ซายาโกะ คูโรดะ
ซายาโกะ คูโรดะ | |
---|---|
คูโรดะในงานเอ็กซ์โป 2005 | |
เกิด | เจ้าหญิงซายาโกะ โนริโนะมิยะ 18 เมษายน พ.ศ. 2512 โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
การศึกษา | มหาวิทยาลัยกากูชูอิง (อ.บ.) |
อาชีพ | นักบวช, นักวิจัย |
คู่สมรส | โยชิกิ คูโรดะ (พ.ศ. 2548–ปัจจุบัน) |
บิดามารดา | สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ |
ซายาโกะ คูโรดะ (ญี่ปุ่น: 黒田 清子; โรมาจิ: Kuroda Sayako; เกิด 18 เมษายน พ.ศ. 2512) หรือพระนามเดิม เจ้าหญิงซายาโกะ โนริโนะมิยะ (ญี่ปุ่น: 紀宮 清子内親王; โรมาจิ: Nori-no-miya Sayako Naishinnō)[1] เป็นพระราชธิดาพระองค์เดียว ในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ และพระขนิษฐาในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ภายหลังได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรสกับโยชิกิ คูโรดะ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ตามกฎมนเทียรบาล
ปัจจุบันซายาโกะปฏิบัติหน้าที่เป็นนักบวชหญิงประจำศาลเจ้าใหญ่อิเซะ และเป็นนักวิจัยของพิพิธภัณฑ์การศึกษา มหาวิทยาลัยทามางาวะ
ประวัติ
[แก้]ประวัติตอนต้น
[แก้]ซายาโกะเกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2512 ณ โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง เป็นพระราชบุตรพระองค์เล็กจากทั้งหมดสามพระองค์ และเป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ มีพระเชษฐาคือสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ และเจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะโนะมิยะ
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาภาษาญี่ปุ่นและวรรณกรรม คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยกากูชูอิง เมื่อ พ.ศ. 2535 ต่อมาทรงเป็นผู้ช่วยนักวิจัย (research associate) ของสถาบันปักษีวิทยายามาชินะ (Yamashina Institute for Ornithology) ซึ่งเธอได้รับการยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญการศึกษาเรื่องวงศ์นกกระเต็นน้อยเป็นอย่างยิ่ง[2] ปี พ.ศ. 2541 เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักวิจัยประจำสถาบันดังกล่าว และมีผลงานวิชาการเกี่ยวกับนกและการศึกษาเรื่องอื่น ๆ ออกมา
เสกสมรส
[แก้]30 ธันวาคม พ.ศ. 2547 สำนักพระราชวังได้ประกาศแถลงการณ์ได้มีพิธีหมั้นระหว่างเจ้าหญิงซายาโกะกับโยชิกิ คูโรดะ (黒田慶樹, Kuroda Yoshiki; 17 เมษายน พ.ศ. 2506) นักวางผังเมืองโตเกียว พระสหายคนสนิทของเจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะโนะมิยะ[3] พระราชพิธีเสกสมรสถูกจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว เจ้าหญิงซายาโกะจำต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรส ถือเป็นการเสกสมรสระหว่างเจ้านายกับสามัญชนที่มิได้สืบสันดานจากชนชั้นมูลนายในรอบ 40 ปี และถือเป็นเจ้านายพระองค์ที่หกที่ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์หลังมีการประกาศใช้กฎมนเทียรบาลเมื่อปี พ.ศ. 2490 โดยเจ้านายที่ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปก่อนหน้านี้คือเจ้าหญิงมาซาโกะแห่งมิกาซะ พระญาติกาของพระองค์ในปี พ.ศ. 2526[4]
สมเด็จพระจักรพรรดิ สมเด็จพระจักรพรรดินี มกุฎราชกุมาร มกุฎราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่น ๆ เสด็จมาในพระราชพิธีนี้ 30 พระองค์ และมีแขกผู้มีเกียรติร่วมในพระราชพิธีนี้ 120 คน[5] โดยมีประชาชนกว่าหนึ่งพันคนเฝ้ารอรับเสด็จบริเวณเส้นทางเสด็จระหว่างพระราชวังหลวงกับโรงแรมนานกว่าครึ่งชั่วโมง[5]
พระองค์ได้ลาออกจากการเป็นนักวิจัยประจำสถาบันปักษีวิทยาเพื่อมาใช้ชีวิตแม่บ้าน หลังจากนี้พระองค์จะได้รับบำเหน็จจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 1.29 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับดำรงชีพต่อไป[6][7] พระองค์ทรงย้ายออกจากพระราชวังไปประทับในห้องอยู่อาศัย[8] มีรายงานว่าทรงขับรถและทรงออกไปจับจ่ายซื้อของที่ร้านสรรพาหารด้วยพระองค์เอง[5]
หลังเสกสมรส
[แก้]เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 ซายาโกะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบวชหญิงชั้นสูงประจำศาลเจ้าใหญ่อิเซะ เพื่อช่วยงานอัตสึโกะ อิเกดะ พระปิตุจฉาที่ทรงเป็นหัวหน้านักบวชของศาลเจ้าดังกล่าว[9] นอกจากนี้ยังได้ไปในงานเลี้ยงพระกระยาหารสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปและสมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม ณ พระราชวังอิมพีเรียลเมื่อคราเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559[10] หลังการเสกสมรสมาหลายปี แต่ซายาโกะ ก็ยังปรากฏพระองค์ในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ของพระราชวงศ์อยู่เสมอ[11][12]
พระเกียรติยศ
[แก้]พระอิสริยยศ
[แก้]- 18 เมษายน พ.ศ. 2512 – 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 : เจ้าหญิงซายาโกะ โนริโนะมิยะ
- 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 – ปัจจุบัน : นางซายาโกะ คูโรดะ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นที่ 1
ลำดับสาแหรก
[แก้]พงศาวลีของซายาโกะ คูโรดะ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Princess Sayako turns 35, voices relief over hostage release". Japan Policy & Politics. 19 April 2004. สืบค้นเมื่อ 11 September 2013.
- ↑ News เก็บถาวร 2008-11-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The Times, 12 November 2005
- ↑ "Japanese emperor's only daughter to wed". chinadaily.com.cn. China Daily. 31 December 2005. สืบค้นเมื่อ 3 January 2011.
- ↑ "Japanese princess to marry the best friend of her brother". telegraph.co.uk. The Daily Telegraph. 15 November 2004. สืบค้นเมื่อ 14 May 2015.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 "Japanese princess weds commoner". news.bbc.co.uk. BBC. 15 November 2005. สืบค้นเมื่อ 14 May 2015.
- ↑ Grace, Francie (15 November 2005). "Japan Loses A Princess". cbsnews.com. CBS News. สืบค้นเมื่อ 3 January 2011.
- ↑ "Japanese princess weds commoner". dailymail.co.uk. Daily Mail. 15 November 2005. สืบค้นเมื่อ 3 January 2011.
- ↑ "เจ้าหญิง "ซายาโกะ" เข้าพิธีอภิเษกสมรส". MGR Online. 15 พฤศจิกายน 2548. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "Mrs. Sayako Kuroda - chief priestess of the Ise Shrine". Jiji. 7 May 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "State Visit of King and Queen of Belgians Vol.1". Imperial Family of Japan. 11 October 2016. สืบค้นเมื่อ 21 October 2016.
- ↑ "Birthday Concert". Imperial Family of Japan. 27 November 2014. สืบค้นเมื่อ 21 October 2016.
- ↑ "Remembering Prince Tomohito". Imperial Family of Japan. 6 June 2015. สืบค้นเมื่อ 21 October 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Kunaicho — Her Imperial Highness Princess Sayako
- Kunaicho — Responses to Questions on the Occasion of the Birthday of Her Imperial Highness Princess Sayako (2005)
- Hello! magazine — Article on Sayako and Yoshiki Kuroda's wedding
- BBC News — The wedding takes place
- The princess and the people - The Scotsman