คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก
คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก | |
---|---|
กำกับ | ร็อบ เร็ทเทอร์แมน |
บทภาพยนตร์ | ดาเรน เล็มเกอร์ |
เนื้อเรื่อง | สก็อตต์ อเล็กซานเดอร์และแร์รี่ คาเลเซฟสกี |
สร้างจาก | ชมรมขนหัวลุก โดย อาร์. แอล. สไตน์ |
อำนวยการสร้าง | |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | จาเวียร์ อากูเลซรอฟ |
ตัดต่อ | จิม เมย์ |
ดนตรีประกอบ | แดนนี เอลฟ์มัน |
บริษัทผู้สร้าง | |
วันฉาย | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 (รอบปฐมทัศน์) |
ความยาว | 103 นาที[2] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | ภาษาอังกฤษ |
ทุนสร้าง | 58–84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4] |
ทำเงิน | 158.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] |
คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก (อังกฤษ: Goosebumps) เป็นภาพยนตร์ตลกสยองขวัญสัญชาติอเมริกัน เค้าโครงเรื่องมาจากนวนิยาย ชมรมขนหัวลุก ซึ่งเป็นผลงานของอาร์. แอล. สไตน์ ภาพยนตร์นี้ออกฉายเมื่อ พ.ศ. 2558 นำแสดงโดยแจ็ก แบล็ก ซึ่งรับบทเป็นสไตน์ และนักแสดงวัยรุ่นได้แก่ดีแลน มินเน็ตต์ โอดีอา รุช และไรอัน ลี
การสร้างภาพยนตร์จากวรรณกรรมเรื่อง ชมรมขนหัวลุก เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2541 แต่มีอันต้องล้มเลิกไปเนื่องจากปัญหาด้านการเขียนบทภาพยนตร์ จนกระทั่งใน พ.ศ. 2551 โคลัมเบียพิคเจอร์ส ได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์จากวรรณกรรมเรื่องดังกล่าว และเริ่มถ่ายทำอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 และถูกฉายเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและได้รับการยกย่องในเชิงบวกจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ในเรื่องของความตลกขบขันและการอิงเค้าโครงจากนวนิยายเรื่องชมรมขนหัวลุกได้อย่างดี โดยสามารถทำรายได้ถึง 158 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากงบสร้างหนังเพียง 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[5]
หลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาคต่อในเรื่อง คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก หุ่นฝังแค้น ซึ่งออกฉายใน พ.ศ. 2561
เรื่องย่อ
[แก้]แซ็ค คูปเปอร์ (ดีแลน มินเน็ตต์) ได้ตามมารดาย้ายมาอยู่เมืองเมดิสันหลังจากที่บิดาเสียชีวิต มารดาของแซ็คมาเป็นครูประจำโรงเรียนมัธยาเมืองเมดิสัน โดยพวกเขาได้ย้ายไปอาศัยอยู่บ้านที่ใกล้กับอาร์. แอล. สไตน์ (แจ็ก แบล็ก) อยู่มาวันหนึ่งแซ็กได้พบกับแฮนนาห์ สไตน์ (โอดิอา รุช) ซึ่งอยู่บ้านใกล้ๆ กัน ทั้งคู่จึงรู้สึกถูกชะตากัน แต่ทว่าถูกขัดขวางจากสไตน์ซึ่งเป็นบิดาของแฮนนาห์ แซ็คมีเพื่อนสนิทที่โรงเรียนมัธยมเมดิสันคือแชมป์ (ไรอัน ลี)
คืนหนึ่งแฮนนาห์ชวนแซ็คไปเที่ยวข้างนอก และเมื่อกลับมาที่บ้าน สไตน์ได้ไล่แซ็กออกไปและให้เลิกยุ่งกับแฮนนาห์ และด้วยเหตุนี้ทำให้สไตน์และแฮนนาห์ทะเลาะกันในที่สุด
อยู่มาวันหนึ่งแซ็คและแชมป์ได้ไปที่บ้านของสไตน์ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของแฮนนาห์ซึ่งทะเลาะกับสไตน์อยู่เป็นประจำ ทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนบ้านของสไตน์ และได้ไปพบกับห้องเก็บหนังสือนิยาย และทั้งคู่ได้พบกับแฮนนาห์ ทว่าแซ็คเผลอไปแกะหนังสือนิยายต้นฉบับของสไตน์ออก ทำให้ปีศาจหมีขั้วน้ำแข็งหลุดออกมาจากหนังสือ และได้พยายามเข้าทำร้ายพวกเขา และได้หนีออกไป แฮนนาห์จึงไปตามปีศาจหมีขั้วน้ำแข็งนั้นถึงลานสเก็ตน้ำแข็ง เมื่อทั้งสามคนไปถึง ก็ได้พบกับปีศาจหมีขั้วน้ำแข็งตัวดังกล่าว แฮนนาห์พยายามจะเปิดหนังสือเพื่อเอามันกลับไป แต่ปีศาจขั้วน้ำแข็งได้สะบัดหนังสือหลุดจากมือแฮนนาห์และได้เข้าทำร้ายพวกเขา แต่โชคดีที่สไตน์มาช่วยไว้ได้ สไตน์จึงให้ทั้งสามคนขึ้นรถไปกับเขา หลังจากนั้นแซ็คและแชมป์จึงรู้ทันทีว่าพ่อของแฮนนาห์คือสไตน์
เมื่อมาถึงบ้าน สไตน์ได้สั่งให้แฮนนาห์ขนของเพื่อย้ายบ้าน แต่เมื่อไปที่ห้องเก็บหนังสือนิยาย ก็ได้พบกับ สแล็ปปี เดอะ ดัมมี ปีศาจหุ่นเชิดนั่งอยู่บนโซฟา สไตน์พยายามหลอกล่อเพื่อเกลี้ยกล่อมให้สแล็ปปีกลับเข้าไปในหนังสือ แต่สไตน์เผลอไปเรียกสแล็ปปีว่า "เป็นหุ่นเชิดที่ฉลาดยิ่ง" เป็นเหตุให้สแล็ปปีโกรธมาก สแล็ปปีจึงจัดการเผาหนังสือนิยายต้นฉบับทิ้งเพื่อไม่ให้ตัวเองกลับเข้าไปได้อีก จากนั้นสแล็ปปีได้ขนหนังสือนิยายต้นฉบับออกไปทั้งหมด และหนีไปพร้อมกับรถผีสิง ก่อนหนีไปสแล็ปปีได้ปลดปล่อยปีศาจตุ๊กตาคนแคระที่อันตรายออกมา
ในขณะที่สไตน์และเด็กๆ ทั้งสามคนกำลังจะออกไปบ้านเพื่อตามไปกำจัดสแล็ปปี พวกเขาได้พบกับฝูงปีศาจตุ๊กตาคนแคระ จากนั้นฝูงปีศาจตุ๊กตาคนแคระได้กรูทำร้ายพวกเขาทั้งสี่คน และพยายามจะฆ่าสไตน์ จนแซ็คได้จัดการทุบพวกปีศาจตุ๊กตาคนแคระทั้งหมด และปลดเชือกที่พวกมันจับมัดสไตน์เพื่อจะลากเข้าไปในเตาเผา ทว่าฝูงปีศาจตุ๊กตาคนแคระมันกลับฟื้นขึ้นมาได้ ทั้งสี่คนจึงหนีออกไปทางประตูห้องใต้ดินและรอดตายอย่างหวุดหวิด จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มปฏิบัติการปราบสแล็ปปีทันที
ตัดภาพไปที่สแล็ปปี ระหว่างผ่านสถานที่ต่างๆ สแล็ปปีได้ปล่อยปีศาจต่างๆ เพื่อออกมาก่อความวุ่นวายในเมืองเมดิสัน ซ้ำร้ายยังปล่อยปีศาจหม้อข้าวหม้อแกงลิงทำลายเสาสัญญาณโทรศัพท์ทำให้สัญญาณโทรศัพท์หาย และในสถานีตำรวจเมืองเมิดสัน บรูค (อแมนดา ลัน) และสตีเฟน (ตีโมตี ซีมอน) ได้พบกับสแล็ปปีนอนอยู่หน้าสถานีตำรวจ สตีเฟนเผลอไปเรียกสแล็ปปีว่าหุ่นเชิด สแล็ปปีไม่พอใจ จึงสั่งให้ปีศาจเอเลียนยิงปืนแช่แข็งใส่บรูคและสตีเฟนโดยทันที และทางฝั่งของลอว์เรน น้าของแซ็คก็ถูกปีศาจสุนัขพยายามรุมขย้ำ
สไตน์และเด็กๆ ขับรถเข้ามาในเมืองเมดิสันก็ได้พบกับสภาพความเสียหายที่เกิดจากฝีมือของสแล็ปปี แซ็คแนะนำให้สไตน์เขียนนิยายขึ้นมาใหม่ แต่สไตน์บอกว่าการที่จะเขียนนิยายขึ้นมาใหม่นั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะต้องใช้เค้าโครงเรื่องของนวนิยาย ชมรมขนหัวลุก จริงๆ แซ็คชวนสไตน์ไปที่ร้านคอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์มันขึ้นมา แต่สไตน์บอกว่ามันไม่สามารถทำได้ ต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีตสมิธ โคโลนา ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ดีดประจำตัวของเขา จึงจะสามารถนำพวกปีศาจและสัตว์ประหลาดกลับเข้าไปได้ พวกเขาทั้งหมดจึงพากันไปที่โรงเรียนมัธยมเมืองเมดิสันในที่สุด แต่ระหว่างทางพวกเขาต้องพบกับปีศาจมนุษย์ล่องหนและปีศาจตั๊กแตนยักษ์ ทำให้พวกเขาพากันหนีตายอย่างหวุดหวิด และไปซ่อนตัวกันที่ห้างสรรพสินค้า แต่ในห้างสรรพสินค้าพวกเขาก็ต้องไปพบกับปีศาจสุนัขป่าอีก พวกปีศาจสุนัขป่าพยายามไล่ทำร้ายพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาสามารถหนีออกมาได้ แต่ปีศาจสุนัขป่ายังตามพวกเขามา แต่สุดท้ายก็ถูกรถของลอว์เรน (จิลเลียน เบลล์) ขับชนจนไปติดในถังขยะ ลอว์เรนพบกับสไตน์ ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกัน แซ็คได้ขอให้ลอง์เรนไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอให้ตำรวจตามไปที่โรงเรียนมัธยม
จากนั้นพวกเขาก็เดินทางลัดเข้าไปในป่าช้าหลังโรงเรียนมัธยม ระหว่างทางนั้นแซ็คเห็นแสงแวบวาบในตัวของแฮนนาห์ จึงรู้ทันทีว่าแฮนนาห์ไม่ใช่มนุษย์ แต่ระหว่างที่แซ็คตกตะลึงนั้นก็เจอกับฝูงซอมบี้พยายามไล่ขย้ำพวกเขา พวกเขาสามารถหลบหนีไปได้ และสไตน์ก็ไปพบกับเครื่องพิมพ์ดีดของเขาที่โรงเรียนมัธยมเมืองเมดิสัน เขาจึงหามุมสงบในโรงเรียนเพื่อเขียนนิยายขึ้นมาใหม่ทันที
จากนั้นแซ็คจึงไปเตือนพวกเพื่อนๆ ในงานเต้นรำว่าตอนนี้มีฝูงปีศาจและสัตว์ประหลาดพยายามเข้ามาในโรงเรียน แต่ไม่มีใครเชื่อจนกระทั่งมีเด็กคนหนึ่งถูกปีศาจตั๊กแตนยักษ์ลากตัวออกไป พวกเขาจึงเชื่อ และพากันนำสิ่งของต่างๆ กีดขวางตามหน้าต่างและประตูไม่ให้ฝูงปีศาจเข้ามาได้ แต่พยายามเพียงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถขวางพวกมันได้ สไตน์ได้จัดการเผานิยายต้นฉบับที่ขนมาเพื่อไม่ให้ปีศาจตัวใดกลับไปได้อีก
ในขณะที่สไตน์กำลังเขียนนิยายเรื่องใหม่และกำลังจะจบเรื่อง ก็ได้พบกับสแล็ปปี และสแล็ปปีก็เหยียบฝาเครื่องพิมพ์ดีดจนทำให้นิ้วของสไตน์หักในที่สุด จากนั้นสแล็ปปีจึงหนีไป เมื่อฝูงปีศาจกรูเข้ามาในโรงเรียนแล้ว สไตน์ตัดสินใจใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้คนในโรงเรียนปลอดภัย เขาจึงนำรถโรงเรียนติดกับระเบิดขับออกไป และทำให้พวกปีศาจตามสไตน์ไป แต่เมื่อเปิดรถออกมาพบว่าเป็นระเบิด ทำให้พวกปีศาจโดนระเบิดไป ทว่าพวกนั้นฟื้นขึ้นมาได้ สแล็ปปีได้สั่งพวกปีศาจให้ตามสไตน์ซึ่งหนีไปที่สวนสนุกร้าง จากนั้นสแล็ปปีก็ได้ปลดปล่อยปีศาจวุ้นเหนียวสีแดงในที่สุด สไตน์จึงขอให้แซ็คจัดการพิมพ์นิยายให้จบ แซ็ค แฮนนาห์ และแชมป์จึงไปซ่อนตัวอยู่ที่ชิงช้าสวรรค์ ส่วนสไตน์เป็นเหยื่อล่อติดอยู่กับเมือกแดง หลังจากแซ็คเขียนนิยายเสร็จ ปีศาจตั๊กแตนยักษ์ได้กรูเข้าไปพังชิงช้าสวรรค์ พวกเขาจึงหลุดไปในป่าลึกและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แซ็คเห็นว่าถ้าเปิดหนังสือขึ้นมา แฮนนาห์จะถูกดูดไปด้วย แฮนนาห์จึงขอร้องให้แซ็คเปิดและยอมรับชะตากรรมตัวเองที่จะต้องอยู่ในหนังสือต่อไป แฮนนาห์ได้แย่งหนังสือมาจากแซ็คและเปิดออกมา แฮนนาห์ได้จูบแซ็คเป็นการอำลาครั้งสุดท้ายก่อนจะถูกดูดไปพร้อมกับปีศาจตัวอื่นๆ
ต่อมาสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ แซ็คและสไตน์ได้เป็นเพื่อนกัน สไตน์สมัครมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเมืองเมดิสันและได้คบกับลอว์เรน สไตน์ได้เขียนนิยายเรื่องใหม่เพื่อกำหนดให้แฮนนาห์มีตัวตนจริงและมีชีวิตจริง จากนั้นสไตน์จึงเผาต้นฉบับที่เขียนเกี่ยวกับแฮนนาห์ทิ้งเพื่อให้แฮนนาห์กำหนดชีวิตได้ด้วยตัวเอง
นักแสดง
[แก้]- แจ็ก แบล็ก รับบทเป็น "อาร์. แอล. สไตน์"[6] และได้พากย์เสียงเป็น "สแล็ปปี เดอะ ดัมมี"[7]
- โอดิอา รุช รับบทเป็น "แฮนนาห์ แฟร์ชิลล์ สไตน์"[8][9]
- ดีแลน มินเน็ตต์ รับบทเป็น "แซ็ค คูเปอร์"[10]
- ไรอัน ลี รับบทเป็น "แชมป์"[11]
- เอมี่ ไรอัน รับบทเป็น "เกล คูเปอร์" มารดาของแซ็ค[12]
- จิลเลียน เบลล์ รับบทเป็น "ลอว์เรน คอนเออร์" น้าของแซ็ค[12]
สำหรับอาร์. แอล. สไตน์ ในภาพยนตร์เขาได้รับบทเป็น "แบล็ก" ครูสอนการแสดงของโรงเรียนมัธยมเมืองเมดิสัน[13]
การวางจำหน่าย
[แก้]การฉายรอบปฐมทัศน์
[แก้]คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก ฉายในรอบปฐมทัศน์ทั่วโลกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 และสำหรับงานเทศกาลภาพยนตร์ซินียุโรปที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน แบล็คได้นำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้บนเวทีในงานด้วยตนเอง[14]
โฮมมีเดีย
[แก้]คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก วางจำหน่ายในรูปแบบแผ่นบลูเรย์ (ทั้งแบบสองมิติและสามมิติ) รวมถึงรูปแบบดีวีดี ใน พ.ศ. 2559 ซึ่งมีการเผยแพร่ฉากที่ถูกตัดไป เบื้องหลังการถ่ายทำ บทสัมภาษณ์ของนักแสดง และสารคดีเกี่ยวกับสแลปปี เดอะ ดัมมีอีกด้วย
การตอบรับ
[แก้]คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก สามารถทำรายได้ถึง 80.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐและทวีปอเมริกาเหนือ ปละทำรายได้จากพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกถึง 70.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมแล้วสามารถทำรายได้สูงถึง 150.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 533.9 ล้านบาทไทย) ซึ่งมากกว่างบทุนสร้างภาพยนตร์ 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 20.6 ล้านบาท)[3][4]
ในสหรัฐและประเทศแคนาดา การติดตามและการรายงานก่อนการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้คาดการณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำรายได้อยู่ที่ 20-31 ล้านเหรียญสหรัฐจากโรงภาพยนตร์ 3,501 โรง อย่างไรก็ตามทางโซนี่พิคเจอร์สเอ็นเตอร์เทนเมนต์คาดการร์ว่าอาจทำรายได้ระหว่าง 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐ[15][16][17] ในช่วงสุดสัปดาห์ที่เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถทำรายได้ถึง 23.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ของโซนี่พิคเจอร์สเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ทำรายได้มากที่สุด[18][19]
สำหรับนอกทวีปอเมริกาเหนือ คืนอัศจรรย์ขนหัวลุกปล่อยฉายใน 66 ประเทศทั่วโลก[20] และประเทศเม็กซิโก เป็นประเทศที่ทำรายได้ได้มากที่สุดสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยรายได้ถึง 7.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือประเทศออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Rechtshaffen, Michael (October 5, 2015). "'Goosebumps': Film Review". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ May 19, 2018.
- ↑ "GOOSEBUMPS [2D] (PG)". British Board of Film Classification. September 28, 2015. สืบค้นเมื่อ September 28, 2015.
- ↑ 3.0 3.1 FilmL.A. (June 15, 2016). "2015 Feature Film Study" (PDF). สืบค้นเมื่อ June 16, 2016.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Goosebumps (2015)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ October 30, 2019.
- ↑ Pamela McClintock (October 13, 2015). "Box-Office Preview: 'Goosebumps' Could Out-Spook 'Crimson Peak,' 'Bridge of Spies'". The Hollywood Reporter. (Prometheus Global Media). สืบค้นเมื่อ October 14, 2015.
- ↑ "Goosebumps Feature Film, Starring Jack Black, Starts Principal Photography". ComingSoon.net. April 23, 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-27. สืบค้นเมื่อ April 24, 2014.
- ↑ Foutch, Haleigh (July 26, 2014). "Comic-Con: Director Rob Letterman Talks GOOSEBUMPS, Casting Jack Black as R.L. Stine, Choosing which Monsters to Include, and More". Collider. สืบค้นเมื่อ November 8, 2014.
- ↑ Sneider, Jeff (February 13, 2014). "'The Giver' Actress Odeya Rush to Join Jack Black in Sony's 'Goosebumps' Movie (Exclusive)". TheWrap. สืบค้นเมื่อ April 24, 2014.
- ↑ Cruz, Lisa (October 21, 2015). "The Scariest Thing About the Goosebumps Movie". The Atlantic. สืบค้นเมื่อ January 21, 2016.
- ↑ Kroll, Justin (February 14, 2014). "Dylan Minnette to Co-Star With Jack Black in 'Goosebumps'". Variety. สืบค้นเมื่อ April 24, 2014.
- ↑ Kroll, Justin (April 23, 2014). "'Super 8′ Actor Joins Sony's 'Goosebumps'". Variety. สืบค้นเมื่อ April 24, 2014.
- ↑ 12.0 12.1 Sneider, Jeff (April 4, 2014). "Amy Ryan, 'Workaholics' Star Jillian Bell Join Jack Black in 'Goosebumps' (Exclusive)". TheWrap. สืบค้นเมื่อ April 24, 2014.
- ↑ Stine, R. L. (May 20, 2014). ".@mdroush Jack Black plays me in the GB movie, now filming in GA. I'm going down to do a cameo next month". Twitter. สืบค้นเมื่อ May 24, 2014.
- ↑ Ritman, Alex (June 24, 2015). "CineEurope: Sony Unveils New 'Spectre' Footage, Joseph Gordon-Levitt Walks 'The Walk'". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ June 29, 2015.
- ↑ Anthony D'Alessandro (October 14, 2015). "'Goosebumps' Set To Freak Out, But 'The Martian' Could Scare It Away – Box Office Preview". Deadline Hollywood. สืบค้นเมื่อ October 15, 2015.
- ↑ Brad Brevet (October 15, 2015). "Forecast: 'Goosebumps', 'Spies' & 'Crimson Peak' Jostle for Audience Attention". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
- ↑ Rebecca Ford (October 16, 2015). "Box Office: 'Crimson Peak' Creeps to $855K, 'Goosebumps' Raises $600K Thursday Night". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
- ↑ Anthony D'Alessandro (October 16, 2015). "'Crimson Peak', 'Goosebumps' Raise Hairs On Thursday Night – Box Office". Deadline Hollywood. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
- ↑ Scott Mendelson (October 17, 2015). "Friday Box Office: 'Goosebumps' Tops With Scary Good $7.4M, 'Crimson Peak' Nabs Scary Bad $5.2M". Forbes. สืบค้นเมื่อ October 18, 2015.
- ↑ Nancy Tartaglione (October 18, 2015). "'Ant-Man' Supersizes With $43.2M China Bow; 'Crimson Peak' Reaps $13.4M – International Box Office". Deadline Hollywood. สืบค้นเมื่อ October 19, 2015.