ข้ามไปเนื้อหา

อูนีโอเนกัลโชซัมป์โดเรีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก U.C. Sampdoria)
ซัมป์โดเรีย
ชื่อเต็มUnione Calcio Sampdoria
SpA
ฉายาบลูเซร์ชีอาตี
ก่อตั้ง1 สิงหาคม ค.ศ. 1946
สนามสตาดีโอลุยจีเฟร์ราริส
ความจุ36,536
ประธานMarco Lanna
ผู้จัดการอันเดรอา ปีร์โล
ลีกเซเรียบี
2022–23อันดับที่ 20 ในเซเรียอา (ตกชั้น)
สีชุดทีมเยือน
ฤดูกาลปัจจุบัน

อูนีโอเนกัลโชซัมป์โดเรีย (อิตาลี: Unione Calcio Sampdoria) เป็นทีมฟุตบอลทีมหนึ่งของอิตาลีหรือ กัลโชเซเรียอา (calcio serie A) ซึ่งเป็นทีมที่สังกัดในจังหวัดเจนัว มีชื่อเล่นเรียกกันติดปากว่า "ลาซัมป์"

ประวัติ

[แก้]

ซัมป์โดเรีย มีฉายาในภาษาอิตาลีว่า "บลูเชอร์คิอาตี้" ซึ่งแปลว่า "ที่รายล้อมไปด้วยสีฟ้าคราม" ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1946 เป็นการรวมตัวของทีมสองทีมคือ Sampierdarenese และ Andrea Doria เสื้อทีมเป็นสีฟ้าขาวแซมด้วยลายแดงดำ ทีมเคยได้แชมป์สูงสุดของประเทศเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นคือในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งทีมได้รวมสตาร์นักเตะระดับประเทศมากมาย อาที โรแบร์โต้ มันชินี่ จานลูก้า วิอัลลี่ จานลูก้า ปายูงก้า อันติลิโอ ลอมบาร์โด้ เป็นต้น และในปีถัดไป ซัมป์โดเรียสามารถก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศของยูโรเปียนคัพ ถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรป โดยได้พ่ายแพ้ต่อทีมบาร์เซโลนาจากสเปน โดยแพ้ในวินาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ โดยลูกยิงฟรีคิกส์บันลือโลกของ โรนัลด์ กุมัน เจ้าปราการหลังจอมตำนานของฮอลแลนด์นั่นเอง แล้วสามารถไปถึงรอบชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับบาร์เซโลนา ไปสกอร์ 0-1 ได้รองแชมป์[1][2]

ระยะหลัง สภาพทีมไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแต่พอมีลุ้นที่จะชนะทีมใหญ่ๆ ได้เหมือนกัน เป้าหมายของซัมป์โดเรียในแต่ละปีส่วนใหญ่คือการครองพื้นที่ในยูฟาคัพให้ได้

ซัมป์โดเรีย พ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษกับลาซิโอ ในรอบชิงถ้วยโคปาอิตาเลียน่าปี 2008/2009 ซึ่งเป็นการเข้าชิงครั้งแรกในรอบ14ปีทีเดียว หลังจากเมื่อปี 1993/1994ซามโดเรีย ได้เข้าชิงถ้วยนี้กับ อังคอน่า และชนะไปอย่างท่วม

ในฤดูการ 2009/2010 ทีมได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกครั้ง โดยทีมสามารถคว้าตำแหน่งที่ 4 ในตารางคะแนน ส่งผลให้ได้ไปเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ในฤดูกาลต่อไปในรอบเพลออฟ แต่กระนั้นก็ตามทีมไม่สามารถเข้าไปในรอบแบ่งกลุ่มได้ เพราะแพ้เพลออฟแก่ยอดทีมจากเยอรมัน แวนเดอร์ เบรเมน อย่างเฉียดฉิว สองนัดผลรวม 5-4 ผู้เล่นหลักๆในฤดูการนี้ได้แก่ มาร์โก สโตราลี่ ,สเตฟาโน กูแบร์ติ, ดานิเอเล่ กัสตัลเดโร่,เรโต้ ซิกเลอร์, อันโตนิโอ คาสซาโน่, จิอันเปาโล ปาซซินี่ โดยมีกุนซือคือ ลุยจิ เดลเนลี่

ในฤดูกาล2010/2011 ได้มีการเปลี่ยนโค้ชจาก ลุยจิ เดลเนลี่ เป็น โดมินิโก้ ดิคาร์โล

ในฤดูกาลนี้ ซัมป์โดเรีย ได้ตกชั้นจากลีกสูงสุดของประเทศไปอยู่ Serie B โดยได้อันดับที่16 ซึ่งทั้งๆที่ในระยะต้นๆของฤดูกาลทีมมีผลงานที่ค่อนข้างดีเพราะมีสองประสานอย่างอันโตนิโอ คาสซาโน และ จิอันเปาโล ปาซซินี่ เป็นหัวเรือหลักในแดนหน้า และมีกองกลางกัปตันทีมผู้ทุ่มเทอย่าง อัลเจโล่ ปาลอมโบ คอยช่วยเกื้อหนุน แต่แล้วในช่วงกลางของฤดูกาล ยอดจอมทัพอย่างอันโตนิโอ คาสซาโน ก็ได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับประธารสโมสร ริคาร์โด้ กาโรเน่ ซึ่งมีผลให้เขาถูกแบนออกจากทีมอย่างยาวนาน และสุดท้ายได้ปล่อยขายไปยังที เอซี มิลาน ในที่สุด หลังจากนั้นอีกไม่นาน ทีมก็ได้มีมติขาย ยอดศูนย์หน้าจอมโขก จิอันเปาโล ปาซซินี่ แก่ อินเตอร์มิลาน

จากการสูญเสียสองกองหน้านี้นั้น ทำให้ทีมเกิดความเสียศูนย์เป็นอย่างมาก ลำพังจะพึ่งแค่ ปาลอมโบ กัปตันทีมคนเดียวนั้นไม่สามารถทำให้ทีมเกิดความสมดุลได้เหมือนเดิม กองหน้าที่เข้ามาใหม่ มัซซิโม่ มัคเคโรเน่ กับตัวสำรองอดทนอย่างนิโกล่า ปอซซี่ ก็ทำอะไรไม่ได้มาก แม้แต่ เฟอเดอริโก้ มาเคด้า ดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ไม่อาจช่วยให้ทีมทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เสียงวิจารณ์ประธานสโมสรว่าเป็นเผด็จการและหัวแข็งเกินไป เพราะการปล่อย อันโตนิโอ คาสซาโน่ ออกไปโดยไม่ฟังแม่แต่คำขอโทษและยอมรับผิดโดยการขอลดค่าจ้างเหลือแค่ครึ่งเดียวนั้น ก็ยังไม่สามารถทำให้ ริคาร์โด้ กาโรเน่ จะยอมใจอ่อนได้แต่อย่างใด และในที่สุดทีมก็ตกชั้นลงอีกครั้งหลังจากที่เคยตกชั้นไปเมื่อฤดูกาล1998

หลังจากที่ทีมต้องลงไปอยู่ใน Serie B 2011/2012 แม้ฤดูกาลนี้ทีมจะขาดผู้เล่นสำคัญไปมากมาย โดยเฉพาะ Angelo Parlombo กัปตันทีมที่ถูกอินเตอร์ มิลาน ดึงไปร่วมระหว่างฤดูกาล ซัมป์โดเรียก็ยังสามารถจบฤดูกาลโดยอยู่ลำดับที่6 (เปสคาร่า และ โตริโน ได้อันดับ 1-2ขึ้นชั้นอัตโนมัต) ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายที่สามารถเล่นเพลออฟเพื่อกลับไปสู่ Serie A ซึ่งซามพ์ก็สร้างเซอร์ไพร้ได้ด้วยการชนะในเกมเพลออฟได้ทั้งสองนัด คือนัดแรกกับSassuolo และนัดชิงกับ Varesse ผู้ที่เป็นคีย์แมนสำคัญสำหรับการเลื่อนชั้นก็คือ Nicola Pozzi, Eder ,Daniele Gastaldello,Pelle,Predo Obiang

สนามแข่งขัน

[แก้]

ซัมป์โดเรียใช้สนามแข่งของเทศบาลเมืองเจนัว สนามสตาดิโอ ลุยจิ แฟรีส หรือเรียกกันทั่วไปว่า มารัซซี่ สเตเดียม ซึ่งใช้ร่วมกับทีมคู่แข่งร่วมเมือง เจนัว ซี.เอฟ.ซี (Genoa C.F.C.) มีความจุ 36,536 ที่นั่ง

ผู้เล่นโด่งดังในอดีต

[แก้]

ซัมป์โดเรีย ถือเป็นทีมระดับกลางค่อนไปทางใหญ่เล็กน้อย เป็นทางผ่านของนักเตะระดับโลกมาแล้วหลายหลายคน รวมทั้งยังเป็นที่แจ้งเกิดดาวรุ่งอีกหลายคน อาทิ

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

[แก้]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK บราซิล Júnior da Costa
2 MF ปารากวัย Marcelo Estigarribia (on loan from Deportivo Maldonado)
3 DF อิตาลี Andrea Costa
4 MF อิตาลี Enzo Maresca
5 MF บราซิล Renan
7 MF อิตาลี Paolo Castellini
8 DF เยอรมนี Shkodran Mustafi
10 FW อาร์เจนตินา Maxi López (on loan from Catania)
11 MF อิตาลี Gianni Munari
12 MF อาร์เจนตินา Fernando Tissone
13 DF สวิตเซอร์แลนด์ Gaetano Berardi
14 MF สเปน Pedro Obiang
15 DF เดนมาร์ก Simon Poulsen
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
16 MF อิตาลี Andrea Poli
17 MF อิตาลี Angelo Palombo
19 DF อิตาลี Lorenzo De Silvestri (on loan from Fiorentina)
21 MF อิตาลี Roberto Soriano
22 DF ญี่ปุ่น มายะ โยชิดะ
23 FW บราซิล Éder
25 MF เซอร์เบีย Nenad Krstičić
28 DF อิตาลี Daniele Gastaldello (Captain)
29 FW อาร์เจนตินา Juan Antonio
32 GK อิตาลี Tommaso Berni
35 DF สวิตเซอร์แลนด์ Jonathan Rossini
95 GK อิตาลี Wladimiro Falcone
98 FW อาร์เจนตินา Mauro Icardi
FW อิตาลี Gianluca Sansone
DF อาร์เจนตินา Matias Rodriguez

เกียรติประวัติ

[แก้]

ระดับประเทศ

[แก้]
  • เซเรียบี
    • ชนะเลิศ (2): 1933–34, 1966–67
    • รองชนะเลิศ (2): 1981–82, 2002–03

ระดับทวีปยุโรป

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Cup Winners' Cup 1988–89. The Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. (Retrieved 3 June 2011).
  2. 1988/89: Hat-trick for Barcelona เก็บถาวร 23 มิถุนายน 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. 1 June 1989. UEFA.com. (Retrieved on 2011-06-03).

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]