หลี่ชื่อ
หลี่ชื่อ 李氏 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภรรยาของม้าเชียวแห่งจ๊กก๊ก | |||||||||
เกิด | ไม่ทราบ | ||||||||
ถึงแก่กรรม | ค.ศ. 263 | ||||||||
สถานที่ถึงแก่กรรม | เมืองอิวกั๋ง | ||||||||
สามี | ม้าเชียว | ||||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 李氏 | ||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 李氏 | ||||||||
| |||||||||
ยุคในประวัติศาสตร์ | ยุคสามก๊ก |
หลี่ชื่อ (จีน: 李氏; พินอิน: Lǐ Shì) เป็นตัวละครในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนในศตวรรษที่ 14 เรื่องสามก๊ก (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้) ซึ่งอิงจากเหตุการณ์ในยุคสามก๊ก หลี่ชื่อได้รับการระบุว่าเป็นภรรยาของม้าเชียว (馬邈 หมา เหมี่ยว) เจ้าเมืองของเมืองอิวกั๋ง (江油 เจียงโหยว; ปัจจุบันคือนครเจียงโหยว มณฑลเสฉวน) ของรัฐจ๊กก๊ก หลี่ชื่อเป็นที่จดจำจากการวิงวอนสามีอย่างแรงกล้าไม่ให้ยอมมอบเมืองแก่ทัพของรัฐวุยก๊กที่บุกเข้ามาในช่วงเหตุการณ์ที่วุยก๊กพิชิตจ๊กก๊กในปี ค.ศ. 263 หลี่ชื่อกัดนิ้วตัวเองเพื่อเขียนจดหมายเลือด จากนั้นจึงแขวนคอตายเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อรัฐจ๊กก๊ก ภายหลังหลี่ชื่อได้รับการยกย่องจากเตงงายขุยพลของวุยก๊ก
เรื่องราวของหลี่ชื่อได้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านโดยเฉิง เยี่ยนชิว (程硯秋) หนึ่งในนักแสดงงิ้วปักกิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เฉิง เยี่ยนชิวสร้างละครเรื่อง การพลีชีพของหลี่ชื่อ โดยเน้นย้ำถึงความจงรักภักดีของหลี่ชื่อต่อประเทศชาติและความขี้ขลาดของม้าเชียว ใช้ในการสบประมาทรัฐบาลก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นพวกปฏิกิริยาที่ยอมจำนนต่อจักรวรรดิญี่ปุ่น ละครเรื่องนี้ปลุกเร้าความรู้สึกรักชาติของชาวจีนส่วนใหญ่ ทำให้รัฐบาลจีนสั่งห้ามละครเรื่องนี้ในเวลาต่อมาไม่นาน
ในนิยายสามก๊ก
[แก้]หลี่ชื่อไม่ปรากฏในบันทึกทางประวัติศาสตร์ และไม่มีบันทึกถึงภรรยาของม้าเชียว โดยตัวม้าเชียวนั้นเป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเจ้าเมืองของเมืองอิวกั๋งที่ยอมจำนนต่อวุยก๊ก[1] หลี่ชื่อปรากฏในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนในศตวรรษที่ 14 เรื่องสามก๊ก (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้) ซึ่งเล่าเรื่องเหตุการณ์ก่อนและระหว่างยุคสามก๊กของจีน
นวนิยายเปิดตัวหลี่ชื่อในตอนที่ 117[a] สามีของหลี่ชื่อคือม้าเชียวเป็นเจ้าเมืองของเมืองอิวกั๋ง ในช่วงการพิชิตจ๊กก๊กโดยวุยก๊ก ม้าเชียวได้ยินว่าดินแดนตังฉวน (東川 ตงชฺวาน) ตกเป็นของทัพวุยก๊ก แม้ว่าม้าเชียวเตรียมการป้องกันบางอย่าง แต่ให้สำคัญเฉพาะเส้นทางหลัก และม้าเชียวมั่นใจว่าเกียงอุยจะป้องกันด่านด่านเกียมโก๊ะ (劍閣 เจี้ยนเก๋อ) ได้ ม้าเชียวจึงไม่ทำหน้าที่ทางทหารอย่างจริงจังและอยู่แต่กับบ้าน ในปี ค.ศ. 263 เมื่อเตงงายขุนพลวุยก๊กยกพลมายังอิวกั๋ง ม้าเชียวกลับไม่ดำเนินการป้องกัน
เมื่อหลี่ชื่อได้ยินเรื่องสถานการณ์ที่ชายแดน จึงพูดกับม้าเชียวว่า "มีภัยใหญ่หลวงที่ชายแดน เหตุใดท่านจึงไม่กังวล" ม้าเชียวตอบว่า "เรื่องนี้เกียงอุยดูแลอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ข้าต้องกังวล" หลี่ชื่อจึงตอบว่า "ถึงอย่างไรในท้ายที่สุดท่านก็ต้องคุ้มกันนครหลวง นี่เป็นความรับผิดชอบใหญ่หลวง"
ม้าเชียวตอบหลี่ชื่อโดยอ้างถึงความขี้ขลาดของเล่าเสี้ยนจักรพรรดิจ๊กก๊กว่า "จักรพรรดิทรงไว้วางพระทัยฮุยโฮคนโปรดโดยสิ้นเชิง ทรงลุ่มหลงอยู่ในความสำเริงสำราญ หายนะใกล้เข้ามามากแล้ว หากทัพวุยมาถึงที่นี่ ข้าจะยอมแพ้ ไม่ควรเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้"
หลี่ชื่อพยายามจะสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังทหารเพื่อป้องกันเมืองด้วยความเป็นห่วงรัฐจ๊กก๊ก หลี่ชื่อดูถูกความเนรคุณของม้าเชียวและประณามม้าเชียวที่ไม่ยอมป้องกันอิวกั๋งโดยกล่าวว่า:
"ท่านเรียกตนว่าลูกผู้ชาย! ท่านมีหัวใจที่ไม่จงรักภักดีและเนรคุณเช่นนี้หรือ การได้ดำรงตำแหน่งและได้รับเบี้ยหวัดทุกปีไม่มีค่าอะไรเลยเชียวหรือ ข้าจะทนมองหน้าท่านได้อย่างไร"
ม้าเชียวถูกดุด่าอย่างรุนแรงก็พูดไม่ออก ทันใดนั้นคนรับใช้ในบ้านของหลี่ชื่อก็มาแจ้งว่าเตงงายนำกำลังทหารสองพันนายยกมาตามทางสายหนึ่งและตีเมืองแตกแล้ว ม้าเชียวตกใจและรีบออกไปรับเตงงายเพื่อขอยอมจำนนอย่างเป็นทางการ ม้าเชียวมาที่ที่ว่าการเมืองและคำนับพร้อมร้องไห้ว่า "ข้าต้องการเข้าด้วยวุยมาช้านานแล้ว บัดนี้ข้าขอมอบเองและทหารรวมถึงทั้งเมืองให้"
เตงงายยอมรับการยอมจำนนของม้าเชียว และรวมกำลังทหารของม้าเชียวเข้ากับกำลังทหารของตน เตงงายตั้งให้ม้าเชียวทำหน้าที่คนนำทางในการรบกับจ๊กก๊ก ม้าเชียวนำแผนที่และชี้เส้นทางให้ทัพวุยก๊กยกเข้าเซงโต๋ ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้มาแจ้งข่าวว่า "ท่านหญิงหลี่ชือแขวนคอตายเสียแล้ว!"
หลี่ชื่อตอบโต้การที่เตงงายและกำลังทหารบังคับม้าเชียวให้ยอมจำนน โดยหลี่ชื่อแขวนคอตัวเองตายเพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อจ๊กก๊ก หลังเตงงายทราบเหตุผลที่หลี่ชื่อกระทำเช่นนี้ เตงงายก็ยกย่องความซื่อสัตย์ของหลี่ชื่อและจัดงานศพให้ด้วยตนเอง การต่อต้านและการฆ่าตัวตายของหลี่ชื่อที่ผู้คนต่างไม่คาดคิดสร้างผลกระทบต่อกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย เตงงายให้หยุดการเคลื่อนพลรุดหน้าและยกย่องหลี่ชื่อในฐานะวีรสตรีคนสุดท้ายของรัฐจ๊กก๊กก่อนที่นครหลวงเซงโต๋จะถูกพิชิตได้[3][2] มีการแต่งกวีนิพนธ์เพื่อยกย่องการกระทำอันมีเกียรติของหลี่ชื่อความว่า:
- เมื่อเจ้าแห่งจ๊กหลงเจิ่นไป
- ราชวงศ์ฮั่นตกต่ำลง
- ฟ้าส่งเตงงายเข้าโจมตีแผ่นดิน
- จากนั้นสตรีหนึ่งแสดงเกียรติสูงสุดของตน
- การกระทำอันสูงส่งนั้น
- ไม่มีผู้นำใดเทียบเทียม[4]
หลังเมืองอิวกั๋งถูกตีแตก เซงโต๋นครหลวงของจ๊กก๊กก็ถูกทัพวุยก๊กเข้ายึดครอง เล่าเสี้ยนจักรพรรดิจ๊กก๊กจึงยอมจำนน เป็นการสิ้นสุดของรัฐจ๊กก๊ก
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ เนื้อเรื่องตรงกับในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 86 ในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มีการกล่าวถึงภรรยาของม้าเชียว แต่ไม่ระบุชื่อของภรรยาของม้าเชียว[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ (冬十月,艾自陰平道行無人之地七百餘里,鑿山通道,造作橋閣。山高谷深,至為艱險,又糧運將匱,頻於危殆。艾以氈自裹,推轉而下。將士皆攀木緣崖,魚貫而進。先登至江由,蜀守將馬邈降。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
- ↑ 2.0 2.1 ("ฝ่ายม้าเชียวเจ้าเมืองอิวตั๋งตั้งแต่แจ้งว่าเมืองฮันต๋งเสียแก่ข้าศึกแล้ว ก็ตระเตรียมทหารซักซ้อมอยู่มิได้ขาด ครั้นอยู่มาวันหนึ่งเวลาเย็นฝึกทหารแล้วกลับเข้ามาเสพย์สุรากับภรรยา ๆ บอกว่าทหารเมืองวุยก๊กยกมาตีเอาเมืองฮันต๋งได้แล้ว ตัวท่านเปนเจ้าเมืองเหตุใดมิคิดอ่านที่จะป้องกันบ้านเมืองเลย จึงมาประมาทเสพย์สุราเล่นตามสบายใจฉนี้ ม้าเชียวจึงว่า ตัวเราเปนแต่เจ้าเมืองเล็กน้อยจะปรารมภ์ไปไย อันกองทัพเมืองวุยก๊กนั้นจะไม่มาทางนี้ ด้วยเปนทางน้อยมีซอกเขาคับขันนัก ถ้าจะยกมาจริงก็จะมาทางใหญ่ อันทางใหญ่นั้นเล่า เกียงอุยก็ยกทหารไปรักษาอยู่ที่ไหนจะมาได้ แลบัดนี้พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็โลเลเชื่อถือถ้อยคำฮุยโฮ มิได้เอาใจใส่กิจราชการบ้านเมืองแล้ว ก็ต้องการอันใดเราจะขวนขวายทำราชการให้เหนื่อยตัว แม้ทหารเมืองวุยก๊กตีเข้ามาได้เราก็จะเข้านอบน้อมเสียเอาความสุข จะเปนข้าผู้ใดก็กินเข้าเหมือนกัน ภรรยาม้าเชียวได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ถ่มเขฬะลงตรงหน้าแล้วด่าว่า มึงนี้เสียแรงเกิดมาหาความกตัญญูต่อเจ้าไม่ กินเบี้ยหวัดผ้าปีเสียเปล่ามิได้รักษาเจ้า ประสงค์จะเอาแต่ความสุขใส่ตัว ใครจะนับว่าดี ม้าเชียวได้ฟังภรรยาว่าก็อดสูแก่ใจก้มหน้านิ่งอยู่ พอทหารเข้ามาบอกว่า บัดนี้เตงงายคุมทหารสองพันตีเข้ามาถึงกลางเมืองแล้ว ม้าเชียวได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ จะจัดแจงทหารออกสู้รบไม่ทันที่ ก็ออกไปนบนอบเตงงายแล้วร้องไห้ว่า ข้าพเจ้าคอยหาท่านอยู่ช้านานแล้ว ได้ยินข่าวว่าจะมาแล้วก็หายไป บัดนี้ท่านมาถึงแล้ว ข้าพเจ้าก็จะพาทหารทั้งปวงเข้ามาอยู่ด้วยท่าน เตงงายก็มีความยินดีจึงรับคำนับม้าเชียวตามประเพณ อยู่สักครู่หนึ่งทหารจึงมาบอกแก่ม้าเชียวว่า ภรรยานั้นผูกฅอตายเสียแล้ว เตงงายจึงถามม้าเชียวว่าเหตุประการใดจึงผูกคอตาย ม้าเชียวก็บอกเนื้อความแก่เตงงายตามจริงทุกประการ เตงงายแจ้งดังนั้นก็ว่า หญิงคนนี้สัตย์ซื่อหาผู้ใดเสมอมิได้ จึงให้เงินทองไปแต่งการศพตามสมควร") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๖". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ November 18, 2024.
- ↑ (卻說江油城守將馬邈;聞東川已失,雖為準備,只是隄防大路;又仗著姜維全師,守住劍閣關,遂將軍情不以為重。當日操練人馬回家,與妻李氏擁爐飲酒。其妻問曰:「屢聞邊情甚急,將軍全無憂色,何也?」邈曰:「大事自有姜伯約掌握,干我甚事?」其妻曰:「雖然如此,將軍所守城池,不為不重。」邈曰:「天子聽信黃皓,溺於酒色,吾料禍不遠矣。魏兵一到,降之為上,何必慮哉?」其妻大怒,唾邈面曰:「汝為男子,先懷不忠不義之心,枉受國家爵祿,吾有何面目與汝相見!」馬邈羞慚無語。忽家人慌入報曰:「魏將鄧艾不知從何而來,引二千餘人,一擁而入城矣。」邈大驚,慌出納降,拜伏於公堂之下,泣告曰:「某有心歸降久矣。今願招城中居民,及本部人馬,盡降將軍。」艾准其降。遂收江油軍馬於部下調遣,即用馬邈為鄉導官。忽報馬邈夫人自縊身死。艾問其故,邈以實告。艾感其賢,令厚禮葬之,親往致祭。魏人聞者,無不嗟嘆。) สามก๊ก ตอนที่ 117.
- ↑ (後人有詩讚曰:後主昏迷漢祚顛,天差鄧艾取西川。可憐巴蜀多名將,不及江油李氏賢!) สามก๊ก ตอนที่ 117.