su252814, ($userGroup), 7-7419-76-91 (วิ) การคบกันด้วยธาตุของคนในมิติพระพุทธศาสนา
su252814, ($userGroup), 7-7419-76-91 (วิ) การคบกันด้วยธาตุของคนในมิติพระพุทธศาสนา
su252814, ($userGroup), 7-7419-76-91 (วิ) การคบกันด้วยธาตุของคนในมิติพระพุทธศาสนา
บทคัดย่อ
การคบค้าสมาคมของคนนั้น องค์สมเด็จพระสั มมาสัมพุทธเจ้าทรงพิจารณาเห็นว่า
บุคคลทั้งหลายในโลกนี้ มักคบกันเพราะมีธาตุที่ตรงกัน คือ คนที่มีอุปนิสัย จิตใจตรงกัน คือ
คนที่มีทัศนะหรือความเห็นตรงกัน เข้ากันได้ มีความประพฤติที่ตรงกัน หรือความประพฤติ ที่
คล้ายคลึงกัน หรือใกล้เคียงกัน จึงจะมาสมคบ คบค้าสมาคมกัน ธาตุมีหน้าที่หรือกระบวนใน
การเชื่อมประสานและยึดเหนี่ยวสิ่งต่าง ๆ เหมือนกันกับจิตของสัตว์โลก ที่ทำการยึดเหนี่ยวและ
เชื่อมประสานทำให้เกิดความสมดุลทางด้านกายภาพและมโนภาพ ถ้าธาตุของคนไม่มีความ
สมดุลก็จะก่อให้ความแปรปรวนในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้อ่อนแรงและเกิดโรค
ต่าง ๆ ได้ เมื่อมีความแปรปรวนต้องค้นหาต้นเหตุเพื่อบำบัดให้ธาตุมีความสมดุลกัน จึงจะทำให้
สุขภาพกายแข็งแรงและสุขภาพจิตสมบูรณ์สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข เพราะสรรพสิ่ง
ทั้งหลาย คือธาตุ ไม่มีความมั่นคงถาวร มีความเสื่อมสภาพไปตามเวลาที่ผ่านไป และเมื่อถึงเวลา
อันควร เหตุปัจจัยที่ทำให้ธาตุเหล่านั้นมาประชุมรวมกัน หมดไป ธาตุเหล่านี้ ก็จะแยกสลายกัน
ไป จึงไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น ในสรรพสิ่งซึ่งที่มีสภาวะจะต้องแปร เปลี่ยนเป็นธรรมดา (ตถตา)
ซึ่งตกอยู่ภ ายใต้กฎไตรลักษณ์ เมื่อบุคคลใดเข้าใจใน“ธาตุ” ทั้งที่เป็นรูปธรรมและธรรม
*
Received 5 April 2020; Revised 19 April 2020; Accepted 7 May 2020
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 77
Abstract
This academic paper aimed at to study association of man with an
elements in Buddhist dimensions .The association of man, Buddha said that all
men in this world always associated with each other due to the same of
an elements i.e. the person who has the same mental character, the same view
or opinion, the same behavior, the similar behavior or close to each other.
The an elements have functions or process is linked or hold on to other things.
It is similar to the mind of animal world which hold on and linked to create
the balance of physical and conception. If the an elements of man is not balance,
it will create variance in the body. It will also effect to mental, make it weakness
and cause various diseases. When there is variance, we have to find out the cause
to balance the an elements healing. It will make body and mental healthy.
Man able to live a normal life. All things are an elements, there are impermanent
and every things has deteriorated over time. At the right time .The factors that
these an elements are already compound. These an elements will be dissolved.
Any should not cling to all things which the condition must be changed. It falls
under the three characteristics. When any understand the an elements (Dhatu)
both concrete and abstract that one called the wise man in the an elements.
If a person sees things with their intellectual eyes as they actually are, they
will be able to live happily. It is walking to the noble path (Magga),
the fruitions (Phala) and Unconditioned State (Nibbana) and it will be able step
beyond the cycle of rebirth
Keywords: Man, Association, An Elements
บทนำ
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มี ชีวิตก็ตามล้วนเกิดจากการที่ธ าตุ
ทั้งหลายมารวมตัวกัน และการที่สิ่งต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน ก็เพราะสัดส่วนของธาตุต่างกัน
78 | Vol.7 No.5 (May 2020) ปีที่ 7 ฉบับที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2563
ความหมายของธาตุ
การให้ความหมายของธาตุมีการนิยามความหมายเพื่อแสวงหาความกระจ่างแจ่มแจ้ง
ว่า “ธาตุ” นั้น เป็นเช่นไร อย่างไร มีกระบวนการอย่างไร ในสิ่งที่เรียกว่า “ธาตุ” นั้น เมื่อให้
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 79
นิยามความหมายถูกต้องตามรูปศัพท์แลว สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหาความรู้เพื่อไม่ให้เกิด
ความหมายที่คลุมเครือเคลือบแคลงสงสัย และแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ผู้วิจัยจึงขอเสนอ
ความหมายของธาตุออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. ความหมายตามรูปศัพท์ “Element”
ธาตุในเชิงวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นสารที่ไม่สามารถทำให้แตกสลายด้วยความร้อนหรือ
กระแสไฟฟ้า และไม่ สามารถเกิดจากธาตุอื่น ๆ (ทีมบรรณาธิการพารามอน, 2549)
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ได้นิยามคำว่า “ธาตุ” (น.) สสารเนื้อ
เดียวล้วนซึ่งประกอบด้วยบรรดาอะตอมที่มีโปรตอน จำนวนเดียวกันในนิวเคลียส อีกประการ
หนึ่ง ธาตุ หมายถึง กระดูกของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์ โดยทั่ว ๆ ไป
เรียกวา พระธาตุ, ถ้าเป็นกระดูกของพระพุทธเจ้า เรียก “พระบรมธาตุ”หรือ “พระบรมสาริก
ธาตุ”, ถ้าเป็นกระดูกของพระอรหันต์ เรียกว่ า พระธาตุ, ถ้าเป็นกระดูกส่วนใดส่วนหนึ่งของ
พระพุทธเจ้า เรียกตามความหมายของคำนั้น ๆ เช่น พระอุรังคธาตุ, พระทันตธาตุ, ถ้าเป็นผม
ของพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระเกศธาตุ (ราชบัณฑิตยสถาน, 2546)
สรุ ป ว่ า ธาตุ ถ้ า มุ ่ ง เน้ น การให้ น ิ ย ามในเชิ ง สสารหรื อ วั ต ถุ ก็ เ ป็ น สิ ่ ง ที ่ อ าศั ย กั น
องค์ป ระกอบเกิดขึ้น เป็น รูป ร่างสามารถรับรู้ได้ทางสัมผัส เพราะมนุษย์เรียนรู้และเข้าใจ
สิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะมุ่งไปยังสิ่งที่รับรู้อยู่ภายนอกตัวของมนุษย์เอง และเพราะมี
รูปร่างที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้
2. ความหมายตามรูปศัพท์ คำว่า “ธาตุ”
“ธาตุ” หมายถึง 2.1) ทรงสภาพของตนไว้ ฯ 2.2) ทรงไว้ ซึ่งสังสารทุกข์เป็น อเนก
ประการ ตามสมควรแกการสมภพ 2.3) อันสัตว์ทรงไว้ คือ ธารไว้ ดุจภาระอันคนผู้น ำภาระ
ไปทรงไว้ 2.4) เป็นเพียงทรงทุกข์ไว้เท่านั้น เพราะเป็นไปในอำนาจ 4.5) เป็นเหตุให้สัตว์เสวย
สังสารทุกข์ 2.6) เป็นที่ตั้งอยู่ คือ ดำรงอยู่แห่งทุกข์ มีประการอย่างนั้น 2.7) เป็นส่วนแห่งธรรม
ที่ควรรู้ ดุจธาตุส่วนย่อยแห่งสรีระมีรสและโลหิต เป็นต้น และเป็นดุจธาตุส่วนย่อยแห่งวัตถุ
ส่วนย่อยแห่งวัตถุที่เกิดแต่สิลา (หรือแห่งวัตถุเกิดแต่ศิล า) มีหรดาลและมโนศิลา เป็นต้น
(มหามกุฎราชวิทยาลัย, 2549)
ธาตุในพระพุทธศาสนา หมายถึง สิ่งที่ทรงสภาพของตนไว้ หมายความว่า ดิน น้ำ ลม
ไฟ ล้วนเป็นเช่นนั้นเอง ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ชีวะ หรือ อาตมัน ไม่ใช่สัตว์หรือบุคคล สสาร
ทั้งหลายในโลกล้วนเกิดจาการรวมตัวกันของธาตุ 4 ไม่มีแก่สารที่ควรยึดมั่นว่าเป็นตัวตนหรือ
ของตน ส่วนคำว่า “ธาตุ” (element) ในวิทยาศาสตร์มีคำจำจัดความว่า คือ สสารที่ไม่อาจ
ย่อยให้เป็นสารอื่นที่เล็กกว่า หมายความว่า ธาตุต่าง ๆ เช่น ทอง เหล็ก เป็นสิ่งที่ไม่อาจทอนลง
ไปเป็นธาตุอื่น ๆ ได้ (พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต), 2540)
80 | Vol.7 No.5 (May 2020) ปีที่ 7 ฉบับที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2563
ประเภทของธาตุในพระพุทธศาสนา
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “ธาตุ” พบว่า เป็นคำที่มีความหมายหรือนัยที่กว้างขวางมาก ซึ่งอาจ
ก่อให้เกิดความสงสัยได้ว่า แท้ที่จริงแล้ว คำที่เรียกกันว่า “ธาตุ” นั้นคืออะไร อะไรที่เรียกว่า
“ธาตุ” และคำว่า “ธาตุ” นั้นยังสื่อนัยไปได้อีกมากมายเพียงไร มีลักษณะ ฐานะความสำคัญ
อย่างไร และมีความหมายแตกต่างกันออกไปมากน้อยแค่ไหนของแต่ละแนวคิด ธาตุนั้นเป็นได้
เพียงรูปธรรมหรือนามธรรมเท่านั้นหรือไม่อย่างไร หรือเป็นไปในเชิงสสารนิยมหรือจิตนิยม
ส่วน ธาตุ ในทางพระพุทธศาสนา โดยสรุป แบ่งธาตุออกเป็น 2 ลักษณะ คือ รูปธาตุ
และนามธาตุ เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้วสามารถที่จะจัดลงได้ 2 ลักษณะ คือ 2.1) ธาตุหลัก:
ธาตุ 4 และ 2.2) ธาตุรอง: ธาตุ 6 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ธาตุ 4 มีอยู่ในทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะมีชีวิ ตหรือไม่ก็ตาม แต่ธาตุ 6 จะปรากฏครบเฉพาะ
ในสิ่งมีชีวิตเท่านั้น โดยที่สิ่งมีชีวิตในที่นี้หมายถึง มนุษย์ และสัตว์เท่านั้น ไม่ได้หมายรวมถึง
ต้นไม้ ทั้งนี้เพราะต้น ไม้แม้จ ะเป็น สิ่งมีชีว ิต ที่สามารถมีการเจริญเติบโตเปลี่ยนรูปร่ า งได้
แต่ต้นไม้ไม่มีธาตุรับรู้ จึงไม่มีความรู้สึกนึกคิด จัดเป็นสังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง (อนุปาทินนก
สังขาร) ส่วนมนุษย์และสัตว์มีธาตุรับรู้อยู่ด้วย จัดเป็นสังขารที่มีวิญญาณครอง (อุปาทินนก
สั ง ขาร) เพราะว่ า ธาตุ 4 มี ช ื ่ อ เรี ย กอี ก ชื ่ อ หนึ ่ ง ว่ า “ภู ต รู ป 4” หรื อ “มหาภู ต 4” เป็ น
องค์ประกอบพื้นฐานหรื อดั้งเดิมของสรรพสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ พืช วัตถุ
สิ่งของทั้งปวง ทั้งที่อยู่ในโลกและนอกโลก หรือจะกล่าวว่าในทุกสิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลก็ ได้
ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายนั้นเกิดจากธาตุทั้ง 4 นี้ผสมกัน หากธาตุชนิดใดมีมาก
ก็จะแสดงลักษณะเด่นของธาตุชนิดนั้นออกมา เช่น ถ้าธาตุดินมีมาก สิ่งนั้นก็จะมีลักษณะแข้น
แข็ง เป็นคนที่มีความมั่นคง ไม่รวนเร เยือกเย็น ไม่วู่วาม ถ้าธาตุน้ำมีมาก สิ่งนั้นก็จะมีลักษณะ
เป็นของเหลวไหลเอิบอาบไปได้ง่าย จะเป็นคนอ่อนโยน อ่อนไหวง่าย เปลี่ยนใจง่าย คนที่มีธาตุ
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 81
ความสำคัญของธาตุในพระพุทธศาสนา
1. ธาตุในฐานะการเลือกคบค้าและสมาคมของคน
การคบค้าสมาคมกับบุคคลอื่นในโลกปัจจุบัน เป็นไปตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคล
จริ ง ๆ พระอรหั น ตสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า ทรงสรรเสริ ญ การคบค้ า สมาคมกั บ มิ ต รดี หรื อ
กัลยาณมิตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การมีมิตรดี เพื่อนดี เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ เพราะทำให้
เรามีความเข้าใจถูก เห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง จนกระทั่งสามารถบรรลุมรรค
ผลได้ ดังนั้น การคบค้าสมาคมกับผู้อื่น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นเครื่องส่องให้เห็นความเจริญหรือ
ความเสื่อมในชีวิตได้ เพราะถ้าคบเพื่อนดี เพื่อนดีย่อมนำไปสู่ความเจริญ ถ้าคบเพื่อนชั่ว เพื่อน
ชั่วย่อมนำไปสู่ความเสื่อม บางคนในชีวิต หามิตรแท้คนเดียวยังยาก หรือบางคนอาจจะมีเพื่อน
82 | Vol.7 No.5 (May 2020) ปีที่ 7 ฉบับที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2563
ธาตุในฐานะกฎของนิยาม
การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ และการดับไปของสิ่งทั้งหลายเป็นภาวะที่ดำรงอยู่โดยธรรมดา
เป็นกฎธรรมชาติ หรือ กำหนดแห่งธรรมดา ไม่เกี่ยวกับผู้สร้างผู้บันดาลหรือการเกิดขึ้นของ
ศาสดาหรือศาสนาใด ๆ กฎธรรมชาตินี้ พระพุทธองค์ ได้ทรงค้นพบด้วยพระสัพพัญญุตญาณ
และนำมาเผยแผ่ ทรงรับ รู้ เข้าใจถึงนิย ามหรือกฎธรรมชาตินี้ดังพระพุทธพจน์ว ่า “ภิกษุ
ทั้งหลาย ตถาคตเกิดขึ้นก็ตาม ไมเกิดขึ้นก็ตาม ธาตุนั้นคือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไป
ตามธรรมดาก็คงตั้งอยู่อย่างนั้น ตถาคตรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า “สังขารทั้งปวงไมเที่ยง” ครั้นรู้ บรรลุ
แล้วจึงบอก แสดง บั ญญัติ กำหนด เปิดเผย จำแนก ทำให้ง่ายว่า “สังขารทั้งปวงไมเที่ยง”...
“สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์”.... “ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา”... ตถาคตเกิดขึ้นก็ตาม ไมเกิดขึ้นก็ตาม
ธาตุนั้น คือความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้น” (อง.เอกก.
(ไทย) 20/137/385) (มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย , 2539); (อง.เอกก. (บาลี) 20/137/238)
(มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2539) เพราะลักษณะสภาวะต่าง ๆ ของธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
และอากาศ สามารถก่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้ ในพระพุทธศาสนา เรียกว่า อุตุนิยาม คือ
กฎธรรมชาติที่ครอบคลุมความเป็นไปของปรากฏการณ์ในธรรมชาติ เกี่ยวกับวัตถุที่ไม่มีชีวิตทุก
ชนิด ตามหลักทางพระพุทธศาสนามุ่งเน้นให้คนเข้าใจเกี่ยวกับกฎธรรมชาติที่ว่าด้วยวัตถุ ซึ่งเมื่อ
มีเหตุปัจจัยเพียงพอก็จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติของมันเอง ไม่มีใครเป็นผู้กำหนดหรือห้ามได้ เช่น
ฝนตก ก็มีเหตุปัจจัยเพียงพอให้เกิดฝนตกเพราะเกิดขึ้นจากการระเหยของน้ำบนดิน การรวมตัว
ของก้อนเมฆ การเกิดลมพัด ความร้อนกับความเย็นมากระทบกัน ทำให้เกิดฝนตก เป็นต้น
การเข้าใจธรรมชาติอย่างนี้ จะทำให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ได้อย่างมีความสุข
ธาตุ 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ และฤดูกาล รวมทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่ง
เรียกว่า “อุตุนิยาม” ซึ่งอาจเทียบได้กับศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์คือ ฟิสิกส์ เคมี กฎเกณฑ์ หรือ
สูตรต่าง ๆ ที่มกี ารค้นคิด ค้นพบ หรือแม้กระทั่งการที่มนุษย์ใช้ความพยายามทำวิทยาศาสตร์ให้
เป็น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เช่น การทำฝนเทียม แม้จะมีเรื่องของจิตตนิยาม และ กรรมนิยาม
เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การทำฝนเทียมก็เกิดจากการนำสิ่งไม่มีชีวิตมาทำให้เกิดปฏิกิริยากันคือ
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 87
ธาตุในฐานะกฎของวิทยาศาสตร์
"ธาตุ" ในฐานะที่เป็นกฎของวิทยาศาสตร์นั้น มีความสำคัญในฐานะเป็นองค์ประกอบ
เป็นมูลฐานของสรรพสิ่ง หากแต่ในการรวมกันเข้าจะไม่ปรากฏลักษณะให้เห็นอย่างเด่นชัดก็
ตาม ซึ่งสื่อให้เห็นความเป็นรูปธรรมและนามธรรม แต่ยังคงมีธาตุต่าง ๆ อีกมาก ที่เมื่อมีการ
รวมกันแล้วมีการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ หรือทำให้มีสภาวะบางอย่างตามไปด้วย เช่น H2O คือ
ไฮโดรเจน 2 อะตอม กับออกซิเจน 1 อะตอม เมื่อทำการรวมกันหรือทำปฏิกิริยาทางเคมีแล้ว
จะเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำ เมื่อเป็นน้ำแล้วก็ย่อมมีคุณสมบัติใหม่ หนึ่งในนั้นคือดับกระหายได้
หรือดับไฟได้ เป็นต้น ในขณะที่ยังเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน คุณสมบัติดังกล่าวไม่มีปรากฏ
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 89
สรุป
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลกล้วนเกิด ขึ้นจากการประชุมกัน ของธาตุ 4 ด้วยเหตุที่มนุษย์
และสรรพสัตว์ มีธาตุเป็นองค์ประกอบ การคบค้าสมาคม การคุ้นเคยสนิมกัน ก็จะเกิดขึ้นตาม
พื้นฐานของอุปนิสัยจิตใจที่เหมือนกัน เช่น คนที่นิสัยดี ก็ย่อมคบกับ คนที่นิสัยดี แต่จะไม่ยอมไป
คบ รวมกลุ่มกับคนนิสัยไม่ดี ส่วนผู้ที่นิสัยไม่ดี ก็ย่อมคบหาสมาคมกันกับผู้ที่นิสัยไม่ดี แต่จะไม่
คบไม่ไปคุ้นเคยกับคนที่นิสัยดี ดังนั้น การคบค้าสมาคมกัน สนิทกันของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม
ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย คือมีเหตุเสมอ มีเหตุคือ มีนิสัย อุปนิสัยจิตใจ มีอัธยาศัยที่ สะสมมา
เหมือนกัน ๆ เช่น ความรู้สึกรัก ความรู้สึกชอบพอใจคน ๆ นี้ อยากคบหากับคน ๆ นี้ หรือเห็น
ว่าคนนี้เป็นเพื่อน มีอะไรก็จะคอยช่วยเหลือ นั่นก็แสดงถึงการสะสมอุปนิสัยจิตใจมาของทั้งสอง
คนนั้นเหมือนกันที่มีธาตุ นิสัย อุปนิสัย อัธยาศัยเหมือนกัน คนมีปัญญามากมักจะคบหากับผู้มี
ปัญญามากด้วยกัน เป็นของธรรมดาที่มีในโลก ดังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธองค์ ทรงชี้ให้
ภิกษุเห็นว่า “พระภิกษุมักอยู่รวมกันโดยธาตุ เช่น ผู้มีปัญญามากจะอยู่รวมกับกลุ่มกับพระสารี
บุตร ผู้มีฤทธิ์มากจะอยู่รวมกับกลุ่มพระโมคคัลลานะ ผู้ที่ใฝ่ต่อสุตตะจะอยู่รวมกลุ่มกับพระ
อานนท์ และผู้มีความปรารถนาลามกจะไปอยู่รวมกลุ่มกับพระเทวทั ต เป็นต้น และทรงสรุปว่า
“แม้ในอดีต แม้ในอนาคต แม้ในปัจจุบัน สัตว์ทั้งหลายก็ได้คบค้าสมาคมกันโดยธาตุอ ย่าง
เดียวกัน คือ สัตว์ทั้งหลายผู้มีอัธยาศัยเลว ได้คบค้าสมาคมกับสัตว์ทั้งหลายผู้มีอัธยาศัยเลว สัตว์
ทั้งหลายผู้มีอัธยาศัยงาม ได้คบค้าสมาคมกับสัตว์ทั้งหลายผู้มีอัธยาศัยงาม” ดังนั้ น ผู้ที่มีปัญญา
เป็นบัณฑิต เป็นผู้ที่นิสัย อุปนิสัย มีจิตใจ มีอัธยาศัยดี ย่อมไม่คบค้าสมาคมกับคนที่นิสัยไม่ดี นั่น
คือไม่คบค้าสมาคมกับอกุศลธรรม ส่วนผู้ที่มีนิสัยไม่ดี (ธาตุเทียม) ก็จะชอบใจ พอใจ รู้สึกคุ้นเคย
กับบุคคล ซึ่งเป็นผู้มีอัธยาศัยอย่างนั้นคือ นิสัยไม่ ดีเช่นกัน การชอบ การอยากคบหา ทุกอย่าง
จึงมีเหตุด้วยกันทั้งนั้น
เอกสารอ้างอิง
เทพย์ สาริ ก บุ ต ร. (2513). โหราศาสตร์ ป ริ ท รรศน์ ภาคจั น ทรวิ น ิ จ ฉั ย ฉบั บ มาตรฐาน.
กรุงเทพมหานคร: อุตสาหกรรมการพิมพ์.
กฤติ ก าวลั ย หิ ร ั ญ สิ . (2554). ศึ ก ษาความสอดคล้ อ งของหลั ก การพยากรณ์ ใ นคั ม ภี ร์
พระพุ ท ธศาสนาเถรวาทและวิ ช าโหราศาสตร์ไ ทย. ใน วิ ท ยานิ พ นธ์ พ ุ ท ธศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ Journal of MCU Nakhondhat | 91