นัมแดมุน
37°33′36″N 126°58′31″E / 37.56000°N 126.97528°E
นัมแดมุน | |
---|---|
นัมแดมุนใน ค.ศ. 2013 | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | เปิดใช้งาน |
เมือง | เขตชุง โซล |
ประเทศ | เกาหลีใต้ |
พิกัด | 37°33′36″N 126°58′31″E / 37.56000°N 126.97528°E |
เปิดใช้งาน | ค.ศ. 1398 |
ชื่อเกาหลี | |
ฮันกึล | 남대문 |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Namdaemun |
เอ็มอาร์ | Namdaemun |
ชื่อทางการ | |
ฮันกึล | 숭례문 |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Sungnyemun |
เอ็มอาร์ | Sungnyemun |
นัมแดมุน (เกาหลี: 남대문; แปล ประตูใหญ่ทางทิศใต้) มีชื่อทางการว่า ซุงนเยมุน (숭례문; แปล ประตูแห่งความเคารพอันเหมาะสม)[1] เป็นประตูหนึ่งจากแปดประตูในกำแพงเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ ประตูดังกล่าวเป็นเขตแดนทางใต้ดั้งเดิมของตัวนครในสมัยราชวงศ์โชซ็อน แม้ว่าตัวนครเติบโตไกลกว่าขอบเขตนี้ ตั้งอยู่ในเขตชุงระหว่างสถานีรถไฟโซลกับโซลพลาซา โดยมีตลาดนัมแดมุนตั้งอยู่ถัดจากประตู
ประตูนี้เป็นประตูแบบเจดีย์ที่มีอายุถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และได้รับการบรรจุเป็นสมบัติประจำชาติเกาหลีใต้แห่งแรก[2] ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในสามประตูหลักที่ผ่านกำแพงเมืองโซล ซึ่งมีหินตั้งเป็นวงยาว 18.2 กิโลเมตร (11.3 ไมล์) และสูงถึง 6.1 เมตร (20 ฟุต) สร้างขึ้นครั้งแรกในปีสุดท้ายของรัชสมัยพระเจ้าแทโจแห่งโชซ็อนเมื่อ ค.ศ. 1398 แล้วสร้างใหม่ใน ค.ศ. 1447
ใน ค.ศ. 2008 เจดีย์ไม้บนประตูถูกลอบวางเพลิงจนเสียหายอย่างหนัก งานบูรณะประตูเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 และแล้วเสร็จในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2013 ประตูนี้เปิดให้เข้าชมอีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2013
ชื่อ
[แก้]รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกแลนด์มาร์กนี้อย่างเป็นทางการว่า ซุงนเยมุน ตามอักษรฮันจาบนโครงสร้างไม้[3] แม้ว่าโดยทั่วไปรู้จักกันในชื่อ นัมแดมุน ตั้งแต่สมัยโชซ็อนก็ตาม
ประวัติ
[แก้]ก่อนไฟไหม้ ค.ศ. 2008
[แก้]ก่อนเหตุเพลิงไหม้ใน ค.ศ. 2008 นัมแดมุนเป็นโครงสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล[4] ประตูเมืองที่สร้างจากไม้และหินที่มีหลังคาทรงเจดีย์สองชั้นสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1398 และในตอนแรกใช้ในการต้อนรับคณะทูตต่างชาติ ควบคุมการเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง และกันเสือโคร่งไซบีเรียที่สูญพันธ์จากบริเวณไปนานแล้ว การก่อสร้างเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1395 ในปีที่ 4 ของรัชสมัยพระเจ้าแทโจแห่งโชซ็อนและแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1398 โครงสร้างนี้ได้รับการสร้างใหม่ใน ค.ศ. 1447 ในปีที่ 29 ของพระเจ้าเซจงมหาราช[5] และนับแต่นั้นมาก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง[4] เดิมเป็นหนึ่งในสามประตูหลักขิงเมือง ส่วนอีกสองประตูคือดงแดมุน (ประตูตะวันออก) กับซอแดมุน (ประตูตะวันตก) ที่ปัจจุบันถูกรื้อแล้วในเขตซอแดมุน[6]
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีการรื้อกำแพงล้อบรอบกรุงโซลเพื่อให้ระบบการจราจรมีประสิทธิภาพมากขึ้น[7] มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นผู้พระราชดำเนินเยือนกรุงโซล ทรงกระตุ้นให้เกิดการรื้อถอนกำแพงรอบ ๆ นัมแดมุน เนื่องจากเจ้าชายมีความสูงส่งเกินกว่าจะลอดผ่านประตูได้[8] ประตูนี้ปิดไม่ให้เข้าชมใน ค.ศ. 1907 หลังทางการได้สร้างทางรถรางเชื่อมไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียง จากนั้นใน ค.ศ. 1938 นัมแดมุนได้รับการบรรจุเป็นสมบัติเกาหลีหมายเลข 1 โดยผู้สำเร็จราชการเกาหลี[9]
นัมแดมุนได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวางในช่วงสงครามเกาหลีและได้รับการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายใน ค.ศ. 1961 โดยมีพิธีสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1963[10] ประตูนี้ได้รับสถานะ "สมบัติประจำชาติ หมายเลข 1"[11] ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1962
ประตูนี้ได้รับการบูรณะอีกครั้งใน ค.ศ. 2005 ด้วยการสร้างสนามหญ้าไว้รอบประตู ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมอีกครั้งในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2006[12] ในระหว่างการบูรณะ มีการผลิตพิมพ์เขียวสำหรับประตูจำนวน 182 หน้า เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินใดก็ตามที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้าง[13]
ไฟไหม้ ค.ศ. 2008
[แก้]เมื่อเวลาประมาณ 20:50 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 เกิดเหตุเพลิงไหม้และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างข้างบนประตูนัมแดมุนอย่างมาก แม้ว่านักดับเพลิงกว่า 360 คนพยายามดับไฟก็ตาม ไฟกลับลุกลามอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้งช่วงหลังเที่ยงคืน และทำลายโครงสร้างในที่สุด[14] พยานหลายคนรายงานเห็นชายต้องสงสัยก่อนไฟไหม้ไม่นาน และพบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง 2 อันในบริเวณที่เชื่อว่าเกิดเพลิงไหม้[15] ชายวัย 69 ปีที่ระบุตัวเป็น Chae Jong-gi ถูกจับกุมในข้อหาลอบวางเพลิง และภายหลังสารภาพความผิด[16][17][18] หัวหน้าตำรวจรายงานว่า Chae พ่นทินเนอร์ลงบนพื้นโครงสร้างแล้วจุดไฟเผา[19] ตำรวจกล่าวว่า Chae รู้สึกไม่พอใจที่ไม่ได้รับเงินค่าที่ดินที่เขาขายให้กับผู้พัฒนาเต็มจำนวน[17] ชายคนเดียวกันถูกตั้งข้อหาจุดไฟที่พระราชวังชังกย็องในโซลเมื่อ ค.ศ. 2006[20]
การบูรณะ
[แก้]ฝ่ายบริหารมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ระบุว่า โครงการสร้างและบูรณะประตูประวัติศาสตร์ใหม่ในช่วงสามปีจะใช้งบประมาณที่ประมาณ 20,000 ล้านวอน (ประมาณ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[21] ทำให้เป็นโครงการบูรณะที่แพงที่สุดในเกาหลีใต้[22] ประธานาธิบดี อี มย็อง-บัก เสนอให้เริ่มรณรงค์บริจาคภาคเอกชนเพื่อเป็นทุนในการฟื้นฟูโครงสร้าง[23]
ในช่วงมกราคม ค.ศ. 2010 ประตูกับชั้นหนึ่งร้อยละ 70 และกำแพงป้อมปราการร้อยละ 80 สร้างแล้วเสร็จ งานบนหลังคาเริ่มขึ้นในเดือนเมษายนหลังจากสร้างชั้น 2 ที่เป็นไม้แล้วเสร็จ โดยมีกระเบื้องมุงหลังคาจำนวน 22,000 แผ่นที่ผลิตในเตาเผาแบบดั้งเดิมในเมืองพูยอ จังหวัดชุงช็องใต้ กำแพงและโครงพื้นฐานมีกำหนดจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนและพฤษภาคมตามลำดับ เสาและคานค้ำหลังคาจะต้องได้รับการตกแต่งอย่างประณีต โดยมีลวดลายและสีสันประดับตามแบบที่ใช้ในการซ่อมแซมขนานใหญ่ใน ค.ศ. 1963 ซึ่งใกล้เคียงกับต้นฉบับโชซ็อนตอนต้นมากที่สุด[24]
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 ทางการประมาณการว่าประตูนี้จะบูรณะเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2013[25] การก่อสร้างกลับล่าช้าไป 4 เดือนเนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ในโซล ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ประตูสร้างเสร็จร้อยละ 96 และถอดนั่งร้านโครงเหล็กทั้งหมดออกแล้ว[26][27] เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2013 การบูรณะประตูเสร็จสิ้น[28] และกำหนดวันเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เพียงวันเดียวก่อนวันเด็ก[29][30] หลังการบูรณะที่กินเวลา 5 ปี ประตูเปิดให้เข้าชมอีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2013[31]
หลังบูรณะเสร็จไปเพียง 6 เดือน สีเริ่มหลุดลอกและไม้แตกหัก ประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเย สั่งให้สืบส่วนในเรื่องนี้[32]
รูปภาพ
[แก้]-
สมัยโชซ็อน (ป. คริสต์ทศวรรษ 1890)
-
สมัยจักรวรรดิเกาหลี (ป. ค.ศ. 1900–1910)
-
สมัยอาณานิคมญี่ปุ่น (ป. ก่อน ค.ศ. 1935)
-
การจัดพิธีหน้านัมแดมุนหลังยุทธการที่โซลครั้งแรก (1950)
-
ในช่วงยุทธการที่โซลครั้งที่สาม (1951)
-
ก่อนสงครามเกาหลีสิ้นสุด (กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953)
-
ก่อนเหตุเพลิงไหม้ (2007)
-
หลังเหตุเพลิงไหม้ (11 มกราคม ค.ศ. 2008)
-
ช่วงบูรณะ (กรกฎาคม ค.ศ. 2008)
-
นัมแดมุนทั้งหมด (2013)
-
ด้านหลังและซ้าย (2013)
-
ป้ายแสดงชื่อทางการของประตูในอักษรฮันจาว่า ซุงนเยมุน (2013)
-
ข้างในโครงสร้างไม้ (2013)
ดูเพิ่ม
[แก้]- ดงแดมุน (ประตูเมืองตะวันออก)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Yoon, Hong-key (2017). P'ungsu: A Study of Geomancy in Korea. SUNY Press. p. 217. ISBN 9781438468716.
- ↑ 문교부장관 (29 December 1962). "문교부고시제169호. 《문화재보호법에의한국보지정》". 관보 (ภาษาเกาหลี). 공보부.
- ↑ Kwang-Tae Kim (11 February 2008). "South Korea arrests man in landmark fire". Yahoo! News. Associated Press.
- ↑ 4.0 4.1 "Fire ravages South Korea landmark". BBC News. 11 February 2008. สืบค้นเมื่อ 11 February 2008.
- ↑ "Namdaemun: National Treasure No. 1". Korea JoongAng Daily. 30 January 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2013. สืบค้นเมื่อ 30 November 2012.
{{cite news}}
: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์) - ↑ Seth, Michael J (2006). A Concise History of Korea: From The Neolithic Period Through the Nineteenth Century. Rowman & Littlefield. p. 204.
- ↑ Kim, Hyung-eun (18 May 2009). "Gateway to the Joseon capital". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 30 November 2012.
- ↑ Hong Seong-tae (2004). "From Mount Baekak to the Han River: A Road to Colonial Modernization". ใน LaMarre, Thomas; Kang, Nae-hŭi (บ.ก.). Impacts of Modernities. Hong Kong University Press. p. 126.
- ↑ 監査院 国宝1号を変更すべき. Chosun Ilbo Japan (ภาษาญี่ปุ่น). 28 November 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 February 2008. สืบค้นเมื่อ 7 January 2008.
監査院は '日帝は1938年の 朝鮮宝物令 で文化財を指定した際、南大門を宝物1号に、現在の東大門(現在の宝物1号)を宝物2号に指定したが、光復 (独立)後も1962年にようやく国宝と宝物を指定した際、そのほとんどが日帝の宝物令にそのまま従って指定された' と明らかにした
- ↑ Rahn, Kim (11 February 2008). "Poor Security Blamed for Gate Burnout". The Korea Times.
- ↑ Shin Hae-in (13 February 2008). "Controversy erupts over fundraising for historic gate". Yonhap News Agency.
- ↑ Lankov, Andrei (11 February 2008). "Namdaemun Outlived War, Colonialism". The Korea Times.
- ↑ Chung Ah-young (11 February 2008). "Three Years Needed for Restoration". The Korea Times.
- ↑ "S. Korean landmark collapses in fire". CNN. Associated Press. 11 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 February 2008.
- ↑ Kwok, Vivian Wai-yin (11 February 2008). "Korea's Historic Namdaemun Gate Toppled By Fire". Forbes.
- ↑ "Man 'confesses to S Korea blaze'". BBC News. 12 February 2008.
- ↑ 17.0 17.1 Kim Tae-jong (12 December 2008). "Suspect Admits Arson on Namdaemun". The Korea Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 February 2008.
- ↑ "Man 'Arsonist Blames President Roh'". The Korea Times. 14 February 2008.
- ↑ "SKorea arsonist in Namdaemun fire had grudge over land dispute: police". Agence France-Presse. 12 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 February 2008.
- ↑ Hyung-Jin Kim (11 February 2008). "Fire destroys South Korean landmark". Yahoo! News. Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 February 2008. สืบค้นเมื่อ 11 February 2008.
- ↑ Choe Sang-Hun (12 February 2008). "South Korean Gate Destroyed in Fire". The New York Times.
- ↑ Lim Chang-Won (2013). "Following the most expensive restoration project ever in South Korea, Namdaemun gate set to reopen". ArtNews/AFP.
- ↑ Kim Yon-se (12 February 2008). "Donation for Gate Restoration Proposed". The Korea Times.
- ↑ "Seoul Landmark Restorations to Be Completed This Year". The Chosun Ilbo. 4 January 2012. สืบค้นเมื่อ 23 April 2012.
- ↑ Lee, Min-Sun (4 January 2013). "The South Gate Will Stay Closed a Little Longer". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 8 January 2013.
- ↑ "Veil lifted". Korea JoongAng Daily. 15 February 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 April 2013. สืบค้นเมื่อ 18 February 2013.
{{cite news}}
: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์) - ↑ "Finishing touches". The Korea Times. 17 February 2013. สืบค้นเมื่อ 18 February 2013.
- ↑ Lee, Min-Sun (4 January 2013). "The South Gate Will Stay Closed a Little Longer". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 8 January 2013.
- ↑ "Sungnyemun to open to great fanfare after more than five years of renovation". The Korea Herald. 30 April 2013. สืบค้นเมื่อ 1 May 2013.
- ↑ "Recovering Sungnyemun celebration congratulatory address". .The Blue House. 1 May 2013. สืบค้นเมื่อ 1 May 2013.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Cha, Frances (9 May 2013). "South Korea's No. 1 national treasure reopens after five years". CNN Travel. สืบค้นเมื่อ 27 May 2013.
- ↑ Jaeyeon Woo (12 November 2013). "President Orders Probe into Restoration of National Treasure". Wall Street Journal / Korea Realtime.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Sungnyemun
- CS1 maint: unfit URL
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่เมษายน 2018
- สิ่งก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 1938
- สิ่งก่อสร้างที่สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 1941
- สิ่งก่อสร้างในโซล
- ทางเข้าออกในประเทศเกาหลีใต้
- สถานที่ท่องเที่ยวในโซล
- ประวัติศาสตร์โซล
- สิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลายโดยการวางเพลิง
- สมบัติประจำชาติเกาหลีใต้
- สัญลักษณ์ของประเทศเกาหลีใต้
- สิ่งก่อสร้างในประเทศเกาหลีใต้
- บทความเกี่ยวกับ สถานที่ ที่ยังไม่สมบูรณ์