เจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ๊อด ศุภมิตร)
พระตำรวจเอก นายพลตรี เจ้าพระยาราชศุภมิตร | |
---|---|
เกิด | 8 มกราคม พ.ศ. 2398 |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงแปลก หม่อมกอง |
บุตร | 2 |
บิดามารดา |
|
พระตำรวจเอก นายพลตรี เจ้าพระยาราชศุภมิตร นามเดิม อ๊อด เป็นขุนนางชาวสยาม ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น องคมนตรี ราชองครักษ์พิเศษ สมุหพระตำรวจ ต้นสกุลศุภมิตร[1]
ประวัติ
เจ้าพระยาราชศุภมิตร มีนามเดิมว่าอ๊อด เป็นบุตรพระมหาสงคราม (ศุข) กับท่านเป้า ธิดาพระยาศรีอรรคราชนารถภักดี (เมือง บุรานนท์) เกิดเมื่อวันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2398 ปีเถาะ[2]
ปี พ.ศ. 2411 ได้เข้ารับราชการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งมหาดเล็กวิเศษ เวรฤทธิ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2427 ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นหลวงศิลปสารสราวุธ ถือศักดินา 800[3]ถึงปี พ.ศ. 2428 เลื่อนเป็นจมื่นวิชิตไชยศักดาวุธ ถือศักดินา 1000[4]ต่อมาในปี พ.ศ. 2430 ได้รับพระราชทานยศ "พันตรี" ถือศักดินา 1500[5]และในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435 ได้เลื่อนเป็นพระราชวัลภานุสิษฐ์ มีตำแหน่งราชการในกรมยุทธนาธิการ ถือศักดินา 1,000[6] โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์ประจำการในตำแหน่ง ผู้บังคับการกองทหารมหาดเล็ก[7]
วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2437 ได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีพร้อมทั้งเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์เป็นนายพันโท พระยาราชวัลภานุสิษฐ์ มีตำแหน่งราชการในกรมยุทธนาธิการ ถือศักดินา 1,500[8] ปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์ประจำรักษาพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร[9] อยู่ตลอดเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ส่งสัญญาบัตรไปพระราชทาน พระยาราชวัลภานุสิษฐ์ เป็น นายพันเอก[10] ต่อมาทรงสำเร็จการศึกษาแล้วเสด็จกลับมาประทับ ณ พระนคร ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นลำดับจนถึงนายพลตรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2446[11]และพ้นจากหน้าที่ราชองครักษ์ประจำการเพราะครบกำหนดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446[12]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ถือน้ำตั้งเป็นองคมนตรีในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2453[13] และราชองครักษ์ประจำการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2453[14] ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นสมุหพระตำรวจตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 แทนพระยาอนุชิตชาญไชย (สาย สิงหเสนี) ที่ลาออกด้วยปัญหาสุขภาพ[15] วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2461 ได้เลื่อนยศเป็นพระตำรวจเอก[16] และในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 ทรงสถาปนาเป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในหิรัญบัฏว่า เจ้าพระยาราชศุภมิตร์ วัลลภานุศิษฏ์สุรเสนี เทพวัชรีศรีมหาสวามิภักดิ์พิเศษ วิเทศจิรวาสีอัคระวราภิบาล สุจริตไพศาลสุนทรพจน์ อดุลยยศราชองครักษ์ อัคระรัตนไตรยสรณธาดา เมตตาชวาธยาศัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ ถือศักดินา 10,000[17]
ถึงต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาราชศุภมิตรได้ขอลาออกจากราชการ แต่ทรงตั้งท่านเป็นผู้กำกับการกรมพระตำรวจหลวงและพระราชทานเบี้ยบำนาญเป็นกรณีพิเศษ[18]
เจ้าพระยาราชศุภมิตร ป่วยด้วยโรคชรา ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2472 ปีมะเส็ง สิริอายุ 74 ปี ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ชั้นรอง 2 ชั้น ฉัตรเบญจา 4 คัน ประกอบศพเป็นเกียรติยศ[19] ได้รับพระราชทานเพลิงศพในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2473 ณ เมรุวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
ยศ
- นายหมู่ตรี
- 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 - นายหมู่เอก[20]
- นายกองเอก
- 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2463 - นายกองใหญ่[21]
ครอบครัว
เจ้าพระยาราชศุภมิตร สมรสกับท่านผู้หญิงแปลก ในปี พ.ศ. 2438 มีบุตรได้แก่ นางวิมลา บุรานนท์ ซึ่งสมรสกับนายประจวบ บุรานนท์ มีบุตรสามคน คือ
- พล.ต.ต. อังกูร บุรานนท์
- นายประวิตร บุรานนท์
- นายทนง บุรานนท์
เจ้าพระยาราชศุภมิตร มีภรรยาอีกหนึ่งคนคือหม่อมกอง และมีบุตรชายคือมหาเสวกเอก พระยาสมบัติบริหาร (เอื้อ ศุภมิตร)[18] ซึ่งส่งไปศึกษาเรื่องป่าไม้ที่ประเทศอินเดีย และรับราชการในกรมป่าไม้ ต่อมาได้เป็นพระยาพระคลังข้างที่ สมรสกับคุณหญิงฟองแก้ว บุตรีหลวงโยธการพิจิตร (หม่องปันโหย่ว) เจ้าของสัมปทานป่าไม้ของเชียงใหม่และกาดต้นลำไย เรือนโบราณในโรงแรมเพชรงาม จ.เชียงใหม่ ร้านอาหารเฮือนโบราณ มีบุตรคือ
- นางสุมิตรา และ
- ร.ต. อานนท์ ศุภมิตร สมรสกับท่านผู้หญิงพึงจิตต์ คุณข้าหลวงผู้ใหญ่ในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ (บุตรีหลวงพลหาญสงคราม (จิตร อัคนิทัต) กับนางไสว อัคนิทัต) มีบุตรี 1 คน คือ ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2557 ดร.จินตนันท์ มีบุตรี 1 คนคือ ด.ญ.โสภิภาส์ ศุภมิตร ไล
ร.ต อานนท์ ศุภมิตร มีบุตรจากการสมรสครั้งก่อนๆ คือ 1 นางอรอนงค์ -เรือเอกวินัย มงกุฎทอง 2 นางอังศณา -มร. คาส อดัม 3 นายอดิศร ศุภมิตร 4 นายศศิพงษ์ -นางรดา ศุภมิตร 5. นางอุมาภรณ์ เลสลี 6. นายศิริชัย-นางพนิดา ศุภมิตร
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2454 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ (ร.ว.) (ฝ่ายหน้า)[22]
- พ.ศ. 2463 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[23]
- พ.ศ. 2436 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[24]
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงมุรธาธร เรื่อง ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ 1, เล่ม 30, ตอน 0 ง, 26 มิถุนายน พ.ศ. 2456, หน้า 650
- ↑ เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 200
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร ตั้งตำแหน่ง (หน้า 285 ลำดับที่ 294)
- ↑ สัญญาบัตรปีระกาสัปตศก
- ↑ ข่าวพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนตำแหน่งข้าราชการ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง, เล่ม 9, ตอน 35, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435, หน้า 291
- ↑ ประกาศกรมยุทธนาธิการ ศาลายุทธนาธิการ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ทรงตั้งองคมนตรีและพระราชทานสัญญาบัตร เครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม 11, ตอน 45, 3 กุมภาพันธ์ ร.ศ.113, หน้า 382-3
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, กราบถวายบังคมลา, เล่ม 11, ตอน 45, 3 กุมภาพันธ์ ร.ศ.113, หน้า 383
- ↑ ส่งสัญญาบัตร์ทหารไปพระราชทาน
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกรมยุทธนาธิการ เรื่อง ให้พระยารามกำแหง เป็นผู้บัญชาการทหารบก มณฑลกรุงเทพ ฯ ให้พระพิเรนทรเทพ เป็นราชองครักษ์ประจำการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเปลี่ยนพระยาราชวัลภานุสิษฐ์, เล่ม 20, ตอน 49, 6 มีนาคม พ.ศ. 2446, หน้า 835-6
- ↑ "บัญชีพระนามและนามองคมนตรี ที่พระราชทานสัญญาบัตรแล้ว" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 27 (ตอน 0 ง): หน้า 2276. 1 มกราคม ร.ศ. 129. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกรมยุทธนาธิการ เรื่อง ให้นายพันโท พระยาอภัยพลภักดิ์ ออกจากตำแหน่งราชองครักษ์ประจำการ และรับพระราชทานเบี้ยบำนาญตามพระราชบัญญัติให้นายพลตรี พระยาราชวัลภานุศิษฎ์เป็นราชองครักษ์ประจำการ, เล่ม 27, ตอน 0 ง, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453, หน้า 2012
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระยาอนุชิตชาญไชย ลาออกจากตำแหน่ง สมุหพระตำรวจ และตั้งพระยาราชวัลภานุศิษฎ์ เป็นสมุหพระตำรวจแทน, เล่ม 29, ตอน ก, 30 มีนาคม พ.ศ. 2455, หน้า 294-5
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเลื่อนยศข้าราชการกรมพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์, เล่ม 35, ตอน ง, 5 มกราคม พ.ศ. 2461, หน้า 2707
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรมและตั้งเจ้าพระยา, เล่ม 37, ตอน 0 ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463, หน้า 297-300
- ↑ 18.0 18.1 เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 203
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวถึงอสัญญกรรม, เล่ม 46, ตอน ง, 28 เมษายน พ.ศ. 2472, หน้า 249-251
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรเสือป่า
- ↑ พระราชทานยศนายเสือป่า (หน้า ๔๑๔๐)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๒๙๑, ๑๗ กันยายน ๑๓๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๘๐๓, ๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐ ตอนที่ ๔๑ หน้า ๔๕๔, ๗ มกราคม ๑๑๒
- บรรณานุกรม
- สมมตอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 404 หน้า. หน้า 200-3. ISBN 974-417-534-6
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2398
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2472
- บรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยา
- องคมนตรีในรัชกาลที่ 5
- องคมนตรีในรัชกาลที่ 6
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ร.ว.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ว.ภ.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ว.ม.ล.
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ว.ป.ร.1
- ผู้ได้รับเหรียญ ร.ด.ม.(พ)
- ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา
- ผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์
- วงศ์เฉกอะหมัด
- สมาชิกกองเสือป่า