ข้ามไปเนื้อหา

การถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจมส์ เคอร์ติส เฮปเบิร์น ผู้คิดค้นการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น

การถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น (ญี่ปุ่น: ヘボン式ローマ字โรมาจิHebon-shiki rōmaji; "อักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น") เป็นระบบการถอดเป็นอักษรโรมันสำหรับภาษาญี่ปุ่น เผยแพร่ครั้งแรกใน ค.ศ. 1867 โดยมิชชันนารีชาวอเมริกัน เจมส์ เคอร์ติส เฮปเบิร์น เพื่อเป็นมาตรฐานในพจนานุกรมภาษาญี่ปุ่น–ภาษาอังกฤษ ฉบับแรกของเขา[1] ระบบนี้แตกต่างจากวิธีการถอดเป็นอักษรโรมันอื่น ๆ อย่างชัดเจนที่การใช้อักขรวิธีภาษาอังกฤษในการถอดเสียงตามหลักสัทศาสตร์ เช่น สระ [ɕi] () ถอดเป็น shi และ [tɕa] (ちゃ) ถอดเป็น cha ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการสะกดแบบภาษาอังกฤษของระบบนี้ (เมื่อเปรียบเทียบกับการถอดเป็น si และ tya ในระบบนิฮงชิกิและคุนเรชิกิที่มีความเป็นระบบมากกว่า)[2]

ใน ค.ศ. 1886 เฮปเบิร์นตีพิมพ์พจนานุกรมฉบับที่สามของเขา โดยจัดระเบียบแบบทบทวนใหม่ซึ่งเป็นที่รู้จักในทุกวันนี้คือ "เฮปเบิร์นแบบดั้งเดิม" และใน ค.ศ. 1908 เขาตีพิมพ์แบบทบทวนเพิ่มเติมหรือที่รู้จักกันในชื่อ "เฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติม"[3]

แม้ว่าการถอดเป็นอักษรโรมันแบบคุนเรชิกิจะได้รับการยอมรับโดยรัฐบาลญี่ปุ่น แต่เฮปเบิร์นยังคงเป็นวิธีการถอดเป็นอักษรโรมันของภาษาญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมมากที่สุด มีการเรียนการสอนโดยใช้ระบบเฮปเบิร์นในนักเรียนภาษาต่างชาติ และมีการใช้ระบบนี้ในการถอดชื่อ สถานที่ และข้อมูลอื่น ๆ เป็นอักษรโรมัน อาทิ ตารางการเดินรถไฟและป้ายถนน เนื่องด้วยระบบนี้ใช้อักขรวิธีที่อิงจากอักขรวิธีภาษาอังกฤษแทนการการถอดเสียงอย่างเป็นระบบจากชุดตัวหนังสือพยางค์ภาษาญี่ปุ่น ผู้พูดที่สามารถพูดได้แต่ภาษาอังกฤษหรือกลุ่มภาษาโรมานซ์[โปรดขยายความ] จะพูดได้อย่างถูกต้องกว่าเมื่อต้องออกเสียงคำที่ไม่คุ้นเคยด้วยการถอดเสียงแบบเฮปเบิร์น เมื่อเปรียบเทียบกับระบบอื่น ๆ[4]

แบบ

[แก้]

มีการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์นหลายแบบ โดยสองแบบทั่วไปคือ:

  • เฮปเบิร์นแบบดั้งเดิม (Traditional Hepburn): ตามนิยามในพจนานุกรมของเฮปเบิร์นหลายฉบับ โดยในฉบับที่สาม (ค.ศ. 1886)[5] ระบุว่าการถอดแบบดั้งเดิมเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้[6] (แม้ว่าต้องรับผิดชอบการเปลี่ยนของการใช้คานะ) เฮปเบิร์นแบบดั้งเดิมมีเอกลักษณ์ที่การแทนพยางค์ n ด้วย m ก่อนหน้าพยัญชนะ b, m และ p: เช่น Shimbashi สำหรับคำว่า 新橋
  • เฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติม (Modified Hepburn) หรือ เฮปเบิร์นทบทวนใหม่ (Revised Hepburn): ยกเลิกการแทนพยางค์ n ด้วย m ก่อนหน้าบางพยัญชนะ (Shinbashi สำหรับคำว่า 新橋) การถอดแบบแก้ไขเพิ่มเติมถูกตีพิมพ์ในฉบับที่สาม (ค.ศ. 1954) และฉบับถัดมาของพจนานุกรมภาษาญี่ปุ่น–ภาษาอังกฤษใหม่ของเค็งกีวชะ มักเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้[7] เฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติมเป็นแบบที่เป็นที่นิยมและถูกนำไปใช้มากที่สุด[8]

ในประเทศญี่ปุ่น มีการกำหนดแบบอย่างเป็นทางการบางส่วนเพื่อนำไปใช้ในหลากหลายการใช้งาน:

  • มาตรฐานการรถไฟ (鉄道掲示基準規程, "Railway Standard")[9] เหมือนเฮปเบิร์นแก้ไขเพิ่มเติม แต่การแทนพยางค์ n ยังคงเหมือนแบบดั้งเดิม กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่นและบริษัทให้บริการรถไฟรายใหญ่อื่น ๆ นำไปใช้เป็นชื่อสถานี
  • ป้ายถนนโรมาจิ (เฮปเบิร์น) (道路標識のローマ字, "Road Sign Romaji (Hepburn)") ใช้สำหรับป้ายบนถนน เหมือนเฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติม แต่ระบุอย่างชัดเจนว่าจะไม่ใช้เครื่องหมายกำกับเสียง (macron)[10]
  • มาตรฐานหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศ (外務省旅券規定, "Ministry of Foreign Affairs Passport Standard")[11] แทนพยางค์ n ด้วย m ก่อนหน้าพยัญชนะ b, m และ p สระเสียงยาวจะไม่มีสัญลักษณ์กำกับ เช่น สระเสียงยาว ō จะถอดเป็นอักษรโรมันด้วย oh, oo หรือ ou (Satoh, Satoo หรือ Satou สำหรับคำว่า 佐藤)

แบบพ้นสมัยแล้ว

[แก้]

ลักษณะ

[แก้]

ในการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น สระผสมที่สร้างเสียงลากยาวมักเขียนแมครอน (◌̄) ประกอบ สระประชิด (adjacent vowel) อื่น ๆ ที่ถูกแยกด้วยขอบเขตหน่วยคำ (morpheme boundary) จะเขียนแยกกัน:

สระที่มีหน่วยคำเดียวกัน
ในเฮปเบิร์นดั้งเดิม[14] ในเฮปเบิร์นแก้ไขเพิ่มเติม[15]
A + A aa: (ばあ)さんobaasan 'ย่า, ยาย'
(ba + a)
ā: (ばあ)さんobāsan 'ย่า, ยาย'
(ba + a)
I + I ii: (にい) (がた)Niigata
(ni + i)
U + U ū: (すう) (がく)sūgaku 'คณิตศาสตร์'
(su + u)
E + E ee: (ねえ)さんoneesan 'พี่สาว'
(ne + e)
ē: (ねえ)さんonēsan 'พี่สาว'
(ne + e)
O + O ō: (とお) (まわ)tōmawari 'ทางเบี่ยง'
(to + o)
O + U ō: (べん) (きょう)benkyō 'การเรียน'
(kyo + u)
สระที่มีหน่วยคำแยกกัน
ในเฮปเบิร์นแบบดั้งเดิม[14] และแบบแก้ไขเพิ่มเติม[15]
A + A aa: (じゃ) (あく)ja + akujaaku 'ชั่วร้าย'
I + I ii: (はい) (いろ)hai + irohaiiro 'สีเทา'
U + U uu: (みずうみ)mizu + umimizuumi 'ทะเลสาบ'
E + E ee: () (えん)nure + ennureen 'เฉลียงแบบเปิด'
O + O oo: () (おど)ko + odorikoodori 'การเต้นอย่างมีความสุข'
O + U ou: () (うし)ko + ushikoushi 'ลูกวัว'

สระผสมอื่น ๆ เขียนแยกกันทั้งหมด:

  • E + I: (せい) (ふく)sei + fukuseifuku 'เครื่องแบบ' (แม้ E + I มักออกเสียงเป็น E ยาว)
  • U + I: (かる)karu + ikarui 'เบา'
  • O + I: (おい)oioi 'หลานชาย'

คำยืม

[แก้]

ในคำยืมต่างประเทศ สระเสียงยาวที่ตามด้วย โชองปุ (ー) จะเขียนแมครอนประกอบ:

  • セーラー: se + (ー) + ra + (ー) = sērā '(ชุด)กะลาสี'
  • タクシー: ta + ku + shi + (ー) = takushī 'แท็กซี่'
  • コンクール: ko + n + ku + (ー) + ru = konkūru 'การแข่งขัน'
  • バレーボール: ba + re + (ー) + bo + (ー) + ru = barēbōru 'วอลเลย์บอล'
  • ソール: so + (ー) + ru = sōru 'ฝ่าเท้า'

สระประชิดในคำยืมจะเขียนแยกกัน:

  • バレエ: ba + re + ebaree 'บัลเลต์'
  • ミイラ: mi + i + ramiira 'มัมมี่'
  • ソウル: so + u + rusouru 'วิญญาณ', 'โซล'

คำช่วย

[แก้]

ในเฮปเบิร์นแบบดั้งเดิมและแก้ไขเพิ่มเติม:

  • เมื่อ ทำหน้าที่เป็นคำช่วย จะเขียนเป็น wa

ในเฮปเบิร์นแบบดั้งเดิม:

  • เมื่อ ทำหน้าที่เป็นคำช่วย เฮปเบิร์นเคยแนะนำให้ใช้ ye[14] ไม่ใช้การสะกดแบบนี้แล้ว และมักเขียนเป็น e แทน[16]
  • เมื่อ ทำหน้าที่เป็นคำช่วย เขียนเป็น wo[14]

ในเฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติม:[15]

  • เมื่อ ทำหน้าที่เป็นคำช่วย, เขียนเป็น e
  • เมื่อ ทำหน้าที่เป็นคำช่วย, เขียนเป็น o

พยางค์ n

[แก้]

ในเฮปเบิร์นแบบดั้งเดิม::[14]

พยางค์ n () เขียนเป็น n ก่อนหน้าพยัญชนะ แต่เขียนเป็น m ก่อน พยัญชนะเสียงริมฝีปาก: b, m, และ p. บางครั้งเขียนเป็น n- (มียัติภังค์) ก่อนหน้าสระ และ y (เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนระหว่างทั้งสอง เช่น んあ n + a และ na, และ んや n + ya and にゃ nya)
  • 案内(あんない): annai – การนำทาง
  • 群馬(ぐんま): Gummaกุมมะ
  • 簡易(かんい): kan-i – ความเรียบง่าย
  • 信用(しんよう): shin-yō – ความเชื่อใจ

ในเฮปเบิร์นแบบแก้ไขเพิ่มเติม:[15]

ยกเลิกการเขียนด้วย m ก่อนหน้าพยัญชนะเสียงริมฝีปาก และแทนด้วยการเขียนเป็น n และยังเขียน n' (มีอะพอสทรอฟี) ก่อนหน้าสระและ y
  • 案内(あんない): annai – การนำทาง
  • 群馬(ぐんま): Gunma – กุมมะ
  • 簡易(かんい): kan'i – ความเรียบง่าย
  • 信用(しんよう): shin'yō – ความเชื่อใจ

พยัญชนะเสียงยาว

[แก้]

เสียงซ้ำพยัญชนะ (geminate consonant sound) จะซ้ำพยัญชนะตัวข้างหน้าที่ตามด้วยโซกูอง () สำหรับพยัญชนะที่เป็นทวิอักษร (digraph) ในเฮปเบิร์น (sh, ch, ts) จะซ้ำแค่พยัญชนะตัวแรกเท่านั้น ยกเว้น ch จะแทนด้วย tch[14][15]

  • 結果(けっか): kekka – ผลลัพธ์
  • さっさと: sassato – อย่างรวดเร็ว
  • ずっと: zutto – ตลอด
  • 切符(きっぷ): kippu – ตั๋ว
  • 雑誌(ざっし): zasshi – นิตยสาร
  • 一緒(いっしょ): issho – ด้วยกัน
  • こっち: kotchi (ไม่ใช้ kocchi) – ทางนี้
  • 抹茶(まっちゃ): matcha (ไม่ใช่ maccha) – มัตจะ
  • 三つ(みっつ): mittsu – สาม

ตารางการถอดเป็นอักษรโรมัน

[แก้]
โกจูอง โยอง
あ ア a い イ i う ウ u え エ e お オ o
か カ ka き キ ki く ク ku け ケ ke こ コ ko きゃ キャ kya きゅ キュ kyu きょ キョ kyo
さ サ sa し シ shi す ス su せ セ se そ ソ so しゃ シャ sha しゅ シュ shu しょ ショ sho
た タ ta ち チ chi つ ツ tsu て テ te と ト to ちゃ チャ cha ちゅ チュ chu ちょ チョ cho
な ナ na に ニ ni ぬ ヌ nu ね ネ ne の ノ no にゃ ニャ nya にゅ ニュ nyu にょ ニョ nyo
は ハ ha ひ ヒ hi ふ フ fu へ ヘ he ほ ホ ho ひゃ ヒャ hya ひゅ ヒュ hyu ひょ ヒョ hyo
ま マ ma み ミ mi む ム mu め メ me も モ mo みゃ ミャ mya みゅ ミュ myu みょ ミョ myo
や ヤ ya ゆ ユ yu よ ヨ yo
ら ラ ra り リ ri る ル ru れ レ re ろ ロ ro りゃ リャ rya りゅ リュ ryu りょ リョ ryo
わ ワ wa ゐ ヰ i † ゑ ヱ e † を ヲ o ‡
ん ン n /n'
が ガ ga ぎ ギ gi ぐ グ gu げ ゲ ge ご ゴ go ぎゃ ギャ gya ぎゅ ギュ gyu ぎょ ギョ gyo
ざ ザ za じ ジ ji ず ズ zu ぜ ゼ ze ぞ ゾ zo じゃ ジャ ja じゅ ジュ ju じょ ジョ jo
だ ダ da ぢ ヂ ji づ ヅ zu で デ de ど ド do ぢゃ ヂャ ja ぢゅ ヂュ ju ぢょ ヂョ jo
ば バ ba び ビ bi ぶ ブ bu べ ベ be ぼ ボ bo びゃ ビャ bya びゅ ビュ byu びょ ビョ byo
ぱ パ pa ぴ ピ pi ぷ プ pu ぺ ペ pe ぽ ポ po ぴゃ ピャ pya ぴゅ ピュ pyu ぴょ ピョ pyo
  • แต่ละช่องประกอบด้วย ฮิรางานะ คาตากานะ และการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น ตามลำดับ
  • † — อักษรสีแดง เป็นตัวอักษรในอดีตและไม่มีการใช้ในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบันแล้ว[17][18] ในการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์นปัจจุบัน ไม่พบหลักเกณฑ์การถอดอย่างชัดเจน[15]
  • ‡ — อักษรสีน้ำเงิน มักไม่พบเห็นในหน้าที่อื่นนอกจากการทำหน้าที่เป็นคำช่วยในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบัน[19] การถอดเป็นอักษรโรมันเป็นไปตามกฎด้านบน

คาตากานะเสียงควบกล้ำ

[แก้]

การผสมเหล่านี้มักใช้เพื่อแทนเสียงในคำภาษาอื่น

ทวิอักษรที่มีพื้นหลังสีส้ม เป็นทวิอักษรที่มีการใช้โดยทั่วไปในคำยืมหรือสถานที่หรือชื่อต่างประเทศ ทวิอักษรที่มีพื้นหลังสีน้ำเงิน ถูกใช้เพื่อการถอดอักษรของเสียงต่างชาติให้ถูกต้องที่สุด ซึ่งทั้งสองนี้กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีภายใต้คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นผู้เสนอ[20] คาตานากะควบกล้ำที่มีพื้นหลังสีเบจ สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกัน[21] และ สถาบันมาตรฐานอังกฤษ เป็นผู้เสนอให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้ได้[22] ทวิอักษรที่มีพื้นหลังสีม่วง ปรากฏอยู่ในการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮียวจุน-ชิกิ ค.ศ. 1974 ของเฮปเบิร์น[16]

イィ yi イェ ye
ウァ wa* ウィ wi ウゥ wu* ウェ we ウォ wo
ウュ wyu
ヴァ va ヴィ vi vu ヴェ ve ヴォ vo
ヴャ vya ヴュ vyu ヴィェ vye ヴョ vyo
キェ kye
ギェ gye
クァ kwa クィ kwi クェ kwe クォ kwo
クヮ kwa
グァ gwa グィ gwi グェ gwe グォ gwo
グヮ gwa
シェ she
ジェ je
スィ si
ズィ zi
チェ che
ツァ tsa ツィ tsi ツェ tse ツォ tso
ツュ tsyu
ティ ti トゥ tu
テュ tyu
ディ di ドゥ du
デュ dyu
ニェ nye
ヒェ hye
ビェ bye
ピェ pye
ファ fa フィ fi フェ fe フォ fo
フャ fya フュ fyu フィェ fye フョ fyo
ホゥ hu
ミェ mye
リェ rye
ラ゚ la リ゚ li ル゚ lu レ゚ le ロ゚ lo
va vi ve vo
  • * — การใช้ ทั้งสองกรณีนี้เพื่อแทนเสียง w พบเห็นได้ยากในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบัน เว้นแต่จะเป็นสแลงอินเทอร์เน็ตและใช้เพื่อการถอดเสียงละติน [w] ให้เป็นคาตากานะ เช่น ミネルウァ (Mineruwa "มิเนอร์วา", จากละติน MINERVA [mɪˈnɛrwa]); ウゥルカーヌス (Wurukānusu "วัลแคน", จากละติน VVLCANVS, Vulcānus [lˈkaːnʊs]) เสียงภาษาต่างประเทศจำพวก wa (เช่น watt หรือ white ในภาษาอังกฤษ) มักถอดเสียงเป็น ワ (wa) ขณะที่ เสียงจำพวก wu (เช่น wood หรือ woman ในภาษาอังกฤษ) ถอดเสียงเป็น ウ (u) หรือ ウー (ū)
  • ⁑ — มีรูปฮิรางานะที่พบเห็นได้ยากคือ เขียนเป็น vu ในระบบการถอดเป็นอักษรโรมันแบบเฮปเบิร์น
  • ⁂ — อักษรสีเขียว ไม่มีการใช้หรือใช้น้อยมากในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบันแล้ว[17][18]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Sant, John Van; Mauch, Peter; Sugita, Yoneyuki (January 29, 2007). Historical Dictionary of United States-Japan Relations. Scarecrow Press. p. 104. ISBN 978-0-8108-6462-7.
  2. Seeley, Christopher (April 1, 2000). A History of Writing in Japan. University of Hawaii Press. pp. 139–140. ISBN 978-0-8248-2217-0.
  3. Nishiyama, Kunio; Kishimoto, Hideki; Aldridge, Edith, บ.ก. (December 15, 2018). Topics in Theoretical Asian Linguistics: Studies in Honor of John B. Whitman. John Benjamins Publishing Company. p. 292. ISBN 978-90-272-6329-2.
  4. Hadamitzky, Wolfgang; Spahn, Mark (October 2005). "Romanization systems". Wolfgang Hadamitzky: Japan-related Textbooks, Dictionaries, and Reference Works. สืบค้นเมื่อ August 10, 2017.
  5. 和英語林集成第三版 [Digital 'Japanese English Forest Collection']. Meiji Gakuin University Library (ภาษาญี่ปุ่น). Meiji Gakuin University. March 2010 [2006]. สืบค้นเมื่อ August 10, 2017.
  6. "明治学院大学図書館 - 『和英語林集成』デジタルアーカイブス". Meijigakuin.ac.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 16, 2013. สืบค้นเมื่อ June 29, 2012.
  7. Kudo, Yoko (January 28, 2011). "Modified Hepburn Romanization System in Japanese Language Cataloging: Where to Look, What to Follow" (pdf). Cataloging & Classification Quarterly. 49 (2): 97–120. doi:10.1080/01639374.2011.536751. S2CID 62560768.
  8. "UHM Library : Japan Collection Online Resources". Hawaii.edu. October 6, 2005. สืบค้นเมื่อ June 29, 2012.
  9. "鉄道掲示基準規程". Homepage1.nifty.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 1, 2012. สืบค้นเมื่อ July 13, 2012.
  10. 道路標識のローマ字(ヘボン式) の綴り方 [How to spell Roman letters (Hepburn style) of road signs]. Kictec (ภาษาญี่ปุ่น). June 14, 2012. สืบค้นเมื่อ August 10, 2017.
  11. "ヘボン式ローマ字綴方表". Ministry of Foreign Affairs of Japan. สืบค้นเมื่อ May 16, 2022.
  12. James Curtis Hepburn (1872). A Japanese-English And English-Japanese Dictionary (2nd ed.). American Presbyterian mission press. pp. 286–290. สืบค้นเมื่อ December 16, 2013.
  13. Hepburn, J. C. (James Curtis) (December 10, 1872). "Japanese-English and English-Japanese dictionary". Shanghai, American Presbyterian mission press – โดยทาง Internet Archive.
  14. 14.0 14.1 14.2 14.3 14.4 14.5 James Curtis Hepburn (1886). A Japanese-English And English-Japanese Dictionary (Third ed.). Z. P Maruyama & Co. สืบค้นเมื่อ April 12, 2011.
  15. 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 15.5 Kenkyusha's New Japanese-English Dictionary (Fourth ed.). Kenkyūsha. 1974.
  16. 16.0 16.1 "標準式ローマ字つづり―引用". สืบค้นเมื่อ February 27, 2016.[แหล่งข้อมูลที่ตีพิมพ์เอง]
  17. 17.0 17.1 Cabinet of Japan (November 16, 1946). 昭和21年内閣告示第33号 「現代かなづかい」 [Japanese Cabinet Order No.33 in 1946 - Modern kana usage] (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2001. สืบค้นเมื่อ May 25, 2011.
  18. 18.0 18.1 Cabinet of Japan (July 1, 1986). 昭和61年内閣告示第1号 「現代仮名遣い」 [Japanese Cabinet Order No.1 in 1986 - Modern kana usage] (ภาษาญี่ปุ่น). Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2011. สืบค้นเมื่อ May 25, 2011.
  19. Fujino Katsuji (1909). ローマ字手引き [RÔMAJI TEBIKI] (ภาษาญี่ปุ่น). Rômaji-Hirome-kai.
  20. Cabinet of Japan. "平成3年6月28日内閣告示第2号:外来語の表記" [Japanese cabinet order No.2 (June 28, 1991):The notation of loanword]. Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2019. สืบค้นเมื่อ May 25, 2011.
  21. "米国規格(ANSI Z39.11-1972)―要約". สืบค้นเมื่อ February 27, 2016.[แหล่งข้อมูลที่ตีพิมพ์เอง]
  22. "英国規格(BS 4812 : 1972)―要約". สืบค้นเมื่อ February 27, 2016.[แหล่งข้อมูลที่ตีพิมพ์เอง]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]