เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ
เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ[1] (อังกฤษ: Air defense identification zone: ADIZ) คือพื้นที่ทางอากาศเหนือเขตแดนทางบกและทางทะเลรวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล หรือพื้นที่อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ถูกกำหนดขึ้นมาโดยละประเทศ เพื่อสังเกตเห็นและเฝ้าระวังอากาศยาน รวมถึงเข้าควบคุมอากาศยานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ[2]
หลายครั้งเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศถูกขยายออกไปนอกเส้นเขตแดนของประเทศซึ่งแม้ในหลักการยังถือว่าพื้นที่นั้นเป็นน่านฟ้าสากลอยู่[2] ซึ่งเส้นแนวเขตดังกล่าว ไม่ได้มีกฎหมายหรือระเบียบระหว่างประเทศใด ๆ ให้การรับรองแต่อย่างใด แต่มักจะมีระบุในเอกสารแถลงข่าวการบิน (Aeronautical Information Publications: AIP) ของแต่ละประเทศ
เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงสงครามเย็น กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดหรืออาวุธนิวเคลียร์[1] โดยสหรัฐอเมริกาประกาศใช้หลังการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติระหว่างสงครามเกาหลี[3]
เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศมักจะถูกสับสนกับอาณาเขตแถลงข่าวการบิน (Flight information region: FIR) ซึ่งใช้สำหรับการจัดการจราจรทางอากาศในการบินพาณิชย์โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ระยะขอบเขต
[แก้]ระยะขอบเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศนั้นในแต่ละประเทศจะถูกกำหนดแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่และผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ ซึ่งหลายครั้งมีการประกาศทับซ้อนกันระหว่างประเทศ
เอเชียตะวันออก
[แก้]ญี่ปุ่น
[แก้]ประเทศญี่ปุ่นมีเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลเป็นส่วนใหญ่ ถูกกำหนดโดยกองกำลังสหรัฐหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พรมแดนของเขตด้านตะวันตกสิ้นสุดที่ 123° องศาตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะโยะนะกุนิเท่านั้น และทางฝั่งตะวันตกครึ่งหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไต้หวัน
ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ญี่ปุ่นได้ประกาศขยายเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศออกไปโดยรอบเกาะโยะนะกุนิออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อสอดคล้องกับน่านน้ำอาณาเขตของตน จนเกิดการทับซ้อนกับเขตของไต้หวัน ซึ่งทั้งสองประเทศได้พูดคุยถึงแนวปฏิบัติบริเวณดังกล่าวร่วมกันเรียบร้อยแล้ว[4]
ในขณะเดียวตามรายงานของไชนาเน็ทเวิร์กเทเลวิชั่นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ประเทศจีนและรัสเซียประกาศว่าไม่ยอมรับเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่น
ไต้หวัน
[แก้]ไต้หวันมีเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่ช่องแคบไต้หวันเกือบทั้งหมด ครอบคลุมไปถึงส่วนหนึ่งของมณฑลฝูเจี้ยน เจ้อเจียง และเจียงซีของจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนหนึ่งของทะเลจีนตะวันออก
น่านฟ้าของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไต้หวันถูกออกแบบโดยกองทัพสหรัฐเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2[5] โดยพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นข้อมูลฐานของอาณาเขตแถลงข่าวการบินไทเปอีกด้วย[6]: 15
ถึงแม้การประกาศเขตจะครอบคลุมไปยังพื้นที่แผ่นดินของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เที่ยวบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะไม่ถูกรายงานว่าเป็นภัยคุกคาม จนกว่าจะมาถึงเส้นคั่นกลางระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวันบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยงบประมาณประมาณ 9 เปอร์เซ็นในการป้องกันประเทศของไต้หวันถูกใช้เพื่อตอบโต้สกัดกั้นการก่อกวนของประเทศจีน[7] บริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ที่ล้ำเส้นคั่นกลางช่องแคบไต้หวัน คือช่องแคบ Bashi ระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์[7][2]
เกาหลีใต้
[แก้]ประเทศเกาหลีใต้มีพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกือบครอบคลุมน่านฟ้าทั้งหมด[8] ยกเว้นบางพื้นที่ที่ห่างไกล[8] ซึ่งก่อตั้งโดยกองทัพอากาศสหรัฐในระหว่างสงครามเกาหลีเมื่อปี พ.ศ. 2494 เพื่อใช้สำหรับสกัดกั้นกองกำลังของลัทธิคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น[8]
ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อตอบโต้การประกาศเขตที่ครอบคลุมพื้นที่พิพาทโดยประเทศจีน เกาหลีใต้ประกาศขยายเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศให้ครอบคลุมพื้นที่หมู่เกาะมาราโดและฮองโด และไอโอโด (Socotra Rock) ซึ่งเป็นกลุ่มหินใต้น้ำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะซึ่งมีเนื้อที่ทับซ้อนกันกับประเทศจีน[8]
แนวปฏิบัติเมื่ออากาศยานมีเส้นทางบินเข้าสู่หรือตัดผ่านพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกาหลี (KADIZ) จะต้องส่งแผนการบินล่วงหน้า 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง สำหรับเครื่องบินพลเรือนที่มีเส้นทางการปินปกติจะต้องยื่นแผนการบินไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศทุก ๆ ครั้ง ซึ่งหากทำตามแผนการบินที่ได้ยื่นไว้จะไม่มีการดำเนินการใด ๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงแผนหรือเส้นทางการบินอย่างกระทันหัน กองทัพอากาศเกาหลีใต้จะนำเครื่องบินขึ้นเพื่อติดตามและพร้อมที่จะสกัดกั้น
หลังจากการปรับปรุงเขตระหว่างจีนและเกาหลีใต้ในปี พ.ศ. 2556 ความตรึงเครียดบริเวณพื้นทีทับซ้อนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่ออาณาเขตแถลงข่าวการบินของทั้งสามชาติที่อยู่บริเวณนั้นทับซ้อนกัน คือเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น[9] โดยเครื่องบินรบจีนได้ล่วงล้ำเข้าสู่พื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกาหลี (KADIZ) ถึง 5 ครั้งในปี พ.ศ. 2561[10]
จีน
[แก้]ประเทศจีนมีพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศหลักอยู่เหนื่อแผ่นดินจีน ซึ่งในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 จีนได้ประกาศจัดตั้งเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ รูปแบบแรก เป็นการประกาศเขตในพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาในการประกาศเขตขณะนั้น แต่ก็ยังมีพื้นที่ครอบคลุมหมู่เกาะเซ็งกากุที่อยู่ในการควบคุมของญี่ปุ่น และไอโอโด (Socotra Rock) ซึ่งเป็นกลุ่มหินใต้น้ำที่พิพาทกับเกาหลีใต้ รูปแบบที่สอง คือเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของจีนที่ทับซ้อนกับเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศประเทศเพื่อนบ้าน โดยบังคับใช้พื้นที่ดังกล่าวกับทั้งอากาศยานพลเรือนและอากาศยานทางทหารที่บินผ่านเข้าไป โดยไม่คำนึงถึงปลายทางของอากาศยานนั้น[11][12]
ในปี พ.ศ. 2557 กระทรวงการต่างประเทศจีนปฏิเสธรายงานที่ระบุว่ากำลังพิจารณาเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ที่คล้ายคลึงกันในทะเลจีนใต้ เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนนั้นไม่ใช่ภัยคุกคามของตน[13]
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
[แก้]ไทย
[แก้]ประเทศไทยกำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (Thailand Air Defense Identification Zone: TADIZ) ในบริเวณเหนือพื้นดินและผืนน้ำของประเทศไทย โดยกองทัพอากาศได้กำหนดเขตออกเป็น 2 ชั้น[14] ประกอบไปด้วย
- เขตพิสูจน์ฝ่ายเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศล่วงหน้า (Thailand Air Defense Identification Buffer Zone: TAD-BUZ) กำหนดระยะ 100 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ เป็น 2 ชั้นคือ
- เขตนอก (Twilight Zone: TIZ) คือระยะตั้งแต่ 50-100 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ
- เขตใน (Midnight Zone: MIZ) คือระยะตั้งแต่ 0-50 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ
- เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (Thailand Air Defense Identification Zone: TADIZ) กำหนดเป็นเส้นเหนือเขตแดนประเทศไทยบนพื้นดิน รวมไปถึงบนผืนน้ำลากคลุมพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ
สำหรับเครื่องบินที่จะเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (TADIZ) หากอากาศยานอยู่ภายในพื้นที่จะต้องยื่นแผนการบิน IFR หรือ VFR ต่อศูนย์ควบคุมการบินในสนามบินนั้น ๆ เพื่อดำเนินการส่งต่อมายังศูนย์ควบคุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร (VTBBZRZX) โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อากาศยานที่เดินทางจากภายนอกเขต TADIZ จะต้องยื่นรายงานต่อผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศอย่างน้อย 10 นาที หากไม่สามารถติดต่อหอควบคุมการบินได้อาจจะติดต่อกับสถานีควบคุมการสกัดกั้นภาคพื้นในพื้นที่ดังกล่าว[15]
สำหรับการปฏิบัติเมื่อมีอากาศยานไม่สามารถระบุตัวตนเข้ามาในระยะของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (TADIZ) หรืออากาศยานปฏิบัตินอกแผนการบิน ออกนอกเส้นทางการบิน หรือเบี่ยงออกจากเส้นทาง 10 ไมล์ทะเลเหนือพื้นดิน 20 ไมล์ทะเลเหนือพื้นน้ำจากเส้นทางที่กำหนดให้ กองทัพอากาศไทยจะดำเนินการส่งอากาศยานขึ้นบินเพื่อสกัดกั้น และพิจารณาการใช้อาวุธได้หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเจ้าของเครื่องบินจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ในภารกิจสกัดกั้น[15]
ในกรณีอากาศยานจากภายนอกเขต หากอากาศยานนั้นบินเข้ามาในระยะเขตนอก (Twilight Zone) อากาศยานนั้นจะถูกกำหนดเป็นเป้าหมายไม่ทราบฝ่าย และหากเข้ามาในระยะเขตใน (Midnight Zone) และยังพิสูจน์ทราบไม่ได้จะดำเนินการสั่งการให้อากาศยานขึ้นติดต่อสื่อสารด้วยสายตา เพื่อแสดงตัวตน และดำเนินการผลักดันหรือดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป[15]
เอเชียใต้
[แก้]บังคลาเทศ
[แก้]ประเทศบังคลาเทศมีการประกาศเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเหนือจากพรมแดนออกไปทางทะเลตามพิกัดต่อไปนี้
- 21°07′44.80″N 89°13′56.50″E / 21.1291111°N 89.2323611°E
- 18°15′54.12″N 89°21′47.56″E / 18.2650333°N 89.3632111°E
- 16°43′28.74″N 89°25′54.37″E / 16.7246500°N 89.4317694°E
- 20°13′06.30″N 92°00′07.60″E / 20.2184167°N 92.0021111°E
- 20°03′32.00″N 91°50′31.80″E / 20.0588889°N 91.8421667°E
- 17°52′34.06″N 90°15′04.66″E / 17.8761278°N 90.2512944°E
ทุกเที่ยวบินของอากาศยาน ทั้งอากาศยานพลเรือน อากาศยานทหาร ทั้งของบังคลาเทศเองและต่างชาติที่มีต้นทางภายในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ และเที่ยวบินที่จะเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ จะต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าและผ่านกระบวนการ Air Defense Clearance (ADC)
หากอากาศยานที่ล่วงล้ำเข้ามาและไม่ผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนหรือกระบวนการ Air Defense Clearance (ADC) จะถูกกองทัพอากาศบังคลาเทศบินขึ้นสกัดกั้น[16]
อินเดีย
[แก้]ประเทศอินเดียกำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 โดยอากาศยานที่จะบินผ่านเข้ามาจะต้องแจ้งล่วงหน้า 10 นาทีก่อนเข้าเขต โดยแบ่งเป็น 6 เขต[17] เหนือเขตแดนประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบไปด้วย
- เหนือพรมแดนปากีสถาน
- เหนือพรมแดนเนปาล
- เหนือพรมแดนจีน
- เหนือพรมแดนด้านตะวันออกที่ติดต่อกับประเทศบังคลาเทศ ภูฏาน พม่า
- เหนือทะเลทางตอนใต้ของประเทศ
- เหนือทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
การบังคับใช้เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของประเทศอินเดียนั้นเป็นหน้าที่ของกองทัพอากาศอินเดีย โดยตรวจสอบผ่านระบบเรดาร์ และดำเนินการด้วยอากาศยานหรือจรวดพื้นสู่อากาศในพื้นที่ดูแลเฉพาะของกองทัพบกและกองทัพเรืออินเดีย สำหรับการสกัดกั้นตามสถานการณ์[17]
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนจะช่วยยืนยันหมายเลข Air Defense Clearance (ADC) ให้กับอากาศยานที่บินเข้ามาในพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเพื่อจัดการจราจรทางอากาศในกรณีที่มีความจำเป็น[18]
อเมริกาเหนือ
[แก้]สหรัฐและแคนาดา
[แก้]ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้กำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศร่วมกันในภาคพื้นทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐดูแล 2 เขตในอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐ และเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศบริเวณรัฐอลาสก้า และอีก 2 เขต นอกทวีปอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศฮาวาย และเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศกวม
ในขณะที่แคนาดาดูแลอีก 2 เขตในทวีปอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศนอกชายฝั่งทะเลแปซิฟิกเหนือชายฝั่งบริติชโคลัมเบีย และอีกส่วนครอบคลุมหมู่เกาะอาร์กติกของแคนาดาและเมืองในมหาสมุทรแอตแลนติก
ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ พื้นที่ดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับเครื่องบินพาณิชย์ที่ต้องการเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐเท่านั้น[19] สำหรับการบัญชาการและควบคุมการป้องกันภัยทางอากาศนั้นถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยแบ่งเขตเป็น 5 เขตในทวีปอเมริกาเหนือ หากการตรวจสอบทางวิทยุสื่อสารไม่สามารถทำได้จะส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐขึ้นตรวจสอบผู้บุกรุกด้วยสายตา
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 ลลิล ก่อวุฒิกุลรังษี (2563). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ความชอบด้วยกฎหมายของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ เขตอำนาจรัฐและบทบาทขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. คณะนิติศาสตร์. คณะกรรมการส่งเสริมงานวิจัย.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "จีนส่งเครื่องบินรบ 38 ลำเข้าเขตป้องกันของไต้หวัน". BBC News ไทย. 2021-10-02.
- ↑ R. P. Anand, Origin and Development of the Law of the Sea (Martinus Nijhoff, 1983) p171
- ↑ "Japan extends ADIZ into Taiwan space". taipeitimes.com. Taipei Times. 26 June 2013. สืบค้นเมื่อ 24 November 2013.
- ↑ "Chinese aircraft enters Taiwan's ADIZ for 7th time in 8 days | Taiwan News | 2020-09-25 10:59:00".
- ↑ 許書耕、賴威伸、胡智超、李宇欣、陳春益、林東盈、李威勳、陳佑麟、袁永偉、盧立昕 (2018). "第三章 我國空域與桃園國際機場空側". 構建空域模擬模式之研究 : 以臺北終端管制區域為例 (ภาษาจีนตัวเต็ม). 臺北市: 交通部運輸研究所. ISBN 9789860557862.
- ↑ 7.0 7.1 Shattuck, Thomas J. (April 7, 2021). "Assessing the Patterns of PLA Air Incursions into Taiwan's ADIZ - Foreign Policy Research Institute". Global Taiwan Brief. 6 (7).
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 "Seoul considers southward expansion of air defense zone". The Korea Herald. December 2013. สืบค้นเมื่อ 1 December 2013.
- ↑ "Air defense zones of China, S. Korea overlap", Yonhap news, November 24, 2013
- ↑ "Chinese military jet enters S. Korean air defense zone". Yonhap News. 29 August 2018.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Air Defense Identification Zone". GlobalSecurity.org. สืบค้นเมื่อ 29 November 2013.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Rick Gladstone and Matthew L. Wald (27 November 2013), China's Move Puts Airspace in Spotlight The New York Times
- ↑ Xuequan, Mu (2 February 2014). "China dismisses ADIZ reports, optimistic about South China Sea situation". xinhuanet.com. Xinhua News Agency. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "F-16ของไทยเราถัาประเทศเพื่อนบ้านส่งเครื่องบินรบมา". Pantip.
- ↑ 15.0 15.1 15.2 "AIR TRAFFIC SERVICES". aip.caat.or.th (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-04-09.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ESTABLISHING AIR DEFENCE IDENTIFICATION ZONE OVER BANGLADESH" (PDF). www.caab.gov.bd. Civil Aviation Authority, Bangladesh. 1 February 2018. สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 17.0 17.1 http://glcmumbai.com/lawreview/volume9/03JoshuaAbhayPatnigere.pdf
- ↑ "Integrated Air Defence for the Indian Airspace".
- ↑ Abeyratne, Ruwantissa (2011-09-13). "In search of theoretical justification for air defence identification zones" (PDF). Journal of Transportation Security. Springer Nature. 5 (1): 87–94. doi:10.1007/s12198-011-0083-2. ISSN 1938-7741. S2CID 153873530. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-07-09.