Drink",
      "nutrition": {
        "@type": "NutritionInformation",
        "calories": "120 calories"
      },
      "aggregateRating": {
        "@type": "AggregateRating",
        "ratingValue": 5,
        "ratingCount": 18
      },
      "recipeIngredient": [
        "400ml of pineapple juice",
        "100ml cream of coconut",
        "ice"
      ],
      "recipeInstructions": [
        {
          "@type": "HowToStep",
          "name": "Blend",
          "text": "Blend 400ml of pineapple juice and 100ml cream of coconut until smooth.",
          "url": "https://example.com/non-alcoholic-pina-colada#step1",
          "image": "https://example.com/photos/non-alcoholic-pina-colada/step1.jpg"
        },
        {
          "@type": "HowToStep",
          "name": "Fill",
          "text": "Fill a glass with ice.",
          "url": "https://example.com/non-alcoholic-pina-colada#step2",
          "image": "https://example.com/photos/non-alcoholic-pina-colada/step2.jpg"
        },
        {
          "@type": "HowToStep",
          "name": "Pour",
          "text": "Pour the pineapple juice and coconut mixture over ice.",
          "url": "https://example.com/non-alcoholic-pina-colada#step3",
          "image": "https://example.com/photos/non-alcoholic-pina-colada/step3.jpg"
        }
      ],
      "video": {
        "@type": "VideoObject",
        "name": "How to Make a Non-Alcoholic Piña Colada",
        "description": "This is how you make a non-alcoholic piña colada.",
        "thumbnailUrl": [
          "https://example.com/photos/1x1/photo.jpg",
          "https://example.com/photos/4x3/photo.jpg",
          "https://example.com/photos/16x9/photo.jpg"
         ],
        "contentUrl": "https://www.example.com/video123.mp4",
        "embedUrl": "https://www.example.com/videoplayer?video=123",
        "uploadDate": "2024-02-05T08:00:00+08:00",
        "duration": "PT1M33S",
        "interactionStatistic": {
          "@type": "InteractionCounter",
          "interactionType": { "@type": "WatchAction" },
          "userInteractionCount": 2347
        },
        "expires": "2024-02-05T08:00:00+08:00"
       }
    }
    </script>
  </head>
  <body>
  </body>
</html>

ต่อไปนี้คือตัวอย่างหน้าสรุปสูตรอาหาร (หน้าที่มีลิสต์สูตรอาหาร) ซึ่งมี Structured Data itemList เนื้อหานี้อาจมีสิทธิ์แสดงในตารางกริดในผลการค้นหา

<html>
  <head>
    <title>Grandma's Best Pie Recipes</title>
    <script type="application/ld+json">
    {
      "@context": "https://schema.org",
      "@type": "ItemList",
      "itemListElement": [
        {
          "@type": "ListItem",
          "position": 1,
          "url": "https://example.com/apple-pie.html"
        },
        {
          "@type": "ListItem",
          "position": 2,
          "url": "https://example.com/blueberry-pie.html"
        },
        {
          "@type": "ListItem",
          "position": 3,
          "url": "https://example.com/cherry-pie.html"
        }]
    }
    </script>
  </head>
  <body>
  </body>
</html>

หลักเกณฑ์

คุณต้องทำตามหลักเกณฑ์ทั่วไปเกี่ยวกับ Structured Data เพื่อให้สูตรอาหารมีสิทธิ์ปรากฏในผลการค้นหาของ Search

Structured Data Recipe ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

  • ใช้ Structured Data Recipe สำหรับเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดเตรียมเมนูใดเมนูหนึ่ง ชื่อที่ไม่ใช่เมนูอาหาร เช่น "สครับขัดหน้า" หรือ "ไอเดียจัดงานเลี้ยง"
  • หากต้องการให้สูตรอาหารปรากฏในภาพสไลด์หรือตารางกริด คุณต้องทำตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
    • จัดเตรียม Structured Data ItemList เพื่อสรุปสูตรอาหารสำหรับลิสต์ของคุณ คุณอาจจัดเตรียม Structured Data ItemList แยกต่างหากหรือรวมกับ Structured Data สำหรับสูตรอาหารก็ได้
    • เว็บไซต์ต้องมีหน้าสรุปที่มีรายการสูตรอาหารทั้งหมดในคอลเล็กชัน เช่น เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์สรุปจากผลการค้นหาของ Search ระบบอาจนำผู้ใช้ไปยังหน้าที่ถูกต้องในเว็บไซต์ซึ่งมีข้อมูลสูตรอาหารที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาของผู้ใช้

คำจำกัดความของประเภท Structured Data

คุณต้องใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นเพื่อให้เนื้อหามีสิทธิ์แสดงผลเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ใน Google Search คุณอาจใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำด้วยเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

Recipe

มาร์กอัปเนื้อหาสูตรอาหารด้วยพร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้ของประเภท Recipe ตาม schema.org ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Recipe ได้ที่ schema.org/Recipe พร็อพเพอร์ตี้ที่ Google รองรับมีดังต่อไปนี้

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
image

URL หรือ ImageObject

รูปภาพของอาหารที่ทำเสร็จแล้ว

หลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปภาพ

  • ทุกหน้าต้องมีรูปภาพอย่างน้อย 1 รูป (ไม่ว่าคุณจะใส่มาร์กอัปหรือไม่) Google จะเลือกรูปภาพที่ดีที่สุดเพื่อแสดงในผลการค้นหาของ Search โดยอิงตามสัดส่วนภาพและความละเอียด
  • URL รูปภาพต้องรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีได้ หากต้องการตรวจสอบว่า Google เข้าถึง URL ได้หรือไม่ ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL
  • รูปภาพต้องแสดงถึงเนื้อหาที่มาร์กอัป
  • รูปภาพต้องอยู่ในรูปแบบไฟล์ที่ Google รูปภาพรองรับ
  • เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้รูปภาพความละเอียดสูงหลายภาพ (อย่างน้อย 50,000 พิกเซลเมื่อคำนวณจากความกว้างคูณความสูง) และมีสัดส่วนภาพเป็น 16x9, 4x3 หรือ 1x1

ตัวอย่างเช่น

"image": [
  "https://example.com/photos/1x1/photo.jpg",
  "https://example.com/photos/4x3/photo.jpg",
  "https://example.com/photos/16x9/photo.jpg"
]
name

Text

ชื่อของอาหารจานนี้

พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ
aggregateRating

AggregateRating

ข้อมูลเสริมสำหรับคะแนนรีวิวเฉลี่ยที่กำหนดให้กับรายการนั้นๆ โปรดทำตามหลักเกณฑ์ตัวอย่างรีวิวและลิสต์ของพร็อพเพอร์ตี้ AggregateRating ที่จำเป็นและแนะนำ

หาก Structured Data Recipe มีรีวิวเดียว ชื่อของผู้รีวิวต้องเป็นชื่อบุคคลหรือองค์กร ตัวอย่างชื่อที่ไม่ดีของผู้รีวิว เช่น "ส่วนผสมลด 50%"

author

Person หรือ Organization

ชื่อของบุคคลหรือองค์กรที่เขียนสูตรอาหาร โปรดทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับมาร์กอัปของผู้เขียนเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับผู้เขียนในฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีที่สุด

cookTime

Duration

ระยะเวลาจริงที่ใช้ทำอาหาร ในรูปแบบ ISO 8601 หากมี

ใช้ร่วมกับ prepTime เสมอ

datePublished

Date

วันที่เผยแพร่สูตรอาหาร ในรูปแบบ ISO 8601 หากมี

description

Text

สรุปสั้นๆ บรรยายอาหารจานนี้

keywords

Text

คำอื่นๆ สำหรับสูตรอาหาร เช่น ฤดูกาล (“ฤดูร้อน”) เทศกาล (“สงกรานต์”) หรือคำขยายอื่นๆ (“รวดเร็ว” “ง่าย” “ต้นตำรับ”)

หลักเกณฑ์เพิ่มเติม

  • คั่นคีย์เวิร์ดแต่ละรายการด้วยเครื่องหมายจุลภาค
  • อย่าใช้แท็กซึ่งที่จริงแล้วเป็น recipeCategory หรือ recipeCuisine

    ไม่แนะนำ:

    "keywords": "dessert, American"
    

    แนะนำ:

    "keywords": "winter apple pie, nutmeg crust"
    
nutrition.calories

Energy

จำนวนแคลอรีต่อเสิร์ฟในสูตรนี้ ถ้ากำหนด nutrition.calories ไว้ จะต้องกำหนด recipeYield พร้อมด้วยจำนวนเสิร์ฟ

prepTime

Duration

ระยะเวลาที่ใช้ในการเตรียมส่วนผสมและทำอาหารจานนี้ ในรูปแบบ ISO 8601

ใช้ร่วมกับ cookTime เสมอ

recipeCategory

Text

มื้อหรือประเภทอาหาร เช่น "อาหารเย็น" "อาหารจานหลัก" หรือ "ของหวาน ของว่าง"

recipeCuisine

Text

ภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับสูตรอาหาร เช่น "ฝรั่งเศส" "เมดิเตอร์เรเนียน" หรือ "อเมริกัน"

recipeIngredient

Text

ส่วนผสมที่ใช้ในสูตรอาหาร

เช่น

"recipeIngredient": [
  "1 (15 ounce) package double crust ready-to-use pie crust",
  "6 cups thinly sliced, peeled apples (6 medium)",
  "3/4 cup sugar",
  "2 tablespoons all-purpose flour",
  "3/4 teaspoon ground cinnamon",
  "1/4 teaspoon salt",
  "1/8 teaspoon ground nutmeg",
  "1 tablespoon lemon juice"
]

หลักเกณฑ์เพิ่มเติม

  • ใส่เฉพาะข้อความเกี่ยวกับส่วนผสมที่จำเป็นในการทำเมนูนี้
  • อย่าใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น คำจำกัดความของส่วนผสม
recipeInstructions

HowToStep, HowToSection หรือ Text

ขั้นตอนในการทำอาหารจานนี้

คุณเลือกการตั้งค่า recipeInstructions ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้ใช้ HowToStep คุณใช้ HowToSection เพื่อจัดกลุ่ม HowToStep ได้ด้วยหากสูตรอาหารแบ่งออกเป็นหลายส่วน

  • HowToStep: ระบุขั้นตอนของสูตรอาหารนี้ด้วย HowToStep
    "recipeInstructions": [
      {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Preheat",
        "text": "Heat oven to 425°F.",
        "url": "https://example.com/recipe#step1",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step1.jpg"
      }, {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Prepare crust",
        "text": "Place 1 pie crust in ungreased 9-inch glass pie plate, pressing firmly against side and bottom.",
        "url": "https://example.com/recipe#step2",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step2.jpg"
      }, {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Make filling",
        "text": "In large bowl, gently mix filling ingredients; spoon into crust-lined pie plate.",
        "url": "https://example.com/recipe#step3",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step3.jpg"
      }, {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Cover",
        "text": "Top with second crust. Cut slits or shapes in several places in top crust.",
        "url": "https://example.com/recipe#step4",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step4.jpg"
      }, {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Bake",
        "text": "Bake 40 to 45 minutes. The pie is ready when the apples are tender and the crust is golden brown.",
        "url": "https://example.com/recipe#step5",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step5.jpg"
      }, {
        "@type": "HowToStep",
        "name": "Cool",
        "text": "Cool on cooling rack at least 2 hours before serving.",
        "url": "https://example.com/recipe#step6",
        "image": "https://example.com/photos/recipe/step6.jpg"
      }
    ]
    
  • HowToSection (ในกรณีที่สูตรอาหารมีหลายส่วนเท่านั้น): ใช้เพื่อจัดกลุ่มขั้นตอนเป็นหลายๆ ส่วน ดูตัวอย่างได้ที่ HowToSection
  • พร็อพเพอร์ตี้เดี่ยวหรือพร็อพเพอร์ตี้ที่ซ้ำของข้อความ: บล็อกของข้อความที่มีอย่างน้อย 1 ขั้นตอน Google จะจัดการให้ขั้นตอนทั้งหมดอยู่ในส่วนเดียว ค่าของพร็อพเพอร์ตี้ที่ซ้ำจะต่อกันเป็นข้อความบล็อกเดียว จากนั้น Google จะพยายามแยกบล็อกข้อความนั้นเป็นขั้นตอนต่างๆ โดยอัตโนมัติ Google จะพยายามหาและนำชื่อส่วน หมายเลขขั้นตอน คีย์เวิร์ด และข้อมูลอื่นๆ ที่ปรากฏไม่ถูกต้องในขั้นตอนต่างๆ ออก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ระบุขั้นตอนต่างๆ อย่างชัดเจนด้วย HowToStep
    "recipeInstructions": [
      "In large bowl, gently mix filling ingredients; spoon into crust-lined pie
    plate. Top with second crust. Cut slits or shapes in several places in top
    crust. Bake 40 to 45 minutes. The pie is ready when the or until apples are
    tender and the crust is golden brown. Cool on cooling rack at least 2 hours
    before serving."
    ]
    

หลักเกณฑ์เพิ่มเติม

  • อย่าใส่ข้อมูลเมตาที่เป็นของที่อื่น กล่าวโดยเจาะจงก็คือ ให้ใช้พร็อพเพอร์ตี้ author สำหรับระบุผู้เขียน พร็อพเพอร์ตี้ recipeCuisine สำหรับประเภทอาหาร พร็อพเพอร์ตี้ recipeCategory และพร็อพเพอร์ตี้ keywords สำหรับคีย์เวิร์ดอื่นๆ
  • ใส่เฉพาะข้อความเกี่ยวกับวิธีทำอาหาร อย่าใส่ข้อความอื่นๆ เช่น “คำแนะนำ” “ดูวิดีโอ” “ขั้นตอนที่ 1” ให้ระบุวลีดังกล่าวนอก Structured Data

    ไม่แนะนำ:

    "recipeInstructions": [{
      "@type": "HowToStep",
      "text": "Step 1. Heat oven to 425°F."
    }]
    

    แนะนำ:

    "recipeInstructions": [{
      "@type": "HowToStep",
      "text": "Heat oven to 425°F."
    }]
    
recipeYield

Text หรือ Integer

ปริมาณอาหารที่ได้จากสูตรอาหาร หากมี ให้ระบุจำนวนเสิร์ฟที่ได้จากสูตรนี้ด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียว หากต้องการใช้หน่วยอื่น (เช่น จำนวนชิ้น) ก็ระบุปริมาณเพิ่มเติมได้ จำเป็นต้องระบุ หากคุณระบุข้อมูลทางโภชนาการต่อเสิร์ฟ (เช่น nutrition.calories)

ตัวอย่าง

"recipeYield": [
  "6",
  "24 cookies"
]
totalTime

Duration

ระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการเตรียมและทำอาหารจานนี้ ในรูปแบบ ISO 8601 หากมี

ใช้ totalTime หรือใช้ทั้ง cookTime และ prepTime ร่วมกัน

video VideoObject

วิดีโอที่แสดงขั้นตอนการทำอาหาร โปรดทำตามลิสต์ของพร็อพเพอร์ตี้ Video ที่จำเป็นและแนะนำ

HowToSection

ใช้ HowToSection เพื่อจัดกลุ่มลำดับขั้นตอน (หรือหัวข้อย่อย) ที่ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของวิธีทำของสูตรอาหาร ระบุ HowToSection โดยตรงในคำจำกัดความของพร็อพเพอร์ตี้ recipeInstructions หรือระบุเป็น itemListElement ของ HowToSection อีกรายการหนึ่ง

ประเภท HowToSection กำหนดหัวข้อของสูตรเดียวและมีขั้นตอนเดียวหรือหลายขั้นตอน หากมีสูตรในการทำอาหารชนิดหนึ่งๆ หลายสูตร อย่าใช้ HowToSection เพื่อกำหนดสูตรที่แตกต่างกันนั้น แต่ให้ใช้ HowToSection เป็นส่วนหนึ่งของแต่ละสูตร หากต้องการแสดงสูตรอาหารหลายสูตรในการทำอาหารชนิดหนึ่ง ให้ใช้ออบเจ็กต์ Recipe หลายรายการ ตัวอย่างเช่น แสดงวิธีต่างๆ ในการทำพายแอปเปิลโดยใช้ออบเจ็กต์ Recipe หลายๆ รายการ ไม่ใช่ออบเจ็กต์ HowToSection

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ HowToSection ได้ที่ schema.org/HowToSection

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
itemListElement HowToStep

รายการขั้นตอนโดยละเอียดสำหรับหัวข้อนี้และ/หรือหัวข้อย่อย เช่น สูตรทำพิซซ่าอาจมี 1 หัวข้อที่มีหลายขั้นตอนสำหรับการทำแป้งพิซซ่า, 1 หัวข้อสำหรับการเตรียมหน้าพิซซ่า และ 1 หัวข้อสำหรับการนำทั้ง 2 ส่วนมารวมกันและเข้าเตาอบ

ตัวอย่าง

{
  "@type": "HowToSection",
  "name": "Assemble the pie",
  "itemListElement": [
    {
      "@type": "HowToStep",
      "text": "In large bowl, gently mix filling ingredients; spoon into crust-lined pie plate."
    }, {
      "@type": "HowToStep",
      "text": "Top with second crust. Cut slits or shapes in several places in top crust."
    }
  ]
}
name Text

ชื่อหัวข้อ

HowToStep

ใช้ HowToStep เพื่อจัดกลุ่มประโยคอย่างน้อย 1 ประโยคที่อธิบายวิธีทำส่วนประกอบในสูตรอาหาร หากเหมาะกับเนื้อหาของคุณ กำหนดพร็อพเพอร์ตี้ text ด้วยประโยคหลายๆ ประโยค หรือจะกำหนด itemListElement ด้วย HowToDirection หรือ HowToTip สำหรับแต่ละประโยคก็ได้

มาร์กอัปขั้นตอนของสูตรอาหารด้วยพร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้ของประเภท HowToStep ระบุ HowToStep โดยตรงในคำจำกัดความของพร็อพเพอร์ตี้ recipeInstructions หรือระบุเป็น itemListElement ของ HowToSection

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ HowToStep ได้ที่ schema.org/HowToStep

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
itemListElement HowToDirection หรือ HowToTip

ลิสต์รายการรายละเอียดขั้นตอนย่อย รวมทั้งคำแนะนำหรือเคล็ดลับ

จะระบุหรือไม่ก็ได้หากใช้ text

text Text

ข้อความที่สมบูรณ์ของวิธีทำในขั้นตอนนี้

จะระบุหรือไม่ก็ได้หากใช้ itemListElement หลักเกณฑ์เพิ่มเติม

  • ใส่เฉพาะข้อความที่เป็นวิธีทำและไม่รวมข้อความอื่นๆ เช่น "คำแนะนำ" "ดูวิดีโอ" "ขั้นตอนที่ 1" และระบุวลีดังกล่าวนอกพร็อพเพอร์ตี้ที่มาร์กอัป

    ไม่แนะนำ:

    {
      "@type": "HowToStep",
      "text": "Step 1. Heat oven to 425°F."
    }
    

    แนะนำ:

    {
      "@type": "HowToStep",
      "text": "Heat oven to 425°F."
    }
    
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ
image ImageObject หรือ URL

รูปภาพประกอบขั้นตอน หลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปภาพมีดังนี้

name Text

คำหรือวลีสั้นๆ ที่สรุปขั้นตอน (เช่น "จัดแป้งพายในถาด") อย่าใช้ข้อความที่ไม่ใช่คำอธิบาย (เช่น “ขั้นตอนที่ 1: [ข้อความ]”) หรือหมายเลขขั้นตอนรูปแบบอื่นๆ (เช่น "1. [ข้อความ]")

url URL

URL ที่ลิงก์ไปยังขั้นตอนนั้นๆ โดยตรง (ถ้ามี) เช่น ส่วนหนึ่งของลิงก์ Anchor

video VideoObject หรือ Clip

วิดีโอสำหรับขั้นตอนนี้หรือคลิปหนึ่งของวิดีโอ

สำหรับ VideoObject ให้ทำตามรายการพร็อพเพอร์ตี้ Video หรือ Clip ที่จำเป็นและแนะนำ

HowToDirection และ HowToTip

ใช้ HowToDirection และ HowToTip เพื่ออธิบายขั้นตอนย่อยหรือเคล็ดลับ (หากมี) ทั้ง 2 รายการนี้มีพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นและแนะนำเหมือนกัน

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ HowToDirection และ HowToTip ได้ที่ schema.org/HowToDirection และ schema.org/HowToTip

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
text Text

ข้อความแสดงคำแนะนำหรือเคล็ดลับ

ItemList

นอกเหนือจากพร็อพเพอร์ตี้ Recipe แล้ว โปรดเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้สำหรับรายการเฉพาะโฮสต์ด้วย แม้ว่า ItemList จะไม่จำเป็น แต่คุณต้องใส่พร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้หากต้องการให้สูตรอาหารมีสิทธิ์แสดงเป็นภาพสไลด์ของโฮสต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพสไลด์ของโฮสต์ได้ที่ภาพสไลด์

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ ItemList ได้ที่ schema.org/ItemList

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
itemListElement

ListItem

ข้อมูลเสริมของหน้ารายการเดี่ยว

ListItem.position

Integer

ตำแหน่งตามลำดับของหน้ารายการในลิสต์ เช่น

"itemListElement": [
  {
    "@type": "ListItem",
    "position": 1,
  }, {
    "@type": "ListItem",
    "position": 2,
  }
]
ListItem.url

URL

Canonical URL ของหน้ารายการ รายการทั้งหมดต้องมี URL ที่ไม่ซ้ำกัน

ตรวจสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ด้วย Search Console

Search Console เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบประสิทธิภาพของหน้าเว็บใน Google Search คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อสมัครใช้ Search Console เพื่อให้เนื้อหาได้แสดงในผลการค้นหาของ Google แต่การลงชื่อสมัครใช้จะช่วยให้คุณเข้าใจและปรับปรุงวิธีที่ Google เห็นเว็บไซต์ได้ เราขอแนะนำให้ไปดูข้อมูลใน Search Console ในกรณีต่อไปนี้

  1. หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก
  2. หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด
  3. วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ

หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก

หลังจากที่ Google ได้จัดทำดัชนีหน้าของคุณแล้ว ให้ตรวจหาปัญหาโดยใช้รายงานสถานะผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตามหลักแล้ว รายการที่ถูกต้องควรจะมีจํานวนเพิ่มขึ้น และรายการที่ไม่ถูกต้องไม่ควรจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น หากพบปัญหาในข้อมูลที่มีโครงสร้าง ให้ทำดังนี้

  1. แก้ไขรายการที่ไม่ถูกต้อง
  2. ตรวจสอบ URL ที่เผยแพร่เพื่อดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่
  3. ขอการตรวจสอบโดยใช้รายงานสถานะ

หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด

เมื่อทําการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญในเว็บไซต์ ให้คอยตรวจสอบการเพิ่มขึ้นของรายการที่ไม่ถูกต้องของ Structured Data
  • หากเห็นว่าจำนวนรายการที่ไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะคุณเผยแพร่เทมเพลตใหม่ที่ใช้งานไม่ได้ หรือเว็บไซต์โต้ตอบกับเทมเพลตที่มีอยู่ด้วยวิธีใหม่และไม่ถูกต้อง
  • หากเห็นว่าจำนวนรายการที่ถูกต้องลดลง (ไม่สอดคล้องกับรายการที่ถูกต้องซึ่งเพิ่มขึ้น) บางทีอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้ฝัง Structured Data ไว้ในหน้าอีกแล้ว ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อดูสาเหตุของปัญหา

วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ

วิเคราะห์การเข้าชมจาก Google Search โดยใช้รายงานประสิทธิภาพ ข้อมูลจะแสดงความถี่ที่หน้าปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ใน Search ความถี่ที่ผู้ใช้คลิกหน้า และอันดับเฉลี่ยที่หน้าปรากฏในผลการค้นหา คุณจะใช้ Search Console API ดึงผลการค้นหาเหล่านี้โดยอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน

การแก้ปัญหา

หากประสบปัญหาในการใช้หรือแก้ไขข้อบกพร่องของ Structured Data โปรดดูแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ซึ่งอาจช่วยคุณได้