พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก
พระเจ้านีลส์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
เหรียญแตกหักที่สลักพระพักตร์ของกษัตริย์นีลส์ | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 1104 – 1134 | ||||
ก่อนหน้า | อีริคที่ 1 | ||||
ถัดไป | อีริคที่ 2 | ||||
ประสูติ | ราว ค.ศ. 1065 | ||||
สวรรคต | 25 มิถุนายน ค.ศ. 1134 ชเลสวิช, ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ | (69 ปี)||||
ฝังพระศพ | หลุมโคลนตม, ปราสาทก็อททร็อป | ||||
คู่อภิเษก | เจ้าหญิงมาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาแห่งสวีเดน อูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์ | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | แอสตริดเซน | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้าสเวนที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | ไม่ปรากฎนาม | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก (ละติน: Nicolaus, ภาษาอังกฤษ: Nicholas; ราว ค.ศ. 1065 – 25 มิถุนายน ค.ศ. 1134) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ระหว่างปีค.ศ. 1104 ถึงค.ศ. 1134 พระเจ้านีลส์ครองราชย์ต่อจากพระเชษฐาคือ พระเจ้าอีริคที่ 1 แห่งเดนมาร์ก และพระองค์อาจเป็นพระโอรสนอกสมรสองค์เล็กสุดในพระเจ้าสเวนที่ 2 แห่งเดนมาร์ก กษัตริย์นีลส์ทรงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้พระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก พระเชษฐาให้ได้รับการประกาศเป็นนักบุญ และพระองค์สนับสนุนพระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน พระโอรสของพระองค์ให้สังหารศัตรูของการสืบราชบัลลังก์คือ เจ้าชายคนุต ลาวาร์ด ที่มีศักดิ์เป็นพระนัดดาของพระองค์เอง นโยบายทางฆราวาสของพระองค์ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าบาทหลวง กษัตริย์นีลส์ทรงถูกปลงพระชนม์ในสงครามกลางเมืองเดนมาร์ก และพระเจ้าอีริคที่ 2 แห่งเดนมาร์กทรงสืบราชบัลลังก์ต่อ
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
[แก้]เจ้าชายนีลส์ประสูติช่วงปีค.ศ. 1063 เสกสมรสในปีค.ศ. 1105 และสวรรคตในปีค.ศ. 1134[1] พระราชบิดาคือ พระเจ้าสเวนที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ส่วนพระราชมารดาของพระองค์เป็นพระสนมที่ไม่ปรากฏนาม พระเชษฐาต่างมารดาทั้งสี่พระองค์ของเจ้าชายนีลส์ได้สืบราชบัลลังก์ก่อนพระองค์ เจ้าชายนีลส์ปรากฏพระองค์ครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1086 เมื่อพระองค์ทรงถูกส่งไปอยู่แถบแฟลนเดอส์ เพื่อสลับตัวกับพระเจ้าโอลาฟที่ 1 แห่งเดนมาร์ก พระเชษฐาพระองค์หนึ่งที่ถูกเนรเทศ[2] หลังจากนั้นเมื่อพระเจ้าอีริคที่ 1 แห่งเดนมาร์ก พระเชษฐาอีกพระองค์เสด็จสวรรคตในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1103 ในช่วงที่เสด็จจาริกแสวงบุญ เจ้าชายนีลส์ในขณะนั้นเป็นพระอนุชาองค์สุดท้ายที่ยังทรงพระชนม์ จึงได้ถูกเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์ในปีถัดมา[3] แม้ว่าก่อนหน้านี้กษัตริยอีริคที่ 1 ทรงเลือกให้เจ้าชายฮารัลด์ เคสจา พระโอรสนอกสมรสของพระองค์ให้เป็นผู้สืบบัลลังก์[4] กษัตริย์นีลส์ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาแห่งสวีเดน พระราชธิดาในพระเจ้าอิงเงอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน และเป็นที่เชื่อกันว่าพระราชินีมาร์กาเรธา หรือ มาร์กาเร็ต ทรงใช้อิทธิพลทางการเมืองตลอดรัชกาลของพระราชสวามี[2]
พระราโชบายและพระราชูปถัมภ์
[แก้]ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้านีลส์ | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | Hans Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
รัชสมัยส่วนใหญ่ของกษัตริย์นีลส์นั้นมีความสงบสุขภายใน โครนิคอนรอสกิลเดนส์ได้มีการบรรยายว่า กษัตริย์นีลส์ทรงเป็นกษัตริย์ที่อ่อนโยนและได้รับการเตรียมพร้อมมา แต่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่มีความสามารถ[1] พระองค์ดำเนินการปฏิรูป เฮิร์ด ซึ่งเป็นข้าราชบริพารส่วนพระองค์ โดยมีการแยกออกเป็นฝ่ายทหารและฝ่ายข้าราชการ[5] ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษี[1] พระองค์ทรงแต่งตั้งสมาชิกในพระบรมวงศานุวงศ์ให้เป็นยาร์ล รวมถึงพระชามาดา (ลูกเขย) ของพระองค์ด้วย คือ ยาร์ลอูเบ และพระนัดดาของพระองค์คือ เจ้าชายอีริคและเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด ซึ่งทั้งสองเป็นพระโอรสนอกสมรสของกษัตริย์อีริคที่ 1[1] กษัตริย์นีลส์ทรงสนับสนุนพระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก พระเชษฐาทีาสวรรคตไปแล้วให้ได้รับการประกาศเป็นนักบุญ โดยพระองค์ทรงมอบของกำนัลแก่บาทหลวงจากโอเดนเซ โดยพระองค์ทรงพยายามขยายพระราชอำนาจและอิทธิพลของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความช่วยเหลือของฝ่ายศาสนจักร[4] แต่พระองค์ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากขุนนางในเกาะเชลลันด์[4] พระองค์ยังทรงทำสงครามต่อต้านชาวเวนด์ด้วยการเป็นพันธมิตรกับโปแลนด์[1] ในปีค.ศ. 1125 พระโอรสของกษัตริย์นีลส์คือ เจ้าชายมักนุสแห่งเดนมาร์กได้สืบราชบัลลังก์สวีเดน เป็น พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน[6]
สงครามกลางเมือง
[แก้]สมเด็จพระราชินีมาร์กาเรธา พระมเหสีสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1128 หรือ 1129 และพระโอรสของพระองค์ กษัตริย์มักนุสแห่งสวีเดนทรงถูกขับออกจากบัลลังก์ในปีค.ศ. 1130[6] หลังจากเดนมาร์กมีความสงบสุขภายในเป็นเวลา 26 ปี เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างอดีตกษัตริย์มักนุสกับเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด พระญาติ เจ้าชายคนุตนั้นทรงได้รับความนิยมในแถบดัชชีชเลสวิช ซึ่งพระองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นยาร์ล และคาดว่าจะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์ของกษัตริย์นีลส์[2] ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1131 อดีตกษัตริย์มักนุสทรงสังหารเจ้าชายคนุตใกล้ฮารัลด์สเต็ด ทางตอนเหนือของริงสเต็ด ในตอนแรก กษัตริย์นีลส์ทรงประณามพระราชโอรสอย่างหนัก แต่สุดท้ายพระองค์ก็สนับสนุนพระราชโอรสอยู่ดี และสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นระหว่างกษัตริย์นีลส์กับผู้สนับสนุนเจ้าชายคนุต ที่นำโดย เจ้าชายอีริค พระอนุชาต่างมารดาของเจ้าชายคนุต กษัตริย์นีลส์ทรงมีฐานที่มั่นที่เข้มแข็งในคาบสมุทรจัตแลนด์[2] และทางศาสนจักรก็สนับสนุนพระองค์[3] กษัตริย์ชรายังทรงได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยทรงทำสัญญาตกลงที่จะมอบอัครสังฆมณฑลแห่งลุนด์ในสคาเนีย แก่เจ้าชายมุขนายกแห่งเบรเมิน จึงทำให้อาร์กบิชอปอัสเชอร์ ธอร์คิลส์สันแห่งลุนด์หันไปสนับสนุนอีริคแทน[5]
ฝ่ายเจ้าชายอีริคพ่ายแพ้หลายครั้งในเดนมาร์กและย้ายไปทำการรบในสคาเนียในปีค.ศ. 1134 กษัตริยืนีลส์และกษัตริย์ร่วมมักนุสทรงเทียบท่าที่อ่าวฟอเตอวิคในสคาเนีย เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1134 พระองค์พยายามเจรจาให้อีริคทรงยอมรับความพ่ายแพ้ ในยุทธการฟอเตอวิค วันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1134 กษัตริย์นีลส์และกษัตริย์มักนุสทรงตกตะลึงเมื่อทรงถูกทหารเยอรมันจับกุมบนหลังม้า[7] กษัตริย์ชราทรงหนีไปได้ แต่กษัตริย์หนุ่มถูกปลงพระชนม์[2] กษัตริย์นีลส์ทรงพยายามขอลี้ภัยในราชสำนักจักรพรรดิโลทาร์ที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังไม่ทันที่พระองค์จะเดินทางผ่านเมืองชเลสวิช กษัตริย์ชราทรงเสี่ยงที่จะเสด็จเข้าเมืองเก่าของเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด พระนัดดา ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1134 ทั้งๆ ที่ทรงได้รับการกราบทูลเตือน พระองค์ทรงตั้งข้อสังเกตว่า "เราควรที่จะต้องหวาดกลัวพวกคนฟอกหนังกับพวกช่างทำรองเท้าหรือ?"[2] กษัตริย์ชราทรงได้รับการต้อนรับจากเหล่าบาทหลวง แต่พระองค์และราชองครักษ์ถูกสังหารเสียก่อนที่จะได้เสด็จถึงพระราชวัง เนื่องจากชาวเมืองหันมาต่อต้านพระองค์[2] กษัตริย์ชราถูกประชาชนรุมสังหารด้วยความโกรธแค้น เป็นเวลากว่า 60 ปีที่เหล่าพระโอรสของกษัตริย์สเวนที่ 2 ได้ปกครองเดนมาร์ก กษัตริย์นีลส์เป็นโอรสองค์สุดท้ายที่ได้ครองราชย์ และพระเจ้าอีริคที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ได้ครองราชย์สืบไป
พระโอรสธิดา
[แก้]กษัตริย์นีลส์อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมาร์กาเรธา เฟร็ดคูลลาแห่งสวีเดน พระราชธิดาในพระเจ้าอิงเงอที่ 1 แห่งสวีเดน หลังจากพระราชินีมาร์เกเรธาสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1128 หรือ 1129[1] พระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับอูล์ฟฮิลด์ โฮกุนสด็อทเทอร์ ซึ่งเคยเป็นอดีตพระราชินีสวีเดน จากการอภิเษกสมรสกับพระเจ้าอิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดน และต่อมาพระนางอภิเษกสมรสกับพระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน กษัตริย์นีลส์ทรงมีพระโอรสสองพระองค์ที่ประสูติแต่พระราชินีมาร์กาเรธา และทรงมีพระธิดานอกสมรสหนึ่งพระองค์
- เจ้าชายอิงเงอ นีลส์เซน สวรรคตตั้งแต่ทรงพระเยาว์[2]
- พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน
- อิงเจิร์ดแห่งเดนมาร์ก พระธิดานอกสมรส และสุดท้ายเสกสมรสกับยาร์ลอูเบ เอสเบิร์นเซน ผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าคนุตมหาราช[2]
อ้างอิง
[แก้]วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Niels of Denmark
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 Stefan Pajung, Niels 1065–1134 เก็บถาวร 19 กรกฎาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Aarhus University, 22 January 2010
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 2.7 2.8 Bricka, Carl Frederik, Dansk Biografisk Lexikon, vol. XII [Münch – Peirup], 1898, pp. 199–201. Available online
- ↑ 3.0 3.1 Kongerækken เก็บถาวร 18 พฤศจิกายน 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ในราชาธิปไตยเดนมาร์ก
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Niels, konge af Danmark at Gyldendals Encyklopædi
- ↑ 5.0 5.1 "Gads Historie Leksikon", 3rd edition, Copenhagen, 2006. Entry: Svend Estridsen-sønner, Paul Ulff-Møller, p.637
- ↑ 6.0 6.1 Kings and Queens of Sweden — A thousand year succession เก็บถาวร 2011-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนในราชาธิปไตยสวีเดน
- ↑ Krig og krigsteknologi i middelalderen[ลิงก์เสีย] at "Museer i København – og omegn"
ก่อนหน้า | พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าอีริคที่ 1 | พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก (ค.ศ. 1104 - ค.ศ. 1134) |
พระเจ้าอีริคที่ 2 |