ข้ามไปเนื้อหา

การทัพอินโดจีนฝรั่งเศสครั้งที่สอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การทัพอินโดจีนฝรั่งเศสครั้งที่สอง
ส่วนหนึ่งของ สงครามโลกครั้งที่สอง
วันที่9 มีนาคม – 26 สิงหาคม พ.ศ. 2488
สถานที่
ผล

ญี่ปุ่นชนะ[1]

คู่สงคราม
 ญี่ปุ่น

จักรวรรดิเวียดนาม

รัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่นในกัมพูชา
ลาว รัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่นในลาว

 ฝรั่งเศส

ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
จักรวรรดิญี่ปุ่น Yuichi Tsuchihashi
จักรวรรดิญี่ปุ่น Takeshi Tsukamoto

บ่าว ดั่ย
ฝรั่งเศส Jean Decoux
ฝรั่งเศส Marcel Alessandri

เวียดนามเหนือ โฮจิมินห์
เวียดนามเหนือ หวอ เงวียน ซ้าป
กำลัง
กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น: 65,000 คน[2]
กองทหารอันนัม
มีนาคม:
ทหารฝรั่งเศส 12,000 คน ทหารอันนัม 12,000 คน[2]
หลังจากนั้น : กองกำลังผสมอังกฤษ-ฝรั่งเศสจากกำลัง 136, กองโจรฝรั่งเศส-ลาว, เวียดมินห์
ความสูญเสีย
ไม่ทราบ พลเรือนชาวยุโรปถูกสังหาร 2,129 คน

การทัพอินโดจีนฝรั่งเศสครั้งที่สอง หรือรู้จักกันในชื่อ รัฐประหารของญี่ปุ่นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2488 เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางทหารของญี่ปุ่นในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ซึ่งเป็นอาณานิคมในฝรั่งเศส ในช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่สอง ผลของปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้ทำให้เกิดรัฐที่เป็นเอกราชในช่วงเวลาสั้น ๆ คือ จักรวรรดิเวียดนาม ราชอาณาจักรลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา และยังเป็นการทำลายอำนาจการบริหารของอินโดจีนฝรั่งเศส มีการต่อสู้แบบกองโจรขนาดเล็กตามมา จากทหารฝรั่งเศสที่ต้องการแก้แค้น แต่ญี่ปุ่นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม เวียดมิญได้อาศัยสุญญากาศทางการเมืองนี้ขึ้นสู่อำนาจ

รัฐประหาร

[แก้]

ใน พ.ศ. 2488 ญี่ปุ่นเกรงว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะเข้ายึดครองอินโดจีนฝรั่งเศส แม้ว่ารัฐบาลวิชียังคงอยู่ในยุโรป แต่ก็มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ต้นเดืนมีนาคม พ.ศ. 2488 ทหารญี่ปุ่นเริ่มปลดอาวุธทหารฝรั่งเศสโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ในวันที่ 9 มีนาคมในไซ่ง่อน ได้มีการจับกุมและสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลวิชี ทหารฝรั่งเศสส่วนหนึ่งหนีไปจีน การปกครองอินโดจีนฝรั่งเศสของฝรั่งเศสจึงสิ้นสุดลง

ญี่ปุ่นได้กดดันให้จักรวรรดิเวียดนาม ราชอาณาจักรลาว และราชอาณาจักรกัมพูชาประกาศเอกราช สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ยได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น พระนโรดม สีหนุให้ความร่วมมือเช่นกัน แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ไว้วางใจราชวงศ์ที่เคยนิยมฝรั่งเศส เซิง งอกทัญที่เคยลี้ภัยในญี่ปุ่นและได้รับความไว้วางใจมากกว่าพระนโรดม สีหนุ ได้เดินทางกลับสู่กัมพูชาและได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในเดือนพฤษภาคมและได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคม ส่วนในลาว พระเจ้าศรีสว่างวงศ์ ผู้นิยมฝรั่งเศสปฏิเสธที่จะประกาศเอกราช ผู้ที่ออกมาประกาศเอกราชเป็นเจ้าเพชรราช รัตนวงศา

เหตุการณ์ต่อมา

[แก้]

สาธารณรัฐจีนที่ให้ที่พักพิงแก่ทหารฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาไม่ได้เต็มใจในฟื้นฟูอำนาจของฝรั่งเศส ทั้งสองประเทศกล่าวว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ฝรั่งเศส แต่นายพล Claire Lee Chennault ได้ต่อต้านคำสั่งโดยเข้าไปช่วยเหลือทหารฝรั่งเศสในการถอยเข้าสู่จีน กองทหารจากอังกฤษที่เรียกกองกำลัง 136 ได้เข้ามาปฏิบัติการทางทหารในอินโดจีนฝรั่งเศสตั้งแต่ พ.ศ. 2487 และได้เข้ามาช่วยฝรั่งเศสในการต่อต้านญี่ปุ่น ทหารฝรั่งเศสที่หนีทหารญี่ปุ่นมาจะเข้าร่วมกับกองกำลังผสมอังกฤษ-ฝรั่งเศสเพื่อต่อสู้กับญี่ปุ่น ฐานที่มั่นส่วนใหญ่อยู่ในลาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ญี่ปุ่นควบคุมได้น้อยที่สุดทางภาคเหนือของเวียดนาม เวียดมิญนำโดยโฮจิมินห์ได้เริ่มการต่อสู้แบบกองโจรต่อต้านญี่ปุ่น และจัดตั้งฐานที่มั่นในเขตชนบท

หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้เมื่อ 16 สิงหาคม กองกำลังของญี่ปุ่นถูกควบคุมโดยสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ยทางเวียดนามเหนือ และพรรคสหภาพทางภาคใต้ ซึ่งเป็นการควบคุมด้วยอำนาจในท้องถิ่น ในช่วงที่เกิดสุญญากาศทางการเมืองนี้ เวียดมิญได้ทำการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2488 จักรพรรดิบ๋าวได่ถูกบังคับให้มอบอำนาจให้โฮจิมินห์และเวียดมิญ เวียดมิญเข้าควบคุมฮานอย ส่วนในจังหวัดท้ายเหงวียน กองทหารญี่ปุ่นได้ต่อสู้กับเวียดมิญ ระหว่าง 20 – 25 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ซึ่งเวียดมิญเป็นฝ่ายชนะ โฮจิมินห์ได้ประกาศเอกราชของเวียดนามเมื่อ 2 กันยายน

หลังจากนั้น

[แก้]

กองทหารอังกฤษและสาธารณรัฐจีนได้เข้าสู่อินโดจีนฝรั่งเศสเพื่อปลดอาวุธทหารญี่ปุ่น ทหารฝรั่งเศสมาถึงไซ่ง่อนในเดือนกันยายน ในประเทศลาว ขบวนการลาวอิสระของเจ้าเพชรราชประกาศปลดเจ้ามหาชีวิตในเดือนตุลาคมและประกาศเอกราชของประเทศแต่ก็ต้องลี้ภัยออกจากประเทศไปในเดือนเมษายน พ.ศ. 2489 ในกัมพูชา เซิง งอกทัญถูกฝรั่งเศสจับกุม โฮจิมินห์ยังครองอำนาจในเวียดนามเหนือ และเกิดสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1 ขึ้นในที่สุด

อ้างอิง

[แก้]
  1. Bernard Fall, Street Without Joy, Stackpole Books, 1994, p.25
  2. 2.0 2.1 Grandjean (2004)