การแปลงลาปลัส
ในทางคณิตศาสตร์ การแปลงลาปลัส (อังกฤษ: Laplace transform) คือการแปลงเชิงปริพันธ์ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง แสดงอยู่ในรูป การแปลงลาปลัสจะทำให้เกิดความเป็นเชิงเส้นของ f(t) ซึ่งค่า t เป็นอาร์กิวเมนต์จริง(t ≥ 0) จะแปลงไปอยู่ในรูปฟังก์ชัน F(s) โดย s เป็นอาร์กิวเมนต์เชิงซ้อน การแปลงนี้เป็นการทำฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งที่สำคัญมากในการใช้งานในทางปฏิบัติ คู่ฟังก์ชัน f(t) กับ F(s) นั้นจับคู่กันในตาราง การแปลงลาปลัสถูกใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่มันมีความสัมพันธ์และการดำเนินการของฟังกันดังเดิม f(t) น้นสอดคล้องกับความสัมพันธ์กับการดำเนินการในรูปของ F(s) การแปลงลาปลัสถูกประยุกต์ใช้ในงานสำคัญมากมายที่เป็นแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ สำหรับชื่อลาปลัสนี้มาจากชื่อของปีแยร์-ซีมง ลาปลัส ผู้ที่นำการแปลงนี้ไปใช้ในทฤษฎีความน่าจะเป็น
การแปลงลาปลัสเกี่ยวข้องกับการแปลงฟูรีเย แต่ขณะที่การแปลงฟูรีเยนั้นใช้ในการแก้ฟังก์ชันหรือสัญญาณในโหมดของการสั่นสะเทือน
คุณสมบัติ
[แก้]กำหนดให้ f(t) และ g(t) มีผลการแปลงลาปลัสเป็น F(s) และ G(s) ตามลำดับ:
ตารางต่อไปนี้เป็นตารางคุณสมบัติของการแปลงลาปลัสด้านเดียว (unilateral Laplace transform):
โดเมนเวลา | โดเมน 's' | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|
ภาวะเชิงเส้น (Linearity) | สามารถพิสูจน์ได้โดยคุณสมบัติความเป็นเชิงเส้นของการหาปริพันธ์ (ปริพันธ์ผลบวกเท่ากับ ปริพันธ์ขององค์ประกอบย่อยของผลบวกนั้น) | ||
อนุพันธ์เชิงความถี่ (Frequency differentiation) | เป็นอนุพันธ์อันดับแรกของ . | ||
อนุพันธ์เชิงความถี่ (Frequency differentiation) | รูปแบบทั่วไปของอนุพันธ์อันดับ nth ของ F(s) | ||
อนุพันธ์ (Differentiation) | สมมุติให้ ƒ เป็นฟังก์ชันที่อนุพันธ์ได้ (differentiable function) | ||
อนุพันธ์อันดับสอง (Differentiation) | สมมุติให้ ƒ มีอนุพันธ์อันดับสอง | ||
อนุพันธ์อันดับใดๆ (Differentiation) | สมมุติให้ ƒ มีอนุพันธ์อันดับ n ใดๆ | ||
ปริพันธ์เชิงความถี่ (Frequency integration) | |||
ปริพันธ์ Integration | คือ ฟังก์ชันขั้นบันไดเฮวิไซด์ (Heaviside step function) และ คือสังวัตนาการ (convolution) ของ และ | ||
การขยายเชิงเวลา (Time scaling) | |||
การเลื่อนเชิงความถี่ (Frequency shifting) | |||
การเลื่อนเชิงเวลา (Time shifting) | คือ ฟังก์ชันขั้นบันไดเฮวิไซด์ (Heaviside step function) | ||
การคูณ (Multiplication) | การหาปริพันธ์จะกระทำบนแกนแนวดิ่ง ซึ่งอยู่ในขอบเขตการลู่เข้า (region of convergence) ของ F | ||
สังวัตนาการ (Convolution) | ในนิยามของการสังวัตนาการ เราสามรถกำหนดให้ ƒ(t) และ g(t) มีค่าเป็นศูนย์ได้ เมื่อ t < 0 | ||
สังยุคของจำนวนเชิงซ้อน (Complex conjugation) | |||
สหสัมพันธ์ไขว้ (Cross-correlation) | |||
ฟังก์ชันคาบ (Periodic Function) | เป็น ฟังก์ชันคาบ ของคาบ กล่าวคือ เป็นการรวมการของคุณสมบัติการเลื่อนเชิงเวลาและคุณสมบัติของลำดับเรขาคณิต |
เชิงอรรถ
[แก้]- อาจพบเห็นการสะกดชื่อการแปลงลาปลัสอย่างอื่นเช่น การแปลงลาปลาส, การแปลงลาปลาซ, การแปลงลาพลาส, การแปลงลาพลาซ หรือใช้คำนำหน้าว่า ผลการแปลง–, การแปลงรูป–
อ้างอิง
[แก้]- Arendt, Wolfgang; Batty, Charles J.K.; Hieber, Matthias; Neubrander, Frank (2002), Vector-Valued Laplace Transforms and Cauchy Problems, Birkhäuser Basel, ISBN 3764365498.
- Bracewell, R. N. (2000), The Fourier Transform and Its Applications (3rd ed.), Boston: McGraw-Hill, ISBN 0071160434.