รายชื่อตัวละครในชุมชน
รายชื่อตัวละครสมมติ

Communityเป็นซิทคอม ทางโทรทัศน์ของอเมริกา สร้างสรรค์โดย Dan Harmonซึ่งออกอากาศทั้งหมด 110 ตอน ซีรีส์เรื่องนี้มีฉากที่ Greendale Community College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนสมมติ โดยเล่าถึงการผจญภัยในมหาวิทยาลัยของ กลุ่มศึกษาที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นในตอนนำร่อง นักแสดงหลัก ได้แก่ Joel McHale , Gillian Jacobs , Danny Pudi , Yvette Nicole Brown , Alison Brie , Donald Gloverและ Chevy Chase Ken Jeongเข้าร่วมนักแสดงหลักเริ่มตั้งแต่ตอนที่สอง และ Jim Rashได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนักแสดงหลักเมื่อเริ่มซีซั่นที่สาม John Oliver , Jonathan Banks , Paget Brewsterและ Keith Davidยังมีบทบาทสำคัญตลอดช่วงเวลาที่พวกเขาแสดง โดยไม่ได้รับการเครดิตให้อยู่ในกลุ่มนักแสดงหลักจริงๆ ซีรีส์นี้ยังมีตัวละครที่กลับมาซ้ำๆ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนหรืออาจารย์ที่ Greendale

ภาพรวม

หลัก

นักแสดงชายอักขระฤดูกาลภาพยนตร์[1]
123456
นักแสดงหลัก
โจเอล แม็คเฮลเจฟฟ์ วิงเกอร์หลัก
จิลเลียน เจคอบส์บริตต้า เพอร์รี่หลัก
แดนนี่ ปูดี้อาเบ็ด นาดีร์หลัก
อลิสัน บรีแอนนี่ เอดิสันหลัก
อีเว็ตต์ นิโคล บราวน์เชอร์ลีย์ เบนเนตต์หลักแขกหลัก[2]
โดนัลด์ โกลเวอร์ทรอย บาร์นส์หลัก[ก]สแตนด์อินหลัก[3]
เชฟวี่ เชสเพียร์ซ ฮอว์ธอร์นหลักแขกDoes not appear
เคน จองเบ็น ชางหลัก
จิม ราชคณบดี เครก เพลตันการเกิดขึ้นซ้ำหลัก

การเกิดขึ้นซ้ำ

นักแสดงชายอักขระฤดูกาลภาพยนตร์[1]
123456
นักแสดงที่กลับมาซ้ำ
จอห์น โอลิเวอร์ดร.เอียน ดันแคนการเกิดขึ้นซ้ำการเกิดขึ้นซ้ำ
ริชาร์ด เอิร์ดแมนลีโอนาร์ด บริกส์การเกิดขึ้นซ้ำ
เอริค ชาร์ลส์ นีลเซ่นการ์เร็ตต์ แลมเบิร์ตการเกิดขึ้นซ้ำ
ไดโน สตามาโทปูลอสอเล็กซ์ “สตาร์-เบิร์นส์” ออสบอร์นการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขก
เครก คาคอฟสกี้นายตำรวจแค็กคอฟสกี้การเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำ
ลอเรน สเตมีลศาสตราจารย์มิเชลล์ สเลเตอร์การเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
เอริค คริสเตียน โอลเซ่นวอห์น มิลเลอร์การเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
จอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์ศาสตราจารย์ยูสติส วิทแมนการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
อิคบาล ธีบาโกบี นาดีร์การเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearแขกDoes not appear
โดมินิก มูซิออลพาเวล อิวาสเควิชการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appearแขกDoes not appear
แพตตัน ออสวอลต์นางพยาบาลแจ๊คกี้แขกDoes not appear
บิล พาร์คส์เอริค วิสเนียฟสกี้การเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ดีซี เพียร์สันมาร์ค มิลล็อตการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
เม็กกี้ แม็กแฟดเดนลินดา กรีนการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
เกร็ก โครเมอร์ริช สตีเฟนสันแขกการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ดาเนียล คาปโลวิทซ์วิกกี้ คูเปอร์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำ
ชาร์ลีย์ คูนซ์"เจ้าอ้วนนีล"Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขก
ลุค ยังบลัดขนาดDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขก
มาร์ซี่ แม็กคัสเกอร์เควนดราDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขกการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
จอร์แดน แบล็กคณบดีวิทยาลัยเมือง SpreckDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
มัลคอล์ม-จามาล วอร์เนอร์แอนเดร เบนเนตต์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
ร็อบ คอร์ดดรี้อลัน คอนเนอร์Does not appearแขกDoes not appearแขกDoes not appear
เบ็ตตี้ ไวท์จูน บาวเออร์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
แอนดี้ ดิ๊กนักบินเฮลิคอปเตอร์/ชายร่างเล็กDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
เควิน คอร์ริแกนศาสตราจารย์ฌอน การ์ริตี้Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearแขกDoes not appear
เลอวาร์ เบอร์ตันDoes not appearแขกDoes not appearแขกDoes not appear
จอห์น กู๊ดแมนรองคณบดี โรเบิร์ต เลย์เบิร์นDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
แดน บัคเคดาห์ลเมอร์เรย์ ช่างซ่อมแอร์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ทราวิส ชูลท์ริกDoes not appearแขกDoes not appearแขกDoes not appear
เจ พี มานูซ์ฟ็อกบาย/ด็อปเปิลดีนเนอร์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขก[ข]Does not appear
เดวิด เซนต์เจมส์ศาสตราจารย์อัลเบรชท์Does not appearแขกDoes not appearแขกDoes not appear
เมล โรดริเกซจ่าสิบเอก นูเนซDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ไมเคิล เค. วิลเลียมส์ดร.มาร์แชล เคนDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
วิล การ์เร็ตแฮร์รี่ เจฟเฟอร์สันDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ไอรีน ชเวแอนนี่ คิมDoes not appearแขกDoes not appearแขกDoes not appear
เจอร์รี่ ไมเนอร์เจอร์รี่ ภารโรงแขกการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
เอ็ดดี้ เปปิโตนชมิดท์ผู้บ้าคลั่งDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearแขกDoes not appear
เดวิด เนเฮอร์ท็อดด์ เจคอบสันDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำ
ลาร์รี่ ซีดาร์คอร์เนเลียส ฮอว์ธอร์นDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
มัลคอล์ม แม็คดาวเวลล์ศาสตราจารย์คอร์นวอลลิสDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
บรี ลาร์สันเรเชลDoes not appearแขกการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
แบรดี้ โนวัคริชชี่ เคาน์ตี้Does not appearแขกการเกิดขึ้นซ้ำแขกการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
เจเรมี่ สก็อตต์ จอห์นสันคาร์ล บลัดต์Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำแขกการเกิดขึ้นซ้ำแขกDoes not appear
เลสลี่ ซิมม์สรอนดาการเกิดขึ้นซ้ำ
โจนาธาน แบงค์สศาสตราจารย์บัซ ฮิกกี้การเกิดขึ้นซ้ำ
เจมส์ ไมเคิล คอนเนอร์ตัวแทนรถไฟใต้ดินDoes not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
ดาร์สัน โซโลมอนเดฟDoes not appearแขกการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
เพจเจ็ต บรูว์สเตอร์แฟรงกี้ ดาร์ทแขก[c]การเกิดขึ้นซ้ำ
คีธ เดวิดเอลรอย พาตาชนิคแขก[ง]การเกิดขึ้นซ้ำ
มาร์ติน มูลล์จอร์จ เพอร์รี่Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
เลสลีย์ แอนน์ วาร์เรนเด๊บ เพอร์รี่Does not appearการเกิดขึ้นซ้ำDoes not appear
  1. ^ Glover ปรากฏตัวเฉพาะในห้าตอนแรกของซีซั่นที่ห้าเท่านั้น
  2. ^ JP Manoux ปรากฏตัวในตอน " Advanced Introduction to Finality " ของซีซั่นที่ 4 รับบทเป็น Dopple-deaner คู่หูในไทม์ไลน์ที่มืดหม่นที่สุดของ Dean Pelton
  3. ^ Paget Brewster เคยปรากฏตัวในตอน " Analysis of Cork-Based Networking " ของซีซั่นที่ 5 ในบทบาทตัวละครอื่นที่ชื่อ Debra Chambers
  4. ^ Keith David เคยบรรยายตอน " หมอนและผ้าห่ม " ของซีซั่น 3 ไว้ก่อนหน้านี้

ตัวละครหลัก

รายการนี้หมุนรอบเรื่องราวการใช้ชีวิตในและนอกมหาวิทยาลัยของนักศึกษาเจ็ดคนที่เชื่อมโยงกันผ่านกลุ่มเรียนของพวกเขาที่ Greendale Community College

เจฟฟ์ วิงเกอร์

23
โจเอล แม็คเฮล

Jeffrey Tobias " Jeff " Winger (รับบทโดยJoel McHale ) เกิดประมาณปี 1974 เป็นอดีตทนายความที่เยาะเย้ย มีเสน่ห์ และมีไหวพริบ ซึ่งเข้าเรียนที่ Greendale Community College [4]เขาเกิดที่DenverรัฐColoradoโดยมีพ่อแม่คือ William และ Doreen Winger พ่อของเขาหย่าร้างกับแม่เมื่อ Jeff ยังเด็กมาก และต่อมาก็มีลูกอีกคนชื่อ Willy Jr. ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของ Jeff เมื่ออายุได้ 10 ขวบ เขาถูกกลั่นแกล้งและทำให้ขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ ที่YMCAเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลโต๊ะจนสุดท้ายเขาก็ฉี่ราดกางเกง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ทำร้ายเขาคือ Shirley เพื่อนร่วมกลุ่มที่เรียนกับเขา ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 12 ปี และชอบรังแกผู้อื่น เขาบอกกับเธอว่าเขาต้องเปลี่ยนโรงเรียน รวมถึงเปลี่ยนทรงผม เสื้อผ้า และแม้แต่บุคลิกภาพของเขาเพราะเหตุการณ์นั้น ในปี 1997 เมื่ออายุประมาณ 19 ปี เจฟฟ์ได้ส่งเทปออดิชั่นสำหรับรายการThe Real World: Seattle ของ MTV ซึ่งต่อมาได้กลับมาหลอกหลอนเขาในช่วงการเลือกตั้งประธานสภานักศึกษาของกรีนเดล ในตอน " Geothermal Escapism " ของซีซั่นที่ 5 เมื่อทรอย สมาชิกกลุ่มศึกษา กำลังจะออกจากกรีนเดล เจฟฟ์ได้เปิดเผยกับเขาอย่างเงียบๆ ว่าเขา "ไม่เคยก้าวเท้าออกนอกโคโลราโดเลย"

เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในฐานะทนายความและความมั่นใจของเขา ทำให้หลายคน รวมทั้งคณบดีเพลตันและเซญอร์ชาง ต่างแสวงหาความช่วยเหลือจากเจฟฟ์ การผจญภัยของเจฟฟ์มีทั้งช่วงที่เป็นสมาชิกทีมโต้วาทีและชมรมร้องเพลงแทน และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน รวมถึงความพยายามในการพัฒนาชีวิตการทำงานและความรักของชาง เนื่องจากนิสัยชอบแข่งขันและท่าทีเหนือกว่า เจฟฟ์จึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับอาจารย์สอนบัญชี บิลเลียด และปั้นหม้อ และสุดท้ายเขาก็เรียนได้ไม่ดี ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของเขาคือผมที่ยุ่งเหยิงอย่างสมบูรณ์แบบและความลึกลับที่ทำให้เขาสามารถรักษาผมที่ยุ่งเหยิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคณบดีเพลตันบรรยายว่า "กรอบ" เมื่อสัมผัส

บริตต้า เพอร์รี่

Fictional character
บริตต้า เพอร์รี่
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยจิลเลียน เจคอบส์
ข้อมูลในจักรวาล
อาชีพ
  • นักศึกษาที่ Greendale Community College
  • บาร์เทนเดอร์
  • พนักงานเสิร์ฟ (อดีต)
  • ผู้จัดการร้านแซนด์วิชเชอร์ลีย์
ตระกูล
  • จอร์จ เพอร์รี่ (พ่อ)
  • เด๊บ เพอร์รี่ (แม่)
  • พี่ชายไม่ระบุชื่อ
  • พี่ชายคนที่สองไม่ปรากฏชื่อ
บุคคล สำคัญอื่นๆ
ญาติพี่น้องมาร์คัส (หลานชาย)

บริตตา เพอร์รี (รับบทโดยจิลเลียน เจคอบส์ ) เป็นนักเรียนที่กรีนเดลและเป็นสมาชิกของกลุ่มศึกษากลาง บริตตามีจิตสำนึกทางการเมืองและขับเคลื่อนด้วยจิตสำนึกทางศีลธรรมที่เข้มแข็ง ความรู้สึกอ่อนไหวของบริตตาทำให้เธอขัดแย้งกับคนอื่นๆ ในกลุ่ม รวมถึงนักเรียนคนอื่นๆ ที่กรีนเดล ซึ่งมองว่าเธอเป็น "ตัวถ่วงเวลา" หลังจากออกจากโรงเรียนมัธยมเพราะคิดว่าการไปที่นั่นจะทำให้เรดิโอเฮด ประทับใจ เธอจึงเข้าเรียนที่กรีนเดลเพื่อสอบGEDและในที่สุดก็เลือกที่จะเรียนจิตวิทยาเพื่อเป็นนักบำบัด

Britta เข้าร่วมกลุ่มเรียนเพื่อปรับปรุงเกรดภาษาสเปนของเธอแม้ว่าเธอจะรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า Jeff สร้างกลุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อจะได้นอนกับเธอเท่านั้น แม้ว่าในตอนแรกเธอจะปฏิเสธความก้าวร้าวของเขา แต่ทั้งสองก็มีเซ็กส์กันในช่วงปลายปีการศึกษา (" Modern Warfare ") Britta พยายามแข่งขันกับความรักของ Jeff ที่มีต่อศาสตราจารย์ Michelle Slater (รับบทโดยLauren Stamile ) จึงสารภาพต่อสาธารณะว่าเธอรัก Jeff แม้ว่าเธอจะรู้สึกอับอายกับเรื่องนี้ แต่เธอก็พบว่าเธอดึงดูดความสนใจและความเคารพจากผู้หญิงหลายคนในมหาวิทยาลัยที่ยกย่องเธอในความกล้าหาญของเธอ Jeff และ Britta ยังคงนอนด้วยกันอย่างลับๆ ในปีที่สอง จนกระทั่ง Abed เปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขากับกลุ่ม ในซีซั่นที่ 3 Britta เข้าสู่ความสัมพันธ์กับ Troy แม้ว่าพวกเขาจะเลิกกันในวันครบรอบปีแรกหลังจากตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนกัน

ในขณะที่เธอแสดงออกถึงความหลงใหลในประเด็นต่างๆ มากมาย แต่บริตต้ากลับล้มเหลวในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางสังคมของเธอ และแรงจูงใจทางการเมืองของเธอมักถูกมองว่าเป็นการหลงทางหรือเห็นแก่ตัว เจฟฟ์บรรยายเธอว่าเป็น "ฝ่ายต่อต้าน" เนื่องจากเธอมีความกระตือรือร้นที่จะต่อต้านประเด็นต่างๆ เช่นการแต่งงานและการไปห้องน้ำกับผู้หญิงคนอื่น ความหน้าไหว้หลังหลอกและแนวโน้มที่จะอ้างถึงการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความเกี่ยวข้อง เช่น การสนับสนุนสิทธิของคนแคระในจินตนาการในDungeons & Dragonsบ่อยครั้งทำให้ทั้งเพื่อนและคนแปลกหน้าหงุดหงิด จนถึงจุดที่คนอื่นๆ มักจะเรียกเธอว่า "แย่ที่สุด"

บริตต้าสำเร็จการศึกษาจากกรีนเดลในซีซั่น 4และเริ่มเป็นบาร์เทนเดอร์ แต่เธอลงทะเบียนเรียนใหม่ในซีซั่น 5 เมื่อเจฟฟ์ได้เป็นอาจารย์ เธอเข้าร่วมคณะกรรมการช่วยเหลือกรีน เด ลและช่วยป้องกันไม่ให้โรงเรียนถูกขายให้กับซับเวย์

แม้ว่าคนรอบข้างจะมองว่าเธอเป็นคนน่ารำคาญ แต่บริตต้าก็พิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นเพื่อนที่เอาใจใส่ เธอเป็นคนแรกที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยอาเบ็ดเมื่อเขาเริ่มมองโลกผ่านหุ่นจำลองดินน้ำมันเธอปลอบใจอาเบ็ดและพยายามช่วยเหลือเขาเมื่อเขาอารมณ์เสียเพราะทรอยต้องเข้าโรงเรียนซ่อมแอร์ชั่วคราว และช่วยให้บัซ ฮิกกี้กลับมาติดต่อกับลูกชายของเขาอีกครั้งผ่าน Dungeons & Dragons

อาเบ็ด นาดีร์

แดนนี่ ปูดี้

อาเบ็ด กูบี นาดีร์ ( อาหรับ : عابد القوبي نادر Ābid al-Qūbī Nādir ; รับบทโดย แดนนี่ ปูดี ) เป็นหนุ่มน้อยชาวปาเลสไตน์ - โปแลนด์ - อเมริกัน ที่อารมณ์อ่อนไหว และชื่นชอบวัฒนธรรมป๊อป เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้กำกับและกำลังเรียนหลักสูตรการกำกับภาพยนตร์ที่ Greendale อยู่ในขณะนี้Pasteจัดให้เขาเป็นอันดับหนึ่งในรายการ 20 ตัวละครยอดเยี่ยมแห่งปี 2011 โดยบรรยายว่าเขาเป็น "ศูนย์กลางอารมณ์ของรายการ" และกล่าวว่า "ความหลงใหลในวัฒนธรรมป๊อปและการแสดงตลกของเขากับทรอย เพื่อนของเขาทำให้รายการมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่ง" [5]

อาเบด นาดีร์ เป็นศิษย์เก่าของ Greendale Community College อาเบดมีชีวิตที่ยากลำบากในช่วงวัยเด็กเนื่องจากพ่อแม่ของเขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันมากนัก พวกเขาจึงเกิดความแตกแยกทางสังคมระหว่างพ่อและแม่ เนื่องจากพ่อของอาเบดเป็นชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายโปแลนด์อาเบดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเขาเป็นออทิสติก ทำให้เขาเข้าใจและเข้ากับคนอื่นได้ยาก หรือแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ไม่ดีนัก

เชอร์ลีย์ เบนเนตต์

Fictional character
เชอร์ลีย์ เบนเนตต์
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยอีเว็ตต์ นิโคล บราวน์
ข้อมูลในจักรวาล
ชื่อ-นามสกุลเชอร์ลีย์ เบนเน็ตต์ (née Edwards)
อาชีพนักศึกษาที่ Greendale Community College
เจ้าของร้าน Shirley's Sandwiches
พ่อครัวส่วนตัวของ Mister Butcher
คู่สมรสแอนเดร เบนเน็ตต์ (อดีตสามี)
เด็ก
  • เอลียาห์ เบนเนตต์ (ลูกชาย)
  • จอร์แดน เบนเนตต์ (ลูกชาย)
  • เบ็น เบนเนตต์ (ลูกชาย)

เชอร์ลีย์ แอน เบนเน็ตต์นามสกุลเดิมเอ็ดเวิร์ดส์ (รับบทโดยอีเว็ตต์ นิโคล บราวน์ ) (นักแสดงหลัก ซีซัน 1–5, แขกรับเชิญ ซีซัน 6) เป็นแม่ที่เพิ่งหย่าร้าง เธอเข้าเรียนที่ Greendale Community College เพื่อเปิดธุรกิจเบเกอรี่ของตัวเอง[6]เธอวางตัวเป็นมิตรและเป็นแม่ที่ดี แต่มีปัญหาความโกรธที่ซ่อนเร้นอยู่ และมีนัยว่าเคยมีอดีตที่ติดเหล้า

เชอร์ลีย์ซึ่งเป็นคริสเตียน ที่เคร่ง ศาสนา มักไม่ยอมรับศาสนาของเพื่อนๆ (หรือการขาดศาสนา) ทำให้เธอขัดแย้งกับคนอื่นๆ ในกลุ่ม เธอพยายามทำพิธีบัพติศมาให้แอนนี่ (ซึ่งเป็นชาวยิว) ในงานปาร์ตี้ริมสระน้ำ และเสนอให้ทำแบบเดียวกันกับอาเบ็ด (ซึ่งเป็นมุสลิม) ในขณะที่เขาอยู่ในอาการสตัปเปอร์ แม้จะเป็นเช่นนั้น เธอก็สามารถละทิ้งความแตกต่างทางศาสนาได้เพื่อประโยชน์ในการรักษาความเป็นเพื่อนกับกลุ่ม

ใน " Epidemiology " เชอร์ลีย์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับกลุ่มที่เข้าใจผิด ว่าชุด กลินดาแม่มดดี ของเธอ เป็นมิสพิกกี้และมีเซ็กส์กับเบ็น ชาง ซึ่งรู้สึกหงุดหงิดเช่นกันที่ ชุด เพ็กกี้ เฟลมมิ งของเขา ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคริสตี้ ยามากูจิหรือมิเชลล์ ควานไม่นานหลังจากนั้น เธอได้ติดต่อกลับไปหาอดีตสามีของเธอ อังเดร และพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ข้อความที่ฝากไว้ในวอยซ์เมลของทรอยทำให้กลุ่มคาดเดาว่าชาง ไม่ใช่อังเดร เป็นพ่อทางสายเลือด ซึ่งเชอร์ลีย์คิดว่าเป็นสารขับไล่ และตั้งใจที่จะไม่ยอมรับความจริงนี้ ทารกเกิดใน " Applied Anthropology and Culinary Arts " ในช่วงที่ควรจะสอบปลายภาควิชามานุษยวิทยา และเชอร์ลีย์รู้สึกโล่งใจที่พบว่าทารกเป็นลูกของสามี เธอจึงตัดสินใจตั้งชื่อทารกว่าเบ็นตามชื่อชาง ทำให้ลูกชายของเธอชื่อเบ็น เบนเน็ตต์

ใน " Urban Matrimony and the Sandwich Arts " อังเดรขอให้เชอร์ลีย์แต่งงานใหม่ ทั้งคู่แต่งงานกันหลังจากแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ได้เกี่ยวกับการที่เชอร์ลีย์จะออกจากโรงเรียนและกลายเป็นแม่บ้านเต็มเวลาเธอเรียนหนังสือต่อและเปิดร้านขายแซนด์วิชกับเพียร์ซ โดยตั้งชื่อร้านว่า "ร้านขายแซนด์วิชของเชอร์ลีย์"

ในซีซั่น 5 เปิดเผยว่าอังเดรได้ทิ้งเชอร์ลีย์อีกครั้งและพาลูกๆ ไปด้วยเนื่องจากเธอทุ่มเวลาและเงินมากเกินไปกับธุรกิจแซนด์วิชของเธอ เธอกลับมาที่กรีนเดลเพื่อติดตามความฝันในการเป็นผู้ประกอบการต่อไป และเข้าร่วมคณะกรรมการ Save Greendale ในตอนแรกของซีซั่น 6เชอร์ลีย์ออกเดินทางไปแอตแลนตาเพื่อดูแลพ่อที่ป่วยของเธอ ในที่สุดเธอก็กลายเป็นเชฟส่วนตัวของอดีตนักสืบที่มีความคิดฆ่าตัวตายซึ่งพยายามไขปริศนาเบื้องหลังการเสียชีวิตของภรรยาและความเป็นอัมพาตของเขา เมื่อกลุ่มพูดคุยถึงการขาดหายไปของเธอ อาเบ็ดอ้างว่าเธอ "ถูกแยกออก" และเครดิตปิดท้ายด้วยโฆษณาทางโทรทัศน์ล้อเลียนสำหรับรายการขั้นตอนการทำงานของตำรวจของ NBC เกี่ยวกับเชอร์ลีย์และนักสืบที่มีชื่อว่าThe Butcher and the Baker

แอนนี่ เอดิสัน

Fictional character
แอนนี่ เอดิสัน
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยอลิสัน บรี
ข้อมูลในจักรวาล
ชื่อ-นามสกุลแอนน์ เอดิสัน
นามแฝงแคโรไลน์ เด็คเกอร์
ชื่อเล่นแอนนี่
อาชีพ
  • ฝึกงานที่เอฟบีไอ
  • นักศึกษาที่ Greendale Community College (อดีต)
  • ผู้แทนขายยา (อดีต)
ตระกูลแอนโธนี่ เอดิสัน (พี่ชาย) แม่ที่ไม่ระบุชื่อ
บุคคล สำคัญอื่นๆ
  • วอห์น มิลเลอร์ (อดีตแฟน)

แอนนี่ เอดิสัน (รับบทโดยอลิสัน บรี ) เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1990 เป็น นักเรียนชาว ยิว ที่ขยันขันแข็ง เคร่งครัด และ เป็นแบบอย่าง ที่ดี ซึ่งเธอกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 5 ที่ Greendale Community College หลังจากสำเร็จการศึกษาและสมัครเรียนวิชาเอกในฝันของเธออีกครั้งซึ่ง ก็คือ นิติวิทยาศาสตร์[7]ในช่วงมัธยมปลาย แอนนี่เป็นนักเรียนเนิร์ดขี้อายที่อยากประสบความสำเร็จอย่างแรงกล้า แต่ต่อมาก็ติดAdderallเธอเป็นคนรู้จักของทรอย บาร์นส์ นักกีฬาชื่อดัง และแอบชอบเขา ทั้งคู่ไปงานปาร์ตี้ที่มีการมอบเกียรตินิยมในระดับมัธยมปลาย เมื่อทรอยได้รับรางวัล "ผู้ที่น่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุด" แทนที่จะเป็นแอนนี่ และเมื่อเขาจำแอนนี่ไม่ได้เมื่อเธอตำหนิเขา เธอจึงเกิดอาการเครียดจนกระโดดทะลุกระจกหน้าต่างพร้อมตะโกนว่า "ทุกคนคือหุ่นยนต์!" อาการบาดเจ็บของเธอทำให้เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดสร้างใหม่ ถึง 6 ครั้ง แม้ว่าแม่ของเธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็เลือกที่จะเผชิญหน้ากับการติดยาและเข้ารับการบำบัด ทำให้เธอห่างเหินจากครอบครัว รวมถึงขาดการสนับสนุนทางการเงินด้วย ปัจจุบันเธอต้องใช้เงินเก็บที่สะสมมาตั้งแต่สมัยเด็กในการดำรงชีวิต ในซีซั่น 2 กลุ่มคนเหล่านี้ได้รู้ว่าเธออาศัยอยู่ในย่านที่แย่มาก (ในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่เหนือDildopolis ซึ่งเป็น ร้านขายเซ็กส์เปิดตลอดคืน) และทรอยกับอาเบดก็เชิญเธอให้ไปอยู่บ้านหลังใหม่ในซีซั่น 3

ระหว่างเข้ารับการบำบัด เธอได้ไป ร้านอาหาร โยเกิร์ตแช่แข็งซึ่งระหว่างนั้นเธอได้เห็นโฆษณาของ Greendale และตัดสินใจเข้าเรียนในวิทยาลัยชุมชน ระหว่างที่เธอสำเร็จการศึกษาจากศูนย์บำบัดและเข้าเรียนที่ Greendale เธอได้ละทิ้งภาพลักษณ์ที่ดูเนิร์ดและเริ่มจัดทรงผมและแต่งตัวตามแฟชั่นมากขึ้น

แม้ว่าแอนนี่จะเป็นน้องคนสุดท้องในกลุ่ม แต่เธอก็เป็นคนขยันเรียนและจริงจังที่สุดเช่นกัน เธอเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวในกรีนเดลที่เคยใช้โปรแกรมเครดิตพิเศษที่วิทยาลัยจัดโดยจัดงาน ปาร์ตี้ Día de los Muertosในตอนที่เธอถูกบังคับให้ออกจากกลุ่มเนื่องจากเธอทำลายการสอบปลายภาควิชาภาษาสเปนของพวกเขา กลุ่มได้รู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่รู้วิธีเรียนหนังสือ เธอยังบันทึกเสียงของทุกชั้นเรียนและถอดเสียง ทำให้เพียร์ซอุทานและใช้คำว่า "สปอยล์เตือน" อย่างผิดๆ เธอมีสมาธิกับเกรด กิจกรรมของโรงเรียน และความสามัคคีในกลุ่มเป็นอย่างมาก เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด เธอกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือโรงเรียน เขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน เข้าร่วมทีมดีเบต และจัดงานของโรงเรียน ความไร้เดียงสาในวัยเด็กของแอนนี่มักจะทำให้เธอไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นที่ยอมรับทางศีลธรรมของกลุ่ม แต่ก็ไม่เสมอไป แม้ว่าเธอจะชอบใช้เวลาอยู่กับพวกเขาจริงๆ ก็ตาม เธอพยายามกระตุ้นและบงการสมาชิกกลุ่มศึกษาคนอื่นๆ ด้วยความรู้สึกผิด โดยใช้ "หน้าตาดิสนีย์" ของเธอ เธอให้ความสำคัญกับความสามัคคีของกลุ่มศึกษามากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ และในการพยายามให้กลุ่มศึกษาวิชาภาษาสเปน 102 อีกครั้ง เธอได้ไล่เซนยอร์ชางออกเนื่องจากเขาปลอมวุฒิการศึกษาวิชา " ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง "

แอนนี่ได้แสดงให้เห็นว่าบางครั้งเธอเลือกที่จะสนใจมากกว่าที่จะรักษากลุ่มให้คงอยู่ โดยเริ่มจากการออกเดทกับวอห์น แฟนเก่าที่ห่างเหินของบริตตา และ (ชั่วคราว) เลือกที่จะออกจากกรีนเดลและกลุ่มเพื่อตามวอห์นไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่น และต่อมาก็ตัดสินใจแยกเจฟฟ์ออกจากกลุ่มและมิตรภาพของเธอในช่วงที่เขาเกิดอาการป่วยทางจิตในซีซัน 3 เมื่อเขาใช้ขวานทุบโต๊ะหลังจากสูดแก๊สพิษลิงเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ในครั้งหนึ่ง ความต้องการทางเพศที่แอบแฝงเล็กน้อยของเธอถูกใช้เพื่อล่อลวงเจฟฟ์ให้เข้าร่วมชมรมร้องเพลง อย่างไรก็ตาม กรณีเหล่านี้ไม่ค่อยส่งผลให้เกิดปัญหาระยะยาว แอนนี่เคยคิดถึงทรอย ซึ่งเธอแอบชอบเขามาตั้งแต่สมัยที่เขาเล่นควอเตอร์แบ็กฟุตบอลในโรงเรียนมัธยม แต่สิ่งนั้นก็หยุดลงเมื่อเธอเริ่มออกเดทกับวอห์น ในตอนท้ายของซีซันแรก ดูเหมือนว่าแอนนี่จะพัฒนาความสัมพันธ์โรแมนติกกับเจฟฟ์ ซึ่งเธอจูบเขาทั้งเพื่อชนะการแข่งขันโต้วาทีและตอนจบซีซัน ในขณะที่เธอยังคงสนใจเจฟฟ์ในช่วงต้นของซีซั่น 2 เขากลับดูห่างเหินมากขึ้น และหลังจากที่กลุ่มศึกษาได้รู้ว่าเขามีเซ็กส์กับบริตต้าในตอนเพนท์บอล แอนนี่บอกว่าเธอคิดว่าเจฟฟ์ "น่ารังเกียจ" ต่อมาในตอน " Asian Population Studies " แอนนี่เริ่มแอบชอบดร. ริช สตีเฟนสัน เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เจฟฟ์เคยทะเลาะด้วย เจฟฟ์ดูอิจฉาแต่ปฏิเสธที่จะยอมรับ อย่างไรก็ตาม ริชปฏิเสธการเข้าหาของแอนนี่เนื่องจากอายุที่ต่างกัน มีการบ่งชี้ว่าแอนนี่อาจยังคงมีความรู้สึกต่อเจฟฟ์ และมีการแนะนำว่าเขาอาจรู้สึกเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยว่าใน " Virtual Systems Analysis " ว่าแอนนี่กำลังยอมรับกับความรู้สึกที่เธอมีต่อเจฟฟ์เมื่ออาเบ็ดบงการเธอเพราะความรู้สึกที่ชัดเจนของเธอที่มีต่อเขา แอนนี่เรียนรู้จากประสบการณ์ว่าวิธีที่เธอตอบสนองต่อความรู้สึกที่มีต่อเจฟฟ์นั้นตื้นเขินและไม่สำคัญ และความรักหรือความรู้สึกใดๆ เช่นนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับตัวเธอเองหรืออีกฝ่าย เธอเริ่มเข้าใจอาเบ็ดมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ในซีซั่น 5 แอนนี่ได้กลายมาเป็นพนักงานขายของบริษัทเภสัชกรรม และกลับมาที่กรีนเดลเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่าในชีวิตของเธอ เธอได้กลายเป็นหัวหน้าคณะกรรมการช่วยเหลือกรีนเดล ในตอนท้ายของซีซั่น 6 เธอได้ฝึกงานที่เอฟบีไอ

ทรอย บาร์นส์

Fictional character
ทรอย บาร์นส์
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยโดนัลด์ โกลเวอร์
ให้เสียงโดยโดนัลด์ โกลเวอร์ (“ คริสต์มาสที่ควบคุมไม่ได้ของอาเบ็ด ”, “ การวางแผนทรัพย์สินดิจิทัล ” และ “ บทนำสู่การอุ้มบุญแบบสักหลาด ”)
ข้อมูลในจักรวาล
อาชีพนักศึกษาที่ Greendale Community College
บุคคล สำคัญอื่น ๆ
ญาติพี่น้อง
  • นานา (คุณยาย)
  • คาร์ล (ลุง เสียชีวิตแล้ว)
  • ดิมิทรี (ลูกพี่ลูกน้อง, เสียชีวิตแล้ว)

Troy Barnes (รับบทโดยDonald Glover ) (ซีซั่น 1–5) เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1989 เป็นอดีตดาวฟุตบอลโรงเรียนมัธยมและนักเรียน Greendale Community College [8]เกิดและเติบโตใน Greendale รัฐโคโลราโด และได้รับการเลี้ยงดูโดยพยานพระยะโฮวา Troy ใช้เวลาสองปีในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5แต่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องปกติหลังจากที่แม่ของเขาบอกเขาว่าทุกคน "สิบคนสำหรับสองปี" ต่อมาเขาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะกองหลังทีมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมของเขาและยังเป็นราชางานเต้นรำด้วย อย่างไรก็ตาม เขาสูญเสียทุนการศึกษาฟุตบอลของเขาโดยตั้งใจบาดเจ็บตัวเองในระหว่าง "โยนถัง" ผู้ชื่นชมเขาจำนวนมากที่โรงเรียนรวมถึง Annie Edison เพื่อนร่วมชั้นที่ Greendale ในอนาคต สถานะของ Troy ที่ Riverside High ทำให้เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตตัวอักษรเป็นเวลาหลายวันหลังจากลงทะเบียนเรียนที่ Greendale ครั้งแรก Jeff สรุปได้อย่างรวดเร็วว่านี่เป็นสัญญาณของความไม่มั่นคงของ Troy เขายังกลัวแมงมุมทารันทูล่า หนู ตะขาบ ทะเลสาบ (" วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ") และห้องน้ำอัตโนมัติ (" การศึกษาด้านภาพยนตร์เชิงวิจารณ์ ") [8]ปัจจุบันเขาเล่นตำแหน่งกองหลังให้กับทีม Greendale Human Beings ซึ่งไม่ใช่นักกีฬา โดยเขากล่าวว่าเขาอยากเล่นฟุตบอลเพื่อความสนุกมากกว่า[8]

ในขณะที่เขาเริ่มออกไปเที่ยวกับเพียร์ซ ฮอว์ธอร์นที่ห้องกรีนเดลในซีซั่น 1 ทรอยก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับอาเบดในทันที ซึ่งคอยเติมเต็มและแบ่งปันอารมณ์ขันที่แปลกประหลาดและติดต่อกันได้ของทรอย ทั้งสองใช้เวลาส่วนใหญ่ที่กรีนเดลด้วยกัน และหลายตอนก็จบลงด้วยการแสดงตลกของพวกเขา[9]ในขณะที่ทั้งสองออกไปเที่ยวด้วยกันตลอดสองซีซั่นแรก ทรอยก็เริ่มละทิ้งตัวตนของเขาในฐานะนักกีฬาและยอมรับความคิดที่จะเป็นเด็กเนิร์ด ในการทำเช่นนี้ เขาช่วยทั้งโรงเรียนในตอนฮาโลวีนของซีซั่นที่สอง ความชื่นชอบของทรอยที่มีต่ออาเบดนั้นแรงกล้ามากจนเขาทิ้งบรรณารักษ์ที่น่าดึงดูด ( ไมเต้ ชวาร์ตซ์ ) ทันทีหลังจากที่เธอเรียกอาเบดว่าแปลก เขาคอยซุ่มดูและกระสับกระส่ายด้วยความอิจฉา กลัวว่าเจฟฟ์และอาเบดจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเมื่อเจฟฟ์จัดงานวันเกิดธีม Pulp Fiction ให้อาเบดและซื้อกระเป๋าเอกสารจำลองจากภาพยนตร์เรื่องจริงให้เขา แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเกือบถูกทำลายลงระหว่างสงครามหมอนผ้าห่มในมหาวิทยาลัยในปี 2012 ใน " หมอนและผ้าห่ม " แต่การคิดอย่างรวดเร็วของเจฟฟ์ วิงเกอร์และ "หมวกมิตรภาพ" ในจินตนาการก็ช่วยกอบกู้สถานการณ์ไว้ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม มันก็ชัดเจนขึ้นเช่นกันว่าทรอยและเพื่อนสนิทของเขามีความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวงและลึกซึ้ง

แทนที่จะเป็นเพื่อนร่วมห้องของอาเบ็ดในชั้นปีที่สอง ทรอยตัดสินใจไปอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของเพียร์ซ (" Pascal's Triangle Revisited ") ในขณะที่อาศัยอยู่กับเขาในช่วงฤดูร้อน ทรอยได้เปิดบัญชีTwitterเพื่อบันทึกสิ่งที่เพียร์ซพูดใน "old-whitemansays" ซึ่งเพียร์ซโกรธในตอนแรกแต่ก็ยอมรับเมื่อรู้ว่าบัญชีดังกล่าวมีผู้ติดตาม 600,000 คน เนื่องจากเพียร์ซมีปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติแบบเก่า ทรอยจึงต้องยืนยันในตอนแรกว่าเชอร์ลีย์ไม่ใช่แม่ของเขา และต่อมาก็บอกว่าเชอร์ลีย์ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของเขา

ทรอยไม่รู้ตัวว่าแอนนี่สนใจเขาในเชิงโรแมนติกมาเป็นเวลานาน จึงพยายามจีบเธอหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ (" Romantic Expressionism ") ในซีซันที่สอง มีการใบ้เป็นนัยว่าทรอยมีใจให้บริตตา และทรอยก็โกหกว่าลุงของเขาล่วงละเมิดเขาเพื่อเอาเปรียบบริตตาที่ดึงดูดผู้ชายด้วยความเจ็บปวด (" การแข่งขันชิมไวน์ ") ทรอยจูบบริตตาแต่ก็สารภาพว่าเขาโกหก และผิดหวังเมื่อเธออ้างว่าการจูบเขาเป็นความผิดพลาด

แม้ว่าเขาจะพยายามปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทรอยก็มีทักษะใน การซ่อม ระบบประปาและเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มช่างประปาใต้ดินของกรีนเดล รวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนเทคนิคด้านเครื่องปรับอากาศของกรีนเดล (" Advanced Gay ") ซึ่งได้เริ่มแคมเปญที่ดุเดือดเพื่อโน้มน้าวให้เขาออกจากโรงเรียนปกติและเข้าร่วมกลุ่มของพวกเขา ทรอยยังลดความสนใจอย่างจริงจังที่เขามีร่วมกับบริตตาในการเต้นรำที่สื่อความหมายซึ่งขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่เลือนลางของเขาในฐานะนักฟุตบอล ไอดอลตลอดชีวิตของเขาคือนักแสดงเลอวาร์ เบอร์ตันแต่เขากลับหวาดกลัวที่จะพบกับเบอร์ตันเป็นการส่วนตัวมาก จนเมื่อเขาพบเขา เขาก็เกิดอาการสตัปเปอร์ทรอยเป็นแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ของไหวพริบหลอกๆ แบบเด็กผู้ชาย มีความคิดเห็นและความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย: สุนัขทุกตัวเป็นตัวผู้และแมวทุกตัวเป็นตัวเมีย นอกจากนี้ เขายังเสียสมาธิกับสิ่งของที่แวววาวและร้องไห้เพราะความผิดหวังทางอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ ทรอยค่อยๆ พัฒนาจากจุดเริ่มต้นของซีรีส์เป็นเด็กชายที่หยิ่งยโส เห็นแก่ตัว และหมกมุ่นอยู่กับภาพลักษณ์ กลายมาเป็นชายหนุ่มที่ทั้งตลกและมีอารมณ์แรง แต่ก็มีจิตใจดีและมีความรับผิดชอบ

ในหนังสือ " ประวัติศาสตร์ 101 " เปิดเผยว่าบริตต้าและทรอยเริ่มคบหากัน ทั้งคู่เลิกกันในหนังสือ " กายวิภาคศาสตร์พื้นฐานของมนุษย์ "

ในซีซั่นที่ 5 ทรอยกลับมาและกลายเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ Save Greendale หลังจากงานศพของเพียร์ซ ทรอยได้รับหุ้น Hawthorne Wipes ที่เหลืออยู่ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14.3 ล้านเหรียญ โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องล่องเรือไปรอบโลก เพียร์ซมีโอกาสทำเช่นนั้นแต่ล้มเหลวและเรียกมันว่าความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เขาต้องการให้ทรอยทำ และทรอยก็ยอมรับ จากนั้นทรอยก็ออกเดินทางกับเลอวาร์ เบอร์ตันใน " Geothermal Escapism " รายงานข่าวใน " Analysis of Cork-Based Networking " อ้างว่าโจรสลัดได้ลักพาตัวเบอร์ตันและ "คนนอกวงการ" คนหนึ่งไปที่อ่าวเม็กซิโกใน "Basic Email Security" แฟรงกี้กล่าวถึงทรอยที่หายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากเพียร์ซสำเร็จความใคร่จนตาย

ทรอยปรากฏตัวสั้นๆ ในชุดนอนสไปเดอร์แมนบนหน้าจอทีวีพื้นหลังในภาพยนตร์Spider-Man: Into the Spider-Verse ปี 2018 (ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดนอนของทรอยในซีซั่นที่ 2 ตอน " Anthropology 101 " ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้Marvel Comicsสร้างสไปเดอร์แมนสีที่ปรากฏในภาพยนตร์) [10]

เพียร์ซ ฮอว์ธอร์น

Fictional character
เพียร์ซ ฮอว์ธอร์น
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
การปรากฏตัวครั้งสุดท้าย“ เรพิลอต ” (2014)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยเชฟวี่ เชส
ที่พักอาศัย4319 ถนนเครนเวิร์ธ กรีนเดลโคโลราโดสหรัฐอเมริกา 80022
ข้อมูลในจักรวาล
ชื่อ-นามสกุลเพียร์ซินัลด์ อานาสตาเซีย ฮอว์ธอร์น
อาชีพ
  • นักศึกษาที่ Greendale Community College
  • อดีต CEO ของ Hawthorne Wipes
  • เจ้าของร่วมร้านแซนด์วิชเชอร์ลีย์
ตระกูล
  • คอร์เนเลียส ฮอว์ธอร์น (พ่อ เสียชีวิตแล้ว)
  • นางฮอว์ธอร์น (มารดา เสียชีวิตแล้ว)
  • กิลเบิร์ต ลอว์สัน (น้องชายต่างมารดา)
คู่สมรส
  • เอพริล (อดีตภรรยา)
  • วันดา (อดีตภรรยา)
  • อดีตภรรยา 5 รายที่ไม่ได้ระบุชื่อ
เด็กแอมเบอร์ (อดีตลูกเลี้ยง)
อดีตลูกเลี้ยงอีก 31 คน

Piercinald Anastasia " Pierce " Hawthorne [a] (รับบทโดยChevy Chaseนักแสดงหลักซีซั่น 1–4 แขกรับเชิญซีซั่น 5) เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1943 เสียชีวิตประมาณปี 2014 เป็นผู้มีอิทธิพล ใน วงการผ้าเช็ดมือ ที่ Greendale Community College พ่อของเขาได้ก่อตั้ง Hawthorne Wipes บริษัทผ้าเช็ดมือที่ได้รับรางวัล[11]เขาอ้างว่าเป็นนักเดินทางรอบโลกพิธีกรนักมายากลนักเล่นคีย์บอร์ดและนักสะกดจิต ที่เรียกตัวเอง ว่า "นักบำบัดด้วยการสะกดจิต" และถือว่าตัวเองเป็น "คนที่มีคุณภาพชีวิต" [11]

เขาเข้าเรียนที่ Greendale ในปี 1999 โดยมองหามิตรภาพและความนิยมชมชอบ แต่กลับถูกขัดขวางด้วยความซุ่มซ่ามและการขาดความอดทนของเขา เขาอายุมากกว่านักเรียน Greendale ส่วนใหญ่มาก เขาจึงมักสับสนกับวัฒนธรรมของเยาวชนในขณะที่ยังยอมรับมันอยู่ (" การแนะนำสถิติ ") นอกจากนี้ เขายังเชื่อโดยไม่รู้ตัวว่ามีการเหยียดเพศและเหยียดเชื้อชาติ หลาย แบบ ซึ่งมักทำให้เขาพูดจาหยาบคาย โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามันเป็นแบบนั้น คำพูดเหล่านี้ส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่เชอร์ลีย์ ซึ่งบางครั้งเขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงผิวสีด้วยกัน (" ศิลปะแห่งการพูด "); อาเบ็ด ซึ่งเขาสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเพราะเขาเป็นมุสลิมและเจฟฟ์ ซึ่งเขาพยายามเหน็บแนมอย่างจริงจังเพื่อพยายามให้ดูเท่ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำเช่นนั้นด้วยไหวพริบได้ สิ่งนี้ทำให้ทรอยเริ่ม บัญชี Twitterที่มีผู้ติดตาม 600,000 คน ชื่อว่า "oldwhitemansays" (" มานุษยวิทยา 101 ") ซึ่งบันทึกทุกสิ่งที่ขัดแย้งที่เพียร์ซพูด เมื่อเขารู้ความจริง เขาก็โกรธทรอยมาก จนกระทั่งทรอยเปิดเผยจำนวนผู้ติดตาม ทำให้เพียร์ซต้องสนับสนุนให้ทรอยเปิดบัญชีของตัวเองต่อ หลังจากที่เขาแสดงพฤติกรรมรุนแรงในซีซัน 2 กลุ่มศึกษาจึงให้เพียร์ซ "อดอาหาร" โดยจำกัดอย่างเข้มงวดว่าเขาจะพูดจาหยาบคายได้เมื่อไรและบ่อยแค่ไหน (" กฎหมายการดูแลเด็กและการทูตยุโรปตะวันออก ") แม้ว่าเขาจะเคยแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับชาวยิวเป็นครั้งคราว แต่เขายังบอกด้วยว่าแอนนี่ เอดิสัน (สมาชิกชาวยิวคนเดียวในกลุ่ม) เป็นคนที่เขาชอบที่สุดในกลุ่ม (" การสร้างภาพยนตร์สารคดีระดับกลาง ") นอกจากนี้ยังสงสัยด้วยว่าเขามีความรู้สึกอ่อนไหวต่อผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในกลุ่ม บริตตา เพอร์รี เมื่อพิจารณาจากอายุ ความประหลาด และพฤติกรรมที่ไม่ติดตามข่าวสาร เพียร์ซมักจะทำให้เพื่อนๆ ของเขาประหลาดใจด้วยข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่ชาญฉลาดเมื่อพวกเขาต้องการจริงๆ

แม้ว่าเขาจะคิดว่าตัวเองเป็น " นิกายพุทธ ใหม่ที่ได้รับการปฏิรูป " แต่เขาก็เป็นสมาชิกของลัทธิศาสนาที่ไม่มีใครรู้จัก ในซีซัน 1 ตอน " The Science of Illusion " กลุ่มนี้หลอกล่อให้เขาแต่งตัวเป็น พ่อ มดคุกกี้คริสป์เพื่อไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในลัทธิของเขา ศาสนาของเขายังมีบทบาทสำคัญเมื่อแม่ของเขาเสียชีวิตในซีซัน 2 ตอน " The Psychology of Letting Go " และเพียร์ซเชื่อคำสอน "พุทธศาสนา" ของเขาว่าเธอจะกลับชาติมาเกิดใหม่โดยพกกระป๋องที่คิดว่าเป็นวิญญาณของแม่ติดตัวไปด้วย (ในความเป็นจริงคือโคมไฟลาวา ) เมื่อเขาและเจฟฟ์และทรอยฟังแผ่นซีดีที่แม่ทำขึ้นบอกว่าแม่จากไปแล้วและสนับสนุนให้เขาปล่อยแม่ไปและใช้ชีวิตต่อไป เพียร์ซก็เพียงแค่ยักไหล่เพราะคิดว่าแม่กำลังเสียสติ ในขณะเดียวกัน เจฟฟ์ก็ตัดสินใจว่าเขาควรมีเหตุผลนั้นและปล่อยให้เขาเชื่อตามความเชื่อของเขาต่อไป

เพียร์ซแต่งงานมาแล้ว 7 ครั้งและมี "อดีตลูกเลี้ยง" 32 คนที่เขาพยายามจะสนิทด้วย แม้ว่าลูกเลี้ยงส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงเขาหรือเอาเปรียบเขาเพราะความร่ำรวย ของเขา ก็ตาม เขาเป็นผู้แต่งเพลงประจำโรงเรียนที่แปลกประหลาดของกรีนเดลและเคยเป็นสมาชิกวงของวอห์นอยู่ช่วงสั้นๆ เขายังเป็นโรคกลัวที่แคบ อย่างรุนแรงอีกด้วย เนื่องจากธุรกิจผ้าเช็ดตัวเปียกของเขา เพียร์ซจึงร่ำรวยมากและมีคฤหาสน์ที่ทรอยอาศัยอยู่ด้วยในช่วงฤดูร้อนและในปีที่สอง มีการแสดงให้เห็นว่าเพียร์ซมักจะทำตัวไม่ดีเพราะวิธีที่เขาถูกเลี้ยงดูโดยคอร์เนเลียส พ่อที่โหดร้ายและมีอคติ ซึ่งถึงกับจ้างเด็กชายอีกคนมาเล่นเป็นเพียร์ซในโฆษณาในขณะที่ดูถูกและดูถูกเพียร์ซตัวจริง (" Celebrity Pharmacology ")

ในซีซัน 2 เพียร์ซเริ่มหงุดหงิดกับกลุ่มศึกษาที่ทิ้งเขาไว้ข้างนอก เขาเข้าร่วมกลุ่มนักเรียนสูงอายุชั่วคราว ซึ่งทำตัวเหมือนวัยรุ่นที่เรียกว่าฮิปสเตอร์ เพื่อให้รู้สึกว่าได้รับการยอมรับ (" ตำนานเมสสิอาห์และชนชาติโบราณ ") เขาหักขาทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุแทรมโพลีน หลังจากเปิดเผยแทรมโพลีนลับที่เจฟฟ์และทรอยซ่อนไว้ (" อากาศพลศาสตร์แห่งเพศ ") เพื่อเคลื่อนที่ เขาซื้อรถเข็นที่ใช้พลังงานจากลมหายใจของเขาเอง ซึ่งเขาอ้างว่าได้ประมูลแพงกว่าโรงพยาบาลสามแห่ง หลังจากนั้น เขาเริ่มพึ่งพายาแก้ปวด และขัดแย้งกับกลุ่มศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมไร้หัวใจของเขาและแนวโน้มที่จะแยกเขาออกจากกิจกรรมของพวกเขา เขาเริ่มเล่นบทบาทผู้ร้ายของกลุ่มศึกษา แต่ทั้งสองแนวโน้มดูเหมือนจะลดลงเมื่อเขายอมรับกับกลุ่มศึกษาหลังจากกินยาแก้ปวดเกินขนาด ความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่เหล่านี้มาถึงจุดแตกหักใน " A Fistful of Paintballs " เมื่อมีการเปิดเผยว่าสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มลงคะแนนลับๆ ว่าจะรวมเขาเข้าในกลุ่มในปีหน้าหรือไม่ โดยมีเพียงแอนนี่เท่านั้นที่ลงคะแนนเพื่อให้เขาอยู่ในกลุ่มต่อไป ในตอนท้ายของ " For a Few Paintballs More " ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มได้พิจารณาใหม่และเต็มใจที่จะให้เขากลับเข้ากลุ่มอีกครั้ง เพียร์ซบอกว่าเขาไม่สนใจที่จะอยู่กับ "อะไรก็ตามที่เป็นอยู่" เขายังบอกกับกลุ่มว่าเขาคิดว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดของเขาจะจบลง ดังนั้นเขาจึงทดสอบและยั่วยุผู้คนอยู่ตลอดเวลา และว่าทำไมการแต่งงานทั้งเจ็ดครั้งถึงล้มเหลว เขาไม่เคยรักษากลุ่มเพื่อนที่กรีนเดลไว้ได้นานเกินกว่าหนึ่งภาคเรียน (จนกระทั่งเขาเข้าร่วมกลุ่มศึกษา)

อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มต้นของซีซั่น 3 เขาได้กลับมาและเข้าร่วมกลุ่มศึกษาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยกลับมาผ่อนคลายเหมือนเดิม หลังจากที่พ่อของเขาซึ่งมีอคติยิ่งกว่าอย่างคอร์เนเลียส ฮอว์ธอร์น ( แลร์รี ซีดาร์ ) เสียชีวิต เขากลับไม่ให้ความร่วมมือมากขึ้น (" Advanced Gay ") หลังจากที่คณะกรรมการของ Hawthorne Wipes ไล่เขาออกในภายหลัง เขาจึงพยายามเปิดร้านขายแซนด์วิชในมหาวิทยาลัยกับเชอร์ลีย์ แต่พื้นที่ของร้านขายแซนด์วิชกลับถูกซับเวย์ให้เช่าแทน และเพียร์ซและเชอร์ลีย์ร่วมกันทำลายร้านอาหารซับเวย์ ใน "หลักสูตรไม่พร้อมใช้งาน" เชอร์ลีย์กล่าวสุนทรพจน์ต่อต้านร้านอาหารซับเวย์ และร้านก็ถูกทำลายในการจลาจลที่เกิดขึ้น ใน "การแนะนำสู่ความสมบูรณ์แบบ" คณบดีเพลตันจึงเสนอพื้นที่ให้กับเชอร์ลีย์และเพียร์ซ แต่เนื่องจากมีพื้นที่เฉพาะเพียงแห่งเดียว เพียร์ซและเชอร์ลีย์จึงยื่นฟ้องเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในร้านขายแซนด์วิช หลังจากสุนทรพจน์ของ Winger ที่สร้างแรงบันดาลใจ เพียร์ซก็ไล่ทนายความของเขา อลัน คอนเนอร์ ( รับบทโดย ร็อบ คอร์ดดรี้ ) ออก และเขากับเชอร์ลีย์ก็ตกลงที่จะเป็นเจ้าของร้านแซนด์วิชของเชอร์ลีย์ร่วมกันโดยให้เจฟฟ์เซ็นเอกสาร

ในตอนจบของซีซั่น 4 เรื่อง " Advanced Introduction to Finality " ในที่สุดเพียร์ซก็สำเร็จการศึกษาจากกรีนเดล ต่อมาเขาปรากฏตัวในบทบาทรับเชิญในช่วงรอบปฐมทัศน์ของซีซั่น 5 เรื่อง " Repilot " ในบทบาทโปรเจ็ กชั่น โฮโลแกรม ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ในลานภายในกรีนเดล มีการเปิดเผยว่าโฮโลแกรมดังกล่าวได้รับการบริจาคตามคำสั่งศาลที่เขา "ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุย" และเขา "ไม่มีสิทธิตามกฎหมาย" ที่จะอยู่ในวิทยาเขตกรีนเดลอันเป็นผลจากการฟ้องร้อง การบันทึกยังเผยให้เห็นว่า Greendale College Quad เป็นที่ตั้งของ "Pierce Hawthorne Museum of Gender Sensitivity and Sexual Potency" ในตอน " Basic Intergluteal Numismatics " ของซีซั่น 5 เชอร์ลีย์เปิดเผยว่าเพียร์ซเสียชีวิตแล้ว ในตอนต่อมา " Cooperative Polygraphy " กลุ่มถูกบังคับให้เข้ารับการทดสอบเครื่องจับเท็จตามเจตนา ของเพียร์ซ ที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีใครเป็นคนฆ่าเขา เขาออกจากกลุ่มด้วยคำพูดอำลาอันแสนหวานและของขวัญอันมีค่า เขาทิ้งหุ้นที่เหลือในบริษัทผ้าขนหนูเปียกของเขาซึ่งมีมูลค่ากว่า 14 ล้านเหรียญให้กับทรอย โดยมีเงื่อนไขว่าทรอยต้องล่องเรือไปรอบโลก เนื่องจากเมื่อเพียร์ซมีโอกาส เขาก็ใช้เวลาไปกับการล่องเรือไปรอบๆเบลีซเพื่อเสพโคเคนกับจอห์น เดนเวอร์เขาทิ้งไทม์แชร์ในฟลอริดา ให้กับเชอร์ลีย์ บริ ตตามีiPod Nanoที่เต็มไปด้วยเพลงโปรดของเขา และเจฟฟ์มีขวดวิสกี้ ราคาแพง เขายังทิ้งกระบอกแช่แข็งที่บรรจุอสุจิ ของเขาไว้ให้กับสมาชิกในกลุ่มศึกษาแต่ละคน หากพวกเขาต้องการสานต่อตำนานของเขา ซึ่งการเติมอสุจิลงไปนั้นเปิดเผยว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิต

เบ็น ชาง

Fictional character
เบ็น ชาง
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก" ภาษาสเปน 101 " (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยเคน จอง
ข้อมูลในจักรวาล
ชื่อ-นามสกุลเบนจามิน แฟรงคลิน ชาง
นามแฝงเควิน
ชื่อเล่นเบ็น, เควิน, เซญอร์
ชื่อเซญอร์ ชาง
อาชีพครูสอนภาษาสเปน (ซีซั่น 1)
นักเรียน (ซีซั่น 2)
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ซีซั่น 3)
ครูสอนคณิตศาสตร์ (ซีซั่น 5 และ 6)
ตระกูลแร็บบีชาง (พี่ชาย)
คอนนี่ชาง (พี่น้องฝาแฝด “ กินในครรภ์ ”)
คู่สมรสอเลสซานดรา ชาง (อดีตภรรยา)
ญาติพี่น้องจิน (หลานชาย)

เบนจามิน แฟรงคลิน ชาง (รับบทโดยเคน จอง ) เรียกอีกอย่างว่าเซญอร์ ชางในซีซั่น 1 และเรียกกันทั่วไปว่าเควินในซีซั่น 4 เดิมทีเป็นครูสอนภาษาสเปนที่เพี้ยนของกลุ่มศึกษา[12]ในซีซั่นแรก เขาเป็นตัวละครหลักเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มศึกษาภาษาสเปน อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของซีซั่นแรก เผยให้เห็นว่าเขาไม่มีคุณสมบัติในการสอนใดๆ และเช่นเดียวกับเจฟฟ์ เขาจะต้องเข้าเรียนที่กรีนเดลในฐานะนักศึกษาเพื่อรับปริญญา

บางครั้งเขาสามารถแสดงละครได้ค่อนข้างมาก (บางครั้งถึงขั้นแกล้งตายเพื่อให้ลูกศิษย์ของเขาอารมณ์เสีย) [13]และยังมีอีโก้สูงอีกด้วย ปัญหา การจัดการความโกรธ ของเขา นั้นเห็นได้ชัดตลอดเวลา เขาทำตัวใจร้ายโดยได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อย ระหว่างเรียน เขามักจะแกล้งแอนนี่โดยไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากโต๊ะของเธอที่อยู่ใกล้กับที่เขาเคยยืนมากที่สุดในขณะที่พูดกับลูกศิษย์ของเขา เห็นได้ชัดจากหลายตอนว่าในตอนแรกเขาจริงจังกับสถานการณ์บางอย่างมากเกินไป: ใน "Modern Warfare" เขาพยายามกำจัดเจฟฟ์และบริตตาโดยการยิงพวกเขาด้วยปืนเพนท์บอลอัตโนมัติ และต่อมาก็เปิดใช้งานระเบิดสีที่ซ่อนอยู่ในแจ็คเก็ตของเขาเพื่อพยายามกำจัดเจฟฟ์ ใน " Competitive Ecology " เขาอ้างว่าเป็น "นักสืบ" ของโรงเรียนหลังจากอยู่ในทีมรักษาความปลอดภัยเป็นเวลาหนึ่งเดือน เขาเริ่มออกตามล่าหาเบาะแสเพื่อคลี่คลาย "คดี" หลังจากพบกับนักเรียนที่กำลังทุกข์ใจ (ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ) และภายหลังก็เผาห้องเรียนของโรงเรียนไปด้วยในขณะนั้น ลักษณะบุคลิกภาพที่เกินเหตุเหล่านี้ปกปิดปัญหาที่ลึกซึ้งของการถูกภรรยาทิ้ง ซึ่งต่อมาเขาได้กลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ได้ขัดขวางพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของเขากับนักเรียนในเวลาต่อมาก็ตาม

ชางมีความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์กับนักเรียนและคณาจารย์เกือบทุกคนในกรีนเดล เขามีความสัมพันธ์ที่แย่มากกับดร.ดันแคน (" Pascal's Triangle Revisited ", " The Psychology of Letting Go ") ซึ่งอาจเป็นลางบอกเหตุถึงการขาดคุณสมบัติการสอนของชาง ใน " Advanced Criminal Law " เขาตั้งข้อสังเกตว่าชางเรียกร้องให้เรียกว่า "Señor" เพราะเขาไม่ใช่ศาสตราจารย์ตัวจริง ในตอนจบของซีซั่น 1 ชางและดันแคนลงไม้ลงมือกันเมื่อชางกลายเป็นนักเรียน และดันแคนถูกพักการสอน ส่งผลให้เกิดการต่อสู้กันตัวต่อตัวที่งานเต้นรำปลายปี แม้ว่าดันแคนจะได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ แต่ชางก็ทำให้คำสั่งห้ามเข้าใกล้ไม่เป็นผลโดยได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ดันแคน ทำให้เขาสามารถเรียนวิชาเกี่ยวกับมานุษยวิทยาได้ พวกเขาดูเหมือนจะเคารพซึ่งกันและกันอย่างไม่เต็มใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พี่ชายของเขาคือRabbi Chang ผู้ซึ่งวิจารณ์ตำแหน่งและพฤติกรรมที่น่าสับสนของ Señor Chang ในหลาย ๆ ครั้ง Chang อ้างว่าได้กิน Connie น้องสาวฝาแฝดของเขาตั้งแต่อยู่ในครรภ์เขาชอบขี่สกู๊ตเตอร์เล่นคีย์ทาร์เป็นเครื่องดนตรี และมีประวัติว่าเสื้อผ้าของเขาถูกขโมยจากYMCA ในท้องถิ่น ตามที่ Chang กล่าวใน "Modern Warfare" เขาเล่นเพนท์บอลสามครั้งต่อสัปดาห์ และใช้ทักษะของเขาในกีฬานี้กับ Jeff และ Britta ในฐานะนักเรียน เขามุ่งหวังที่จะเรียนทฤษฎีดนตรีเพื่อใช้ทักษะคีย์ทาร์ของเขาในอาชีพ ใน ตอน ฮาโลวีนของซีซั่น 2 เขาและ Shirley มีช่วงเวลาแห่งเซ็กส์หลังจากที่พวกเขาสนิทกันเกี่ยวกับการที่เครื่องแต่งกายของพวกเขาถูกเข้าใจผิด (เธอคือGlinda the Good Witchไม่ใช่Miss PiggyและเขาคือPeggy Flemingไม่ใช่Kristi YamaguchiหรือMichelle Kwan ) นอกเหนือจากหลักฐานข้อความเสียงที่ Chang ส่งถึง Troy แล้วไม่มีใครจำเหตุการณ์นี้ได้เนื่องจากรัฐบาลปกปิดงานปาร์ตี้ฮาโลวีนทั้งหมด

เขาตั้งฉายาให้ตัวเองว่า “เอล ติเกร ชิโน” (ภาษาสเปน: “เสือจีน”) และเขายังใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่มีชื่อเล่นและรูปเสือ อยู่ด้านหลัง สำนักงานของเขามีรูปของเขาในสมัยเป็นนักสู้วัวกระทิง โดยมีคำว่า “เอล ติเกร” อยู่ด้านล่าง และมีรูปปั้นเสืออยู่ด้วย

ในซีซัน 2 เขาเรียนวิชาโบราณคดีชั้นเดียวกับกลุ่มศึกษา ในตอน " Anthropology 101 " หลังจากที่เขาขอให้กลุ่มศึกษาให้เขาเข้าร่วมด้วย เขาจึงถูกพบเห็นในห้องศึกษาวางแผนแก้แค้นพวกเขาอย่างลับๆ ที่ทำให้เขาถูกไล่ออก โดยสลับไปมาระหว่างฝ่ายชั่วร้ายและฝ่ายที่ถูกต้องเหมือนตัวละครกอลลัมจากThe Lord of the Ringsในที่สุดเขาก็เข้าร่วมกลุ่มศึกษาในตอน " Asian Population Studies " หลังจากถูกโหวตให้เข้าแทนที่ริช เขาพิสูจน์คุณค่าของตัวเองในตอนต่อไปด้วยการช่วยแอนนี่และกลุ่มศึกษาปกป้องการเล่นตลกเกี่ยวกับยาเสพติดจากการกระทำของเพียร์ซ ชางต้องการรู้จักเชอร์ลีย์หลังจากค้นพบว่าเขาอาจทำให้เธอตั้งครรภ์ในวันฮาโลวีน ซึ่งเป็นคืนที่ไม่มีใครในกรีนเดลจำได้ การที่เขาช่วยแอนนี่ไว้ในตอนแรกดูเหมือนจะชนะเชอร์ลีย์ได้ อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นพฤติกรรมที่ไม่สมดุลของเขา ต่อมาเขาย้ายไปอยู่กับเจฟฟ์หลังจากที่ภรรยาของเขาไล่เขาออกไปอีกครั้ง (หลังจากที่เขาสารภาพว่าเขาเคยมีอะไรกับเชอร์ลีย์) แต่เจฟฟ์เริ่มเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมโง่ๆ ที่ไม่สมดุลของเขาและในที่สุดก็สั่งให้เขาออกไป อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของเขาในการช่วยเชอร์ลีย์เมื่อเธอคลอดลูกระหว่างการจลาจลที่กรีนเดลทำให้เธอรู้สึกสนใจจนกระทั่งเมื่อทารก (ซึ่งมีพ่อเป็นอดีตสามีของเชอร์ลีย์ แอนเดร) เกิดมา เธอจึงตัดสินใจตั้งชื่อลูกชายแรกเกิดของเธอว่าเบ็นตามชื่อของเขา

ในตอนปฐมทัศน์ของซีซั่น 3 ชางยังคงไร้บ้านและใช้ชีวิตอยู่ในท่ออากาศในมหาวิทยาลัยกรีนเดล เมื่อคณบดีเพลตันค้นพบเรื่องนี้ (โดยชางถูกขับรถพาเข้าไปในสำนักงานของเขาระหว่างปฏิบัติการกำจัดศัตรูพืช) เขาจึงเสนอห้องพักและอาหารแก่ชางเพื่อให้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหลือลาออกในไม่ช้า รวมทั้งจ่านูเญซ เขาจึงกลายเป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย เขาไม่เก่งในงานของเขา และโรงเรียนไม่สามารถจ่ายเงินให้กับบุคลากรเพิ่มเติมได้ (การเสนอหน่วยกิตแบบสุ่มสำหรับอาสาสมัครนักศึกษาไม่ได้ผลใดๆ) ถึงกระนั้น ในบาร์มิตซวาห์ นอกมหาวิทยาลัย ชางก็ได้ผูกมิตรกับกลุ่มเด็กก่อนวัยรุ่นและหาคนเข้าร่วมกลุ่มของเขาในชื่อ "Changlorious Basterds" (อธิบายไว้ใน " Pipples and Blankets " ว่า "เหมือนกับInglourious Basterdsแต่ใช้ 'ชาง' แทนที่จะเป็น 'อิน'")

ทั้งชางและ "ไอ้สารเลวชางลอเรียส" ของเขาต่างก็มีส่วนร่วมในการทะเลาะเบาะแว้งหมอนครั้งใหญ่ที่กรีนเดล ซึ่งเป็นผลมาจากการทะเลาะวิวาทระหว่างอาเบ็ดและทรอยเกี่ยวกับสถิติโลก ต่อมาหลังจากที่อเล็กซ์ "สตาร์-เบิร์นส์" ออสบอร์นเสียชีวิต ชางได้ร้องขอสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในฐานะหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกรีนเดลจากคณบดี ซึ่งในตอนแรกคณบดีได้ปฏิเสธคำขอของเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดการจลาจลที่เกิดจากกลุ่มศึกษาที่งานศพของสตาร์-เบิร์นส์ ชางและทีมรักษาความปลอดภัยของเขา (ซึ่งขณะนี้สวมชุดปราบจลาจลพร้อมกระบองและสเปรย์พริกไทย ) ได้ปราบปรามกลุ่มนักศึกษาและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในกรีนเดล ชางตั้งฉายาตัวเองว่าเป็นนายพลและเรียกกลุ่มศึกษาว่าเป็น "นักโทษ" ของเขาที่เป็นผู้จุดชนวนเหตุการณ์ดังกล่าว

หลังจากเกิดจลาจล คณบดีเพลตันตัดสินใจไล่เบ็นและโยนความผิดที่ทำให้โรงเรียนเสียหายให้กับเขา อย่างไรก็ตาม ชางกลับใช้ร่างปลอม มาแทนที่คณบดี ทำให้คณบดีตัวจริงสงบลงและขังเขาไว้ในกรีนเดล คณบดีปลอมตามคำสั่งของชาง สนับสนุนคณะกรรมการโรงเรียนในการพิจารณาคดีต่อเจฟฟ์และกลุ่มติวเตอร์ที่ถูกขนานนามว่า "กลุ่มติวเตอร์กรีนเดล" และกลุ่มติวเตอร์ก็ถูกไล่ออก

เมื่อกลุ่มเรียนไม่อยู่ ชางก็เข้ามาดูแลกรีนเดล โดยแต่งตั้ง "ไอ้สารเลวชางลอเรียส" ของเขาให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วโรงเรียน และคอยดูแลคณบดีตัวจริงภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

ในการบำบัดแบบกลุ่ม ซึ่งเดิมทีจัดขึ้นสำหรับอาเบ็ดเท่านั้น นักบำบัดบอกกับกลุ่มศึกษาว่ากรีนเดลไม่มีอยู่จริง และสามปีที่ผ่านมาในชีวิตของพวกเขามีแต่ความเข้าใจผิด ตรงกันข้าม พวกเขาอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตกลุ่มศึกษาเชื่อนักบำบัดในตอนแรก แต่ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเขาโกหกเมื่อพบว่าเขากำลังพยายามหนีออกไปทางหน้าต่าง และชี้ให้เห็นว่าพวกเขามีกระเป๋าเป้และรูปถ่ายจากโรงเรียน มีการเปิดเผยว่าชางจ้างนักบำบัดเพื่อห้ามไม่ให้พวกเขาพยายามกลับ และด้วยความรู้ดังกล่าว สมาชิกกรีนเดลทั้งเจ็ดจึงสาบานว่าจะพาโรงเรียนกลับคืนมา

หลังจากได้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับการปกครองของชางเหนือกรีนเดล กลุ่มศึกษาจึงวางแผน "การโจรกรรมที่ซับซ้อน" โดยพยายามช่วยคณบดีตัวจริงและเปิดเผยชางต่อคณะกรรมการโรงเรียน ในขณะที่ดูเหมือนว่าการโจรกรรมจะล้มเหลวในตอนแรก ชางก็ตระหนักว่ากลุ่มศึกษาหลอกเขา และแผนที่ล้มเหลวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่าที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ชางยอมรับแผนจริงในเวลาและหยุดกลุ่มศึกษาไม่ให้ออกไป เขาอธิบายเป้าหมายของเขา: เผาบันทึกของกรีนเดลและด้วยเหตุนี้จึงลบหลักฐานใดๆ ของการกระทำผิดของเขา แต่ไม่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเผาโรงเรียนทั้งหมดและฆ่าทุกคนได้ ด้วยความช่วยเหลือจากโรงเรียนซ่อมเครื่องปรับอากาศกรีนเดล ทรอยและกลุ่มศึกษาจึงสามารถหลบหนีจากการจำคุกของชางและป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ได้

ในการประลองกับกลุ่มศึกษา เจฟฟ์และชางต่างก็เตรียมกระบองช็อตไฟฟ้าที่พวกเขาตั้งใจจะใช้ดวลกัน อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ก็หยุดชะงักลงอย่างรวดเร็วเมื่อคณะกรรมการโรงเรียนมาถึงและเรียกร้องให้อธิบายเรื่องคณบดีตัวจริงและตัวปลอมที่ทะเลาะกัน และการกระทำของชางในการไล่กรีนเดลออกไป เขาสาบานว่าจะอธิบาย แต่ก็รีบวิ่งออกไปที่ประตู

ในตอนจบซีซั่น 3 แสดงให้เห็นว่าชางได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในท่อลมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาอาศัยอยู่ในท่อลมที่ City College ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ความร่วมมือที่เป็นไปได้ระหว่างทั้งสองในซีซั่น 4 อย่างไรก็ตาม เขาได้กลับมาที่ Greendale ในซีซั่น 4 โดยไม่มีความทรงจำที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวตนหรือการกระทำก่อนหน้านี้ของเขา โดยอ้างถึงสภาพของเขาว่า "Changnesia" อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของตอน " Advanced Documentary Filmmaking " เปิดเผยว่าเขากำลังหลอกลวง Changnesia ใน " Heroic Origins " หลังจากที่ Abed ตระหนักว่าเป็นเพราะชางที่ทำให้กลุ่มเรียนทั้งหมดไปที่ Greendale และบอกเขาว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมาตลอด และใบ้เป็นนัยว่าเขารู้ว่า "Kevin" หลอกลวง "Changnesia" จากนั้นเขาก็โทรหา Dean Stephen Spreck คณบดีของ City College ว่าเขาไม่อยู่ในแผนทำลาย Greendale ในซีซั่น 5 ชางตัดสินใจมอบตัวเพื่อชดใช้ความผิด และกลับมาที่กรีนเดลโดยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในฐานะอาจารย์สอนคณิตศาสตร์และอาศัยอยู่ในโรงเรียน เขาแสดงพฤติกรรมทางสังคมมากขึ้นในซีซั่น 5 และต่อมาก็เข้าร่วมคณะกรรมการช่วยเหลือกรีนเดล อย่างไรก็ตาม ในตอนจบ เขาเข้าข้างผู้ที่พยายามขายกรีนเดล เมื่อการขายถูกป้องกัน ชางก็หักหลังคณะกรรมการโรงเรียนอีกครั้งโดยขโมยเงินของพวกเขาและเปลี่ยนฟันของเขาด้วยวัสดุอุดฟันเพชร

ในซีซัน 6 ชางประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงหลังจากปรากฏตัวในละครเวทีเรื่องThe Karate Kidและโฆษณาทางโทรทัศน์ที่กลายเป็นไวรัล เขาย้ายไปลอสแองเจลิสชั่วครู่และได้รับการว่าจ้างให้แสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยสตีเวน สปีลเบิร์กอย่างไรก็ตาม อาชีพการงานของเขาจบลงอย่างกะทันหันเมื่อเขาเข้าไปพัวพันกับเรื่องและดูถูกสปีลเบิร์กโดยไม่ได้ตั้งใจ เขากลับมาและตระหนักว่าเขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ที่กรีนเดล และเขา "เป็นตัวของตัวเองที่ดีที่สุด" กับกลุ่มเพื่อน ในตอนจบซีซัน 6 ชางเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ที่เก็บความลับไว้ตลอดทั้งซีรีส์ และประกาศอย่างน้ำตาซึมว่าเขาเป็น "เกย์ตัวจริง"

เครก เพลตัน

Fictional character
เครก เพลตัน
ลักษณะนิสัยชุมชน
การปรากฏตัวครั้งแรก“ นักบิน ” (2009)
สร้างโดยแดน ฮาร์มอน
พรรณนาโดยจิม ราช
ข้อมูลในจักรวาล
ชื่อ-นามสกุลเคร็ก อิซิดอร์ เพลตัน
นามแฝงคณบดี
ชื่อดีน เพลตัน
อาชีพคณบดีวิทยาลัยชุมชนกรีนเดล
ตระกูลพ่อไม่ระบุชื่อ

คณบดีCraig Isidore Pelton ( Jim Rash ) (ซีซั่นที่ 1–2 ที่เกิดซ้ำ นำแสดงโดยซีซั่นที่ 3–6) เป็นนักการศึกษาที่ Greendale เป็นเวลาสิบปี หลังจากนั้นหรือระหว่างนั้นเขาได้รับปริญญาตรีสาขาการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Appomattox ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสมมติ และเมื่อซีรีส์เริ่มต้นขึ้น เขาก็ดำรงตำแหน่งคณบดี ของ Greendale มาเป็นเวลาห้าปี แล้ว [14]เขามุ่งหวังอย่างยิ่งให้ Greendale เป็นมหาวิทยาลัย "ที่แท้จริง" โดยรักษาความเป็นคู่แข่งอย่างเข้มข้นกับ City College ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งคณบดีของ Greendale ดูเหมือนจะทุ่มเทให้กับการล่มสลายของ Greendale เป็นการส่วนตัว เมื่อได้รับการแนะนำตัวครั้งแรก Pelton ถูกต้องทางการเมือง อย่างหมกมุ่น ดังจะเห็นได้เมื่อเขาเปลี่ยนมาสคอต ของ Greendale จาก Greendale Grizzly เป็น Greendale Human Being ซึ่งไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ เพศ และอายุ ใน " Football, Feminism and You " คำอธิบายของเขาสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้คือ "คนส่วนใหญ่เหล่านี้ [นักเรียน Greendale] ถูกเรียกว่าสัตว์มาตลอดชีวิต"

ในช่วงต้นฤดูกาล เพลตันมีนิสัยชอบแต่งกายด้วยชุดที่วิจิตรบรรจงสำหรับงานที่กรีนเดลหรือเพื่อการประกาศอย่างเรียบง่าย เครื่องแต่งกายเหล่านี้ได้แก่ทีน่า เทิร์นเนอร์ จูเลียส ซีซาร์เลดี้กาก้าและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องแต่งกายที่นามธรรมมากขึ้น เช่น ชุดที่เป็นครึ่งชายครึ่งหญิง ความแปลกประหลาดนี้ค่อยๆ จางหายไปเมื่อเพลตันเริ่มมีส่วนร่วมโดยตรงมากขึ้นในการผจญภัยของกลุ่มศึกษา

เพลตันได้แสดงความหลงใหลในรูปแบบต่างๆ มากมายโดยที่ความหลงใหลที่โดดเด่นที่สุดคือการที่เขาหลงใหลผู้ชายที่แต่งกายด้วย ชุด ดัลเมเชียน มากขึ้นเรื่อยๆ ในซีซั่นแรก หลังจากที่เขาเห็นคลิปวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตที่มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดดังกล่าว (เขาพึมพำกับตัวเองว่า "แบบนี้คงไม่ปลุกอะไรในตัวฉันให้ตื่นขึ้นหรอก...")

เพลตันแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ และความประหลาดมากมายเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ ของเขา รองคณบดีเลย์เบิร์นบรรยายเขาว่าเป็น " ผู้มีความ หลากหลายทางเพศ " (" ชีววิทยา 101 ") และเมื่อครั้งหนึ่งที่นักศึกษาลีโอนาร์ด เรียกว่า " ผลไม้ " (" ตำนานเมสสิอาห์และชนชาติโบราณ ") เพลตันก็พูดผ่าน ๆ ว่าคำนั้น "แทบจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด" เพลตันแสดงความรักที่ชัดเจนและหมกมุ่นอยู่กับเจฟฟ์ วิงเกอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปฏิบัติต่อเจฟฟ์ด้วยความลำเอียงและสัมผัสเขาอย่างไม่เหมาะสม (โดยเฉพาะที่หน้าอก) เมื่อเขาอยู่ใกล้ ๆ ในตอน "Queer Studies and Advanced Waxing" ของซีซั่น 6 คณบดีเพลตันได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมคณะกรรมการโรงเรียนในฐานะเกย์สัญลักษณ์ แต่รู้สึกไม่สบายใจกับคำกล่าวนี้ โดยกล่าวว่าการเป็นเกย์เป็นเพียง "สองในเจ็ด" ของสิ่งที่เขาระบุตัวตน และกลับมาทำงานเป็นคณบดีต่อหลังจากที่การแสดงตลกกลายเป็นเรื่องที่มากเกินไปที่จะจัดการได้

แม้ว่าเพลตันจะมีพฤติกรรมเกินเหตุอยู่ตลอด แต่เขาก็ยังมีช่วงเวลาแห่งความไม่มั่นใจในตัวเองและสับสนอยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งหนึ่งเขาเคยตั้งคำถามกับทางเลือกในชีวิตของตัวเองหลังจากรู้ตัวว่าเขา "ทำเกินเลย" กับชุดหนึ่งของเขาและจะต้องใส่ไปธนาคารในวันนั้น โดยเขาบอกกับตัวเองว่าเขาจำเป็นต้อง "จัดการชีวิต [ของเขา] ให้เข้าที่เข้าทาง"

ตัวละครที่กลับมาซ้ำ

ซีรีส์นี้ยังมีตัวละครที่กลับมาซ้ำๆ มากมาย ซึ่งเป็นนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ของ Greendale

คณะ

เอียน ดันแคน

จอห์น โอลิเวอร์ ในปี 2011
จอห์น โอลิเวอร์ในปี 2011

ดร.เอียน ดันแคน (รับบทโดยจอห์น โอลิเวอร์ ) เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาชาวอังกฤษที่กรีนเดล ดันแคนดูเหมือนจะเป็นศาสตราจารย์และนักบำบัด ที่มีคุณสมบัติสูง แต่ก็ไม่เหนือกว่าการวางแผนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น พยายามหลอกเจฟฟ์ให้ซื้อLexus ของเขา หรือใช้ประโยชน์จากปัญหาของอาเบ็ดเพื่อก้าวหน้าในอาชีพการงาน แม้ว่าเจฟฟ์จะเคยเป็นตัวแทนของเขาในฐานะทนายความได้สำเร็จโดยใช้ประโยชน์จากระบบกฎหมาย แต่ดันแคนปฏิเสธที่จะช่วยเขาโกงหลักการ เขาให้การบำบัดฟรีแก่เด็กนักเรียนหลายคน รวมทั้งบริตตา และในบางครั้ง[15]หวังที่จะเขียนเกี่ยวกับปัญหาของอาเบ็ดเพื่อเซ็นสัญญาเป็นหนังสือ เขายังเป็นคู่แข่งกับเซญอร์ชางและล้อเลียนชางอย่างเต็มใจที่ถูกไล่ออกและต่อมาได้กลายเป็นนักเรียนกรีนเดล ในตอนท้ายของซีซั่นแรก เขาถูกคณบดีเพลตันสั่งพักงานเนื่องจากพฤติกรรมเมาสุราของเขาในงานของโรงเรียน ทำให้ชางต่อยหน้าดันแคน เพราะเหตุนี้ ชางจึงได้รับคำสั่งห้ามปรามขณะที่ไล่ตามเขาและป้องกันไม่ให้เขาไปที่ต่างๆ หลังจากที่กรีนเดลพักงานศาสตราจารย์บาวเออร์ เขาก็รับหน้าที่สอนวิชามานุษยวิทยาแทนเธอ แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยก็ตาม ใน " คริสต์มาสที่ควบคุมไม่ได้ของอาเบด " ดันแคนมีบทบาทสำคัญในการชี้แนะอาเบดเกี่ยวกับความรู้สึกที่ถูกกดขี่เกี่ยวกับคริสต์มาส ในตอนนั้นยังมีนัยว่าดันแคนมีวัยเด็กที่น่าสงสารเติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหาในอิสลิงตันก่อนที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาพร้อมกับยายของเขา เขาไม่เคยรู้ตัวตนของพ่อของเขาเลย และต่อมาก็ยอมรับว่าแม่ของเขาทำงานเป็นโสเภณีในผับแห่งหนึ่งในเมืองสกันธ อ ร์ป ลินคอล์นเชียร์ตามที่กล่าวถึงหลายครั้งตลอดการปรากฏตัวของเขา ดูเหมือนว่าดันแคนจะมีปัญหาด้านการดื่มดันแคนไม่ได้ปรากฏตัวในซีซันที่ 3 แม้ว่าบริตตาจะลงทะเบียนเรียนในชั้นเรียนเบื้องต้นด้านจิตวิทยาแล้ว และชื่อของเขาปรากฏบนหน้าปกหนังสือเรียนของเธอในฐานะผู้เขียน ซีซันที่ 4 กล่าวถึงการหายตัวไปของเขาโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อทรอยถามกลุ่มว่ามีใครเห็นเขาเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่ (" บทนำสู่การอุ้มบุญแบบสักหลาด ")

ในซีซัน 5 ตอน " Basic Intergluteal Numismatics " ดันแคนกลับมาร่วมคณะกรรมการ Save Greendale โดยอธิบายว่าเขาหายไปไหน เขาบอกว่าเขาดูแลแม่ที่ป่วยอยู่ แต่เขาหยุดเพราะ "ใช้เวลาของเขาไปมาก" ทั้งการติดสุราและการสะกดรอยตามบริตตาได้กลับมาอีกครั้ง เขาเลิกติดตามบริตตาหลังจากพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวกับเธอในตอน " Bondage and Beta Male Sexuality " เขาหายไปอีกครั้งในซีซัน 6 แม้ว่าในตอนเปิดตัว " Ladders " จะเห็นว่าอาเบ็ดกำลังเช็ดป้ายชื่อที่ประตูบ้านของเขา

บัซ ฮิกกี้

23
โจนาธาน แบงค์ส

ศาสตราจารย์บัซ ฮิกกี้ (รับบทโดยโจนาธาน แบงค์ส ) เป็น ศาสตราจารย์ ด้านอาชญาวิทยาและเพื่อนร่วมงานของเจฟฟ์ในซีซั่นที่ 5 ฮิกกี้เป็นทหารผ่านศึกและอดีตนักสืบตำรวจ และพฤติกรรมหยาบกระด้างของเขาเป็นผลมาจากการดำรงตำแหน่งที่กรีนเดลเป็นเวลา 15 ปี เขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของเจฟฟ์ ช่วยให้เขาเปลี่ยนผ่านจากนักเรียนเป็นครู ฮิกกี้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการ Save Greendale และเป็นครูอาชญาวิทยาของแอนนี่ ฮิกกี้ยังเป็นศิลปินและนักเขียนที่มีความทะเยอทะยาน และขณะนี้เขากำลังทำงานในหนังสือการ์ตูนเรื่อง " Jim the Duck " เขาได้ร่วมแสดงกับอาเบ็ดในภาพยนตร์เรื่อง " Bondage and Beta Male Sexuality " มีการเปิดเผยว่าฮิกกี้เสียพรหมจรรย์ให้กับป้าของดันแคนในขณะที่ประจำการอยู่ในอังกฤษ และมีนัยว่าเขาอาจเป็นพ่อของลูกพี่ลูกน้องของดันแคน เขามีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับแฮงค์ ลูกชายของเขา ส่งผลให้เขาถูกตัดออกจากชีวิตของเซบาสเตียน หลานชายของเขา พวกเขาพยายามฟื้นฟูความแตกต่างระหว่างกันในตอน " Advanced Advanced Dungeons & Dragons "เขามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกชายอีกคนของเขา Furio ซึ่งเป็นเกย์ และใช้เวลาช่วงคริสต์มาสและวันขอบคุณพระเจ้ากับน้องสาวของเขา Rachel ฮิกกี้ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลยหลังจากซีซั่นที่ 5 และในตอน "Basic E-mail Security" ของซีซั่นที่ 6 อีเมลที่ถูกแฮ็กของ Greendale Lunchlady มีหัวเรื่องว่า "Buzz Hickey Memorial Services" ซึ่งดูเหมือนจะสื่อเป็นนัยว่าฮิกกี้เสียชีวิตนอกจอหรือว่าเขาได้เริ่มต้นธุรกิจงานรำลึกของตัวเอง

แฟรงกี้ ดาร์ท

23
เพจเจ็ต บรูว์สเตอร์

ฟรานเชสกา " แฟรงกี้ " ดาร์ต (รับบทโดยเพจ บรูว์สเตอร์ ) เป็นที่ปรึกษาที่ได้รับการว่าจ้างให้มาช่วยพัฒนากรีนเดลใน " แลดเดอร์ส " กลุ่มนี้ขับไล่เธอออกจากคณะกรรมการช่วยเหลือกรีนเดลในตอนแรก เนื่องจากเธอไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกรีนเดลที่พวกเขารู้จักและพลวัตของกลุ่มเอง อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มในฐานะเพื่อน

แฟรงกี้มักจะทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้กลุ่มมีความมั่นคง โดยอ้างถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาว่าเป็น " การพึ่งพากัน " ("ถ่ายวิดีโอในงานแต่งงาน") และเข้าใจปัญหาต่างๆ ทันที เช่น ความขัดแย้งที่ไม่ดีต่อสุขภาพระหว่างเจฟฟ์กับแอนนี่แบบ "พวกเขาจะทำหรือไม่ทำ" ความจริงอันไร้สาระที่ชางเคยเป็นครูของกลุ่ม และปัญหาของเจฟฟ์กับแอลกอฮอล์

เริ่มต้นด้วยตอน "Queer Studies and Advanced Waxing" คำถามเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของ Frankie กลายเป็นเรื่องตลกที่เล่าต่อๆ กันมาและกลายเป็นความอยากรู้ในกลุ่มคนที่มาเดิมพันเรื่องนี้ด้วย ("ความปลอดภัยอีเมลขั้นพื้นฐาน") โดย Jeff เดาว่า "เป็นเลสเบี้ยนที่ใช้ยาชา" และ Annie ก็เดาได้แย่มากจนไม่มีใครอยากเดาซ้ำ

ในท้ายที่สุด ("ผลทางอารมณ์จากการออกอากาศทางโทรทัศน์") การปรับปรุงโรงเรียนของแฟรงกี้ทำให้กรีนเดลได้รับการ "ช่วยเหลือ" อย่างเป็นทางการ และไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการช่วยเหลือกรีนเดลอีกต่อไป แฟรงกี้ยังคงดำรงตำแหน่งและอยู่ในกลุ่ม ซึ่งตัดสินใจตั้งชื่อตัวเองว่า "Nipple Dippers"

ก่อนหน้านี้ บรูว์สเตอร์ปรากฏตัวในซีซันที่ 5ตอนที่ " การวิเคราะห์เครือข่ายที่ใช้คอร์ก " ในบทบาทหัวหน้าแผนกไอทีของ Greendale คือเดบรา แชมเบอร์ส

เอลรอย พาตาชนิค

23
คีธ เดวิด

เอลรอย ปาตาชนิก (รับบทโดยคีธ เดวิด ) เป็นนักประดิษฐ์และโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์ ที่ล้มเหลว เขาพัฒนา บริษัท เสมือนจริงและใช้ชีวิตอยู่ในรถ บ้าน

เขาตัดสินใจเข้าเรียนที่ Greendale เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย " การบำรุงรักษาเครื่องตัดหญ้าและการดูแลหลังคลอด " และเข้าร่วมคณะกรรมการ Save Greendale ในเวลาต่อมา เขาได้รับการว่าจ้างให้เป็นหัวหน้าแผนกไอที ของ Greendale ใน " การศึกษาด้านคิวร์และการแว็กซ์ขั้นสูง "

เขาเป็นแฟนตัวยงของ วง ร็อคอัลเทอร์เนทีฟ Natalie is Freezing ในยุค 90 และเคยคบหาอยู่กับจูลี นักร้องนำในช่วงสั้นๆ เอลรอยยังคงห่างเหินจากสมาชิกคนอื่นๆ ในวงในช่วงแรก แต่ได้สนิทสนมกับพวกเขาผ่านเกม กระดานที่ชื่อว่า The Ears Have It ใน " Advanced Safety Features " ใน " Emotional Consequences of Broadcast Television " เอลรอยออกจากโคโลราโดเพื่อไปแคลิฟอร์เนียหลังจากได้งานที่LinkedIn

เดวิดเคยปรากฏตัวในซีซันที่ 3ตอน " Pillows and Blankets " ในบทบาทผู้บรรยาย

ศาสตราจารย์ มิเชลล์ สเลเตอร์

ศาสตราจารย์มิเชลล์ สเลเตอร์ (รับบทโดยลอเรน สเตมีล ) เป็นศาสตราจารย์ด้านสถิติที่กรีนเดล[16]เธอมีนโยบายที่เข้มงวดต่อการออกเดทกับนักเรียน แต่กลับมีความสัมพันธ์โรแมนติกกับเจฟฟ์ หลังจากที่เขาขอร้องให้เธอไปนอนกับเขาในงานปาร์ตี้ฮัลโลวีน (" Introduction to Statistics ") เธอและเจฟฟ์มีอารมณ์ขันและความเย้ยหยันที่คล้ายกัน ต่อมาเธอก็ตัดความสัมพันธ์ ต่อมาเธอเริ่มสนใจเจฟฟ์อีกครั้ง ส่งผลให้เกิดการแข่งขันกับบริตตาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา (" Pascal's Triangle Revisited ") ต่อมาเจฟฟ์กล่าวว่าหากเขามีความสัมพันธ์กับเธอ นั่นจะทำให้เขาพัฒนาขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์กับบริตตาจะช่วยให้เขารู้จักตัวเองมากขึ้น นอกจากเจฟฟ์แล้ว เธอยังได้รับความสนใจจากคณาจารย์คนอื่นๆ เช่น เซญอร์ชาง และดร. ดันแคน ซึ่งพยายามล่อลวงเธอด้วยวิธีที่แย่ๆ อย่างขบขัน รายการโทรทัศน์วงจรปิดของทรอยและอาเบดเกี่ยวกับการเลือกตั้งสภานักศึกษา (" Intro to Political Science ") ในภายหลังระบุว่าเธอหายตัวไป

ศาสตราจารย์ยูสติส วิทแมน

ศาสตราจารย์ยูสติส วิทแมน (รับบทโดยจอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์ ) เป็นศาสตราจารย์ด้านการบัญชีที่ Greendale Community College โค้ชการดีเบตของวิทยาลัยและเป็นผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้าในCarpe Diem [ 17]แม้จะเชื่อว่าวิทแมนจะเป็นครูที่สอนง่าย แต่เจฟฟ์ก็มีปัญหาในการผ่านวิชาบัญชีใน " Introduction to Film " เนื่องจากวิทแมนให้คะแนนนักเรียนของเขาไม่ใช่จากผลการเรียน แต่จากว่าพวกเขา "ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า" มากเพียงใด ใน " Debate 109 " เขาให้คำแนะนำเจฟฟ์ในฐานะโค้ชของทีมดีเบตและให้คำแนะนำโดยไม่ได้รับการร้องขอเกี่ยวกับวิธีดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ต่างๆ

ศาสตราจารย์ฌอน การ์ริตี้

ศาสตราจารย์ฌอน การ์ริตี้ (รับบทโดยเควิน คอร์ริแกน ) เป็นอาจารย์สอนละครเวทีที่กรีนเดล เขาเข้าไปพัวพันกับกลอุบายทฤษฎีสมคบคิดกับเจฟฟ์ แอนนี่ และดีน เพลตัน เมื่อเขาแสร้งทำเป็นอาจารย์สอนภาคค่ำเรื่องทฤษฎีสมคบคิดปลอมของเจฟฟ์อย่างลึกลับ "ศาสตราจารย์ศาสตราจารย์สัน" ในตอน " ทฤษฎีสมคบคิดและการออกแบบตกแต่งภายใน " ต่อมา เขาสอนทรอยและบริตตาในชั้นเรียนการแสดงเลือก และกำกับทรอยในการ แสดงบนเวทีที่ มีนักแสดง ผิวสีทั้งหมดเรื่อง "Fiddla Please " ใน " การแนะนำการสอน " เขาสอนหลักสูตรสองวันชื่อว่า " นิโคลัส เคจ : ดีหรือไม่ดี?" ซึ่งอาเบ็ดพบว่ายากมาก

ศาสตราจารย์จูน บาวเออร์

ศาสตราจารย์จูน บาวเออร์ (รับบทโดยเบ็ตตี้ ไวท์ ) เป็นศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาที่กรีนเดล ซึ่งเปิดตัวใน " มานุษยวิทยา 101 " แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอก็เป็นนักสู้ที่เก่งอย่างน่าประหลาดใจ ("มานุษยวิทยา 101") บาวเออร์มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางโลกมากมายที่แปลกประหลาด เช่น การล่าลิงด้วยปืนเป่าลมในป่าอะเมซอนและดื่มปัสสาวะของเธอเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ เธอยังไม่กลัวที่จะโจมตีนักเรียนของเธอ ยิงปืนเป่าลมใส่สตาร์เบิร์นส์ที่ไม่เคารพ และเกือบฆ่าเจฟฟ์ด้วยอาวุธเก้าชนิดของเธอ หลังจากนั้น เธอถูกพักการสอน จากนั้นเธอจึงออกจากกรีนเดลเพื่อไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตย คองโก

ดร.มาร์แชล เคน

ดร.มาร์แชลล์ เคน (รับบทโดยไมเคิล เค. วิลเลียมส์ ) เป็นอาจารย์สอนชีววิทยาที่กรีนเดล เขาดูจริงจังและจริงจังกว่าอาจารย์ท่านอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด เขาเพิ่งพ้นโทษจำคุก 20 ปีระหว่างที่เรียนปริญญาเอกและรู้สึกงุนงงกับบางอย่างที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่นั้นมา ในตอนแรกเขาไม่ชอบเจฟฟ์เพราะเขา ใช้ โทรศัพท์มือถือ ตลอดเวลา และไล่เขาออกจากชั้นเรียนชั่วครู่ ไม่เหมือนเพื่อนร่วมชั้น ดร.เคนพยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไร้สาระบางอย่างในโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็ปล่อยให้เจฟฟ์เข้าร่วมชั้นเรียนของเขาหลังจากที่สตาร์เบิร์นส์เข้าหาเขาเกี่ยวกับการเริ่มดำเนินการค้ายา และด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกไล่ออก เขาลาออกจากงานหลังจากเหตุการณ์ใน "Basic Lupine Urology" ทำให้เครดิตชีววิทยาของกลุ่มศึกษาเป็นโมฆะ นอกจากนี้ เขายังมีนโยบายที่แข็งกร้าวต่อการรับสินบนแต่มีเพียงเจฟฟ์และเพียร์ซเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ศาสตราจารย์ โนเอล คอร์นวอลลิส

ศาสตราจารย์โนเอล คอร์นวอลลิส (รับบทโดยมัลคอล์ม แม็กดาวเวลล์ ) เป็นศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์ของ กรีนเดลผู้เคร่งขรึมและเจ้าเล่ห์ ซึ่งสอนกลุ่มในซีซั่นที่ 4 หลังจากถูกไล่ออกจากตำแหน่งระยะยาวที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเพราะ "มีเรื่องกับนักเรียนหญิงร่วมชั้น" เขาเป็นลูกหลานของ ลอร์ดชาร์ลส์ คอร์นวอลลิส ชาวอังกฤษผู้นี้รู้สึกงุนงงกับความแปลกประหลาดของโรงเรียน ไม่ชอบกลุ่มเรียน และเกือบจะเสียใจทันทีที่ไปทำงานที่โรงเรียน นอกจอเผยให้เห็นใน " Intro to Felt Surrogacy " ว่าเขาให้คำตอบของแบบทดสอบกับแอนนี่เพื่อแลกกับการให้เขาถูเท้าเธอ เขามีบทบาทโดดเด่นมากใน " Intro to Knots " เมื่อเขาถูกชางและกลุ่มเรียนมัดไว้ที่งานปาร์ตี้ที่อพาร์ตเมนต์ของเจฟฟ์ เนื่องจากเขาให้เกรดตกในงานกลุ่ม เขาเกือบพลาดโอกาสเมื่อความพยายามของเขาที่จะให้กลุ่มติวหนังสือทะเลาะกันเพื่อเกรดที่ดีขึ้นสองสามคะแนนไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นเขาก็ยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรและเพียงแค่อยู่เฉยๆ เพราะการ "ถูกจับเป็นตัวประกัน" นั้นสนุกกว่าวันหยุดที่น่าเบื่อและไม่มีเพื่อนเหมือนปกติของเขา และตัดสินใจที่จะให้คะแนนผ่านทั้งกลุ่มแบบธรรมดาๆ

นักเรียน

อเล็กซ์ “สตาร์-เบิร์นส์” ออสบอร์น

อเล็กซ์ "สตาร์-เบิร์นส์" ออสบอร์น (รับบทโดยไดโน สตามาโทปูลอส ) เป็นนักเรียนวัยกลางคนที่กรีนเดลซึ่งรู้จักกันดีจากเคราแพะ รูปดาว รวมถึงความแปลกประหลาดอื่นๆ เช่น การสวมหมวกทรงสูงและเป็นเจ้าของกิ้งก่าในช่วงหลังของซีรีส์ เขาเรียนหลายวิชาพร้อมกับตัวละครหลัก รวมถึงภาษาสเปนและการพายเรือ เขาเป็นคนรักดนตรี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบวงStyx [ 18]แม้ว่าสตาร์-เบิร์นส์จะเคยชินกับความสบายๆ และแต่งตัวไม่เรียบร้อย แต่เขามีลูกชายที่ต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ตรงที่มีความเป็นผู้นำสูง ใน " Intro to Political Science " เขาได้ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อค้ายาเขาทำงานในโรงอาหารของโรงเรียนจนกระทั่งถึงเหตุการณ์ใน " Contemporary American Poultry " เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวทำให้เขาถูกไล่ออกเพราะดูดไก่ทอดซึ่งเป็นอาหารที่กินได้มากที่สุดในโรงอาหารให้เพื่อนๆ ของเขา (อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น พวกเขาก็ร่วมกันสมคบคิดทำสิ่งเดียวกันนี้ให้กับตัวเอง) อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่ม และบางครั้งเขาก็ดูสับสนว่าใครเป็นสมาชิกในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าเจฟฟ์เป็นใคร แม้ว่าเขาจะชอบความสนใจที่ได้รับจากเคราแพะของเขา แต่เขาก็ปรารถนาที่จะมีตัวตนที่มากกว่านั้น เขาเริ่มสวมหมวกทรงสูงที่กล่าวถึงข้างต้นในช่วงต้นฤดูกาลที่สองเพื่อดึงความสนใจจากพวกเขา เขาถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตเมื่อห้องแล็บผลิตยาบ้าที่เขาดำเนินการจากท้ายรถของเขาเกิดระเบิดในตอน "Basic Lupine Urology" ตามความปรารถนาของเขา ร่างของเขาถูกเผา ในตอนจบของฤดูกาลที่สาม เผยให้เห็นว่าเขาแกล้งตายและพยายามที่จะสร้างตัวตนใหม่ เพื่อจุดประสงค์นี้ เขาจึงปรากฏตัวพร้อมกับทรงผมใหม่ แต่ยังคงมีเคราแพะรูปดาว เขากลับมาอีกครั้งใน " Basic Intergluteal Numismatics " เมื่อเขาถูกพบซ่อนตัวอยู่ในคอกม้า ที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่ขณะซ่อนตัว กินขยะ และพยายามสร้าง "รถแมว" เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรสารเลวกรีนเดล แต่เจฟฟ์กลับพบว่านี่เป็นกลอุบายของคณบดีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ โดยแลกกับการที่คณบดีซ่อนข้อหาเมทแอมเฟตามีนของสตาร์เบิร์นส์และปล่อยให้เขาอยู่ในคอกม้าต่อไป ใน "Modern Espionage" แฟรงกี้ซักถามเขาเกี่ยวกับเกมเพนท์บอลใต้ดิน แม้ว่าเขาจะให้ความร่วมมือเมื่อเธอใช้ชื่อจริงของเขา แต่เธอก็ไล่เขาออกจากกรีนเดลอย่างถาวรเพราะเข้าร่วมเกมเพนท์บอล

ขนาด

Magnitude (รับบทโดยLuke Youngblood ) ย่อมาจาก " Magnitude Attitude " เป็น นักเรียน แอฟริกัน-อังกฤษที่ Greendale ซึ่งได้รับการอธิบายว่าเป็น "คนปาร์ตี้คนเดียว" วลีเด็ดของเขาคือ "ป๊อป ป๊อป!" ซึ่งทำให้เพื่อนๆ หัวเราะเยาะเขา แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วคณาจารย์และเจ้าหน้าที่จะชอบเขา แต่ก็มีบางคนไม่ชอบเขา โดยเฉพาะศาสตราจารย์ Marshall Kane (" Competitive Ecology ") ในตอน " Intro to Political Science " Magnitude ลงสมัครรับตำแหน่งประธานสภานักศึกษา เขาเป็นหนึ่งในผู้สมัครสองคนสุดท้ายที่ต่อต้าน Leonard ใน "การดีเบตทางการเมืองแห่งศตวรรษ" ซึ่งเป็นการดีเบตที่ประกอบด้วย Magnitude พูดซ้ำวลีเด็ด "ป๊อป ป๊อป!" และ Leonard เป่าราสเบอร์รี่เป็นการโต้ตอบ[19]เมื่อ Dean Pelton และ Annie เอาวลี "ป๊อป ป๊อป!" ออกไปจากเขาเพื่อพูดกับนักเรียนที่มีแนวโน้มจะเป็นนักเรียนขี้เกียจที่มีพ่อแม่รวยใน " Economics of Marine Biology " เขารู้สึกเสียใจและพูดไม่ออก พวกเขาตกตะลึงมากจนบอกกับนักศึกษาคนนั้นว่าเขาไม่สามารถใช้คำพูดติดปากของ Magnitude ได้ (แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกประหลาดใจที่คำพูดนั้นทำให้เขาตัดสินใจสมัครเข้าเรียนที่ Greendale เพราะเขาเบื่อกับการที่ต้องรับทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอดและไม่เคยทำอะไรได้ดีขึ้นเลย) Magnitude ประกาศอย่างมีความสุขว่า "ป๊อป ป๊อป!"

Magnitude เข้าเรียนมัธยมปลายกับ Annie และ Troy พบว่าการใช้ "ป๊อป-ป๊อป!" เป็นวลีเด็ดของ Magnitude เริ่มต้นจากงานปาร์ตี้ของโรงเรียนมัธยมปลายซึ่ง Annie ป่วยทางจิตเพราะลูกโป่งสองลูกแตกข้างๆ เขา (" Heroic Origins ") ในซีซั่นที่ 5 (" Geothermal Escapism ") เขายอมรับว่าเขาเป็นคนอังกฤษ (เหมือนกับ Youngblood ในความเป็นจริง) เขาปรากฏตัวสั้นๆ ในตอน " Intro to Recycled Cinema " ของซีซั่นที่ 6 ในฐานะตัวประกอบในภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ของ Abed เรื่องRaiders of the Galaxy

ลีโอนาร์ด บริกส์

Leonard Briggs (นามแฝงLeonard RodriguezรับบทโดยRichard Erdman ) เป็นชายชราที่กำลังศึกษาทางด้านธุรกิจที่ Greendale Community College และได้ศึกษามาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 [20]วัยชราของ Leonard นั้นแสดงออกมาผ่านเสียงแหบๆ และการอ้างอิงถึงสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น สงครามโลกครั้งที่สอง เขาและ Jeff มีความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์กันอย่างขบขัน ซึ่งส่งผลให้ Jeff และสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มศึกษาพูดเพียงแค่ว่า "หุบปากซะ Leonard..." ตามด้วยความเห็น (เช่น "หุบปากซะ Leonard ไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร" หรือ "หุบปากซะ Leonard ฉันคุยกับลูกชายคุณในวันครอบครัว ฉันรู้เรื่องการพนันของคุณดีทุกอย่าง") แม้จะดูแก่กว่านักเรียนคนอื่นๆ ที่ Greendale อย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ทำตัวเหมือนวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่บ้าบิ่นและกบฏ มักใช้คำแสลงและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นตลกและเล่นกีตาร์เบส และเผชิญกับ "ความกลัวเรื่องการตั้งครรภ์" เขาเป็นผู้นำกลุ่มนักศึกษาสูงอายุจากกรีนเดลที่เกเรและไม่เชื่อฟังซึ่งเรียกว่า "ฮิปสเตอร์" (เพราะพวกเขาทั้งหมดมีสะโพกเทียม) ซึ่งเพียร์ซคบหาอยู่ด้วยชั่วคราวใน " Messianic Myths and Ancient Peoples " เขามีลูกๆ แม้ว่าจะไม่เคยปรากฏตัวบนกล้องเลยก็ตาม ในตอนจบของซีซั่น 2 เขาอ้างว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนขี้โกงเคยเข้าร่วม "สงครามจริง" หลายครั้งซึ่งน่ากลัวน้อยกว่าการต่อสู้ด้วยเพนท์บอลสุดมันส์ในมหาวิทยาลัย และเคยถูกห้ามเข้าร้านDenny'sใกล้ทางออกที่ 15 ในระหว่าง " Intro to Political Science " เขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานนักศึกษาโดยใช้ชื่อสกุล "Rodriguez" เพื่อพยายามดึงดูดคะแนนเสียงจากชาวละติน จากหลายตอนของซีซั่น 3 เผยให้เห็นว่าลีโอนาร์ดยังคงมีนามสกุลว่า Rodriguez ในชื่อเรื่อง

ลีโอนาร์ดมี ช่อง YouTubeที่เขาทำการวิจารณ์ผลิตภัณฑ์อาหาร วิดีโอดังกล่าวปรากฏในฉากปิดของ " Foosball and Nocturnal Vigilantism " ซึ่งเขาประกาศว่าพิซซ่าสี่ชีสของ Eugenio เป็น "ของน่าซื้อ" เขาทำแบบนี้ซ้ำอีกในตอน " Introduction to Finality " โดยใส่ถุงมันฝรั่งทอดที่เขาชอบเช่นกัน ในขณะที่ลีโอนาร์ดเป็นนักเรียนดีเด่นในช่วงสั้นๆ ในซีซั่นที่ 4 ดีน เพลตัน (ได้รับพลังจากการสลับร่างปลอม ซึ่งเขาแสดงและพูดเหมือนเจฟฟ์ วิงเกอร์) ได้เรียนรู้ว่าหลังจากได้เกรด A ใน หลักสูตรซ่อม โทรศัพท์แบบโรตารี่ที่เขาเรียนในปี 1968 ลีโอนาร์ดก็เพียงแค่เรียนวิชาต่อๆ มาทั้งหมดผ่าน/ไม่ผ่าน ทำให้เขาตกรอบการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งซึ่งตอนนี้เหลือเพียงการดวลกันระหว่างแอนนี่และเชอร์ลีย์ (" กายวิภาคศาสตร์พื้นฐานของมนุษย์ ")

ในซีซั่นที่ 6 ตอน "Ladders" เปิดเผยว่าลีโอนาร์ดเป็นนักเรียนที่ Greendale มาตั้งแต่โรงเรียนเปิดเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยใช้ชื่อว่า "Greendale Computery College" ในตอน " Pillows and Blankets " มีข่าวลือว่าลีโอนาร์ดเคยต่อสู้ในสงครามเกาหลีเพื่อชาวเกาหลีเหนือและในตอน " Intro to Political Science " ภาพกราฟิกเนื้อเรื่องย่อของการลงสมัครของเขาเผยให้เห็นว่าเขาเป็นสมาชิกของพรรค Whig

วอห์น มิลเลอร์

วอห์น มิลเลอร์ (รับบทโดยเอริก คริสเตียน โอลเซ่น ) เป็น นักเรียน ฮิปปี้ แนวนี โอที่มักจะถอดเสื้อ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอ่อนหวาน ซึ่งเป็นนักร้องนำของ วง ดนตรีแนวเร็กเก้ร็อคที่ Greendale Community College [21] เขามักจะเล่น แฮ็กกี้แซ็กและอัลติ เมทฟริสบี้ เป็นประจำเขามีปฏิสัมพันธ์ที่โดดเด่นหลายครั้งกับตัวละครหลักของรายการ เนื่องจากเขาคบหาดูใจกับบริตต้าในช่วงแรกและอยู่ในวงดนตรีกับเพียร์ซ แม้ว่าในตอนแรกเขาจะดูสบายๆ และสงบมาก แต่เขาก็เริ่มเขียนเพลงเกลียดชังยอดนิยมเกี่ยวกับบริตต้าและเพียร์ซ หลังจากความสัมพันธ์ของเขากับพวกเขาเริ่มแย่ลง (" Home Economics ") อย่างไรก็ตาม เขากับแอนนี่เริ่มมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งทำให้เจฟฟ์ บริตต้า ทรอย และต่อมาก็เชอร์ลีย์งุนงงมาก[21]ในตอนท้ายของฤดูกาลแรก เขาย้ายไปที่วิทยาลัยชุมชนในเดลาแวร์เพราะโปรแกรมกีฬาแฮ็กกี้แซ็กที่เข้มข้นของพวกเขา ในตอนแรกแอนนี่ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับเขาที่นั่นก่อนที่จะเปลี่ยนใจ เขาเป็นสาเหตุของความผูกพันระหว่างเจฟฟ์และเชอร์ลีย์ในซีซั่นแรกเนื่องจากหัวนมของเขาเล็ก ซึ่งเชอร์ลีย์มองว่ามันตลกดี พวกเขายังอ้างถึงเรื่องนี้ในซีซั่น 3 ด้วย

ริช สตีเฟนสัน

ริช สตีเฟนสัน (รับบทโดย เกร็ก โครเมอร์ [af; ar] ) เป็นนักเรียนที่เรียนวิชาปั้นหม้อกับเจฟฟ์ ซึ่งเจฟฟ์อิจฉาในทักษะการปั้นของเขา (" Beginner Pottery ") หมอที่เป็นมิตรและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนเป็นศัตรูตัวฉกาจของเจฟฟ์ที่พยายามจับผิดเขาในฐานะคนหลอกลวงเจฟฟ์มีชื่อเล่นว่า "ด็อก พอตเตอร์วูด" ซึ่งนัยว่าเจฟฟ์อาจจะพูดถูก และริชเคยเรียนวิชาปั้นหม้อมาก่อนในวิทยาลัยอื่น ๆ อย่างลับๆ ตอนจบของ "Beginner Pottery" มีการบอกเป็นนัยว่าความสัมพันธ์ของแม่เขาตึงเครียดมาก ริชมีพี่ชายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟเหาะ ("Beginner Pottery") เขาใช้เวลาอยู่กับกลุ่มศึกษาอีกครั้งใน "Epidemiology" เมื่อเขาพยายามรักษานักเรียนที่ติดเชื้อในขณะที่แต่งตัวเป็นกล้วย และทำให้เจฟฟ์ยอมรับว่าเกลียดเขาอย่างเปิดเผย หลังจากใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเป็นอาสาสมัครกับแอนนี่ เขาก็เข้าร่วมชั้นเรียนมานุษยวิทยาของดันแคนและแข่งขันกับชางเพื่อชิงตำแหน่งในกลุ่มศึกษา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อเขาปฏิเสธที่จะออกเดทกับแอนนี่เพราะเธออายุน้อย เจฟฟ์จึงเริ่มชื่นชมคุณธรรมของเขาและขอคำแนะนำในการใช้ชีวิตจากเขา แม้ว่าเขาอยากจะใช้พลังที่ริชได้รับจากทุกคนที่รักเขาในทางที่ผิดก็ตาม

นีล

นีล (รับบทโดยชาร์ลีย์ คูนซ์ ) เป็นนักศึกษาที่ถูกกีดกันเพราะอ้วนเขาถูกแนะนำตัวครั้งแรกในตอน " Asian Population Studies " เจฟฟ์ ซึ่งบังเอิญตั้งชื่อว่า "Fat Neil" (" Advanced Dungeons & Dragons ") พยายามชดเชยความผิดให้กับนีลหลังจากที่เขาคิดว่านีลกำลังคิดฆ่าตัวตาย เจฟฟ์จัด เกม Dungeons & Dragonsกับกลุ่มศึกษา (โดยไม่มีเพียร์ซ) โดยที่นีล แฟนตัวยงของ D&Dจะเข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ แม้ว่าเพียร์ซจะพยายามทำลายเหตุการณ์และล้อเลียนนีล แต่เขาก็ยังมีความมั่นใจกลับคืนมาหลังจากชนะเกมได้ ใน " Applied Anthropology and Culinary Arts " แสดงให้เห็นว่าเขาและวิกกี้มีความรู้สึกต่อกัน แม้ว่าชะตากรรมของเขาหลังจากเล่นเกม D&D จะดูไม่แน่นอน แต่ต่อมานีลได้ปรากฏตัวใน " Pillows and Blankets " ในฐานะดีเจของสถานีวิทยุในมหาวิทยาลัยกรีนเดล โดยเรียกตัวเองว่า "นีลตัวจริง" ตามที่เปิดเผยใน "Basic Lupine Urology" เขากับวิกกี้เริ่มคบหากันในบางช่วง ในซีซัน 5 นีลแสดงให้เห็นว่าเป็นมิตรกับกลุ่ม และเจฟฟ์แสดงความภาคภูมิใจที่กลุ่มช่วยชีวิตเขาไว้เพื่อที่เขาจะได้กลับไป "ทำอะไรลับๆ" อีกครั้ง ในตอน "Basic Email Security" ของซีซัน 6 กลุ่มบังคับให้นีลนั่งฟังการแสดงของนักแสดงตลกที่พูดตลกเกี่ยวกับน้ำหนักของเขาอย่างไม่เหมาะสม และด้วยเหตุนี้ นีลจึงตัดสินใจที่จะไม่พูดคุยกับกลุ่มอีก

การ์เร็ตต์ แลมเบิร์ต

Garrett Xander Lambert (รับบทโดยErik Charles Nielsen ) เป็น นักเรียน เนิร์ดที่ Greendale ที่มีนิสัยพูดจาห้วนๆ และวิตกกังวล เขาเรียนหลายวิชาร่วมกับนักแสดงหลักบางคน มีการเคลื่อนไหวหลายครั้งที่นำโดยนักเรียนเพื่อ "ช่วย" Garrett อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโรคที่ชัดเจน และ Jeff และ Annie ต่างก็สงสัยว่าแผนการช่วยเหลือเหล่านั้นได้ผลหรือไม่ ("การสำรวจการออกแบบภายในด้วยดิจิทัล") ชื่อกลางของเขาคือ Xander ในเครดิตของสารคดีของ Abed ในตอน "Advanced Documentary Filmmaking" ของซีซั่น 4 ในตอน "Wedding Videography" ของซีซั่น 6 Garrett แต่งงานกับเพื่อนร่วมชั้น Stacy ( Erin McGathy ) แม้ว่าเธอจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา แต่ Chang ก็โน้มน้าวให้พวกเขายังคงแต่งงานกัน

ท็อดด์ เจคอบสัน

Todd Jacobson (David Neher  [Wikidata] ) เป็นนักเรียนที่ Greendale ซึ่งเรียนวิชาชีววิทยากับกลุ่มศึกษาใน " Competitive Ecology " เขาเป็นคนให้อภัยและมีน้ำใจ ตอบโต้คำสบประมาทด้วยคำว่า "None taken" กลุ่มศึกษาเลือกปฏิบัติกับเขาหลังจากที่เขาจับคู่กับ Pierce ในการทำโครงงานของชั้นเรียน และโดยไม่ได้ตั้งใจก็ทำลายความสมดุลตามธรรมชาติของกลุ่ม ในที่สุดเขาก็ระเบิดอารมณ์ใส่กลุ่มศึกษา โดยเรียกความรักที่พวกเขามีให้กันว่า "แปลก" และ "เป็นพิษ" และจบลงด้วยคำว่า "Offense taken" Todd เป็น ทหารผ่านศึก สงครามอิรัก ที่แต่งงานแล้ว และมีลูกสาวแรกเกิด Todd ยังกล่าวอีกว่าเขาต้องฉีดอินซูลิน นอกจากนี้ เขายังปรากฏตัวใน "Basic Lupine Urology" ซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าทำลายโครงการชีววิทยาของกลุ่มศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างท็อดด์กับกลุ่มมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรมากขึ้นในซีซั่น 6 โดยที่เขาทำงานที่ร้าน Shirley's Sandwiches ("Ladders") เข้าร่วมเกมเพนท์บอลใต้ดิน ("Modern Espionage") และยังทำหน้าที่ประกอบพิธีแต่งงานของการ์เร็ตต์ ("Wedding Videography") อีกด้วย ซึ่งระหว่างนั้น เขาได้ครุ่นคิดว่าเขา "สามารถเป็นพระเจ้าได้"

เรเชล

เรเชล ( บรี ลาร์สัน ) เป็นเด็กสาวน่ารักและแปลกประหลาดที่อาเบ็ดพบขณะออกเดทกับเด็กสาวอีกสองคนในงานเต้นรำของโรงเรียน (" Herstory of Dance ") ทั้งสองเชื่อมโยงกันแม้ว่าเรเชลจะกลับมาอีกครั้งในซีซันถัดไปใน " Analysis of Cork-Based Networking " ซึ่งพวกเธอไปออกเดทกัน เธอปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเธอเป็นแฟนสาวของอาเบ็ดใน " VCR Maintenance and Educational Publishing " ในรอบปฐมทัศน์ของซีซันที่ 6 " Ladders " อาเบ็ดพูดถึงความจริงที่ว่าอาชีพนักแสดงภาพยนตร์ของบรี ลาร์สันทำให้เธอไม่ค่อยปรากฏตัวในรายการบ่อยนัก โดยกล่าวว่าใครก็ตามที่สังเกตการเล่าเรื่องของกลุ่มศึกษาอาจมีคำถามเช่น "เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงที่ฉันกำลังเดทอยู่"

นักเรียนประจำอื่นๆ

  • เอริก วิสเนียวสกี (บิล พาร์กส์) เป็นนักฟุตบอลของกรีนเดลที่มีผมและเคราสีแดง เขาปรากฏตัวในตอนต่างๆ มากมาย รวมถึง "For a Few Paintballs More" ก่อนที่จะถูกทหารเพนท์บอลของซิตี้คอลเลจยิงตก[22]
  • Pavel Iwaszkiewicz (Dominik Musiol) เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวโปแลนด์และเพื่อนร่วมห้องของ Abed โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับเขาในหลาย ๆ ด้าน[23]
  • วิกกี้ คูเปอร์ (แดเนียล คาปโลวิทซ์) เป็นอาจารย์สอนเต้นที่กรีนเดล ซึ่งเพื่อนร่วมชั้นมักมองข้ามเธอเสมอ ในซีซั่น 2 มีนัยว่าเธอและ "แฟต นีล" มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน พวกเขาเริ่มคบหากันในซีซั่น 3 ("Basic Lupine Urology") เพียร์ซยังคงเกลียดเธอมาโดยตลอดตั้งแต่เธอปฏิเสธที่จะยืมดินสอให้เขา
  • Mark Millot (DC Pierson) เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์นักศึกษาGreendale Gazette-Journal("Investigative Journalism") และเป็นผู้ก่อตั้งร่วมของกลุ่มสเก็ตช์ของวิทยาลัย Greendale Goofaws ซึ่งรวมถึงLinda Greene(Meggie McFadden),Buzz Foster(Dominic Dierkes) และDerrick Bideos(Dan Eckman)[24]ในชีวิตจริง นักแสดง Pierson, McFadden, Dierkes และ Eckman ก่อตั้งกลุ่มตลกDerrick ComedyDonald Gloverอดีตพิธีกรประจำชุมชนเป็นสมาชิกคนที่ห้า
  • เควนดรา (มาร์ซี แม็กคัสเกอร์) เป็นนักศึกษาที่กรีนเดล ซึ่งเจฟฟ์พามาที่งานสังสรรค์เพื่อป้องกันไม่ให้ริชได้รับเลือกให้เข้ากลุ่มศึกษาใน "Asian Population Studies" บุคลิกของเธอเป็นนักเรียนเจ้าชู้จอมกวนที่ชอบสะกดคำด้วย "Qu" ซึ่งปกติแล้วจะเป็นเสียง "K" ซึ่งเป็นเหตุผลที่เธอชื่อนี้ เธอยังปรากฏตัวใน "For a Few Paintballs More" อีกด้วย ใน "Basic Lupine Urology" สตาร์เบิร์นส์พยายามใช้เธอเป็น "ตัวล่อเพื่อจีบ" เธอถูกกล่าวถึงในตอนที่ 4 ของซีซั่น "Intro to Knots" เมื่อแอนนี่บอกกับกลุ่มว่าเธอได้เรียนรู้จากเควนดราว่าพวกเขาได้รับเกรดตกจากศาสตราจารย์คอร์นวอลลิส ซึ่งเควนดราทำหน้าที่ "ผู้ช่วย" ให้ เมื่อได้ยินความเชื่อมโยงระหว่างเควนดรากับคอร์นวอลลิส เชอร์ลีย์ก็ตอบกลับอย่างประชดประชัน โดยพาดพิงถึงประวัติของคอร์นวอลลิสกับนักศึกษาหญิง
  • แอนนี่ คิม (ไอรีน ชเว) คือคู่แข่งทางวิชาการคนสำคัญของแอนนี่ที่กรีนเดล กลุ่มเรียนมักเรียกเธอว่า "แอนนี่คนอื่นหรือ "แอนนี่เอเชีย" เธอฉลาดและแข่งขันสูงมาก เธอเลียนแบบแนวคิดของแอนนี่เกี่ยวกับทีมสหประชาชาติจำลองกรีนเดล ("ภูมิศาสตร์แห่งความขัดแย้งระดับโลก") และต่อมาปรากฏตัวเป็นคู่แข่งของกลุ่มในงานโรงเรียนอื่นๆ ในเรื่องQueer Studies และ Advanced Waxingเธอรับบทเป็นแดเนียล ลารุสโซในละครที่ดัดแปลงมาจากเรื่อง The Karate Kid
  • แฮร์รี่ เจฟเฟอร์สัน (วิล การ์เร็ต) เป็นชายชราตาบอด เขาปรากฏตัวใน " การสำรวจการออกแบบภายในแบบดิจิทัล " และ " การศึกษาระบบทางเดินปัสสาวะแบบพื้นฐาน " เขามีบทพูดสั้นๆ ใน " หมอนและผ้าห่ม " ที่เขาพูดว่า "เอาล่ะ ฉันเดาว่าการกอดกันทั้งหมดคงต้องจบลงแล้ว"
  • เดฟ (ดาร์ซาน โซโลมอน) เป็นนักศึกษาในชั้นเรียนกฎหมายของเจฟฟ์ ในตอนจบตอนที่ 6 เรื่อง "ผลกระทบทางอารมณ์ของโทรทัศน์ที่แพร่ภาพกระจายเสียง" เขาปรากฏตัวในนิมิตของเจฟฟ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเพื่อนๆ ของเขาออกจากกรีนเดล (โดยพื้นฐานแล้ว เจฟฟ์จะเหลือเพียงนักแสดงสมทบ)

พนักงาน

โรเบิร์ต เลย์เบิร์น

รองคณบดีโรเบิร์ต เลย์เบิร์น ( จอห์น กูดแมน ) เป็นหัวหน้าแผนกซ่อมเครื่องปรับอากาศของกรีนเดลและเป็นผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังกรีนเดลอย่างแท้จริง ดังที่เปิดเผยใน " ชีววิทยา 101 " เมื่อคณบดีเพลตันตัดสินใจเผชิญหน้ากับเลย์เบิร์นเรื่องแผนกซ่อมเครื่องปรับอากาศ เลย์เบิร์นแสดงให้เขาเห็นว่าแผนกซ่อมเครื่องปรับอากาศเป็นแหล่งเงินทุนหลักของกรีนเดล ดังนั้นเขาจึงมีอำนาจเหนือสำนักงานคณบดีโดยสมบูรณ์ ต่อมา เมื่อได้ทราบถึงทักษะการประปาของทรอย เลย์เบิร์นจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาทำงานแผนกซ่อมเครื่องปรับอากาศ เขายุยงให้แอเบ็ดกับทรอยทะเลาะเบาะแว้งกัน โดยหวังว่าจะทำให้มิตรภาพของพวกเขาแตกแยกและจูงใจให้ทรอยเข้าเรียนในโรงเรียนซ่อมเครื่องปรับอากาศ ต่อมาเมอร์เรย์ก็ฆ่าเขา ซึ่งทรอยก็ได้เปิดเผยเรื่องนี้ใน " บทนำสู่ความสมบูรณ์แบบ "

เจอร์รี่

เจอร์รี่ ( เจอร์รี่ ไมเนอร์ ) เป็นหัวหน้าภารโรงที่กรีนเดล หลังจากที่เขาได้เห็นความสามารถด้านการประปาอันยอดเยี่ยมของทรอย เขาจึงพยายามหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวให้ทรอยเป็นช่างประปา (" ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ") ซึ่งเขาถือว่าเป็นอาชีพที่สูงส่ง ในขณะที่พยายามจะเกณฑ์ทรอยเข้าทำงาน เขาก็เตือนทรอยในภายหลังว่าอย่าเป็นช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ โดยเรียกช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศว่า "พวกหัวสูง" นับจากนั้นมา เขาก็ปรากฏตัวหลายครั้ง โดยมักจะอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเมื่อกลุ่มเรียนขอให้เขาค้นหาหรือซ่อมบางอย่างในโรงเรียน

ชมิดท์ผู้บ้าคลั่ง

Crazy Schmidt ( รับบทโดย Eddie Pepitone ) เป็นภารโรงที่ Greendale ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอารมณ์ประหลาดและไม่แน่นอนของเขา

เมอร์เรย์

เมอร์เรย์ ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ( แดน บัคเคดาห์ล ) เป็นสมาชิกของสมาคมซ่อมเครื่องปรับอากาศกรีนเดล เขาฆ่ารองคณบดีเลย์เบิร์น จนได้เป็นรองคณบดีคนใหม่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่ทรอยจะเปิดเผยความจริงว่าเขาคือ "ช่างซ่อมตัวจริง"

จ่าสิบเอก นูเญซ

จ่าสิบเอกนูเญซ ( เมล โรดริเกซ ) เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยกรีนเดล เจ้าหน้าที่ของนูเญซทั้งหมดลาออกเมื่อคณบดีเพลตันแจ้งว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีเงินจ่ายให้พวกเขาอีกต่อไปแล้ว และพวกเขาสามารถขอคืนได้เฉพาะหน่วยกิตในชั้นเรียนเท่านั้น นูเญซยังอยู่ต่อเพราะเขาต้องการใบรับรองการดำน้ำลึก และชางก็กลายมาเป็นลูกน้องคนใหม่ของเขา ในที่สุดเขาก็ลาออกหลังจากที่คณบดีเพลตันเข้าข้างชาง

คาร์ลและริชชี่

คาร์ล แบลตต์ (เจเรมี สก็อตต์ จอห์นสัน) และริชชี่ เคาน์ตี้ (แบรดี้ โนวัค) เป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของกรีนเดลสองคนที่มักจะเมาและไร้ความสามารถ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเป็นคนสบายๆ และเป็นมิตร แต่พวกเขาก็ได้ลดมาตรฐานของโรงเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าและไม่รู้ตัวเมื่อชางเข้ามาแทนที่คณบดี พวกเขาเกลียดโรงเรียนและขายโรงเรียนให้กับซับเวย์แซนด์วิช ในเวลาสั้นๆ ริชชี่ยังเชื่ออีกด้วยว่าเขาสามารถอ่านใจผู้คนได้

อื่น

มนุษย์กรีนเดล

Greendale Human Being เป็นมาสคอตของโรงเรียน ที่ "เป็นกลางทางชาติพันธุ์" ซึ่งสร้างและออกแบบโดย Pierce และ Dean Pelton ใน " Football, Feminism and You " แม้ว่าจะตั้งใจให้เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งการรวมกลุ่มและเพื่อหลีกเลี่ยงการเหยียดหยาม แต่รูปลักษณ์ที่ไร้ลักษณะนั้นก็ดูแปลกประหลาด อย่างเห็นได้ชัด เช่นกิมป์ สีเทาที่เป็นกลาง หรือ นักแสดง ชุดเซนไท มันปรากฏตัวในงานและโครงการต่างๆ มากมายที่สนับสนุนโดยคณบดีในฐานะมาสคอตของโรงเรียน ควันจากปากกาเมจิกที่ใช้กับชุดทำให้มันดูก้าวร้าวผิดปกติ เคยเห็นมันมีทั้งแบบผู้หญิงและเด็ก มีการเพิ่มไอเท็มต่างๆ ลงในชุด เช่น ปีกนางฟ้าสำหรับวันวาเลนไทน์ และน้ำแข็งย้อยใน " Regional Holiday Music " ซึ่งนักเรียนบอกว่าทำให้ดูน่าขนลุกยิ่งขึ้น ในตอนหนึ่งของDean Pelton's Office Hoursซีรีส์มินิเอพิโซดของคณบดีเผยให้เห็นว่ามาสคอตอย่างน้อยหนึ่งตัวเล่นโดยผู้หญิง

แอนเดร เบนเนตต์

Andre Bennett ( รับบทโดย Malcolm-Jamal Warner ) เป็นอดีตสามีของ Shirley และเป็นผู้จัดการร้าน ในปี 2008 เขานอกใจ Shirley กับนักเต้นระบำเปลื้องผ้าชื่อ Mysti และพวกเขาแยกทางและหย่าร้างกันในซีซันแรก เขาเป็นแฟนของเธออีกครั้งหลังจากรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ เขายังคงภักดีต่อเธอแม้ว่าจะค้นพบว่า Chang อาจเป็นพ่อก็ตาม (" Asian Population Studies ") สุดท้ายแล้วปรากฏว่าเด็กคนนั้นเป็นของ Andre และเขาก็แต่งงานใหม่กับ Shirley ในช่วงกลางซีซันที่สาม ในช่วงปฐมทัศน์ของซีซันที่ห้า " Repilot " Shirley เปิดเผยว่า Andre ทิ้งเธออีกครั้งและพาลูกๆ ไปด้วยเพราะเธอมัวแต่สนใจร้านแซนด์วิชของเธอที่ Greendale มากเกินไป จนละเลยครอบครัวของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ

อลัน คอนเนอร์

Alan Connor ( Rob Corddry ) เป็นทนายความและอดีตเพื่อนร่วมงานของ Jeff ที่เข้าร่วม เซสชัน Narcotics Anonymousที่ Greendale ซึ่งเขาเคยพบกับ Annie แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับกับ Jeff หลังจากที่พวกเขาพบกันอีกครั้งใน " การบัญชีสำหรับทนายความ " กลุ่มศึกษาก็รู้ว่าเขาส่งข้อความอีเมลไปยังสำนักงานกฎหมายของเขาเพื่อเปิดเผยข้อมูลประจำตัวของ Jeff ซึ่งทำให้เขาถูกไล่ออก Alan กลับมาใน "Introduction to Finality" โดยทำงานเป็นทนายความของ Pierce ในคดีศาลระหว่าง Pierce และ Shirley สำหรับเจ้าของร้านขายแซนด์วิชในโรงอาหาร Alan เปิดเผยว่าตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าสำนักงานกฎหมายที่ Jeff ทำงานอยู่และขู่ Jeff ว่าจะถอนคดีหรือไม่กลับมาทำงานที่สำนักงานกฎหมาย หลังจากสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจของ Winger Pierce ก็ไล่ Alan ออก และ Alan เปิดเผยว่าเขาส่งอีเมลที่ทำให้ Jeff ถูกตัดสิทธิ์จริง ซึ่ง Jeff ก็ขอบคุณเขา เขาปรากฏตัวอีกครั้งใน " Repilot " เมื่อเขาพยายามโน้มน้าวเจฟฟ์ให้ช่วยยื่นฟ้องกรีนเดล ซึ่งสุดท้ายเจฟฟ์ก็ปฏิเสธ

โกบี นาดีร์

โกบี นาดีร์ ( อิคบัล ธีบา ) เป็นพ่อของอาเบ็ด ซึ่งอาเบ็ดมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนกับเขา ในขณะที่นายนาดีร์ต้องการให้อาเบ็ดดูแล ร้าน ฟาลาเฟล ของครอบครัว อาเบ็ดก็วางแผนที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ อาเบ็ดยังคิดว่าโกบีโทษเขาที่แม่ทิ้งพวกเขาไป โกบีเป็นพ่อที่ปกป้องแต่ก็ชอบเถียง แต่เขาเรียนรู้ที่จะยอมรับว่าลูกชายต้องการการสร้างภาพยนตร์เพื่อแสดงออกถึงตัวเอง โกบีปรากฏตัวในรายการ Family Day และไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลี้ยงดูลูกชายแบบผ่อนปรนของเชอร์ลีย์ เขาเองก็ควบคุมอาบราหลานสาวของเขาเช่นกัน

นายตำรวจแค็กคอฟสกี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ Cackowski (Craig Cackowski  [de] ) เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ซึ่งมาเยี่ยม Greendale ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการปฏิบัติหน้าที่ ในตอนแรกเขาปรากฏตัวในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยก่อนที่จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างอธิบายไม่ถูก เขาเป็นเพื่อนกับศาสตราจารย์ Sean Garrity โดยเรียกเขาด้วยชื่อจริงของเขา เขาปรากฏตัวใน " The Science of Illusion " เพื่อสืบสวนศพที่ Britta หลุดออกจากห้องแล็บชีววิทยา ใน " Conspiracy Theories and Interior Design " เขาสอน Jeff และ Annie เกี่ยวกับอันตรายของการยิงปืนปลอม ต่อมาเขากลับมาในซีซั่น 3 เพื่อสืบสวนเจ้าของบ้านของ Troy และ Abed ใน " Foosball and Nocturnal Vigilantism " และใน "Curriculum Unavailable" เพื่อมอบหมายให้ Abed ไปหาจิตแพทย์ที่แอบเข้ามาใน Greendale Campus เพื่อสืบสวน Doppelganger ของคณบดีที่ Chang ควบคุมอยู่ Cackowski กลับมาอีกครั้งในตอน "Basic Email Security" ของซีซั่น 6 เพื่อช่วยสืบสวนการพยายามแฮ็กโรงเรียน โดยปฏิบัติต่อกลุ่มเพื่อนเก่าและแสดงท่าทีแปลกใจที่พวกเขาต้องการรักษาระยะห่างจากตำรวจที่พวกเขารู้จักมา 5 ปี ในตอนนั้น เขาแต่งตั้งเด็กคนหนึ่งชื่อ Warburton ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้า แผนก อาชญากรรมทางไซเบอร์ ของแผนกของเขา แม้ว่า Warburton จะจับได้ Ryan เพื่อนของเขาว่าเป็นผู้ร้ายในตอนท้ายของตอนก็ตาม ในตอน " Grifting 101 " เปิดเผยว่าเขากำลังเรียนวิชาที่ Greendale

สตีเว่น สเปร็ค

คณบดีสตีเวน สเปร็ค ( จอร์แดน แบล็ก ) เป็นคณบดีของซิตี้คอลเลจคู่แข่งซึ่งพยายามหลายครั้งเพื่อปิดกรีนเดล รวมถึงการยุยงให้เกิดสงครามเพนท์บอลเต็มรูปแบบในมหาวิทยาลัยกรีนเดล เช่นเดียวกับคณบดีเพลตัน เขาดูเหมือนจะมีรสนิยมทางเพศที่คลุมเครือ เขาปรากฏตัวสั้นๆ ในระหว่างการตัดต่อตอนท้ายซีซั่น 3 ซึ่งดูเหมือนว่าจะสร้างแผนการอื่นขึ้นมา ในซีซั่น 4 ตอน " Heroic Origins " เปิดเผยว่าเขากำลังทำงานร่วมกับชางเพื่อทำลายกรีนเดลและมีพิมพ์เขียวสำหรับแมงมุมเครื่องจักร ขนาดยักษ์ ความพยายามครั้งสุดท้ายของสเปร็คที่จะทำร้ายกรีนเดลเกิดขึ้นในซีซั่น 6 ตอน "Basic Crisis Room Decorum" แม้ว่าสเปร็คเองจะไม่ได้ปรากฏตัว แต่ซิตี้คอลเลจก็เปิดโฆษณาโจมตีที่ทำให้กรีนเดลเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยอ้างว่าพวกเขาให้ปริญญากับสุนัข เจฟฟ์และกลุ่มขัดขวางซิตี้คอลเลจอีกครั้งด้วยการปล่อยโฆษณาของพวกเขา ซึ่งแทนที่จะโจมตีสเปร็คกลับ กลับให้ความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาว่ากรีนเดลจำเป็นต้อง "จัดการเรื่องต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง" อย่างไร Spreck และ City College ไม่ได้ปรากฏตัวในซีรีส์อีกเลย อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกสงสัยในช่วงสั้นๆ ว่าว่าจ้างคนมาทำลาย Greendale ในเกมเพนท์บอลใต้ดินใน "Modern Espionage"

กิลเบิร์ต ลอว์สัน

Gilbert Lawson ( Giancarlo Esposito ) เป็นผู้ช่วยของ Cornelius Hawthorne ผู้ดำเนินการจัดการมรดก และลูกนอกสมรส (ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของ Pierce) ตามพินัยกรรมของ Cornelius เขาให้ Pierce และกลุ่มศึกษาเล่นเกม "Journey to the Center of Hawkthorne" เพื่อเรียกร้องมรดกของเขา เขาโกงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อ "ชนะ" เกม อย่างไรก็ตาม เมื่ออวตารวิดีโอของ Cornelius สั่งให้เขายอมรับว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของ Cornelius (เพื่อยืนยันการยืนกรานของ Cornelius ว่าครอบครัว Hawthorne เป็นคนผิวขาวทั้งหมด) เขาปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น Cornelius หันหลังให้กับ Gilbert ซึ่งจากนั้นก็ร่วมมือกับกลุ่มศึกษาเพื่อทำลาย Cornelius และชนะเกมจริงๆ เห็นอกเห็นใจเรื่องราวการปฏิบัติที่น่ารังเกียจและเหยียดเชื้อชาติของ Cornelius Pierce และกลุ่มอนุญาตให้ Gilbert เรียกร้องมรดกในตอน " Digital Estate Planning " ต่อมาเขาได้กลายเป็นเพื่อนร่วมห้องของ Pierce ในคฤหาสน์ของเขา ใน " Intro to Knots " แอนนี่พูดถึงการที่กิลเบิร์ตกำลังฝึกความอ่อนไหว ให้กับเพียร์ซ รวมถึงการชมภาพยนตร์เรื่อง Invictusด้วย

หน้าอกของแอนนี่

Annie's Boobs ( คริสตัล ) คือสัตว์เลี้ยงของลิงคาปูชิน ของทรอย Annie's Boobs ถูกตั้งชื่อโดยการแข่งขันที่จัดขึ้นผ่าน บัญชี Twitter ส่วนตัวของลิง Troy ยืนยันว่าบัญชีดังกล่าวเป็นของ Annie's Boobs ดังนั้นจึงไม่สามารถเปลี่ยนชื่อลิงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้มันยังเกลียดคาเวียร์ที่ Abed ซื้อให้ด้วย ตั้งแต่ที่ Abed ปล่อย Annie's Boobs ออกมา มันก็ใช้เวลาไปกับการรวบรวมสิ่งของที่กลุ่มศึกษาเป็นเจ้าของและเก็บไว้ในช่องระบายอากาศใกล้เคียง ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนหนึ่งของซีซั่น " Contemporary American Poultry "

ฟัคบาย

ฟัค-บาย ( เจพี มานูซ์ ) คือ คนเลียน แบบโมบี้ ที่ว่างงาน ซึ่งชางจ้างมาเพื่อเลียนแบบและเข้ามาแทนที่คณบดีหลังจากที่เขาเข้ามารับตำแหน่งคณบดีในโรงเรียน

ตัวละครรับเชิญ

  • พยาบาลแจ็กกี้ (แพตตัน ออสวอลต์ใน "เศรษฐศาสตร์ภายในบ้าน" และ "จิตวิทยาแห่งการปล่อยวาง") เป็นพยาบาลประจำโรงเรียนที่กรีนเดล เขาถือว่าตัวเองเป็นฮอว์กอายแห่งกรีนเดล
  • คอร์เนเลียส ฮอว์ธอร์น (โจ ฟรีอา ใน "Celebrity Pharmacology" และแลร์รี ซีดาร์ใน "Advanced Gay" และ "Digital Estate Planning") เป็นพ่อที่ชอบออกคำสั่งของเพียร์ซ คอร์เนเลียสเป็นพวกเหยียดผิว เกลียดคนรักร่วมเพศและแบ่งชนชั้น อย่างรุนแรง มี อคติและทัศนคติเหมารวมเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์เกือบทั้งหมด รวมทั้งชาวสวีเดนและชาวเวลส์คอร์เนเลียสสวมวิกผมที่แกะสลักจากงาช้างเพื่อหลีกเลี่ยงผมที่มาจาก "กลุ่มชาติพันธุ์ตะวันออก" เขาตำหนิเพียร์ซที่มีเพื่อนเป็นชาวยิวและแอฟริกัน-อเมริกัน และขายผ้าเช็ดทำความสะอาด Hawthorne ให้กับกลุ่ม LGBTเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายหลังจากที่เจฟฟ์บอกเขาว่าเขาเป็นทั้งพ่อที่แย่และไดโนเสาร์ที่รู้ทั้งโลก (รวมถึงลูกชายของเขา) เกลียดเขาและไม่ต้องการเขาอีกต่อไป คอร์เนเลียสถูกมองว่าอายที่เพียร์ซ ลูกชายของเขาทำตั้งแต่ยังเด็ก โดยปฏิเสธที่จะให้เพียร์ซไปออกโฆษณาทางโทรทัศน์หลังจากที่เขาสอบไม่ผ่าน คอร์เนเลียสมีลักษณะคล้ายกับพันเอกฮาร์แลนด์ แซนเดอร์สผู้ก่อตั้งและโฆษกของร้านไก่ทอดเคน ตักกี้มาก นี่คือสาเหตุที่ใน "Basic Rocket Science" เพียร์ซถึงกับคลั่งไคล้เมื่อพันเอกเยาะเย้ยเขา
  • เจเรมี ซิมมอนส์ ( แอรอน ฮิเมิลสไตน์ใน "Debate 109") เป็นนักศึกษาที่ City College ซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นคู่แข่งหลักของทีมโต้วาทีของ Greendale
  • ดอรีน (รับ บท โดยชารอน ลอว์เรนซ์ใน The Politics of Human Sexuality) เป็นสาวเอสคอร์ตที่เพียร์ซได้พบในชั้นเรียนการตลาดและต่อมาก็เริ่มคบหาดูใจกับเธอ หลังจากที่เธอทิ้งเขาไประหว่างงานเต้นรำของโรงเรียนที่กรีนเดล เขาจึงขอยืมเงินเพื่อจ่ายให้บริษัทของเธอ
  • ไมค์ ชิลาดา (รับ บท โดยแอนโธนี่ ไมเคิล ฮอลล์[25]ใน "ศาสนาเปรียบเทียบ") เป็นนักเลงที่กรีนเดล ซึ่งทะเลาะวิวาทกับกลุ่มศึกษาในช่วงก่อนคริสต์มาส เขากลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในช่วงสั้นๆ ในช่วงต้นเรื่อง " A Fistful of Paintballs " เพื่อไล่ตามแฟตนีล
  • บัดดี้ ออสติน ( แจ็ค แบล็ก[26]ใน "Investigative Journalism") เป็นนักเรียนที่ Greendale ซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลย แต่เขาเป็นสมาชิกชั้นเรียนภาษาสเปนของกลุ่มศึกษาที่สอนโดย Señor Chang เขาต้องการเข้าร่วมกลุ่มศึกษาอย่างมากและแม้ว่าเขาจะมีพฤติกรรมที่น่ารำคาญ แต่ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตาม เขาเข้าร่วมกลุ่มศึกษาที่เจ๋งกว่าซึ่งมี Star-Burns และนำโดยOwen Wilsonในบทบาทรับเชิญเมื่อเขารู้ว่าพวกเขาโหวตให้เขาเข้า
  • มาดาม เลอแคลร์ ( ทวิงก์ แคปแลนใน " Interpretive Dance ") เป็นศาสตราจารย์ด้านบัลเล่ต์ที่กรีนเดล
  • โค้ชเฮอร์เบิร์ต บ็อกเนอร์ ( เบลค คลาร์ก[27]ใน " Physical Education ") เป็นโค้ชพลศึกษาที่สอนบิลเลียดที่กรีนเดล เขาขัดแย้งกับเจฟฟ์ที่ปฏิเสธที่จะสวมกางเกงขาสั้นยิมตามกฎของกรีนเดลเมื่อเล่นพูล และทั้งสองก็เผชิญหน้ากันในการแข่งขันบิลเลียดซึ่งจบลงด้วยการเปลือยกาย
  • Rabbi Chang (Tom Yi  [Wikidata]ใน " Basic Genealogy ") เป็นพี่ชายคนโตของ Señor Chang ที่ชอบวิจารณ์ผู้อื่นและมีประวัติความสัมพันธ์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขระหว่างพวกเขา Rabbi Chang มองไม่เห็นความไม่สอดคล้องกันภายนอกของการเป็น Rabbi แต่ตำหนิ Señor Chang ให้เลิกทำตัวเป็นภาษาสเปน แม้ว่าพี่น้องสองคนนี้จะดูเหมือนมีความขัดแย้งกัน แต่ Señor Chang ก็เข้าไปช่วยเหลือพี่ชายและต่อสู้เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาเมื่อ Pierce คุกคาม Rabbi Chang อย่างไม่รู้ตัวระหว่างเล่นเกมPictionaryหลังจาก Señor Chang ถูกไล่ออก Rabbi Chang ก็ช่วยเขาโดยหางานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพิธีที่เขาเป็นผู้ประกอบพิธี
  • แอมเบอร์ ( แคธารีน แม็คฟีจากเรื่อง “Basic Genealogy”) เป็นลูกเลี้ยงเก่าของเพียร์ซคนหนึ่งในบรรดาลูกเลี้ยงทั้ง 32 คน ที่แสร้งทำเป็นชอบเขาและมางาน Family Day เนื่องจากเขาส่งเงินจำนวนมากมาให้เธอ เธอและเจฟฟ์มีใจให้กัน และทั้งสองเตรียมที่จะมีเซ็กส์กัน จนกระทั่งเจฟฟ์รู้ว่าเธอเอาเปรียบเพียร์ซอย่างไร
  • นานา บาร์นส์ ( รับบท โดย ฟราน เบนเน็ตต์ใน "Basic Genealogy") คือคุณย่าของทรอย ซึ่งเขาเกรงกลัวและหลีกเลี่ยง บริตตาแย้งว่าผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลและเคารพ แต่นานาโกรธมากที่ถูกเรียกว่าแก่ และยืนกรานที่จะตีบริตตาด้วยไม้เรียว
  • อาบรา (รับบทโดยเอมิลี่ กัมราวี จากเรื่อง “Basic Genealogy”) เป็นลูกพี่ลูกน้องของอาเบดที่สวมชุดบุรคา ปิดบัง ร่างกาย แม้โกบี ลุงของเธอจะขอร้อง แต่เธอก็แอบหนีออกไปเพื่อถอดชุดบุรคาและสนุกสนานในวันครอบครัวที่กรีนเดล แต่เชอร์ลีย์ช่วยแอบหนีกลับมาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
  • ศาสตราจารย์แมเรียน ฮอลลี ( โทนี่ เฮล[28]ใน "Beginner Pottery") เป็นอาจารย์สอนเครื่องปั้นดินเผาที่กรีนเดล แม้ว่าชั้นเรียนของเขาจะดูง่ายและผ่านเกณฑ์ แต่เขามีนโยบายไม่ยอมรับนักเรียนที่พูดพาดพิงถึงฉากเครื่องปั้นดินเผาจากภาพยนตร์เรื่องGhost ในปี 1990 (ซึ่งเขาเรียกว่า "Ghosting") อย่างตลกขบขัน และทำให้เกิดความขัดแย้งกับเจฟฟ์ เขาเคยเรียกนักเรียนในชั้นเรียนว่า "บลูเบอร์รี่ของฉัน"
  • พลเรือเอกลี สลอเตอร์ ( ลี เมเจอร์สจากเรื่อง “Beginner Pottery”) เป็นครูสอนพายเรือที่โรงเรียนกรีนเดลผู้เคร่งครัด โดยสอนเรือใบในลานจอดรถของโรงเรียน
  • เท็ด ( รับบทโดยดรูว์ แครี่ใน "Accounting for Lawyers") คืออดีตเจ้านายของเจฟฟ์ เขาก่อตั้งสำนักงานกฎหมายของแฮมิชและแฮมลินขึ้นเพื่อที่คนรอบข้างจะไม่ต้องสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับรูลึกลับที่มือขวาของเขา เขากับเจฟฟ์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างที่เห็นได้จากการที่เขาเสนอตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับเจฟฟ์ในขณะที่เจฟฟ์ยังเป็นนักศึกษาที่กรีนเดล ใน "Introduction to Finality" อลัน คอนเนอร์อ้างว่าเท็ดเสียชีวิตแล้ว (จากการถูกฉลามกิน) และอลันเป็นหัวหน้าสำนักงานในปัจจุบัน แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน
  • เมแกน ( รับบทโดยฮิลารี ดัฟฟ์ในภาพยนตร์เรื่อง “Aerodynamics of Gender”) เป็นหัวหน้ากลุ่ม “สาวแสบ” ที่กรีนเดล ซึ่งขัดแย้งกับบริตตา แอนนี่ เชอร์ลีย์ และอาเบ็ด
  • โจชัว ( แมตต์ วอลช์จากเรื่อง "Aerodynamics of Gender") เป็นผู้ดูแลพื้นที่ของโรงเรียนกรีนเดล ซึ่งแอบมีแทรมโพลีนยักษ์อยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยให้ผู้คนรู้สึกสงบทางจิตใจเมื่อกระโดดขึ้นไปบนแทรมโพลีนนั้น แม้ว่าเขาจะยอมบอกเจฟฟ์และทรอยอย่างไม่เต็มใจและกระโดดขึ้นไปบนแทรมโพลีนนั้น แต่เขาก็ถูกไล่ออกเมื่อเพียร์ซไปบอกคนอื่นๆ ในโรงเรียนหลังจากที่เขาขาหัก ปรากฏว่าเขาเป็นพวกเหยียดผิวอย่างแรง
  • LeVar Burtonปรากฏตัวใน "Intermediate Documentary Filmmaking" เมื่อ Pierce จ้างให้เขาไปพบกับ Troy แม้จะมอง Burton เป็นแบบอย่าง แต่เขาก็หวังว่าจะไม่พบเขาเป็นการส่วนตัวเพราะกลัวจะทำให้เขาผิดหวัง LeVar ยังช่วยให้ Britta ตระหนักว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีแต่ไม่ค่อยเก่งเรื่องเงิน ใน "Geothermal Escapism" เขาร่วมเดินทางรอบโลกกับ Troy แม้ว่าใน " Analysis of Cork-Based Networking " จะเปิดเผยว่าโจรสลัดจับพวกเขาไป
  • Paige ( รับ บทโดย Brit Marlingใน "Early 21st-Century Romanticism") เป็นนักเรียนที่ Greendale และเป็นเพื่อนกับ Britta Britta เชื่อว่า Paige เป็นเลสเบี้ยนและใช้ความเป็นเพื่อนกับ Paige เพื่อแสดงถึงความเปิดกว้างของเธอ Annie ได้รู้จากเพื่อนของ Paige ว่า Paige เป็นคนรักต่างเพศและสนใจ Britta ด้วยเหตุผลหลักๆ เดียวกับที่ Britta สนใจเธอ ในที่สุด Britta และ Paige ก็ตระหนักได้ว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นเลสเบี้ยนและทะเลาะกัน
  • เจ้าหน้าที่พิเศษโรบิน โวห์เลอร์ส ( รับบท โดยเอลิซา คูเปอร์ใน "Intro to Political Science") เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองไร้อารมณ์ ซึ่งคอยสอดส่องดูแลกรีนเดลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ การมาถึงของ รองประธานาธิบดี โจ ไบเดนเธอได้พบกับอาเบ็ดและรู้สึกสนใจ ซึ่งเธอมีความคล้ายคลึงกับอาเบ็ดหลายประการ ทั้งสองดูเหมือนจะพัฒนาความรู้สึกให้กันมากพอที่โวห์เลอร์สจะพยายามทำให้เขาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เพื่อที่เธอจะได้ใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น ในขณะที่อาเบ็ดอ้างว่าเขาสามารถทำเนปาล์มจากสบู่ล้างจานและอาหารแมวทางโทรทัศน์ได้ เพื่อที่เธอจะได้สังเกตเขา พวกเขาลงเอยด้วยการ "ออกเดต" ดูคิกพันเชอร์โดยโวห์เลอร์สเฝ้าดูผ่านกล้องส่องทางไกลจากรถตู้ของเธอในลานจอดรถหลังจากดักฟังห้องของอาเบ็ด
  • ศาสตราจารย์ปีเตอร์ เชฟฟิลด์ ( สตีเฟน โทโบโลฟสกี้ใน " การชิมไวน์เชิงแข่งขัน ") เป็นศาสตราจารย์ที่กรีนเดล ผู้จุดชนวนความขัดแย้งทางวิชาการกับอาเบ็ด เขาเป็นผู้เขียนWho Indeed?และWhat Was Happening?ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์วิจารณ์ซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องWho's the Boss?และWhat's Happening!!เช่นเดียวกับดร. ดันแคน ทฤษฎีทางวิชาการและความภาคภูมิใจของเขาถูกทำลายลงในที่สุดด้วยความสามารถพิเศษของอาเบ็ด
  • Lukka ( Enver Gjokajจากเรื่อง " Custody Law and Eastern European Diplomacy ") เป็นเพื่อนนักเรียนที่เป็นเพื่อนกับ Abed และ Troy เธอคบกับ Britta และกลายเป็นอาชญากรสงคราม
  • The Black Rider ( รับบทโดย Josh HollowayในA Fistful of Paintballs ) คือมือปืนเพนท์บอลมืออาชีพที่ลึกลับซึ่งถูกจ้างโดย City College เพื่อชนะการแข่งขันเพนท์บอลในช่วงท้ายของซีซั่นที่ 2 เขาเรียนหลักสูตรออนไลน์ที่ Greendale และทำให้ Jeff โกรธ ซึ่งรู้สึกไม่มั่นคงเมื่ออยู่ใกล้เขาเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาของเขา หลังจากได้คะแนนจากกลุ่มเรียนเพนท์บอล เขาก็ถูกหลอกให้ลดความระมัดระวังลงโดยอาการหัวใจวายปลอมของ Pierce และถูกคัดออกจากเกม
  • ศาสตราจารย์คลิกอริส ( มาร์ติน สตาร์จาก " ภูมิศาสตร์แห่งความขัดแย้งระดับโลก ") เป็นครูสอนประวัติศาสตร์ที่กรีนเดล ผู้ช่วยแอนนี่ก่อตั้งสาขาขององค์การสหประชาชาติจำลอง ของโรงเรียน เขาหลงใหลในประวัติศาสตร์ขององค์การสหประชาชาติจำลอง
  • หลุยส์ กุซมันเป็นศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรีนเดล และปรากฏตัวในตอน " Documentary Filmmaking: Redux " เพื่อช่วยถ่ายทำโฆษณาทางทีวีชุดใหม่ของวิทยาลัย ก่อนหน้านี้ คณบดีได้ว่าจ้างให้สร้างรูปปั้นของเขาในวิทยาลัยกรีนเดลใน " Advanced Criminal Law " ในฐานะกลุ่มศึกษา กุซมันยอมรับว่าวิทยาลัยชุมชนกรีนเดลมีฐานะต่ำต้อย แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะช่วงเวลาดีๆ ที่เขาเคยมีที่นั่น (ช่วงเวลาดีๆ ของเขาที่นั่นเกี่ยวข้องกับการที่เขา "มีเซ็กส์อย่างบ้าคลั่ง")
  • เจอร์เกน ( รับบทโดย นิค โครลล์ใน "ฟุตบอลโต๊ะและวีกิลแลนติสม์") เป็นหัวหน้าแก๊งนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวเยอรมันที่กรีนเดล ที่เอาชนะเจฟฟ์ในการเล่นฟุตบอลโต๊ะได้
  • ศาสตราจารย์ Cory Radison ( รับ บทโดย Taran Killamใน " Regional Holiday Music ") เป็นครูสอนชมรมร้องเพลงที่ Greendale ซึ่งดูร่าเริงสดใสแต่กลับมีสมาธิจดจ่ออย่างน่าประหลาดใจ เมื่อชมรมร้องเพลงปัจจุบันเกิดอาการเครียด เขาจึงคัดเลือกกลุ่มเรียนมาแทนกลุ่มที่เข้าร่วมประกวดร้องเพลงในเทศกาลวันหยุด ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงกัน แต่เขาออกจากโรงเรียนเมื่อพบว่าเขาเป็นสาเหตุให้รถบัสชนกันจนทำให้ชมรมก่อนหน้านี้ต้องปิดตัวลง เพื่อให้เข้ากับ การล้อเลียน เรื่อง Gleeเขาจึงมักเรียกตัวเองว่า "Mr. Rad"
  • วินนี่ ( รับบทโดยเฟรนช์ สจ๊วร์ตจากเรื่อง Celebrity Impressionists) เป็นผู้จัดการของ The Doppel Gang บริษัทที่ให้เช่าผู้แสดงเลียนแบบคนดัง ซึ่งเคยเลียนแบบเฟรนช์ สจ๊วร์ตมาก่อน เมื่ออาเบ็ดมีหนี้สินจากการใช้บริการของเขามากเกินไป วินนี่จึงให้กลุ่มคนเหล่านี้ทำงานให้กับเขาในงานบาร์มิตซ์วาห์
  • Subway ( Travis Schuldt ใน "Digital Exploration of Interior Design" (ตอนที่ 1)) เป็นชายที่ Subwayจ้างให้มาทำงานที่ Greendale เพื่อที่พวกเขาจะได้เปิดสาขาที่นั่น หลังจากเปลี่ยนชื่อจาก Rick อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เขาก็แหกกฎของบริษัทเมื่อตกหลุมรัก Britta และบริษัทก็เข้ามาแทนที่เขาในที่สุด เขายังเป็นสัญลักษณ์ของทฤษฎีของ Britta ที่ว่าองค์กรสมัยใหม่ "มีรูปร่างเหมือนมนุษย์" เขาปรากฏตัวอีกครั้งในตอน " Advanced Safety Features " คราวนี้เขาเป็นตัวแทนของHondaในแคมเปญการตลาดแบบกองโจร
  • เบลด ( เคิร์ก ฟ็อกซ์จากเรื่อง Origins of Vampire Mythology) แฟนเก่าของบริตตาที่ทำงานในเทศกาลคาร์นิวัล เจฟฟ์เริ่มอิจฉาเสน่ห์ดึงดูดที่อธิบายไม่ได้ของเขา
  • ดร. ไฮดี้ ( จอห์น ฮอดจ์แมนใน " หลักสูตรไม่พร้อมใช้งาน ") จิตแพทย์ปลอมที่ชางจ้างมาเพื่อให้กลุ่มศึกษาอยู่ห่างจากโรงเรียน
  • ศาสตราจารย์อัลเบรชท์ ( เดวิด เซนต์เจมส์ใน "หลักสูตรไม่มีให้บริการ" และ " บันได ") ศาสตราจารย์ที่สอนชั้นเรียนเกี่ยวกับบันไดที่โรงเรียนกรีนเดล
  • Alter-Pierceเป็นซิทคอมเวอร์ชันของ Pierce ที่รับบทโดยนักแสดงเฟรด วิลลาร์ดในจินตนาการสี่กล้องของอาเบ็ดใน " History 101 "
  • โทบี้ วีคส์ (รับ บทโดย แมตต์ ลูคัสจากเรื่อง "Conventions of Space and Time") เป็นแฟนตัวยงของนักสืบอวกาศและกาล เวลา เขาพยายามลักพาตัวอาเบ็ดที่งานประชุม แต่ทรอยกลับขัดขวางไว้ได้
  • จอร์จและเด็บบ์ เพอร์รี ( มาร์ติน มัลล์และเลสลีย์ แอนน์ วาร์เรนใน "การบำรุงรักษาเครื่องตัดหญ้าและการดูแลหลังคลอด" และ "คุณลักษณะด้านความปลอดภัยขั้นสูง) เป็นพ่อแม่ของบริตตา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับส่วนที่เหลือของกลุ่มมากกว่าที่เธอเคยมีมาก
  • ไรน์โฮลด์ (รับ บท โดยคริส เดียมานโทปูลอสใน "ประวัติศาสตร์ทางเลือกของการรุกรานของเยอรมัน") เป็นพี่ชายของเจอร์เกน ผู้ซึ่งต้องการแก้แค้นกลุ่มศึกษาโดยการจองโต๊ะศึกษาของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่พวกเขาจะทำได้
  • คาร์ล (รับบทโดยอเล็กซ์ เชมเมอร์ จากเรื่อง Foosball and Nocturnal Vigilantism และ Alternate History of the German Invasion) เป็นสมาชิกของกลุ่มนักเรียนชาวเยอรมัน เขาได้กลายเป็นเพื่อนของอาเบ็ดหลังจากที่เปิดเผยว่าเขามีตัวละครชื่อ "ดร. บลิตซ์" ซึ่งช่วยตัวละครของอาเบ็ดชื่อ "สเปซไทม์เมอร์ 8032" เอาไว้ในเกมออนไลน์ Spawncraft เขาชื่นชอบบลูทเวิร์สท์มาก
  • ลูคัส (รับบทโดยอเล็กซ์ ไคลน์ จาก Foosball and Nocturnal Vigilantism และ Alternate History of the German Invasion) เป็นสมาชิกของกลุ่มนักเรียนชาวเยอรมัน เขาชื่นชอบบอลลูนลุฟท์มาก
  • วิลเลียม วิงเกอร์ ซีเนียร์ ( เจมส์ โบรลินใน " Cooperative Escapism in Familial Relations ") เป็นพ่อที่ห่างเหินของเจฟฟ์ ซึ่งทอดทิ้งแม่และตัวเขาเองตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก การจากไปของวิลเลียมเป็นสาเหตุของปัญหาทางอารมณ์มากมายของเจฟฟ์ และตลอดซีรีส์ส่วนใหญ่ เจฟฟ์ต้องดิ้นรนหาทางติดต่อเจฟฟ์หรือไม่ ในที่สุดพวกเขาก็ใช้เวลาวันขอบคุณพระเจ้าด้วยกันในซีซันที่ 4 เมื่อเปิดเผยว่าวิลเลียมเป็นภาพสะท้อนของเจฟฟ์จากช่วงต้นซีรีส์ที่กล้าหาญและห่างเหินทางอารมณ์ หลังจากลังเลอยู่บ้าง ในที่สุดเจฟฟ์ก็เผชิญหน้ากับวิลเลียมเกี่ยวกับการจากไปของเขาที่ทำให้เขาเจ็บปวด
  • วิลเลียม วิงเกอร์ จูเนียร์ ( อดัม เดอวีนใน "Cooperative Escapism in Familial Relations") เป็นน้องชายต่างมารดาของเจฟฟ์ ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามีอยู่จนกระทั่งซีซั่นที่ 4 ชายหนุ่มอารมณ์อ่อนไหวที่ติดอยู่ในภาวะพัฒนาการหยุดชะงัก เขาถูกเลี้ยงดูเพียงลำพังโดยพ่อที่ไม่รักลูกหลังจากแม่ของเขาเสียชีวิต และยังคงอาศัยอยู่ที่บ้าน
  • อาร์ชี เดอคอสต์ ( แซ็ก เพิร์ลแมนใน "เศรษฐศาสตร์ของชีววิทยาทางทะเล") เป็นนักสูบกัญชาที่เอาแต่ใจจากครอบครัวที่ร่ำรวย ซึ่งคณบดีพยายามล่อมาที่กรีนเดลในฐานะ "ปลาวาฬ"
  • โค้ชเจสัน แชปแมน ( เอียน โรเบิร์ตส์ใน "เศรษฐศาสตร์ของชีววิทยาทางทะเล") เป็นครูสอนพละศึกษาที่จริงจังในโรงเรียนกรีนเดล ซึ่งสอนทรอยและเชอร์ลีย์ในชั้นเรียน "PEE" ของเขา
  • ไกด์บอลลูน ( ซาร่า บาเรลเลสใน "บทนำสู่ Felt Surrogacy") ผู้ควบคุมบอลลูนลมร้อนที่กลุ่มศึกษาทำการตก
  • Mountain Man ( เจสัน อเล็กซานเดอร์จากเรื่อง "Intro to Felt Surrogacy") เป็นศิษย์เก่าของ Greendale ที่เป็นมิตรแต่ลึกลับ เขาอาศัยอยู่ในป่า กลุ่มนักเรียนบังเอิญไปพบเขาเมื่อพวกเขาขับบอลลูนลมร้อนเข้าไปในป่า
  • มาร์ก ( โจ โล ทรูกลิโอใน "Heroic Origins" และ "Advanced Introduction to Finality") คือหนึ่งในหุ้นส่วนเก่าของเจฟฟ์จากสำนักงานกฎหมายเก่าของเขา โดยเขาใช้ชื่อเล่นว่า "แคช" เป็น "แทงโก้" ของเจฟฟ์ ใน "Advanced Introduction to Finality" เขาเสนอหุ้นส่วนให้กับเจฟฟ์ในสำนักงานกฎหมายของเขา โดยอ้างว่าเจฟฟ์ยังคงเป็นทนายความที่เก่งกาจ ต่อมาเจฟฟ์ปฏิเสธข้อเสนอของมาร์ก โดยเลือกที่จะมองหาสำนักงานอื่นที่ใกล้กับกรีนเดลแทน เพื่อที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับกลุ่มศึกษา
  • มิสเตอร์สโตน ( รับบท โดยวอลตัน กอกกินส์ใน "Cooperative Polygraphy") เป็นชายที่ดูเข้มแข็งซึ่งเพียร์ซจ้างมาเพื่อทำการทดสอบเครื่องจับเท็จให้กับกลุ่มศึกษา เมื่อแดน ฮาร์มอนเป็นเจ้าภาพในการอ่านไพ่สำหรับตอนนี้ มิสเตอร์สโตนรับบทโดยเปโดร ปาสกาล
  • บ็อบ เวต ( รับบทโดย นาธาน ฟิลเลียนใน "การวิเคราะห์เครือข่ายคอร์ก" และ "บันได") เป็นหัวหน้าภารโรงที่กรีนเดล แม้ว่าเขาจะเป็นนักการเมืองที่เก่งกาจ แต่ความกังวลหลักประการหนึ่งของเขาคือความยากลำบากในการเข้าถึงสื่อลามกอนาจารออนไลน์ในมหาวิทยาลัย
  • Lapari ( Kumail Nanjianiใน "การวิเคราะห์เครือข่ายที่คอร์ก" และ "การจารกรรมสมัยใหม่") เป็นรองผู้ดูแลที่ Greendale หลังจากปรากฏตัวในช่วงสั้นๆ ในตอนแรก เขากลับมาอย่างโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อเขาทำงานลับๆ กับ City College เพื่อวางแผนเกมนักฆ่าเพนท์บอลในมหาวิทยาลัย Greendale
  • Debra Chambers ( Paget Brewsterใน "การวิเคราะห์เครือข่ายที่ใช้คอร์ก") เป็นหัวหน้าแผนกไอทีที่ Greendale
  • Waldron ( โรเบิร์ต แพทริกใน "การวิเคราะห์ระบบเครือข่ายที่ใช้คอร์ก") เป็นหัวหน้าแผนกที่จอดรถที่ Greendale
  • แคโรล ( รับบท โดยเคธี่ เลอแคลร์ใน "การวิเคราะห์เครือข่ายคอร์ก") เป็นนักเรียนหูหนวกที่กรีนเดล เธอเป็นเพื่อนกับอาเบ็ด แต่ต่อมามีการเปิดเผยว่าบริตตาจ่ายเงินให้เธอเป็นเพื่อนกับอาเบ็ด จากนั้นจึงทำลายรายการโปรดของเขาที่ชื่อBloodlines of Conquestเพื่อแก้แค้นที่อาเบ็ดทำลายรายการเดียวกันให้กับบริตตา
  • Koogler ( Mitchell Hurwitzใน " App Development and Condiments " และ "Modern Espionage") เป็นนักเรียนวัยกลางคนที่ชอบสังสรรค์ที่ Greendale ซึ่งท่าทางของเขาชวนให้นึกถึงตัวละครในเรื่องCaddyshackและAnimal Houseความนิยมและไลฟ์สไตล์ของเขาไม่สอดคล้องกับวัยของเขา
  • เดวอน ( วินซ์ กิลลิแกนใน " VCR Maintenance and Educational Publishing ") เป็นนักแสดงที่กำลังดิ้นรนและเป็นพิธีกรของเกมวิดีโอ VCR Pile of Bullets
  • แฮงค์ ฮิกกี้ ( เดวิด ครอสจาก " Advanced Advanced Dungeons & Dragons ") เป็นลูกชายที่ห่างเหินจากบัซ ฮิกกี้ เขาเป็นผู้เล่นDungeons & Dragons ที่มีประสบการณ์
  • โรนัลด์ โมฮัมเหม็ด (รับ บทโดย ไมเคิล แมคโดนัลด์จากเรื่อง "Basic Story") เป็นเจ้าหน้าที่ประเมินราคาประกันภัยผู้แปลกประหลาดที่ประเมินมูลค่าของกรีนเดลในฐานะทรัพย์สิน ซึ่งทำให้โรงเรียนแห่งนี้ถูกขายให้กับSubway Sandwiches
  • รัสเซลล์ บอร์เชิร์ต ( รับบทโดย คริส เอลเลียตในภาพยนตร์เรื่อง "Basic Sandwich") เป็นคณบดีคนแรกของกรีนเดลและเป็นศาสตราจารย์ด้านคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เขาอาศัยอยู่กับแฟนสาวหุ่นยนต์ในโรงเรียนกรีนเดลอย่างลับๆ มานานหลายทศวรรษ คาดว่าอาคารบอร์เชิร์ต (ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำของกรีนเดล) ตั้งชื่อตามเขา
  • ศาสตราจารย์โรเจอร์ เดอซัลโว ( แมตต์ เบอร์รี่จาก "Grifting 101") เป็นนักต้มตุ๋นที่เรียกตัวเองว่าครูสอนวิชาต้มตุ๋นที่กรีนเดล ซึ่งก็ถือเป็นการต้มตุ๋นเช่นกัน คณบดีเพลตันไล่เขาออกหลังจากพยายามหลอกล่อให้กรีนเดลเสียเงิน 50,000 ดอลลาร์โดยอ้างว่าได้รับบาดเจ็บ
  • สเตซี่ ( รับบท โดยเอริน แม็กกาธีใน Wedding Videography) หญิงสาวที่แกเร็ตต์ขอแต่งงานและแต่งงานด้วย ซึ่งต่อมากลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา อย่างไรก็ตาม ชางสนับสนุนให้พวกเขาแต่งงานกันต่อไป แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งพวกเขาก็ตกลงที่จะทำ
  • บริกส์ แฮตตัน ( แมตต์ กอร์ลีย์ใน "Wedding Videography") เป็นตัวละครสมมติที่อธิบายให้ผู้ชมฟังว่าเขาได้ค้นคว้าเกี่ยวกับการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง และพบว่ากฎหมายของรัฐเกี่ยวกับหัวข้อนี้ไม่สอดคล้องและล้าสมัย เขาเปิดเผยว่าผู้เขียนรายการอนุญาตให้เขาพูดถึงหัวข้อนี้ได้ก็ต่อเมื่อเขาระบุตัวตนว่าเป็นผู้เขียนในตอนจบของตอนเท่านั้น
  • ไอซ์คิวบ์เฮด (พากย์เสียงโดยจัสติน โรแลนด์ใน "Emotional Consequences of Broadcast Television") เป็นสมาชิกในจินตนาการของคณะกรรมการกิจกรรมที่ปรากฏตัวในวิสัยทัศน์ของชางเกี่ยวกับซีซันที่ 7 ที่เป็นไปได้ เขาเป็นตัวละครแอนิเมชั่นที่มีหัวเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ มีพลังวิเศษ และกินโทรศัพท์มือถือได้
  • สครันช์ ( รับบทโดย เซธ กรีนใน "ผลที่ตามมาทางอารมณ์ของโทรทัศน์") เป็นสมาชิกในจินตนาการของคณะกรรมการกิจกรรม เขาปรากฏตัวในนิมิตของเจฟฟ์เกี่ยวกับความยากลำบากในชีวิตของเขาที่กรีนเดลหากเพื่อนๆ ของเขาออกไปหมด สครันช์ยืนกรานว่างานของเจฟฟ์คือทำงานทั้งหมด ในขณะที่งานของคนอื่นๆ ในกลุ่มคือ "ปาร์ตี้"

ตัวละครสมมติภายในชุมชน

ผู้ตรวจสอบกาลอวกาศ

Inspector Spacetime (Travis Richey) เป็นตัวเอกในรายการโทรทัศน์แนววิทยาศาสตร์ของอังกฤษชื่อInspector Spacetimeที่ออกอากาศมาเป็นเวลากว่า 50 ปีและมีความคล้ายคลึงกับDoctor Who มาก (ทั้งสองรายการเป็นรายการโทรทัศน์แนววิทยาศาสตร์ของอังกฤษที่ออกอากาศมาประมาณ 50 ปี) โดยมี Constable Reggie ซึ่งเป็นลูกน้องของเขา (คล้ายกับเพื่อนร่วมงานในเรื่องDoctor Who ) เดินทางข้ามอวกาศและกาลเวลาด้วยตู้โทรศัพท์สีแดงคล้ายTARDISขณะต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเช่น "Blorgons" ซึ่งคล้ายกับDaleks Troy และ Abed กลายเป็นแฟนตัวยงตั้งแต่ซีซั่นที่ 3 และมักจะเลียนแบบ Reggie และ Inspector

นายตำรวจเรจจี้

ตำรวจเรกกี (เดอร์วิน เรกกี) เป็นตัวละครรองในInspector Spacetimeซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของ Inspector แตกต่างจาก Inspector ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาว เรกกีเป็นมนุษย์

คิกพันเชอร์

Kickpuncher ( เดเร็ค เมียร์ส ) ผู้มีหมัดที่ทรงพลังราวกับการเตะ เป็นฮีโร่หลักในภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดเชยหลายเรื่องที่ทรอยและอาเบดชอบล้อเลียนในขณะที่ยังคงเป็นแฟนของเขาอยู่ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการเสริมพลังด้วยไซเบอร์เนติกส์ ซึ่งชวนให้นึกถึงRoboCopชื่อจริงของเขาคือเดวิด ในบรรดาศัตรูของเขา ตามแท็กตอนจบที่ทรอยแกล้งทำเป็น Kickpuncher คือ Punchkicker (รับบทโดยอาเบด)

นักบินเฮลิคอปเตอร์

นักบินเฮลิคอปเตอร์ ( แอนดี้ ดิก ) เป็นชายร่างเล็กที่เพียร์ซเกิดภาพหลอนเมื่อเขากินยาแก้ปวดหลังจากขาหักเพราะเล่นแทรมโพลีนใน " Aerodynamics of Gender " ในตอนแรกเขาปรากฏตัวขณะบังคับโดรนของเพียร์ซและยุให้เขาละเลยคำแนะนำเรื่องขนาดยาที่เขามีให้ เขามักจะให้คำแนะนำที่ไม่ดีกับเพียร์ซ จนทำให้เขาติดยาแก้ปวดและใช้ยาเกินขนาดใน " Early 21st Century Romanticism "

อาเบ็ดผู้ชั่วร้าย

อาเบ็ดผู้ชั่วร้าย ( แดนนี่ ปูดี้ ) เป็น (นัยว่า) ร่างที่อาเบ็ดสร้างขึ้นเองซึ่งคอยทรมานอาเบ็ดให้เป็นศัตรูของเขา อาเบ็ดมีลักษณะเหมือนกับอาเบ็ดทุกประการ ยกเว้นเคราที่ดูชั่วร้าย เขามาจากไทม์ไลน์ที่มืดมนที่สุดในตอน " Remedial Chaos Theory " และกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอน " Contemporary Impressionists " เขากลับมาเพื่อแก้แค้นอาเบ็ดและกลุ่มศึกษาในตอนจบของซีซั่น 3 " Introduction to Finality " เขายังปรากฏตัวใน " Advanced Introduction to Finality " ซึ่งเผยให้เห็นว่าเขาเลิกคิดที่จะชั่วร้ายแล้ว เคราของเขาเลียนแบบเคราของ "Mirror Spock " ในตอนคลาสสิกของ Star Trek " Mirror, Mirror "

กลุ่มศึกษาความชั่วร้าย

นอกจาก Evil Abed แล้ว ยังมีกลุ่มศึกษาในไทม์ไลน์ที่มืดมนที่สุดด้วย ซึ่งประกอบด้วย Evil Jeff ( Joel McHale ), Evil Annie ( Alison Brie ), Evil Troy ( Donald Glover ), Evil Britta ( Gillian Jacobs ), Evil Shirley ( Yvette Nicole Brown ) และ Evil Pierce ( Chevy Chase ) ซึ่งทั้งหมดปรากฏตัวใน " Remedial Chaos Theory " ซึ่งในตอนท้ายของตอนนี้ได้เปิดเผยว่า Evil Pierce ได้เสียชีวิตแล้ว และ Evil Annie ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวช Greendale ใน " Intro to Knots ", Evil Jeff ปลดปล่อย Evil Annie จากโรงพยาบาลจิตเวช Greendale และแจ้งให้เธอทราบถึงแผนที่จะโจมตี "Prime Timeline" ใน " Advanced Introduction to Finality ", Jeff จินตนาการถึงสถานการณ์ที่กลุ่มศึกษาในความชั่วร้าย ซึ่งรวมถึง Evil Pierce ที่เปิดเผยว่าเขาแกล้งทำความตาย ข้ามไปยัง "Prime Timeline" เพื่อพยายามสร้างความขัดแย้งในกลุ่มศึกษา

ดอปเปิลดีนเนอร์และอีวิลชาง

Dopple-deaner ( JP Manoux ) และ Evil Chang ( Ken Jeong ) คือคู่หูในไทม์ไลน์ที่มืดหม่นที่สุดของ Dean Pelton และ Ben Chang ซึ่งปรากฏตัวสั้นๆ ในตอนจบซีซั่น 4 " Advanced Introduction to Finality "

ตัวละครในเว็บไอโซด

  • ดร. แพต อิซัคสัน ( รับบท โดยแดน ฮาร์มอนใน "The Five A's of Greendale") เป็นคณบดีฝ่ายรับสมัครนักศึกษาของ Greendale ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิดและอารมณ์ร้อน และเป็นศาสตราจารย์ด้านการศึกษาสตรี ชายที่มีหนวดเคราเป็นดาราในซีรีส์วิดีโอเกี่ยวกับการรับสมัครนักศึกษาของ Greendale
  • บรอดี้ ลีตซ์ ( รับบทโดยแรนดัล พาร์คจากเรื่อง "The Five A's of Greendale") เป็นประธานนักเรียนของ Greendale ต่อมาพาร์คปรากฏตัวในซีซันที่ 6 ของรายการโดยรับบทเป็นตัวเขาเอง

หมายเหตุ

  1. ^ ใน " หมอนและผ้าห่ม " รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติการรักษาของเพียร์ซ (รวมถึงที่อยู่อาศัยและวันเดือนปีเกิด) ระบุว่าชื่อเต็มของเขาคือ"เพียร์ซ คอร์เนเลียส ฮอว์ธอร์น "

อ้างอิง

  1. ^ โดย White, Peter (30 กันยายน 2022). "ในที่สุดภาพยนตร์ 'Community' ก็กลายเป็นเรื่องจริง เนื่องจาก Peacock สั่งปิดท้ายด้วยดาราดั้งเดิม" กำหนดส่ง . สืบค้นเมื่อ30 กันยายน 2022
  2. ^ Hermanns, Grant. "Original Community Star's Movie Return Finally Confirmed As Filming Start Nears". Screen Rant . สืบค้นเมื่อ21 กุมภาพันธ์ 2024
  3. ^ Peralta, Diego. "Donald Glover Confirms His Involvement in the 'Community' Movie". Collider สืบค้นเมื่อ21 กุมภาพันธ์ 2024
  4. ^ "Community TV – Joel McHale". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  5. ^ แจ็คสัน, จอช (5 ธันวาคม 2011). "20 ตัวละครทีวีที่ดีที่สุดในปี 2011" รายการประจำวัน . วาง . เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 มิถุนายน 2013 . สืบค้นเมื่อ29 มีนาคม 2013 . อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็ชัดเจนขึ้นว่าเขาเป็นศูนย์กลางอารมณ์ของรายการ ทุกคนรอบตัวเขาต่างก็มีอาการไม่สบายใจเล็กน้อย และเขาจะเป็นคนคอยประคองทุกอย่างไว้ด้วยกัน และเมื่อเขาถึงจุดที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ในซีซันที่ 2 ผลลัพธ์ที่ได้คือ 'คริสต์มาสที่ควบคุมไม่ได้ของอาเบด' ตอนที่ดีที่สุดของ Community ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเพนท์บอล ความหมกมุ่นในวัฒนธรรมป็อปและการแสดงตลกของเขากับทรอยเพื่อนของเขาทำให้รายการมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดบางช่วง โดยเฉพาะช่วงปิดท้าย เช่น ทรอยที่ไร้สาระและอาเบดในตอนเช้า
  6. ^ "Greendale Community College – Shirley Bennett". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  7. ^ "Greendale Community College – Annie Edison". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  8. ^ abc "Greendale Community College – Troy Barnes". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 สิงหาคม 2009 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  9. ^ Surette, Tim (20 มกราคม 2012). "What's Your Favorite Community End Tag?". TV.com. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2014 . สืบค้นเมื่อ19 กุมภาพันธ์ 2014 .
  10. ^ "คำอธิบายการปรากฏตัวใน Spider-Man: Into The Spider-Verse ของ Donald Glover" ScreenRant . 16 ธันวาคม 2018 เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 ธันวาคม 2018 . สืบค้นเมื่อ30 มิถุนายน 2019 .
  11. ^ ab "Greendale Community College". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  12. ^ "Community TV – Ken Jeong". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  13. ^ " วารสารศาสตร์สืบสวนสอบสวน ". ชุมชน . ซีซั่น 1 ตอนที่ 13. 14 มกราคม 2010. NBC .
  14. ^ "Craig Pelton". Greendale Community College. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 กันยายน 2009 . สืบค้นเมื่อ2 มกราคม 2014 .
  15. ^ ชุมชน S02E11 " คริสต์มาสที่ควบคุมไม่ได้ของอาเบ็ด "
  16. ^ "Greendale Community College – Michelle Slater". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  17. ^ "Greendale Community College – Prof. Eustice Whitman". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 ตุลาคม 2009 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  18. ^ "Greendale Community College – Alex Osbourne". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  19. ^ "บทนำสู่รัฐศาสตร์" ชุมชน ซีซั่ น2 ตอนที่ 17 24 กุมภาพันธ์ 2011 NBC
  20. ^ "Greendale Community College – Leonard Briggs". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  21. ^ ab "Greendale Community College – Vaughn Miller". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  22. ^ "Greendale Community College – Eric Wizniewski". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  23. ^ "Greendale Community College – Pavel Iwaszkiewicz". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 ธันวาคม 2010 . สืบค้นเมื่อ19 พฤศจิกายน 2010 .
  24. ^ "Greendale Community College – Mark Millot". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  25. ^ "Greendale Community College – Mike Chilada". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  26. ^ "Greendale Community College – Buddy Austin". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 . สืบค้นเมื่อ16 กุมภาพันธ์ 2010 .
  27. ^ "Greendale Community College – Herbert Bogner". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 มีนาคม 2010 . สืบค้นเมื่อ11 มีนาคม 2010 .
  28. ^ "Greendale Community College – Marion Holly". NBC. เก็บถาวรจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 กันยายน 2009 . สืบค้นเมื่อ26 มีนาคม 2010 .
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
  • นักแสดงและทีมงานทั้งหมดของ Community ที่IMDb 
Retrieved from "https://en.wikipedia.org/w/index.php?title=List_of_Community_characters&oldid=1259309386#Britta_Perry"