นูร์ อาลี เอลาฮี

นูร์ อาลี เอลาฮี
นูร์ อาลี เอลาฮี ในปีพ.ศ.2510
เกิด	( 1895-09-11 )วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2438 เจฮูนาบาด, เคอร์มันชาห์ , อิหร่าน
เสียชีวิตแล้ว	19 ตุลาคม 2517 (19/10/19)(อายุ 79 ปี) เตหะราน , อิหร่าน
สถานที่พักผ่อน	โคเย นูร์, ฮัชต์เกิร์ด
สัญชาติ	อิหร่าน
ชื่ออื่น ๆ	โอสตาด เอลาฮี
อาชีพ	ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 3 จังหวัดมหาสารคาม
เว็บไซต์	ostadelahi.com

นูร์ อาลี เอลาฮี (หรือOstad Elahi var. Nūr 'Alī Ilāhī, นูร์ อาลี เอลาฮี, เปอร์เซีย : نورعلی الهی – استاد الهی ) (11 กันยายน พ.ศ. 2438 – 19 ตุลาคม พ.ศ. 2517) เป็นนักปรัชญาผู้พิพากษา และนักดนตรีชาว เคิร์ดซึ่งมีผลงาน ได้สำรวจมิติทางอภิปรัชญาของมนุษย์^[1]

Elahi เกิดที่Jeyhunabad หมู่บ้าน เล็กๆชาวเคิร์ดใกล้กับ เมืองหลวง ชื่อเดียวกันของจังหวัดKermanshah ^{[2] [3]}พ่อของเขาHajj Nematollah (1871–1920) ^[4]เป็นนักลึกลับและกวีที่เป็นผู้นำของAhl-e Haqqและได้รับการเคารพนับถือเป็นนักบุญ^[5]ตั้งแต่วัยเด็กเขาใช้ ชีวิต แบบสันโดษและเคร่งครัดภายใต้การดูแลของพ่อโดยเน้นเป็นพิเศษที่ลัทธิลึกลับดนตรี และจริยธรรม นอกเหนือจากการสอนศาสนาและศีลธรรมแล้วเขายังได้รับการศึกษาคลาสสิกในยุคนั้น ในระหว่างการศึกษาและการไตร่ตรองในวัยหนุ่ม เขาได้สร้างรากฐานของการไตร่ตรองทางปรัชญาและจิตวิญญาณของเขา^[6]

เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตในปี 1919 Elahi ได้สรุปว่าเวลาของจิตวิญญาณ แบบคลาสสิก ได้สิ้นสุดลงแล้ว และการแสวงหาการพัฒนาจิตวิญญาณไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในความเงียบสงบของความสันโดษอีกต่อไป ในทางกลับกัน เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณจะต้องได้รับการฝึกฝนในบริบทของชีวิตที่กระตือรือร้นและสร้างสรรค์ท่ามกลางสังคม ดังนั้น เมื่ออายุได้ 24 ปี เขาจึงละทิ้งชีวิตที่ครุ่นคิดเพื่อทดสอบหลักจริยธรรมของเขาในสังคม ในที่สุดเขาก็ตั้งรกรากในเมืองหลวงเตหะรานเขาตัดผมยาวและเคราของเขา เปลี่ยนชุดคลุมแบบดั้งเดิมของเขาเป็นชุดสูทแบบตะวันตก และเข้าสู่ราชการ^[7]

ไม่กี่ปีต่อมา ขณะที่ประเทศกำลังดำเนินการปฏิรูปรัฐบาลครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งระบบตุลาการใหม่ทั้งหมด เอลาฮีได้เข้าเรียนในโรงเรียนนิติศาสตร์แห่งชาติที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น เขาเรียนจบหลักสูตรสามปีภายในหกเดือน และสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมในปี 1934 ^{[8] [9]}

จากนั้น Elahi ก็เริ่มอาชีพทางกฎหมายเป็นเวลา 23 ปี โดยได้รับมอบหมายงานครั้งแรกเป็นผู้พิพากษาศาลแขวงในเขต LarestanจังหวัดFarsและสุดท้ายได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์อาญาสูงในจังหวัด Mazandaranเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงทั้งในเรื่องความแม่นยำในการปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ ตลอดจนความสำคัญที่เขามอบให้กับหลักนิติธรรมและสิทธิสตรี^[10] Elahi เกษียณอายุในปี 2500 เมื่ออายุ 62 ปี และตั้งรกรากในเตหะราน^[11]

ตลอดอาชีพทางกฎหมายของเขา เอลาฮีอุทิศเวลาให้กับการศึกษาและวิจัยส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านปรัชญาและเทววิทยา ช่วงเวลาแห่งการสืบค้นปรัชญาเชิงปรัชญานี้ช่วยให้เขาสามารถร่างผลงานในช่วงหลังๆ ของเขาได้^[12]

ปรัชญาของเอลาฮีกล่าวถึงคำถามเกี่ยวกับต้นกำเนิดและธรรมชาติของมนุษย์ บทบาทและความรับผิดชอบในโลก และจุดหมายปลายทางสุดท้าย ผลงานของเขาเน้นย้ำถึงแนวคิดเรื่องความเป็นคู่ตรงข้ามของมนุษย์ในฐานะที่เป็นทั้งวัตถุและจิตวิญญาณ และยืนยันถึงความสำคัญของมิติเหนือธรรมชาติของทั้งสอง เขาเชื่อว่าการตระหนักรู้ในตนเองต้องการมากกว่าการไตร่ตรองเพียงอย่างเดียว และจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ จำเป็นต้องวางรากฐานบนประสบการณ์ที่พิสูจน์ได้ คำสอนที่เขียนและบอกเล่าของเอลาฮีจึงเป็นผลโดยตรงจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขา มากกว่าการไตร่ตรองทางปรัชญา^[13]

หลังจากเกษียณจากตำแหน่งตุลาการในปี 2500 เอลาฮีเริ่มเปิดเผยระบบความคิดของเขาทีละน้อย ในช่วงเวลานี้ เขาเขียนและตีพิมพ์ผลงานวิชาการสองชิ้นในสาขาวิชาศาสนาและจิตวิญญาณที่แท้จริง รวมถึงคำวิจารณ์งานเขียนของพ่ออย่างละเอียดถี่ถ้วน ในทางกลับกัน แนวคิดเชิงปฏิบัติของความคิดของเขาถูกถ่ายทอดส่วนใหญ่ในรูปแบบของคำสอนและคำแนะนำแบบปากเปล่าแก่เพื่อนสนิทและคนรู้จักที่ขอคำแนะนำและคำชี้แนะจากเขา คำพูดของเขาสองเล่มได้รับการตีพิมพ์จนถึงปัจจุบันโดยอ้างอิงจากบันทึกที่บุคคลเหล่านี้ถอดความ^[14]นอกจากนี้ เขายังเขียนต้นฉบับหลายฉบับที่ยังไม่ได้เผยแพร่ รวมถึงUnveiling of the Truths ( Kashf al-Haqa'iq ) ซึ่งบรรยายถึงการกำเนิดของจักรวาลและบทบาทของมนุษย์^[15]

ในปี 1963 Elahi ได้ตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของเขา"การสาธิตความจริง" ( Burhān al-Ḥaqq ) ซึ่ง เป็น งานด้านเทววิทยา ที่นำเสนอบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับกลุ่ม Ahl-e Haqqเป็นครั้งแรกซึ่งรวมถึงพัฒนาการ หลักการพื้นฐาน และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจนถึงเวลานั้นยังคงเป็นความลับ หนังสือเล่มนี้ยังกล่าวถึง จุดมุ่งหมาย เชิงลึกลับ ที่ คัมภีร์อัลกุรอานศาสนาอิสลามและกลุ่ม Ahl-e Haqq มีร่วมกันอีก ด้วย ^[16]

ในปี พ.ศ. 2509 เขาตีพิมพ์งานชิ้นที่สองของเขา"คำอธิบายหนังสือเรื่องราชาแห่งความจริง" (Ḥaqq al-ḥaqāyiq yā Shāhnāmah-ʾi ḥaqīqat) ซึ่งเป็นคำอธิบายบทกวีของบิดาของเขาที่อธิบายเกี่ยวกับการกำหนดสถานที่และวันที่ ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์บางอย่างที่กล่าวถึงในนั้น และแนวคิดเรื่อง "การสำแดงของพระเจ้า" ^[17]

ผลงานตีพิมพ์ครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายของเขาเป็นบทความเชิงปรัชญาชื่อ“Knowing the Spirit” (Maʻrifat al-rūḥ)ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1969 และบรรยายถึงแนวคิดของเขาเกี่ยวกับการดำรงอยู่และความเป็นอมตะของวิญญาณ ตลอดจนกระบวนการค่อยเป็นค่อยไปของวิญญาณในการเติบโตและสมบูรณ์แบบ^[18]

เอลาฮี เล่นทันบูร์

การแสดงด้นสดใน Bâbâ Jalili

ข้อความบางส่วนจากเพลงในซีดีDestinations

---

ห้องชุดซาฮารี

ข้อความบางส่วนจากเพลงในซีดีThe Celestial Music ของ Ostad Elahi

---

มีปัญหาในการเล่นไฟล์เหล่านี้หรือไม่ ดูความช่วยเหลือเกี่ยวกับสื่อ

สำหรับเอลาฮี ดนตรีเป็นสื่อที่ใช้ในการพิจารณาและสวดมนต์เป็นหลัก เขาไม่เคยแสดงต่อหน้าสาธารณชนและไม่เคยบันทึกเสียงดนตรีของเขาในสถานที่ทำงาน^[19]

ดนตรีของเอลาฮีมีรากฐานมาจากประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการสวดเพลงจังหวะและการสวดบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ในงานชุมนุมทางศาสนา โดยมีเครื่องดนตรีต่างๆ ประกอบ เช่นทันบูร์ (พิณโบราณ) เนย์ (ขลุ่ย) และดาฟ (กลองกรอบ) ^[20]

เอลาฮีเริ่มเล่นทัมบูร์ตั้งแต่อายุหกขวบและได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมาจารย์ด้านทัมบูร์เมื่ออายุได้เก้าขวบ^[21]ในที่สุดเขาก็ได้ฟื้นคืนศิลปะโบราณนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยแต่งเพลงต้นฉบับกว่า 100 ชิ้นที่เขาใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการแสดงด้นสด^[22]การประดับประดาดนตรีและเทคนิคการเล่นที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทั้งห้านิ้วของมือทั้งสองข้าง รวมถึงการดัดแปลงเครื่องดนตรีด้วยกายภาพของเขาเอง นั่นคือ การเพิ่มสายสูงเป็นสองเท่าเพื่อเพิ่มการแสดงออกอย่างมาก ทำให้เขาได้รับชื่อเสียงในฐานะผู้ริเริ่มรูปแบบศิลปะนี้และปรมาจารย์ด้านทัมบูร์^[23]

นับตั้งแต่การฉลองครบรอบ 100 ปีของเขาในปี 1995 ซีดีเพลงของเขา 11 แผ่นก็ได้ถูกวางจำหน่าย^[24]การบันทึกต้นฉบับส่วนใหญ่ทำโดยใช้เครื่องบันทึกเทปโมโนพื้นฐานในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 ในบริบทของการพบปะสังสรรค์แบบไม่เป็นทางการกับครอบครัวและเพื่อนฝูง เทปเหล่านี้ได้รับการรีมาสเตอร์และกู้คืนในรูปแบบดิจิทัลแล้ว^[25]

ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของดนตรีของ Elahi คือการใช้การแสดงสด โดยเขาจะประสานเพลงที่มีจังหวะและจังหวะที่หลากหลายเข้าด้วยกันในขณะที่ยังคงรักษาความเป็นหนึ่งเดียวกัน เอาไว้ ^[26]หนึ่งในผลงานดังกล่าวคือImprovisations in Baba Jalili ในเพลงที่สี่ ตามด้วย Suite Zang-e Shotori ในเพลงที่สองซึ่งอยู่ในซีดีDestinations ( Le Chant du Monde , 2008) ซึ่งเป็นตัวอย่างของลักษณะนี้ ในที่นี้ Elahi สลับไปมาระหว่างทำนองที่แตกต่างกันหลายเพลงและผสมจังหวะของทำนองหนึ่งเข้ากับอีกทำนองหนึ่ง^[27]

การเล่นดนตรีทัมบูร์ของเอลาฮียังเป็นที่รู้จักจากการใช้ลวดลายที่ซับซ้อนและความหนาแน่นของโน้ต โดยบางครั้งจะเล่นโน้ตได้มากถึง 12 โน้ตต่อวินาที^[28]ลักษณะเหล่านี้ปรากฏชัดใน เพลง Suite SahariจากซีดีThe Celestial Music of Ostad Elahi (Le Chant du Monde, 2004) ซึ่งเป็นเพลงที่เล่นในยามรุ่งสางเพื่อปลุกนักบวชดารวิชให้สวดมนต์^[29]

Elahi สอนทักษะทั้งหมดของเขาสำหรับทัมบูร์เป็นการส่วนตัวแก่ลูกชายคนเล็กของเขา ดร. Chahrokh Elahi ^{[30] [31]}ซึ่งได้บันทึกทักษะทั้งหมดไว้ในวิดีโอเพื่อสาธิตสไตล์และเทคนิคของ Elahi ^[32]

ในช่วงหลังของชีวิต เอลาฮีถูกรายล้อมไปด้วยบุคคลที่มีภูมิหลังและความสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ไม่เชื่อในพระเจ้าที่มาเพื่อร่วมอภิปราย นักดนตรีที่ขอคำแนะนำในประเด็นทางเทคนิค นักวิชาการที่ต้องการขยายขอบเขตการวิจัยของเขา ชาวบ้านหรือผู้แสวงหาคำแนะนำทางจิตวิญญาณ เขาต้อนรับพวกเขาทุกคนและสละเวลาเพื่อตอบคำถามของแต่ละคน^[33]

Elahi แต่งงานแล้วและมีลูกชายสามคน (Amin, Bahram และ Chahrokh) และลูกสาวสามคน (Fatemeh "Fati" Nemati, Farkhondeh และ Gita)

เอลาฮีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2517 ขณะมีอายุได้ 79 ปีในอิหร่าน อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเขาในฮัชต์เกิร์ด เมืองชนบท ที่ตั้งอยู่ชานเมืองเตหะราน^[34]

หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2518 ปรัชญาและการสอนของเขาได้รับการสืบต่อโดยศาสตราจารย์บาห์ราม เอลาฮี (เกิดในปีพ.ศ. 2474) บุตรชายของเขา ซึ่งเป็นอดีตศัลยแพทย์เด็กและคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มที่วิเคราะห์และขยายความเกี่ยวกับแนวคิดนี้^[35]

นูร์ อาลีเกิดมาพร้อมกับชื่อ "ฟาตอลลาห์" ชื่อเล่นในวัยเด็กของนูร์ อาลีคือ "กุเชก อาลี" ^[36]เมื่ออายุได้ 11 ปี เขาได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณระหว่างการบำเพ็ญตบะกับพ่อของเขา ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเด็กเป็น "ซายิด นูร์ อาลี" ^[37]ในปี 1941 ขณะที่ทำงานเป็นอัยการสูงสุดในโครัมมาบาด นูร์ อาลีได้เปลี่ยนชื่อสกุลของเขาเป็น "เอลาฮี" ตามกฎหมาย^[38]

หลังจากที่เขาเสียชีวิต น้องสาวของเขาMalak Jân Nemati (หรือที่รู้จักในชื่อ Malak Jân, Sheikh Jâni และ Jâni Jân) ^[39]ได้เข้ามารับผิดชอบในการสืบสานมรดกของเขา^[40]ตามธรรมเนียมในการเรียกผู้อาวุโสด้วยความเคารพ Malak Jân เรียกพี่ชายของเธอว่า " Hazrat Ostad " เป็นเวลา 20 ปีขณะที่เธออธิบายคำสอนของเขาต่อไป

เมื่อคณะกรรมการจัดงานรำลึกครบรอบ 100 ปีของเขา^[41]วางแผนจัดงานรำลึกในปี 1995 ในปารีส ลอนดอน นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส และเตหะราน พวกเขาต้องแปลชื่อ "Hazrat-e Ostad" เป็นภาษาตะวันตก อย่างไรก็ตาม การแปลชื่อนี้ตามตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษขัดแย้งกับชื่อเสียงของ Elahi ในด้านความอ่อนน้อมถ่อมตน (ตัวอย่างเช่น His Highness หรือ Majesty Master Nur Ali Elahi) ด้วยอนุญาตจากครอบครัวของเขา คณะกรรมการจึงใช้ชื่อ "Ostad Elahi" เพื่อรักษาความเคารพที่น้องสาวของเขาตั้งใจไว้และเพื่อสื่อว่าเขาเป็นนักดนตรีฝีมือเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ หนังสือและบทความส่วนใหญ่ที่เขียนเกี่ยวกับเขาตั้งแต่ปี 1995 จึงใช้ชื่อ "Ostad Elahi" ^{[42] [43]}

เอลาฮีใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตและงานของเขาในการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับตนเองและลัทธิลึกลับ ในปี 1995 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีวันเกิดของเขา ได้มีการจัดการประชุมสัมมนาขึ้นที่มหาวิทยาลัยในปารีส ลอนดอน ลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ นิติศาสตร์ วรรณกรรม และดนตรีได้มารวมตัวกันเพื่อสะท้อนถึงหัวข้อ "จิตวิญญาณ: ความหลากหลายและความสามัคคี" มีการบรรยายและโต๊ะกลมในหัวข้อต่างๆ รวมถึงความสามัคคีของศาสนา จริยธรรมและนิติศาสตร์ วิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณ และความเกี่ยวข้องของลัทธิลึกลับร่วมสมัย^[44]

ภายใต้การอุปถัมภ์ของUNESCOและกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศสและร่วมมือกับ Academy of Paris นิทรรศการ "ชีวิตและผลงานของ Ostad Elahi" ที่ Chapelle de la Sorbonne ในปารีสเป็นเวลาสองเดือนจัดขึ้นพร้อมกันที่ Chapelle de la Sorbonne ในปารีสตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนถึง 31 ตุลาคม 1995 ^[45]นิทรรศการแบ่งออกเป็นสามส่วนที่ติดตามลำดับเหตุการณ์ในชีวิตของเขา: Dawn (1895–1920), Rising Sun (1920–1957) และ Full Sun (1957–1974) แต่ละช่วงเวลาเหล่านี้ได้รับการอธิบายโดยชุดข้อความ ภาพถ่าย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับชีวประวัติ และสิ่งของส่วนตัว ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เข้าชมได้รู้จักกับ Elahi และช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตของเขา^[46]

นิทรรศการยังจัดแสดงห้องดนตรีที่เต็มไปด้วยเสียงทำนองที่แต่งและบรรเลงโดยเอลาฮี ดนตรีนี้ซึ่งก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับการสวดมนต์ ได้นำมาแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในโอกาสนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงคอลเลกชั่นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของเอลาฮีและพ่อของเขา รวมถึงทัมบุร์เซตาร์และดาฟ ในห้องนี้ด้วย^[47]

ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2014 ถึง 11 มกราคม 2015 นิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน ชื่อว่าThe Sacred Lute: The Art of Ostad Elahiจัดแสดงภายใต้การอุปถัมภ์ของUNESCOสำรวจความคล้ายคลึงระหว่างการเล่นเครื่องดนตรีทัมบูร์ ของเขา และแนวทางของเขาในการแสวงหาความจริงและการรู้จักตนเอง^{[48] [49]}

• ถ้อยคำแห่งศรัทธา: คำอธิษฐานของ Ostad Elahi (ปารีส: Robert Laffont, 1995) ISBN 978-2-911331-02-2 
• 100 แนวทางสูงสุด บทนำโดยบาห์ราม เอลาฮี (ปารีส: โรเบิร์ต ลาฟฟงต์, 1995) ไอ978-2-911331-00-8 
• รู้จักวิญญาณแปลและมีคำนำโดยเจมส์ วินสตัน มอร์ริส (ออลบานี: SUNY Press, 2007) ISBN 978-0-7914-6858-6 

• ความเชื่อมั่น Prières d'Ostad Elahi [ ถ้อยคำแห่งศรัทธา: คำอธิษฐานของ Ostad Elahi ] (โรเบิร์ต ลาฟฟอนต์, 1995) ไอ978-2-221-08205-8 
• 100 แนวทางสูงสุด [ 100 แนวทางสูงสุด ] (โรเบิร์ต ลาฟฟอนต์, 1995) ไอ978-2221082065 
• Connaissance de l'âme [ การรู้จักวิญญาณ ] แปลโดยคลารา เดวิลล์ (L'Harmattan, 2001) ไอ2-7475-0452-2 
• Paroles de Vérité [ คำแห่งความจริง ] แปลโดยไลลี อันวาร์ (ปารีส: อัลบิน มิเชล, 2014) ISBN 978-2-226-253910 
• Maximes de Guidance: Principes de Sagesse Universelle [ Maxims of Guidance: Principles of Universal Wisdom ] (พ็อกเก็ต อโกรา, 2558) ไอ978-2266227773 

• Pensieri di Luce [ 100 แนวทางสูงสุด ] (มอนดาโดริ, 2000) ไอ978-88-04-44810-5 

• บอร์ฮัน-อล ฮักก์ ( เปอร์เซีย : برهان الحق ) [ การสาธิตความจริง ] ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 (อามีร์ กาบีร์, 1963)
• Haqq-ol Haqaiq ( Persian : حق الحقايق ) [ ความเห็นเกี่ยวกับ Shahnameh Haqiqat (หนังสือแห่งราชาแห่งความจริง) ] (Husseini, 1967)
• Ma'refat-ol Ruh ( เปอร์เซีย : معرفت الروح ) [ รู้จักจิตวิญญาณ ] ฉบับพิมพ์ครั้งแรก (Tahuri, 1969)
• Asar-ol Haqq ( เปอร์เซีย : آثارالحق ) [ ร่องรอยแห่งความจริง ] เอ็ด บี. เอลาฮี. เล่มที่ 1 (Jeyhun, 1978)
• Asar-ol Haqq ( เปอร์เซีย : آثارالحق ) [ ร่องรอยแห่งความจริง ] เอ็ด บี. เอลาฮี. เล่มที่ 2 (Jeyhun, 1992)
• Bargozideh ( เปอร์เซีย : برگزیده ) [ พระคำแห่งความจริง ] เอ็ด บาห์ราม เอลาฮี. (นาชรอีปันจ์, 2552)

• Malak Jan Nemati: ชีวิตไม่สั้น แต่เวลาจำกัด . Leili Anvar. (นิวยอร์ก: Arpeggio Press, 2012). ISBN 978-0-9834320-2-9 
• การรู้จักตนเองและการปฏิบัติจริยธรรม: แนวคิดเรื่อง "ตัวตนที่มีอำนาจ" ของ Ostad Elahi . Elie During. (2011). วารสารของ New York Academy of Sciences, 1234: 149–157. doi: 10.1111/j.1749-6632.2011.06203.x
• การเปลี่ยนมุมมอง: การเปลี่ยนมุมมองของคุณเพื่อผลลัพธ์เชิงบวก Olivier Brizevac และ Emmanuel Comte แปลโดย Benjamin Ivry (นิวยอร์ก: Paraview, 2007) ISBN 978-0-9764986-5-0 
• Ostad Elahi ว่าด้วยจิตวิญญาณในชีวิตประจำวันโดย James W. Morris (การบรรยายสาธารณะที่จัดขึ้นที่ University of California at Santa Barbara ภาควิชาศาสนา 2 พฤษภาคม 2550)
• การเอาชนะความอิจฉาริษยา . Beatrice Guernier และ Agnes Rousseau แปลโดย Benjamin Ivry (นิวยอร์ก: Paraview, 2006) ISBN 978-0-9764986-4-3 
• เส้นทางแห่งความสมบูรณ์แบบ . Bahram Elahi (นิวยอร์ก: Paraview, 2005) ISBN 978-0-9764986-0-5 
• แนวทาง: ความคิดอิสลามในอารยธรรมโลกเจมส์ วินสตัน มอร์ริส (ลอนดอน: Archetype, 2004) ISBN 978-1-901383-10-2 
• จิตวิญญาณแห่งเสียง: ศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ostad Elahiโดย Jean During (นิวยอร์ก: Cornwall Books, 2003) ISBN 978-0-8453-4884-0 
• ยาแห่งจิตวิญญาณ: รากฐานของจิตวิญญาณตามธรรมชาติ . Bahram Elahi (นิวยอร์ก: Cornwall Books, 2001) ISBN 978-0-8453-4875-8 
• จิตวิญญาณคือวิทยาศาสตร์: รากฐานของจิตวิญญาณตามธรรมชาติ Bahram Elahi (นิวยอร์ก: Cornwall Books, 1999) ISBN 978-0-8453-4868-0 
• รากฐานของจิตวิญญาณตามธรรมชาติ: แนวทางทางวิทยาศาสตร์ต่อธรรมชาติของจิตวิญญาณ Bahram Elahi (ดอร์เซ็ต: Element Books, 1998) ISBN 978-1-86204-238-4 
• “การประชุมสัมมนาเรื่องจิตวิญญาณเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ Ostad Elahi” ใน UNESCO News เล่ม 2 ฉบับที่ 6 (10 พฤศจิกายน 1995)
• ชีวิตและผลงานของ Ostad Elahiกำกับโดย Marion Sarraut (วิดีโอเผยแพร่เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของเขาในปี 1995)
• “Unicity” คอลเล็กชันภาพถ่ายของ Ostad Elahi 1895-1974 [เล่มฉลองครบรอบ 100 ปี] (ปารีส: Robert Laffont, 1995) ISBN 978-2-911331-01-5 
• วิถีแห่งแสงสว่างโดย Bahram Elahi (ดอร์เซ็ท: Element Books, 1993) ISBN 978-1-85230-381-5 

• Fondamentaux du perfectionnement Spirituel; เลอ ไกด์ แพรทีค บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: เดอร์วี, 2019) ISBN 979-10-242-0412-3 
• La Voie de la Perfection: บทนำ á la pensée d'Ostad Elahi บาห์รัม เอลาฮี (ปารีส: อัลบิน มิเชล, 2018) ISBN 978-2-226-40050-5 
• Ostad Elahi และประเพณี: Droit, ปรัชญา และความลึกลับในอิหร่าน – เล่มที่ 1 เอส. มาริน (Bruxelles: editions Safran, 2011) ISBN 978-2-87457-037-7 
• Ostad Elahi และความทันสมัย Droit นักปรัชญาและผู้พิพากษาในอิหร่าน – เล่มที่ 2 เอส. มาริน (Bruxelles: editions Safran, 2011) ISBN 978-2-87457-038-4 
• Vérité และ jugement: Ostad Elahi, juge และ philosophe iranien (1895–1974 ) ส. มาริน. Thèse de l'Université de Paris-X, นองแตร์ (2549)
• Ostad Elahi et les droits de l'homme: Ethique et modernité , ใน Le Code Civil et les droits de l'homme, textes réunis et publiés par Jean-Luc Chabot, Philippe Didier, Jérôme Ferrand, (ปารีส: L'Harmattan, 2005) ) หน้า 418–434. ไอ2-7475-8893-9 
• Une philosophie du ddroit ใน อิสลาม? เป็นตัวอย่างของชาวอิหร่าน , Journées de la recherche en théorie et philosophie juridiques et politiques, p. 23
• ลา วอย เดอ ลา เพอร์เฟคชั่น บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: อัลบิน มิเชล, 2002) ISBN 978-2-226-13260-4 
• L'éveil de l'intelligence Spirituelle และ les dimensions du processus éthique selon Ostad Elahi เจมส์ วินสตัน มอร์ริส. ใน Dieu at-il sa place dans la ethique?, เอ็ด. จ. ระหว่าง, 86–99. (ปารีส: L'Harmattan, 2002) ISBN 2-7475-2168-0 
• L'âme des sons . ฌอง ระหว่าง. (กอร์เดส: Editions du Relié, 2001) ไอ978-2-909698-71-7 
• Le rôle de la traduction et de l'interprétation du droit en อิหร่าน dans la première moitié du XXème siècle: l'exemple d'Ostad Elahi (1895–1974) , S. Marin และ F. Ameli. Droit et Cultures, Revue trimestrielle d'anthropologie et d'histoire, publiée avec le concours du CNRS, 44/2001, หน้า 183–201
• ยาเดอลาม . บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: Editions Dervy, 2000) ไอ978-2-84454-023-2 
• La Spiritité est une วิทยาศาสตร์ . บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: Editions Dervy, 1997) ไอ978-2-85076-927-6 
• Fondements de la Spiritualité เนตูเรล บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: Editions Dervy, 1996) ไอ978-2-85076-860-6 
• Le Spirituel: Pluralité et Unité [ Acta ของการประชุมสัมมนา "จิตวิญญาณ: พหูพจน์และความสามัคคี" ] (Presses de l'Université de Paris-Sorbonne, 1996)
• ลา เพนซี โดสตัด เอลาฮี เจมส์ วินสตัน มอร์ริส. ใน Le Spirituel: pluralité et unité, actes du symposium (Cahiers d'Anthropologie Religieuse, ed. M. Meslin, เล่มที่ 5), 137-147 (Presses de l'Université, 1996)
• De l'unité des ศาสนา . อังเดร ชูรากี้. Cahiers d'Anthropologie Religieuse, n° 5, ภายใต้การดูแลของศาสตราจารย์ Michel Meslin, University of Paris-Sorbonne Press, 1996, หน้า 25–33, 187–88
• จริยธรรมและความคิด F. Terre, Symposium ใน French Supreme Court (กันยายน 1995), ใน Cahiers d'Anthropologie Religieuse, n° 5, ภายใต้การดูแลของศาสตราจารย์ Michel Meslin, University of Paris-Sorbonne Press, 1996, หน้า 179–186
• ดนตรีและ Mystique Dans Les Traditions de L' Iran ฌอง ระหว่าง. (ปารีส: Institut français de recherche en อิหร่าน, 1989) ISBN 978-90-6831-191-4 
• เลอ เชอมิน เดอ ลา ลูมิแยร์ บาห์ราม เอลาฮี. (ปารีส: อัลบิน มิเชล, 1985) ISBN 978-2-226-02467-1 

• เมดิซิน เดอร์ ซีเลอ . บาห์ราม เอลาฮี. (เวียนนา: Ibera Verlag, 2007) ISBN 978-3-85052-157-4 
• จิตวิญญาณคือ eine Wissenschaft บาห์ราม เอลาฮี. (เวียนนา: Ibera Verlag, 2001) ISBN 978-3-85052-112-3 
• กรุนด์ลาเกน นาตูร์ลิเชอร์ จิตวิญญาณ . บาห์ราม เอลาฮี. (เวียนนา: Ibera Verlag, 1999) ISBN 978-3-900436-85-8 
• เว็ก และ โวลเลนดุง . บาห์ราม เอลาฮี. (มิวนิค: เฮย์น, 1995) ISBN 978-3-453-08744-6 

• ลา เวีย เดลลา เพอร์เฟซิโอเน บาห์ราม เอลาฮี. (แอสโตรลาบิโอ อูบัลดินี, 2004) ISBN 978-88-340-0699-3 

• โดรกา โด ดอสโกนาวอวอชชี บาห์ราม เอลาฮี. (วอร์ซอ: Nowe Wydawnictwo Polskie, 1991) ISBN 978-83-85135-07-4 

• Ή ὁδὸς τῆς τεлειότητας . บาห์ราม เอลาฮี. (Εκάτη, 1994)

• ดนตรีสวรรค์ของ Ostad Elahi (1996), CMT 774 1026 Le Chant du Monde (เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1995 ในชื่อดนตรีสวรรค์ของ Ostad Elahi Vol. I )
• บทสนทนากับผู้เป็นที่รัก (1997), CMT 774 1100 Le Chant du Monde (เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1995 ในชื่อThe Celestial Music of Ostad Elahi Vol. II )
• เส้นทางแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ (1997), CMT 774 1083 Le Chant du Monde
• มหากาพย์แห่งจิตวิญญาณ (1998), CMT 774 1432 Le Chant du Monde
• ประสานเสียงสวรรค์ (1999), CMT 774 1122 Le Chant du Monde
• Orison ลึกลับ (2000), CMT 774 1137 Le Chant du Monde
• คาสเคด (2002), CMT 774 1150 เลอชานต์ดูมงด์
• แดนสวรรค์ (2548), CMT 774 1327 Le Chant du Monde
• จุดหมายปลายทาง (ซีดีคู่) (2008), CMT 774 1626 Le Chant du Monde
• การแสดงตน (2014), CMT 774 2300 Le Chant du Monde
• ลูทศักดิ์สิทธิ์: ศิลปะของ Ostad Elahi (ซีดีคู่) (2014), CMT 874 2259 Le Chant du Monde และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน
• การตื่นขึ้น (2014), CMT 774 2367 Le Chant du Monde
• ความยืดหยุ่น (2019), Le Chant du Monde – Harmonia Mundi / พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิตัน
• Mon Commencement et Ma Fin (2019), Le Chant du Monde – Harmonia Mundi / พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับออสตาด เอลาฮี

• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
• มูลนิธิโอสตาด เอลาฮี
• ออสตาดเอ็กซ์โปดอทคอม
• Ostad Radio: สถานีวิทยุที่เปิดเพลงของ Elahi ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
• การสนทนากับโอสตัด เอลาฮี
• อี-ออสตาเดลาฮิดอทคอม
• โอสตาด เอลาฮี ยูนิซิตี้