ดาวนักขัตฤกษ์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ (มกราคม 2023) |
บทความนี้มีข้อมูลไม่เป็นแก่นสารหรือปลีกย่อยเป็นอันมาก (มกราคม 2023) |
ดาวนักขัตฤกษ์ หรือ ดาวนักษัตรฤกษ์ เรียกย่อว่าดาวฤกษ์ ในทางโหราศาสตร์ไทยและภารตะ หมายถึงกลุ่มดาวที่มีตำแหน่งคงตัว 27 กลุ่มที่เรียงตัวกันบนฟากฟ้า ในวิชาโหราศาสตร์ เมื่อจะให้ฤกษ์หรือพยากรณ์ชีวิตบุคคล ก็จะต้องดูว่าดวงจันทร์ ในขณะที่เกิดหรือทำการนั้น ทับดาวนักขัตฤกษ์ที่ดีหรือไม่ นอกจากนี้อาจดูให้ละเอียดลงไปถึงลัคนาด้วยว่าอยู่ในกลุ่มดาวใด ดาวฤกษ์ต่างจากดาวเคราะห์ตรงที่ดาวเคราะห์สามารถเคลื่อนที่ไปในจักรราศีได้ และสามารถบันดาลชะตาต่อบุคคลหรือสถานที่ได้ ซึ่งในทางโหราศาสตร์จัดว่าดวงอาทิตย์เป็นดาวเคราะห์ด้วย
ฤกษ์แต่ละฤกษ์กินอาณาเขต 800 ลิปดา แบ่งออกเป็นส่วนย่อยได้สี่ส่วนเรียกว่าบาท มีขนาดเท่ากับนวางค์ของราศี คือ 200 ลิปดา ฤกษ์ใดที่บาททั้งสี่อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกฤกษ์นั้นว่าบูรณฤกษ์ หมายถึงฤกษ์ครบถ้วน หรือฤกษ์ดีงาม ฤกษ์ใดที่มีสามบาทอยู่ราศีหนึ่ง และอีกบาทหนึ่งอยู่อีกราศี เรียกว่า ฉินทฤกษ์ แปลว่าฤกษ์แตกหัก เป็นฤกษ์ร้ายแรงมาก ส่วนฤกษ์ใดที่มีสองบาทแบ่งครึ่งสองราศี เรียกว่า พินทุฤกษ์ หรือฤกษ์เปื้อนเปรอะ เป็นฤกษ์ที่มัวหมอง
หมวดฤกษ์
[แก้]หมวดฤกษ์ (ฤกษ์ล่าง) [1] หมายถึงชื่อฤกษ์ที่บรรยายความเป็นไปของดาวนักขัตฤกษ์ (ฤกษ์บน) [2] มีทั้งหมด 9 ฤกษ์ ดังนี้
1. ทลิทโทฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ชนมะ
ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้ร้องขอ ผู้ขอ ผู้มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เสน่ห์แรง มีดาวพระเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ เพราะเป็นฤกษ์อันดับแรกของจักราศี และเป็นฤกษ์ประเภทบูรณะฤกษ์ หรือฤกษ์เต็มครบทั้ง ๔ บาทฤกษ์ ถือว่าจะให้ความราบรื่น ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น การขอหมั้น ขอความร่วมมือ ขอแต่งงาน กู้ยืม ร้องทุกข์ งานด้านมูลนิธิ งานด้านการกุศลที่แจกจ่ายสิ่งของแก่ผู้เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ การสำรวจทุกข์ร้อนของราษฎร การขอความเห็นใจเพื่อราษฎรและส่วนรวม การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา มีความเมตตากรุณาปราณี เกิดเสน่ห์ เมตตามหานิยม คนนิยมชมชอบ เปิดร้านขายของเล็กๆน้อยๆ การสมัครงาน ทำการใดๆที่ริเริ่มใหม่ **คนที่ไม่รู้โหราศาสตร์มักไปแปลผิดๆว่าเป็นฤกษ์ยาจก ขอทาน คนเข็ญใจ ซึ่งไม่ถูกต้อง หากเป็นฤกษ์ขอทานแล้ว โบราณคงไม่ใช้ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สู่ขอลูกสาวชาวบ้านอย่างแน่นอน **ความจริงฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่ให้คนเมตตา สงสาร รักใคร่ ขออะไรก็ได้แม้แต่ลูกสาวของคนอื่นซึ่งถือว่ามีค่ามากที่สุดของครอบครัวนั้นๆ ฤกษ์นี้มีดาวพระเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ จะให้คุณแก่ดวงฤกษ์ตามลักษณะและความหมายด้านดีของดาวเกตุ (**เกตุนี้เป็นเกตุ คำนวณแบบอินเดีย ไม่ใช่ดาวเกตุแบบสยาม)
ส่วนคนที่มีดวงชาตาเสวยฤกษ์นี้ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่หยิ่งยะโส ใครๆก็สงสารเมื่อตนขอความเห็นใจ พ่อแม่คนรอบข้างจะดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะสามารถรับฟังเรื่องทุกข์ร้อนของผู้เป็นเลิศ เรียบง่ายติดดิน ไม่นิยมของราคาแพง ชอบของมือสอง ซ่อมของใช้ที่พังแล้วมาใช้ต่อได้ ไม่ทิ้งขว้างสิ่งของต่างๆเพื่อนำกลับมา Recycle จะเก็บไว้ตลอดแม้แต่ของเล่นสมัยเด็กๆ ถ้าเกิดมารวยหรือเป็นผู้ดีมีตระกูลบุญชาติก็จะเป็นคนเรียบหรูมีสไตล์แบบเรียบๆพอดีๆ ย้อนยุคหน่อยๆ แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อไม่เกินตัว ไม่อวดดี เข้าทำนองผ้าขี้ริ้วห่อทอง เข้ากับคนทุกชนชั้นวรรณะได้ง่ายกว่าฤกษ์อื่นๆ ไม่ถือตัวอวดดี มีความประหยัดมัธยัสถ์ รู้จักการออมเป็นเลิศ มีความพอเพียง มีการคำนวณรายจ่ายเพื่ออนาคตได้ดีมากๆ สามารถเอาตัวรอดได้ในยามที่ขาดเงินทอง อาชีพเด่นๆคือ นักสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆที่ทำงานช่วยเหลือเพื่อคนทุกข์ยาก นักวิจัยที่ออกสนามสอบถามข้อมูล กรมประชาสงเคราะห์ งานด้านสวัสดิการ สำนักงานประกันสังคม งานประกันภัยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในยามทุกข์ยาก ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ตามคู่สายของราชการและหน่วยงานต่างๆ งานช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอันเป็นตัวกลางเพื่อผู้เดือดร้อนนำเรื่องสู่ราชการ ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ในแผนกศาลฎีกา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือข้าราชการในบางสาขาบางแผนกที่รับเรื่องร้องทุกข์จากราษฎรเพื่อนำเข้าสู่สภา กระทรวง ทบวง กรม ฯ และขอความช่วยเหลือจากรัฐไปสู่ราษฏรโดยทั่วถึงและเท่าทันอย่างยุติธรรม คนในมูลนิธิต่างๆ ฯลฯ จะมีชีวิตที่เรียบง่ายติดดินแต่มั่นคง ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสุด ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมาก
2. มหัทธโนฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สมบัติ
มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า ผู้มั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี เงินทอง ความร่ำรวย มีดาวพระศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ นักธุรกิจการเงิน พ่อค้า แม่ค้า ผู้มีธุรกิจต่างๆเป็นของตัวเอง บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ ทุกอย่าง เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจด้านบัญชี แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทองคำ เงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน เปิดร้านค้าต่าง ร้านแลกเงิน ร้านขายทอง ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา และ สารพัดงานมงคลที่ต้องการความร่ำรวยมีเงินทอง ทรัพย์สินมากมาย ฤกษ์นี้มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ก็จะเด่นในเรื่องความรัก กิจการสถานบันเทิง ดนตรี ศิลปกรรมทั้งหลาย เสื้อผ้า ของแต่งกาย การตกแต่ง Interior Exterior งานออกแบบ ร้านอาหาร ธุรกิจด้านความงาม ร้านเสริมสวย ก็จะเด่นมากขึ้นไปอีก เป็นฤกษ์ที่นิยมใช้เปิดบัญชีธนาคาร ลงทุกซื้อหุ้น ใช้เปลี่ยนชื่อ นามสกุลเพื่อความผาสุขมีกินมีใช้ไม่อดอยากอับจน งานด้านตลาดการค้าและศูนย์การค้า Shop , Mall , Market , Supermarket , Trading , Crypto Currency , Exchange Rate ,Stock Exchange ตลาดหุ้น ตลากหลักทรัพย์ การค้าขายรายย่อยรายใหญ่ ปลีก-ส่ง ร้านโชว์ห่วย ตลาดนัด เปิดท้ายขายของมือสอง ร้านค้าทุกขนาดในทุกๆสถานที่ก็ใช้ฤกษ์นี้ได้หมดและเหมาะสมอย่างยิ่ง
สำหรับคนที่เกิดเสวยฤกษ์นี้ จะเป็นผู้มีรูปร่างหน้าตาดี งดงาม หล่อ สวย ดูรวย(ถึงแม้จะไม่ได้รวย) ตอนเด็กจะมีกระปุกหมูออมสินมากกว่าเด็กคนอื่นๆและชอบเอาเงินไปแอบไปซ่อนหรือฟังดินเล่นเกมส์ตามหาสมบัติจะชอบมาก เมื่อโตมาจะแต่งตัวหรู ดูมีราคา ใส่อะไรก็ดูแพง(ถึงแม้จะไม่แพง) บางรายชอบใช้ของมีราคา รสนิยมสูง มีวาทศิลป์ด้านธุรกิจเป็นเสิศ กะเก็งกำไรได้ดีกว่าฤกษ์อื่นๆ มีหัวการค้า ทันสมัย มีไหวพริบในการแสวงหากำไรในทุกๆโอกาศที่ผ่านเข้ามา พูดจาฉะฉานโดยเพาะในการต่อราคาสินค้า การ Deal การ Trade ไม่เป็นสองรองใคร เก่งคณิตศาสตร์ Mathematic , Physic , Engineer การบัญชี การคำนวณ หรือวิทยาศาสตร์ งานวิศวกรและสารสนเทศในบางสาขาที่ใช้ตัวเลขเยอะๆก็เด่น เด่นในเรื่องงานทางด้านเงิน อัตราแลกเงินระหว่างประเทศ งานธนาคาร งานประกันภัยที่เกี่ยวกับบัญชีการเงิน งานเกี่ยวหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ฯ มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุขไม่ขาดเงินทองแม้ในยามทุกข์ยาก มีเงินเก็บพอสมควร ร่ำรวยได้ไม่ยาก สามรถถีบตัวจากผู้มีรายได้น้อยไปสู่ความร่ำรวยได้ง่ายกว่าฤกษ์อื่นๆ ไม่ค่อยมีเรื่องทุกข์ร้อนจากเรื่องเงิน มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีการคำนวณรายจ่ายและกำไรต่างๆได้ดีเพื่อเงินจะได้พอกพูนเป็นเลิศ
3. โจโรฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า วิปัติ
โจโรฤกษ์ แปลว่าผู้ช่วงชิง ผู้ว่องไว (ไม่ได้แปลว่า โจร ผู้ลักขโมย ตามที่เข้าใจผิด เพราะราชสำนักในสมัยโบราณไม่มีการคิดฤกษ์ให้โจรไปใช้) โจโรฤกษ์คือผู้ที่ว่องไวมีเล่ห์เลี่ยมชั้นเงินเป็นที่สุด มีไหวพริบในยามคับขันมากกว่าผู้อื่น ฉลาดทันคน ถูกหลอกได้ยาก สามารถวางแผนค่ายกลได้ดีกว่าผู้อื่น วางแผนซ้อนแผน ถูกจับได้ยาก คนฤกษ์นี้วางแผนไว้ในหัวเรียบร้อยหมดแล้วโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวเพราะชอบทำการใหญ่คนเดี่ยวหรือเป็นทีมเล็กๆ เพื่อความคล่องตัว มีดาวอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์" คือ ฤกษ์ไม่เต็มบาท มักไม่ใช้เป็นฤกษ์มงคล แต่เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบโดยใช้กำลังอย่างฉับพลันภายในไม่กี่วัน(ไม่เกิน 7 วัน) ในยุคปัจจุบันคือฤกษ์ที่เหมาะสำหรับการแข่งขันในธุรกิจและการกีฬา โดยเฉพาะกีฬาด้านการต่อสู้ เช่น กระบี่กระบอง ฟันดาบ Fencing , Rapier , Archery , Kendo , มวยไทย ศิลปะวิทยายุทธในทุกสาขา ฯลฯ การเอาชนะในทุกรูปแบบ ก็มักจะใช้ฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ประกอบการ แต่โหรมักไม่ให้ฤกษ์นี้แก่ใครง่ายๆ นอกจากจะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อบ้านเมือง หรือเฉพาะตัวหรือเจาะจงว่าบุคคลคนคนนั้นต้องการจะนำไปทำอะไร เช่นการให้ฤกษ์ทำการปฏิวัติ รัฐประหาร การประลองสนามกีฬาการต่อสู้เพื่อรางวัล ก็มักใช้ฤกษ์นี้
สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนที่เงียบๆ โลกส่วนตัวสูง หรือที่เรียกว่า คมในฝัก ไม่ชอบเข้าสังคม แสดงตัวโสด มีเพื่อนน้อยหรือไม่มีพันธะผูกพันเพื่อความคล่องตัว มีความสามารถในด้านการแข่งขันสูง การช่วงชิงเอาชนะ อาชีพเด่นคืองานนักสืบ งานด้านการวางแผน นักธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง นักกีฬาในทุกๆสาขา งานที่เกี่ยวกับ นักสืบเอกชน สายลับราชการ นักสืบในหน่วยพิเศษ เช่น MI6 , CIA , FBI , DSI , สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (NIA) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ISOC) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (SBB) , สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง , หรือผู้มีความถนัดด้าน Psychological Warfare ฯลฯ ในบางกรณีคนที่รวยมากๆก็มักเกิดฤกษ์นี้เพราะอาศัยเล่ห์เหลี่ยมในการทำธุรกิจที่มีชั้นเชิงมากกว่าคู่แข่งจนร่ำรวยก็มี มีไหวพริบในยามคับขันมากกว่าผู้อื่น ฉลาดทันคน ถูกหลอกได้ยาก ชอบพลิกสถาณการณ์ให้ได้เปรียบได้อยู่เสมอแม้จะเสียเปรียบ ใช้กำลังน้อยปราบกองกำลังขนาดใหญ่ สามารถวางแผนค่ายกลได้ดีกว่าผู้อื่น
4. ภูมิปาโลฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า เกษม
ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีดาวพระจันทร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลสารพัดต่างๆ ทำได้หมด เป็นฤกษ์ที่ดีมากแบบกลางๆ ใช้ได้โดยไม่ต้องคิดมาก เหมาะสำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัยทุกชนชั้น ทุกที่ทุกเวลา งานที่ต้องการความมั่นคงถาวรยาวนาน งานเกี่ยวกับแผ่นดิน รักษาแผ่นดิน รักษาน้ำ ธรรมชาติ ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติไม่ให้เสื่อม ปกป้องรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ งานคุ้มครองราษฎรจากภัยพิบัติ เช่นภัยแล้ง อุทกภัย พายุ งานบรรเทาภัยแล้ง ส่งเสริมงานด้านการสาธารณสุขเพื่อราษฎร บ่อน้ำ อ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อน การไฟฟ้าสู่ภูมิภาคให้ทั่วถึงทุกครัวเรือน งานประปา แจกจ่ายน้ำตามคูคลองในพื้นที่ห่างไกลและตามชนบทอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน หรืองานที่ต้องดูแลมวลชนมากให้อยู่ดีมีสุขๆ งานด้านอาสาสมัคร จิตอาสา งานลูกเสือ งานกาชาด ยุวกาชาด เนตรนารี เปิดงานชุมนุมลูกเสือ การด้านการกุศล งานธุรกิจด้านการเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้างอาคาร พิธีลงเสาเอก ยกเรือน ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ เจ้าที่ อัญเชิญเทพยดาและสิ่งศักดิสิทธิ์ลงมา งานขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท งานมงคลโดยทั่วไปใช้ได้หมด เปลี่ยนชื่อ นามสกุล เจิมบ้าน เจิมป้ายบริษัท เปิดป้ายห้างร้าน เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทำได้หมด ฤกษ์นี้มีดาวจันทร์ครองเป็นเจ้าฤกษ์ ดังนั้น ธุรกิจที่ข้องกับดาวจันทร์ก็คือ ธุรกิจทางน้ำ สื่อสารมวลชน การข่าว งานสารสนเทศการข่าว นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ศิลปะกรรม งานโบราณคดี งานอนุรักษ์ของเก่า โฆษณาประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ Social Media , Media ก็จะเด่นมาก
สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง ดูมียศศักดิ์และฐานะดี เป็นผู้ดี มีออร่า เรียบหรูพอดีๆ บางคนอาจจะดูดีมีชาติตระกูลถึงแม้จะไม่ได้รวยมาตั้งแต่เกิด ชอบงานราชการถึงแม้จะไม่ได้รับราชการ หรือสนใจเรื่องต่างประเทศและการข่าว มีจิตใจเมตตากรุณา มีความปราณีต่อผู้น้อย ชอบให้รางวัลของปลอบใจแก่ผู้อื่นเสมอ ไม่ชอบข่มเหงบังคับผู้อื่นในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่นิยมที่จะลงโทษผู้อื่นด้วยกำลัง ไม่เจ้าระเบียบจู้จี้จุกจิก เป็นคนสบายๆ รักการถ่ายภาพ ถ่ายรูป แต่ต้องถูกต้องถูกตามกาลเทศะและประเพณี ทำงานก็ไม่เร่งรีบ มาสายได้(ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง) ไม่เรื่องมาก ***เน้นดูเอาที่ความดีในการทำงานหรือผลงานของบุคคลมากกว่าการแต่งกายหรือเสื้อผ้าหน้าผมซึ่งเป็นแค่เปลือกนอกอันไม่ได้มีผลต่อการปฏิบัติงานเลยแม้แต่น้อย บุคคลฤกษ์นี้จะแต่งตัวให้ดูดีมี style , vintage , classic หรือดูเก่าดูโบราณก็ต่อเมื่อออกงานสำคัญๆเท่านั้น จะไม่แต่งตัวอุจจาดแปลกประหลาดในที่สาธารณะ ไม่ล้วงแคะแกะเกาหรือเดินควงหญิงนางโลมในที่สาธารณะกลางวันแสกๆต่อหน้าสาธารณชน(**ซึ่งจะมาอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้เด็ดขาดเพราะกระทำการในที่สาธารณะแบบเปิดเผยให้เห็นไปโดยทั่ว แต่หากเป็นภายในกำแพงบ้านหรือที่พักอาศัยก็ทำไปเถิดตามแต่ใจปรารถนา) ชอบดำเนินรอยตามประเพณีที่มีมา ***ไม่แหกคอกหรือรื้อธรรมเนียมเดิมของคนก่อนๆ ***ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจและทั่วถึงโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ อาชีพเด่นคือในทางด้านการนักปกครอง ผู้จัดการ นักการเมือง ผู้บริหาร ผู้อำนวยการ ข้าราชการ นักโบราณคดี ครู อาจารย์ นักแสดง หรือ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็จะดี
5. เทศาตรีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรัตยุระ
เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า สามแผ่นดินหรือหลายแผ่นดิน (เทศหรือเทศา แปลว่าประเทศ ตรีแปลว่าสามหรือมากมาย ) ผู้ท่องเที่ยว ผู้เดินทางผ่านแผ่นดินต่างๆ สมัยโบราณตั้งฤกษ์นี้เพื้อให้บรรดาราชทูตเดินทางออกไปถวายราชสาสน์ เชื่อมสัมพันธไมตรี หรือเจรจาทางการค้าระหว่างราชอาณาจักร (**คนที่ไม่มีความรู้บางท่านมักแปลผิดเป็น ฤกษ์หญิงแพศยา ซึ่งผิดมหันต์ และอีกอย่างฤกษ์ทั่งหลายนั้นไม่มีเพศเพราะเป็นเพียงเวลาตามดวงดาวและการโคจรของดาวฤกษ์) ***ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่สำคัญเพราะราชสำนักสมัยโบราณตั้งฤกษ์นี้เพื้อให้บรรดาราชทูต เอกอัครราชทูต กรมการกงศุลทั้งหลายใช้ในการเดินทางผ่านไปยังแผ่นดินต่างๆโดยเฉพาะ บางคราก็เรียกว่า "เวสิโยฤกษ์" หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า ที่ต้องเดินทางค้าขายทางเรือระหว่างประเทศโดยเรือสำเภา หรือเรือใบ จึงเป็นฤกษ์ที่นิยมใช้ในการเปิดท่าเรือ ต่อเรือสำเภา พิธีปล่อยเรือลงน้ำ ก็นิยมใช้ฤกษ์นี้ มีดาวพระอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศีพฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็น ภินทฤกษ์ ปัจจุบันเป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการทูต สถานทูต การต่างประเทศ งานติดต่อการค้าระหว่างประเทศ งานที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ล่าม Interpreter กิจการทัวร์ Tour Guide การท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism (สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว) Tourism Management ธุรกิจนำเข้า ส่งออก Export-Import ครูสาขาศิลปกรรมศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ครูสอนการโรงแรมและการบินพลเรือน ครูสอนภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสอนภาษา นักเดินเรือ ผู้ปฏิบัติงานบนเรือสำราญ เรือส่งสินค้าข้ามประเทศทวีป เรือเดินสมุทร การท่าเรือแห่งประเทศไทย การท่าเรือเอกชน งานสารสนเทศที่ต้องใข้ภาษาต่างประเทศ กิจการโรงแรม โรงหนัง งานภาพยนตร์(ต่างประเทศ) ตลาดการค้าและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพที่ต้องเดินทาง หรืออาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ เช่นราชทูต Tour Guide ฤกษ์นี้มีดาวอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เรียนรู้ได้หลายภาษา หัวไว ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ สแกนดูแล้วสแกนดูอีก วาจาคมคาย มีดโกนอาบน้ำผึ้ง วาจาเฉือดเฉือน ชนิดที่ฝ่ายตรงข้ามเถียงไม่ออกต้องถอยกลับไปไม่เป็นขบวน เหตุผลหนักแน่น ยิ่งกว่าชักแม่น้ำทั้งห้า เพราะเป็นเหตุผลที่กลั่นกรองมาอย่างดีชนิดที่เถียงไม่ออก หรือบางครั้งพูดจนคนอื่นงงตามไม่ทัน แต่เมื้อย้อนกลับมาดูปรากฏว่าจริงทุกประการ เหมือนทำนายอนาคตได้ ชอบดูสถิติและการข่าวในเหตุการณ์ที่คนทั่วไปยังนึกไม่ถึงว่าสำคัญแต่สำคัญมากๆ เก็นรายละเอียดยิบๆๆ จนน่ารำคาญแต่ได้ผลชะงัด เก่งภาษาอย่างมาก พูดเยอะและต่อยหนัก(ตรงข้ามกับโจโรฤกษ์ที่พูดน้อยแต่ต่อยหนัก) มีเสน่ห์แรงมากๆด้วยบุคลิคภาพที่ทันสมัย มีวาจาเป็นเลิศ สมองเฉียบคม ถูกหลอกได้ยาก ชอบวางแผนซ้อนแผน มักได้ทำงานเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ งานด้านการทูต งานด้านการท่องเที่ยว งานผู้นำชมสถานที่โบราณ งานโบราณคดีที่ใช้ภาษาต่างประเทศ หรือเกี่ยวข้องกับภาษาต่างประเทศ บางรายมีทรัพย์สินที่ดินบ้านช่องพอประมาณ เสมอตัว หรือลำบากไม่นานมักฟื้นตัวได้ทัน แต่ชีวิตในบางช่วงอาจต้องลำบากหรือต้องย้ายถิ่นฐานบ้านช่องอยู่เสมอๆ หากไม่ได้ร่ำรวยแงินทองก็จะมีปัญญาความรู้มากกว่าคนอื่นๆ จะเป็นที่เกรงขามจากสติปัญญาของตนที่แสดงออกมาอันเป็นบารมีอย่างหนึ่งจนทำให้ผู้อื่นต้องตะลึงด้วยความสามารถในการคาดการสถานการณ์บางอย่างได้ก่อนคนอื่น หากอยู่ต่างถิ่น หรือทำงานไกลบ้าน ในสถานที่โอ่อ่าอลังการ ในโบราณสถาน มิวเซียมเรือโบราณ หรือบนเรือเดินสมุทร ก็จะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยดีกว่าถิ่นกำเนิดของตัวเอง คนที่เกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียง มีใจคอเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใคร ใครมาท้าทายไม่ได้ จะวางแผนจัดการอย่างแยบคายจนจับทางไม่ถูก คมในฝัก หรือเป็นผู้มีความถนัดด้าน Psychological Warfare อย่างจัดเจน สามารถใช้สถานการณ์ต่างๆรอบตัวเพื่อปรับเกมส์ให้ได้เปรียบขึ้นมาได้ทันทีหรือแม้แต่ใช้การเสียเปรียบของตนให้เป็นการได้เปรียบขึ้นมาได้เช่นกัน
6. เทวีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สาธะกะ
เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ราชินี ความสวยงาม อลังการ แสดงถึงความงามหรูหราโอ่อ่าอลังการตามประเพณี ศิลปกรรมศาสตร์อันวิเศษ ศิลปกรรมชั้นสูงที่แสดงถึงความละเอียดอย่างที่สุด งานศิลปที่วิจิตรอลังการดุจเทพสร้าง งานศิลปกรรมโบราณที่ตกทอดสืบมาจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี มายาศาสตร์ ความมีเสน่ห์ โชคลาภ เงินทองทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่งที่หรูหราอย่างมีแบบแผนงดงามตามประเพณีแต่ไม่เลอะเทอะฟุ้งเฟ้อแบบไร้แก่นสาร ได้แก่ งานศิลปกรรมโบราณที่โอ่อ่าอลังการที่สร้างมาเพื่อสาธารณชนให้เกิดความภาคภูมิใจในรากฐานประเพณีอันยาวนานแห่งเชื้อชาติแผ่นดินเกิดของตน ประเพณีโบราณแห่งชนชาติอันยาวนาน ของหรูหรา เพชรพลอย เงินทอง เครื่องประดับอัญมณี โบราณวัตถุอันวิจิตร งานหัตถศิลปทุกสาขา ในโหราศาตร์ยังหมายถึงการสมความปรารถนาในทุกๆเรื่อง มีดาวราหูเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ความมีเสน่ห์เมตตามหานิยมที่รุนแรงที่สุด บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานที่ต้องการความสวยงามหรูหรา วิจิตรอลังการ การสืบสานงานด้านประเพณีที่มีมายาวนาน งานสร้างศิลปกรรมทุกแขนง การออกแบบที่ละเอียดและวิจิตรพิสดาร ศิลปกรรมในพระราชวัง ศิลปกรรมในศาสสถาน วิหาร เทวาลัย เทวสถาน ความมีชื่อเสียง มีพลังฤกษ์ที่นุ่มนวลอ่อนช้อยดุจเทวี ออกแบบเสื้อผ้า แฟชั่น งานแสดง งานดอกไม่ประดับ งานนิทรรศการ งานมหรสพ โรงหนัง โรงภาพยนตร์ ดารา นักแสดง การละคร ละครเวที ผู้กำกับภาพยนตร์ งานตัดต่อภาพยนตร์ งานภาคเสียง นักดนตรี งานสื่อภาพยนตร์ แสงสีเสียง งานสารสนเทศการละคร งานอีเวนท์ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า สารพัดงานมงคลทั้งปวงสามารถใช้ฤกษ์นี้ได้ ฤกษ์นี้มีดาวพระราหูเป็นเจ้าฤกษ์ แสดงถึงความลุ่มหลง หลงใหล การพนันขันต่อ ความมีเสน่ห์ จะให้คุณเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาดี บารมีสูงส่งดุจเทวีแม้จะไม่ได้เกิดมาร่ำรวยก็จะดูดีเป็นที่สุด ผิวพรรณละเอียดผ่องใส ชายหญิงในฤกษ์นี้จะหน้าตางดงามสวยหล่อเหลาเอาการ หรือบุคลิกภาพการเจรจาจะดูดีมีเสน่ห์มากกว่าคนทั่วไปมากกว่าคนในฤกษ์อื่นๆ ไม่ขาดรัก ไม่ขาดแฟน หรือมีแฟนมากทั่วทุกหัวระแหง ในบางรายถ้าเป็นชายจะหน้าตางดงามเป็นพิเศษหรือมีออร่าและมักจะชอบผู้ชายด้วยกัน ในบางรายถึงแม้จะแต่งงานแล้วก็ยังอดที่จะชอบผู้ชายด้วยกันไม่ได้ ทำอะไรมักจะมีคนคอยช่วยเหลือตลอดไม่ตกอับไม่ดับจน ได้รับความเมตตากรุณาเป็นพิเศษ มีคนอุปถัมภ์ค้ำชูไม่ขาดสาย จะเป็นคนที่แก่ช้า แลดูอ่อนกว่าวัยเสมอ เดินทางไปใหนก็มีแต่คนรักคนชอบอยากคบหาพูดคุยด้วยตลอด มีชีวิตที่สงบสุขและสุขสบาย ไม่เดือดร้อนมากนัก ชอบความหรูหราเป็นที่สุด ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า สะอาดเรียบร้อย รักนวลสงวนตัว หรืออาจจะปาร์ตี้สุดๆชนิดที่ Casanova ยังเรียกพ่อ มีจิตใจเมตตาปราณี รักสัตว์ ไม่ชอบการทะเลาะวิวาทแบบใช้กำลัง ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หุ่นดี หญิงจะเป็นนางแบบ ชายจะเป็นนายแบบหรือเป็นนักกล้าม Fitness Trainer หรือไม่อย่างน้อยก็รูปร่างและสุขภาพจะดีเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนป่วยก็ยังดูดีมีออร่า ราศีไม่ตก แต่งตัวไม่ตกยุค ไม่ตกเทรน อย่างไรก็ตามก็มักจะชอบลุ่มหลงอะไรง่ายๆ บุคคลในฤกษ์นี้จะมีชื่อเสียงศุภะดีอย่างล้นเหลือถ้าจับงานศิลปกรรม อาชีพเด่นๆก็คือ นักแสดง ดารา นักแสดงละครเวที งานละครเวที งานภาพยนตร์ นักศิลปกรรมทุกๆสาขา นักศิลปวิทยา ครูศิลปะในทุกสาขา งานตกแต่งภายใน Interior กิจการเกี่ยวกับร้านอาหาร ผับบาร์ ไนท์คลับ เครื่องดื่ม อัญมณี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของหรูหรา ของเก่า ของโบราณ ร้านขายของโบราณที่สวยงามวิจิตร ฯลฯ
7.เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า นิธนะ
เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำการตัด การฟัน ลงดาบ หรือการแบ่ง (ไม่ได้หมายถึงเพชฌฆาตที่ทำการประหารชีวิต) ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า “ผู้ตัด” เฉยๆ ส่วน เพชฌฆาตฤกษ์ แปลความว่า “ฤกษ์แห่งการตัด” ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด มีดาวพระพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์แห่งแม่ทัพ นายกอง ท้าวพระยาในสมัยโบราณใช้ในการรบในมหาสงครามด้วยการยาตราทัพขนาดใหญ่ การหาฤกษ์เพื่อประกาศสงครามระหว่างราชอาณาจักร การจัดทัพ การจัดตั้งค่ายคูประตูหอรบ กองกำลังขนาดใหญ่ การเดินทัพสู่สงคราม ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก" คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การประกาศสงคคราม การยาตราทัพ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ลงอักขระเลขยันต์ การเขียนยันต์ ปลุกเสกเลขยันต์ พิธีกรรมที่ต้องใช้คาถาอาคมอันแรงกล้า ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ จะด้วยไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็ดีหมด การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ สร้างวัด เทวสถาน การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต การนั่งสมาธิภาวนา การศึกษาศาสตร์ลี้ลับ อาคมต่างๆ ศึกษาโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ Astrology , Horoscope , Tarot Card , Paganism , Wicca Ritual , Casting Spell , Witchcraft , Hermit , แพทย์ศาสตร์ ฯลฯ หรือบางทีก็เป็นฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ประดิษฐานรูปเคารพเพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์มากเป็นพิเศษ ฤกษ์นี้มีดาวพระพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ก็จะให้คุณโดดเด่นทางด้านการศึกษา คาถาอาคม การร่ายมนต์ การปลุกเสก และการศาสนา การปฏิบัติทางจิตภาวนาเป็นพิเศษ ฤกษ์นี้ยังใช้ในการเปลี่ยนชื่อนามสกุลได้ เพื่อต้องการความมั่นคงและจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีจิตใจดีหนักแน่นเด็ดเดี่ยวมากกว่าฤกษ์อื่นๆ มั่นคงในคำพูดเป็นที่สุด พูดจาขวานผ่าซาก เด็ดเดี่ยวจริงจัง ไม่มีลับลมคมใน จะคล้ายโจโรฤกษ์แต่จะแรงกว่าและจะทำแบบเปิดเผยไม่แทงข้างหลัง สู้ซึ่งๆหน้า วิ่งใส่เข้าไปตรงๆ พังเป็นพังตายเป็นตายด้วยบารมีและความกล้าไม่เป็นรองใคร จะทำอะไรจะทำไปแบบตรงๆ แรงๆ ไม่มีเล่ห์นัยด้วยความตรงไปตรงมาชนิดที่ฝ่ายตรงอาจจะเกรงกลัวได้เช่นกันเพราะเปิดเผยแบบเปิดหน้าสู้ มีศีลธรรม เคร่งในศาสนา เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็ว ทันสมัย ไม่ตกยุคไม่ตกเทรน หูไวตาไว เป็นคนเฉียบขาด ซื่อตรง ซื่อสัตย์ เกลียดชังการคดโกง มีความกตัญญูรู้คุณ ไม่ปลิ้นปล้อนไม่ตอแหล ไม่หวั่นไหวเกรงกลัวต่อสิ่งใดทั้งสิ้น วางแผนดีรอบคอบ เป็นที่เคารพในคนหมู่มาก มีคนเคารพนับถือมาก มีการศึกษาในระดับสูงๆ อาชีพเด่นๆ ก็คือ นักพยากรณ์ Psychic Medium , Ghost Hunter - Paranormal Investigator , Local or Traditional Healer , นักวิทยาศาสตร์ในทุกๆสาขาวิชา NASA , Astronomy , งานวิทยาศาตร์ด้านพลังงานปรมาณู งานปรมาณู ไฟฟ้าปรมาณู งานด้านพลังงาน นักการสถิติ การทหาร ข้าราชการทหาร ทหารประจำการ ทหารพราน ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการทหารสูงสุด สามเหล่าทัพ กระทรวงกลาโหม ครูอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ อนุศาสนาจารย์ ผู้คงแก่เรียน แพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรยนต์ กลไกต่างๆ
8. ราชาฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า มิตระ
ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ พระบรมราชวงศ์ หรือผู้มีอำนาจวาสนา มีดาวพระเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งปวงและให้ความมั่นคงยาวนานกว่าฤกษ์ใดๆ ฤกษ์นี้เหมาะสำหรับ งานราชการทั้งหลายทั้งมวล ทุกกระทรวงบวงกรม เปิดอาคารสถานที่ราชการ โรงเรียนรัฐ โรงพยาบาลรัฐ ลงเสาเอกพระที่นั่ง สงเสาเอกสถานที่ราชการ งานเปิดป้ายต่างๆโดยมีการเสด็จพระราชดำเนินไปในการนั้นด้วย งานทั้งหลายที่มีการอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนิน งานพระราชพิธีต่างๆ งานบรมราชาภิเษก ราชาภิเษกสมรส เสด็จเปิดงานต่างๆ เสด็จเป็นกระบวนยาตราขนาดใหญ่ หรืองานประเพณีที่ต้องการแสดงถึงความยิ่งอลังการที่มีมาแต่โบราณ เช่น Sukothai , Ayuddhaya , Rattanakosin Fair , งานพระราชอุทยาน ร.2 ..etc หรืองานที่ยิ่งใหญ่อลังการระดับ World Fair งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตามมากๆ การเข้ารับตำแหน่งงานในตำแหน่งระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน ผู้อำนวยการ งานที่ต้องการแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การสถาปนาการเลื่อนขั้นในราชสำนักหรือสถานที่ราชการ หรือแม้แต่งานฉลองการเลื่อนขั้นของบุคคลทั่วไป การแจกเหรียญตราและเครื่องราชอิศริยาภรณ์ บำเน็จความชอบในราชการ การแจกปริญญาการแจกรางวัลต่างๆ เช่น Nobel Price ,Prince Mahidol Award, World Scout Medal ..etc ก็กระทำได้เพื่อให้รางวัลและปริญญานั้นสถิตเสถียรเป็นศรีแก่ผู้ได้รับยาวนานที่สุดจนหาไม่ หรือการประชุมองค์การสหประชาชาติในวาระพิเศษ การประชุมผู้นำระดับโลก รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา งานที่แสวงหาอำนาจบารมี การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดร้าน และกิจการงานมงคลทั้งปวง ***ที่บอกว่าฤกษ์นี้สามัญชนใช้ไม่ได้ อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง และไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ คำว่าราชาฤกษ์ แปลว่า **ฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งหลาย เป็นราชาแห่งฤกษ์ทั้งปวงไม่ใช่ฤกษ์ใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดินหรือราชวงศ์ ใครๆก็ใช้ได้ไม่จำกัดชนชั้นวรรณะใดใด ฤกษ์นี้มีดาวพระเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ แสดงว่าเป็นฤกษ์ที่จะให้ความมั่นคงยืนนานมากที่สุดกว่าฤกษ์ใดๆ และหากเป็นกิจการที่ข้องกับงานอุตสาหรรมขนาดใหญ่ โรงงานผลิต การก่อสร้าง งานเชิงสาธารณะ งานราชการ รัฐวิสาหกิจ ก็จะให้ผลดีมากเป็นพิเศษ **อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปคนไทยไม่นิยมใช้ฤกษ์นี้ในการตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ด้วยคิดไปเองว่าบารมีไม่ถึงซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาหากจะใช้หรืออาจจะเพราะไม่ตรงกับสาขาอาชีพที่ตนต้องการจะใช้ฤกษ์นี้เพราะเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มเว้นแต่ว่าจะหาฤกษ์อื่นมาแทนไม่ได้หรือมีความเร่งรีบก็จะอนุโลมใช้ฤกษ์นี้โดยทั่วกัน ก็ให้เป็นไปตามความสะดวก
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาสูง มีบารมีสูงส่งกว่าคนทั่วไป ดุจเทพลงมาเกิด(เปรียบเปรย) มีออร่าเปล่งประกายพวยพุ่ง เหรียบหรู ภูมิฐาน ดูดีมีชาติตระกูล พูดจาหนักแน่น น้ำเสียงฟังชัด เด่นดัง ออกงานสังคมจะโดดเด่นกว่าฤกษ์อื่นๆ ปรารถนาสิ่งใดก็มักได้มาอย่างง่ายๆ มีข้าบริวารรายล้อมรับใช้ซ้ายขวามิได้ขาดเดินตามเป็นกระบวนยาวเหยี่ยดเป็นหางว่าวดูแล้วให้ชวนตะลึงถึงบารมี หากใช้ฤกษ์นี้ให้เป็นประโยชน์ต่อกิจการบ้านเมืองหรืองานส่วนรวมหรือการสาธารณะกุศลเพื่อคนทุกข์ยากจะเสริมอำนาจบารมียิ่งๆขึ้นไป ด้วยกรรมดีที่ส่งผลดีต่อส่วนรวมนั่นยิ่งใหญ่ที่สุด(มีของดีก็ใช้สะมิให้เสีย) หรือต่อให้เป็นเพียงคนสามัญธรรมดาที่เกิดในฤกษ์นี้เวลาจะทำอะไรหรือเดินไปใหนก็จะมีออร่ารังศีราศีมากกว่ากว่าคนทั่วไป ผู้คนเกรงขามในลักษณะเกรงใจ และคอยช่วยเหลือบริการตลอดหากร้องขอโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอะไรมากมาย จะอายุยืนมากกว่าคนทั่วไป สุขภาพแข็งแรง แบบผู้เฒ่าแม่เฒ่าที่ไม่เสื่อมราศีมีรัศมีผุดผ่อง เจ็บป่วยไม่นานด้วยมีอำนาจบารมีมากล้น พูดอะไรก็มีคนคล้อยตามได้ง่าย มีคนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต มีบริวารดี ลูกน้องเชื่อฟังตลอด มีคนคอยช่วยเหลือมิได้ขาด หากเป็นข้าราชการจะได้เป็นอธิบดี ข้าราชการชั้นสูง(ถ้าฝันจะไปให้ถึง) หรือถ้าทำอะไรก็จะได้เป็นผู้นำตลอดในทุกๆสถานการณ์ เช่นเกียวกับ ภูมิปาโลฤกษ์แต่จะลำบากน้อยกว่ามาก ทำงานอาชีพใดก็มักได้เป็นหัวหน้างานในทุกๆสาขาอาชีพ(ถ้ามีความพยายาม คิดดี ทำดี โดยเฉพาะงานส่วนรวมจะส่งผลดีเป็นพิเศษ)
9. สมโณฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรมมิตระ
สมโณฤกษ์ แปลว่า ความสุข ความสงบ ความร่มเย็นเป็นสุข นักบวช นักสอนศาสนา มีดาวพระพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับงานด้านการศาสนาทุกๆอย่างทุกๆศาสนาบนโลกใบนี้ การทำพิธีกรรมทางศาสนาทั่วไปหรือถ้าเป็นไสยศาสตร์ก็จะเป็นไสยขาวแบบเบาๆ บริสุทธิ์ ไม่มีราคิน ไร้กิเลส ไม่มีความลามกรักใคร่มาเกี่ยวข้อง ทำเพื่อส่วนรวมจนวันตาย จนวาระสุดท้ายของชีวิต เปรียบประดุจ พ่อพระ แม่พระ หรืองานทางพวกนักบวชก็ว่าได้ เช่น การบวชเรียนในทุกๆศาสนา การทำขวัญนาค การอุปสมบท พีธีหล่อพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ การหล่อเทวรูปก็กระทำได้ หรือศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาก็ดีไม่น้อยเพราะจิตจะสงบไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าในทางโลกก็จะเหมาะกับการเข้ารับการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆเพราะจิตจะสงบกว่าฤกษ์อื่นๆ และรวมถึงการกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ ตั้งศาลพระภูมิ สร้างศาสนสถาน เทวาลัย เทวสถาน ผูกข้อมือ สู่ขวัญ โกนผมไฟ งานประเพณีท้องถิ่นทางศาสนา ฤกษ์นี้มีดาวพระพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสื่อสาร การภาษา การขนส่งมวลชน กิจการที่เกี่ยวกับงานด้านเอกสาร งานโรงเรียน งานในมหาวิทยาลัย ตำราหนังสือ การตรวจทานอักขระ การจารึกใบลาน กิจการทุกอย่างที่เกิดภายในศาสนสถาน งานสัมมนา งานวิจัย งานด้านจิตวิทยา การใช้พลังจิต Psychic Medium เพื่อช่วยส่วนรวม ก็จะให้ผลดีเป็นพิเศษ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจมากเช่นกันแต่จะดูนิ่ง แต่งตัวสะอาดแบบเรียบๆแบบภูมิฐาน มีสไตล์แบบขรึม ๆ มีอ่อร่าแบบบางๆ แต่กว้าง จะดูโบราณเรียบหรูย้อนยุคนิดๆ Vintage Classic หน่อยๆ ไม่ชอบบังคับข่มเหงใคร ไม่ชอบตั้งกฏระเบียบจนไร้สาระ ไม่ไว้ผมทรงประหลาดแบบเกรียนๆ ไม่เคยรังเกียจใครๆ มีความเมตตาปราณีต่อทุกๆคนมากกว่าฤกษ์อื่นๆ ชอบให้ของขวัญรางวัลปลอบใจแก่คนอื่นๆ จะมีบุคลิคแบบต้อนรับหมดทุกคน(ถ้ามาดี) ไม่พูดเยอะไม่ต่อยหนักแบบฤกษ์อื่นๆแต่จะใช้จิตอันสงบหยุดความเคลื่อนไหว เข้าทำนอง นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว หรือจะเรียกว่า Psycho ใส่แบบนิ่งๆจนอีกฝ่ายกลัวหนีไปเอง เพราะจะออกแนวพ่อพระ แม่พระ กลับชาติมาเกิด ดูสงบ จิตใตผ่องใส มีจิตแรงกล้า สามารถทำสมาธิได้ดี ได้ยาวนานกว่าคนทั่วไป สามารถระลึกชาติได้(ในบางราย) พูดได้หลายภาษาเช่นเดียวกับเทศาตรีฤกษ์ แต่จะออกแนว ภาษาโบราณที่คนทั่วไปมิอาจเข้าถึงหรือภาษาที่เขาเลิกใช้ไปนานแล้วหรือไม่มีคนพูดแล้วบนโลกนี้แต่อยากจะเรียนอยากจะพูดหรือภาษาทางศาสนา เช่น เทวนาครี หรือภาษาโรมันละติน ฯลฯ มักเกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิดใหม่ มีความจริงใจเป็นที่สุด รักเดียวใจเดียว มีคู่คนเดียวจนวันตาย แต่งงานครั้งเดียว ไม่เคยนอกใจแฟน ถ้ามีแฟนก็คือรักแรกพบตั้งแต่หนุ่มน้อยสาวน้อย แต่งงานอยู่กันไปจนวันตาย หรือในบางรายอาจจะต้องโสดสนิทตลอดชั่วกาลปาวสาน(หากต้องการให้พลังจิตของตนกล้าแกร่ง คือไปบวชเถอะ) มีวาทะปฏิภาณดีเป็นเลิศ เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว มีการศึกษาสูง มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ รักการถ่ายภาพ ชื่นชมงานศิลปะในทุกๆสาขา ชอบศึกษาปรัชญา ชอบศึกษาหาความรู้ตลอดชีวิต ไม่สนใจในเรืองคู่ครองและเรื่องของคนอื่น ไม่สนใจทางโลก(ในบางราย) สนใจแต่ศาสนา สิ่งลี้ลับ สิ่งเหนือธรรมชาติ ชอบทำบุญกุศล มีจิตวิทยาสูงมากในการจูงใจคน
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายข้างต้นเป็นเพียงแนวทางการนำฤกษ์ไปใช้งานเท่านั้น ในความเป็นจริงต้องตรวจสอบรายละเอียดดวงฤกษ์นั้นอีกมากจึงจะสามารถกำหนดฤกษ์ทำการให้กิจการใดกิจการหนึ่งได้ หรือแม้แต่ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างภพต่าง ๆ ตลอดจนความเป็นคุณโทษของดาวก่อนพยากรณ์ชีวิต
รายชื่อกลุ่มดาวนักขัตฤกษฟ้าตารางต่อไปนี้เป็นตารางแสดงรายชื่อกลุ่มดาวนักขัตฤกษ์ที่ใช้ในการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ สังเกตว่าจะมีกลุ่มฤกษ์ซึ่งบอกความเป็นไปของฤกษ์ต่อบุคคล และประเภทของฤกษ์กำกับไว้ทุกกลุ่มดาว
[แก้]ตารางต่อไปนี้เป็นตารางแสดงรายชื่อกลุ่มดาวนักขัตฤกษ์ที่ใช้ในการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ สังเกตว่าจะมีกลุ่มฤกษ์ซึ่งบอกความเป็นไปของฤกษ์ต่อบุคคล และประเภทของฤกษ์กำกับไว้ทุกกลุ่มดาว
ฤกษ์ลำดับที่ | ชื่อฤกษ์ | หมวด | ประเภทฤกษ์ | กลุ่มดาวจริงบนท้องฟ้า | ภาพกลุ่มดาว | ราศีที่สถิต |
---|---|---|---|---|---|---|
๑ | อัศวินีนักษัตร หรือ อัสสนี - เห็นเป็นรูปคอม้าหรือหางหนู, ดาวคอม้า ดาวคู่ม้า ดาวม้า หรือ ดาวอัศวยุช ก็เรียก. มี ๗ ดวง | ทลิทโทฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว β และ γ แกะ | ทั้งสี่บาทสถิตราศีเมษ | |
๒ | ภรณีนักษัตร หรือ ภรณี - มี ๓ ดวง เห็นเป็นรูปแม่ไก่, ดาวก้อนเส้า ก็เรียก. (ป., ส.) มี ๓ ดวง | มหัทธโนฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว 35, 39 และ 41 แกะ | ทั้งสี่บาทสถิตราศีเมษ | |
๓ | กฤติกานักษัตร หรือ กฤติกา กฤตติกา กัตติกา - เห็นเป็นรูปธงสามเหลี่ยม มีหางเรียวยาว เช่น หมู่สามสมมุติ์กุกกุฏโบ- ดกกฤติกาขาน. (สรรพสิทธิ์), ดาวธงสามเหลี่ยม หรือ ดาวลูกไก่ ก็เรียก. (ส. กฺฤตฺติกา; ป. กตฺติกา) มี ๘ ดวง | โจโรฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (เอกตรีนิ) | ดาวลูกไก่ | หนึ่งบาทแรกราศีเมษ สามบาทหลังสถิตราศีพฤษภ | |
๔ | โรหิณีนักษัตร - เห็นเป็นรูปจมูกม้าหรือไม้คํ้าเกวียน, ดาวพราหมี(พรา-หะ-มี) ดาวปลาตะเพียน หรือ ดาวคางหมู ก็เรียก; แม่โคแดง; ชื่อแม่นํ้าสายหนึ่งในอินเดีย. (ป., ส.) มี ๘ ดวง | ภูมิปาโลฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาวอัลเดบาเรน และกระจุกดาวสามเหลี่ยมหน้าวัว | ทั้งสี่บาทสถิตราศีพฤษภ | |
๕ | มฤคศิระนักษัตร หรือ มฤคเศียร มิคสิระ -เห็นเป็นรูป ดาวหัวเต่า-กัศยปะสิระ ดาวหัวเนื้อทราย ดาวศีรษะเนื้อ-กวาง ดาวศีรษะโค ดาวมฤคศิรัส หรือ ดาวอาครหายณี ก็เรียก. (ส. มฺฤคศิรสฺ; ป. มิคสิร) มี ๓ ดวง | เทศาตรีฤกษ์ | พินทุฤกษ์ | ดาว λ และ φ ดาว “ Lambda-Orion “ ในกลุ่มดาว “ นายพราน “ [ The Huntsman son of Poseidon ] | สองบาทแรกราศีพฤษภ อีกสองบาทหลังสถิตราศีเมถุน | |
๖ | อาทรานักษัตร หรือ อารทรา อทระ - เห็นเป็นรูป ฉัตร-ร่มฉัตร , กัศยปศิระ ดาวอัททา ฉัตร , ดาวอัททา ดาวตัวโค หรือ ดาวตาเรือสำเภา ก็เรียก. มี ๑ ดวง | เทวีฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาวบีเทลจุส ดาว “ Alpha-Orions “ ในกลุ่มดาวนายพราน ดาวดวงนี้เป็นดาวที่มีความสว่างสุกใสที่สุดในกลุ่มของดาวนายพราน หรือ Betelgeuse หรือ Betelgeux | ทั้งสี่บาทสถิตราศีเมถุน | |
๗ | ปุนัพสุนักษัตร หรือ ปุนรวสุ ปุนัพพสู - เห็นเป็นรูปเรือชัยหรือหัวสำเภา, ดาวหัวสำเภา ดาวสำเภาทอง ดาวสะเภา ดาวยามเกา หรือ ดาวตาเรือไชย ก็เรียก. (ป. ปุนพฺพสุ) มี ๓ ดวง | เพชฌฆาตฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (ตรีนิเอก) | ดาวคาสเตอร์และดาวพอลลักซ์ (ดาวศีรษะคนคู่) | สามบาทแรกสถิตราศีเมเมถุน หนึ่งบาทหลังสถิตราศีกรกฎ | |
๘ | ปุษยนักษัตร หรือ บุษยะ บุษย์ ปุษยะ ปุสสะ - เห็นเป็นรูปปุยฝ้าย พวงดอกไม้ ดอกบัว หรือโลง, ดาวปุยฝ้าย ดาวพวงดอกไม้ ดาวดอกบัว ดาวโลง ดาวปู ดาวสมอสำเภา หรือ ดาวสิธยะ ก็เรียก. (ส. ปุษฺย; ป. ปุสฺส) มี ๕ ดวง | ราชาฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว γ, δ และ θ ปู | ทั้งสี่บาทสถิตราศีกรกฎ | |
๙ | อาศเลษะนักษัตร หรือ อสิเลสะอาศเลษา - เห็นเป็นรูปแขนคู้หรือพ้อม, ดาวเรือน หรือ ดาวนกอยู่ในปล่อง ก็เรียก มี ๕ ดวง | สมโณฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว δ, ε, η, ρ, และ σ งูไฮดรา | ทั้งสี่บาทสถิตราศีกรกฎ | |
๑๐ | มาฆะนักษัตร หรือ มฆา มาฆะ - เห็นเป็นรูปโคมูตร วานร หรืองอนไถ, ดาวโคมูตร ดาววานร ดาวงอนไถ หรือ ดาวงูตัวผู้ ก็เรียก. (ป., ส.) มี ๕ ดวง | ทลิทโทฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาวหัวใจสิงห์ | ทั้งสี่บาทสถิตราศีสิงห์ | |
๑๑ | บุรพผลคุนีนักษัตร หรือ ปุรพผลคุนี ปุพพผลคุนี - เห็นเป็นรูปแรดตัวผู้หรือเพดานตอนหน้า, ดาววัวตัวผู้ หรือ ดาวงูตัวเมีย ก็เรียก. มี ๒ ดวง | มหัทธโนฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว δ และ θ สิงโต | ทั้งสี่บาทสถิตราศีสิงห์ | |
๑๒ | อุตรผลคุนีนักษัตร หรือ อุตตรผลคุนี - เห็นเป็นรูปงูเหลือม แรดตัวเมีย หรือเพดานตอนหลัง, ดาวเพดาน หรือ ดาววัวตัวเมีย ก็เรียก. (ส. อุตฺตรผาลฺคุนี; ป. อุตฺตรผคฺคุนี) มี ๒ ดวง | โจโรฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (เอกตรีนิ) | ดาวเดเนโบลา | หนึ่งบาทแรกสถิตราศีสิงห์ สามบาทหลังสถิตราศีกันย์ | |
๑๓ | หัสตะนักษัตร หรือ หัสต(ฝ่ามือ) หัฏฐะ - เห็นเป็นรูปฝ่ามือหรือเหนียงสัตว์, ดาวศอกคู้ หรือ ดาวศีรษะช้าง ก็เรียก. มี ๕ ดวง | ภูมิปาโลฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว α, β, γ, δ และ ε ดาว Delta-Corvi ในกลุ่มดาวนกกา (Corvus) | ทั้งสี่บาทสถิตราศีกันย์ | |
๑๔ | จิตระนักษัตร หรือ จิตรา - เห็นเป็นรูปต่อมนํ้าหรือไต้ไฟ เช่น จิตราก็ปรากฏดำบล เสถียรที่สิบสี่หมาย. (สรรพสิทธิ์), ดาวต่อมนํ้า ดาวไต้ไฟ ดาวตาจระเข้ หรือ ดาวตาเสือ ก็เรียก. (ส.; ป. จิตฺตา) มี ๑ ดวง | เทศาตรีฤกษ์ | พินทุฤกษ์ | ดาวรวงข้าว (สไปกา Spicum -Spica) ดาว “ Alpha-Virginis “ ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างสุกใสที่สุดในกลุ่มดาวราศีกันย์ | สองบาทแรกสถิตราศีกันย์ สองบาทหลังสถิตราศีตุล | |
๑๕ | สวาตินักษัตร หรือ สวาตี สวัสติ - เห็นเป็นรูปช้างพัง เหนียงผูกคอสุนัข ดวงแก้ว หรือ กระออมนํ้า, ดาวช้างพัง หรือ ดาวงูเหลือม ก็เรียก. (ส. สฺวาติ) มี ๕ ดวง | เทวีฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาวดวงแก้ว (อาร์คตุรุส) | ทั้งสี่บาทสถิตราศีตุล | |
๑๖ | วิศาขะนักษัตร หรือ วิศาขา,วิศาขา,วิสาขะ,วิสาขะ - เห็นเป็นรูปแขนนาง หนองลาด เหมือง หรือไม้ฆ้อง, ดาวคันฉัตร หรือ ดาวศีรษะกระบือ ก็เรียก. (ส.; ป. วิสาข, วิสาขา) มี ๕ ดวง | เพชฌฆาตฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (ตรีนิเอก) | ดาว α, β, γ และ ι คันชั่ง | สามบาทแรกสถิตราศีตุล อีกหนึ่งบาทหลังสถิตราศีพิจิก | |
๑๗ | อนุราธะนักษัตร หรือ อนุราธ อนุราธา อนุราช - เห็นเป็นรูปธนู หน้าไม้ หรือหงอนนาค, ดาวประจำฉัตร หรือ ดาวนกยูง ก็เรียก. มี ๔ ดวง | ราชาฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว β, δ และ π แมงป่อง | ทั้งสี่บาทสถิตราศีพิจิก | |
๑๘ | เชษฐานักษัตร หรือ เชษฐะ - เห็นเป็นรูปงาช้างหรือคอนาค, ดาวเชษฐะ ดาวงาช้าง ดาวช้างใหญ่ ดาวคอนาค หรือ ดาวแพะ ก็เรียก. มี ๑๔ ดวง | สมโณฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว α, σ, และ τ แมงป่อง | ทั้งสี่บาทสถิตราศีพิจิก | |
๑๙ | มูละนักษัตร หรือ มูลา - เห็นเป็นรูปสะดือนาค, ดาวช้างน้อย หรือ ดาวแมว-วิฬาร์ ก็เรียก. มี ๙ ดวง | ทลิทโทฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว ε, ζ, η, θ, ι, κ, λ, μ และ ν แมงป่อง | ทั้งสี่บาทสถิตราศีธนู | |
๒๐ | ปุรพษาฒนักษัตร หรือ บุรพอาษาฒบุพพาสาฬหะ - เห็นเป็นรูปปากนกหรือช้างพลาย, ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาวราชสีห์ตัวผู้ ก็เรียก. มี ๓ ดวง | มหัทธโนฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว δ และ ε คนยิงธนู | ทั้งสี่บาทสถิตราศีธนู | |
๒๑ | อุตราษาฒนักษัตร หรือ อุตตราอาษาฒ อุตตราสาฬหะ - เห็นเป็นรูปพญาครุฑ หรือช้างพัง, ดาวแตรงอน หรือ ดาวราชสีห์ตัวเมีย ก็เรียก. (ส. อุตฺตราษาฒ; ป. อุตฺตราสาฬฺห) มี ๕ ดวง | โจโรฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (เอกตรีนิ) | ดาว ζ และ σ คนยิงธนู | หนึ่งบาทแรกสถิตราศีธนู อีกสามบาทหลังสถิตราศีมกร | |
๒๒ | ศรวณะนักษัตร หรือ ศระวณ สาวนะ - เห็นเป็นรูปหามผีหรือโลง, ดาวหลักชัย หรือ ดาวพระฤๅษี ก็เรียก. (ส.) มี ๓ ดวง | ภูมิปาโลฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว α, β และ γ นกอินทรี | ทั้งสี่บาทสถิตราศีมกร | |
๒๓ | ธนิษฐะนักษัตร หรือ ธนิษฐา - เห็นเป็นรูปกา, ดาวศรวิษฐา ดาวเศรษฐี หรือ ดาวไซ ก็เรียก. มี ๔ ดวง | เทศาตรีฤกษ์ | พินทุฤกษ์ | ตั้งแต่ดาว α จนถึงดาว δ ปลาโลมา | สองบาทแรกสถิตราศีมกร สองบาทหลังสถิตราศีกุมภ์ | |
๒๔ | ศตภิษัชนักษัตร หรือ สตภิสชะ - เห็นเป็นรูปทิมทองหรือมังกร, ดาวพิมพ์ทอง หรือ ดาวยักษ์ ก็เรียก มี ๔ ดวง | เทวีฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | γ ปลา | ทั้งสี่บาทสถิตราศีกุมภ์ | |
๒๕ | บุรพภัทรบทนักษัตร หรือ ปุพพภัททะ - เห็นเป็นรูปราชสีห์ตัวผู้หรือเพดานตอนหน้า, ดาวโปฐบท ดาวแรดตัวผู้ หรือ ดาวหัวเนื้อทราย ก็เรียก มี ๒ ดวง | เพชฌฆาตฤกษ์ | ฉินทฤกษ์ (ตรีนิเอก) | ดาว α และ β ม้าบิน Pegasus ดาว “ Alpha-Pegasi “ ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่มีความสว่างที่สุดในกลุ่มดาวม้าบิน ( Pegasus ) | สามบาทแรกสถิตราศีกุมภ์ หนึ่งบาทหลังสถิตราศีมีน | |
๒๖ | อุตรภัทรบทนักษัตร หรือ อุตตรภัทรบท อุตตรภัททะ - เห็นเป็นรูปราชสีห์ตัวเมียหรือเพดานตอนหลัง, ดาวแรดตัวเมีย หรือ ดาวไม้เท้า ก็เรียก. (ส. อุตฺตรภทฺรปท; ป. อุตฺตรภทฺทปท). มี ๒ ดวง | ราชาฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว γ ม้าบิน และดาว α แอนดรอเมดา ดาว “ Gamma-Pegasi “ ในกลุ่มดาวม้าบิน ( Pegasus ) และดาว “ Alpha-Andromeda “ ในกลุ่มดาวแอนดรอเมดา ( Andromeda ) | ทั้งสี่บาทสถิตราศีมีน | |
๒๗ | เรวดีนักษัตร - เห็นเป็นรูปหญิงท้อง, ดาวปลาตะเพียน หรือ ดาวนาง ก็เรียก. (ป., ส. เรวตี). มี ๑๖ ดวง | สมโณฤกษ์ | บูรณฤกษ์ | ดาว ζ ปลา | ทั้งสี่บาทสถิตราศีมีน |
**บางครั้ง จะมีอภิชิตนักษัตรแทรกลงระหว่างอุตราษาฒและศราวณะ เพื่อให้จำนวนดาวนักขัตฤกษ์สอดคล้องต้องกับดาวนักษัตรแบบจีน อย่างไรก็ดีในวิชาโหราศาสตร์ไทยมิได้นำอภิชิตมาพิจารณาเพราะจะทำให้หมวดฤกษ์จัดไม่ลงตัว พูดง่ายๆคือไทยเรานั้นได้เลือกการลำดับดาวฤกษ์แบบอินเดีย India Astrology โดยแท้ และไม่ใช้แบบจีน เพราะจีนนั้นไม่ลงตัวและสับสน
ประวัติศาสตร์และตำนาน
[แก้]เพอร์ซิอัส (อังกฤษ: Perseus; กรีก: Περσεύς) เป็นบุคคลในตำนานเทพปกรณัมกรีก เป็นบุตรของเทพซูสกับหญิงชาวมนุษย์ชื่อ นางแดนาอี ตามตำนานกรีก
เพอร์ซิอัสเป็นผู้ก่อตั้งแคว้นไมซีนี และเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์เพอร์เซอิด เขาเป็นวีรบุรุษคนแรกในปกรณัมกรีกที่มีชื่อเสียงจากการปราบสัตว์ประหลาดโบราณมากมาย ในยุครุ่งเรืองเทพโอลิมปัสทั้ง 12 องค์ ชาวกรีกเชื่อกันว่าเพอร์ซิอัสเป็นผู้ก่อตั้งเมืองไมซีนีขึ้น ณ จุดที่ได้สังหารอะคริซิอัส พระเจ้าตาของตนโดยอุบัติเหตุ นอกจากนี้เพอร์ซิอัสยังเป็นผู้สังหารเมดูซาและเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหญิงแอนดรอมิดาจากเคตัส (Cetus) ปีศาจทะเลซึ่งถูกส่งมาโดยเทพโปเซดอน เพื่อทำลายเอธิโอเปีย
ชื่อของเพอร์ซิอัสยังขาดข้อสรุปทางนิรุกติศาสตร์ที่ชัดเจน ทำให้มีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นชื่อโบราณก่อนภาษากรีกจะเข้ามา แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่าอาจจะมีรากมาจากคำกริยากรีกว่า "πέρθειν" (perthein) แปลว่า ปล้นสะดม หรือ เข้าตีเมือง
- ↑ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายคำ ฤกษ์บน ว่า "ฤกษ์ที่ดาวนพเคราะห์เสวยประจำวัน มี 27 ฤกษ์" ส่วนฤกษ์ล่าง ให้ความหมายว่า "ฤกษ์ที่ประกอบฤกษ์บน มี 9 ฤกษ์"
- ↑ โหรบางท่าน ใช้คำว่าฤกษ์บนหมายถึงตำแหน่งดาวเคราะห์และดาวนักขัตฤกษ์ ส่วนฤกษ์ล่างหมายถึงวันที่ทางพระจันทร์ (คือดิถี) และวันที่ทางพระอาทิตย์ (คือวาร)
ดูเพิ่ม
[แก้]โหราศาสตร์คัมภีร์พระเวท ว่าด้วยเรื่อง ''ดาวนักขัตฤกษ์ 27 กลุ่ม'' - อินเดีย (ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู)
[แก้]โหราศาสตร์คัมภีร์พระเวท หรือชโยทิศ หมายถึงศาสตร์แห่งแสงสว่างซึ่งปราชญ์ชาวอินเดียคิดค้นขึ้นเมื่อราว 5,000 ปีก่อน โหราศาสตร์คัมภีร์พระเวทแบ่งเป็น 27 ราศี หรือที่เรียกว่านักษัตร แต่ละราศีจะมีลักษณะนิสัย ธาตุประจำตัว และเป้าหมายในชีวิต รวมทั้งสัญลักษณ์ประจำราศีและพลังขับเคลื่อนทางเพศ ดังนั้นจึงสามารถนำศาสตร์นี้ไปประยุกต์ใช้กับทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่มองหาเนื้อคู่ ไปจนถึงตั้งชื่อแมว ข้อแตกต่างอีกอย่างระหว่างโหราศาสตร์ตะวันตกและโหราศาสตร์คัมภีร์พระเวทนี้ก็คือ โหราศาสตร์ตะวันตกจะขึ้นอยู่กับอิทธิพลระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ขณะที่โหราศาสตร์คัมภีร์พระเวทนี้คำนึงถึงอิทธิพลระหว่างดาวเคราะห์และดวงดาวเป็นหลัก
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- สิงห์โต สุริยาอารักษ์. เรื่องฤกษ์และการให้ฤกษ์ ดวงพิชัยสงคราม. กรุงเทพฯ:เกษมบรรณกิจ, ม.ป.ป.
- เอื้อน มนเทียรทอง. พระคัมภีร์ศิวาคม. กรุงเทพฯ:สำนักโหรหอคำ, ม.ป.ป.
- วิศาลดรุณกร (อั้น สาริกบุตร), หลวง. คัมภีร์โหราศาสตร์ไทยมาตรฐานฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: บริษัท อินเตอร์พริ้นท์ (ประเทศไทย), 2540